เราอายุ 26 ปี เพิ่งได้งานใน Position "Sales Representative" สดๆร้อนๆ แบบจับไปแล้วมือพองหนองแตกอะ เราไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการขายมาก่อนเลย เพราะสถานที่ปฏิบัติงาน จะสิงอยู่ที่ออฟฟิศเป็นหลัก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะอยู่แต่ในออฟฟิศทั้งวัน มันก็มีเวลาต้องออกไปวางบิล ตามบริษัทของรัฐ และ เอกชน แต่มันไม่ใช่งานขาย เพราะฉะนั้นเรื่องการพูดคุย มันจึงไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่มันก็มีประโยชน์ประมาณหนึ่ง
ว่าด้วยเรื่องงานใหม่กับบริษัทที่ไม่คุ้นเคย.. บริษัทของเราไม่ใช่บริษัทขนาดใหญ่ และเพิ่งเริ่มทำ Digital Marketing เพราะอดีตเค้าทำงานกันแบบ Offline มาโดยตลอด (ไม่ใช่บริษัทเปิดใหม่ แต่เป็นสิ่งใหม่มากของบริษัท) ฉะนั้นบุคลากรจึงมีไม่เยอะท่าไหร่ และ Database ก็มีน้อยมากเช่นกัน
เริ่มงานกันเถอะ... วันแรกความกดดันก็มาซะแล้ว
การที่ Walk In เพื่อไปเสนองานของบริษัท มันต้องรู้วิธีการ บวกกับความหน้า ด้านที่เราต้องมี เพื่อจะไปพบปะและเสนองานให้กับ Customer เอาจริงๆความหน้า ด้านของเรานี่หละ มันอาจจะทำให้เราขายงานได้ ก็จริง แต่สินค้าของเราเมื่อเทียบกับคู่แข่งในท้องตลาดแล้ว ถือว่ายาก! ก.ไก่ 2ตัวพอน่ารักๆ ความกดดันที่มีอยู่ในหัวก็เริ่มออกมา.. ต้องคิดใหม่ วางแผนใหม่ทั้งหมด แผน A เมื่อไม่ได้ผล ก็ต้องพึ่งแผน A ใช่ เรามีแต่แผน A เพราะสิ่งที่เราต้องปฏิบัติคือสิ่งที่ต้องทำให้เรามีผลงานมากที่สุด ส่วนผลลับไม่รู้ เพราะยังไม่ได้ลงมือทำ สมองถูกใช้งานแบบ MAXIMUM ในหัวมีแต่เรื่อง Marketing มันใช่หน้าที่ของเซลล์หรอ? เปล่า เปล่าเลย แต่ถ้าเราไม่ตีตลาด แล้วลูกค้าจะรับงานเรายังไง ในเมื่อผลงานของบริษัทก็ยังมีน้อยมาก มันคือปัญหาของเราจริงๆหรอ
คำถามต่อไปเริ่มตามมา ตอนนี้ต้องทำให้ตัวเองมีแรงฮึดสู้ขึ้นมาก่อน ความกดดันช่างหัวมันปะไร
รถพร้อม น้ำมันไม่ค่อยจะพร้อม แต่ก็ต้องพร้อม
ไป.. ลุย สถานที่แรกที่จะทำการตลาด เพื่อเอามาเป็น Database คือ ขึ้นต้นด้วยอมตะ ลงท้ายด้วยนคร อยู่ที่จังหวัดขึ้นต้นด้วยชล ลงท้ายด้วยบุรี แน่นอนว่าที่นี่มีคนเข้ามาไม่ขาดสาย และทุกคนต้องหางานที่ได้งานทำกันจริงๆ ใบสมัคร และรูปภาพสำหรับการสมัครงานที่เห็น ถูกส่งไปเป็นกอบเป็นกำ ร้านถ่ายเอกสารมีแต่คนต่อแถวเพื่อที่จะนำไปยื่นให้กับบริษัทต่างๆ แล้วเราจะทำอะไร? เราก็ให้คนพวกนี้มาสมัครเรซูเม่กับเราสิ นั่นหละะะ ฐานข้อมูลชั้นยอด โอ้โหววว มีความวางแผนและลงมือปฏิบัติจริง และผลที่ได้มันคือ ฐานข้อมูลเริ่มแน่น ขายงานให้ Customer ได้ตัดสินใจง่ายขึ้น
รู้หรือยังครับ ว่าผมทำงานเกี่ยวกับอะไร บางคนอาจทราบ หรือไม่ทราบ แต่ผมแฮปปี้
จบ..
Sales Representative มีดี ต้องดีกว่า
ว่าด้วยเรื่องงานใหม่กับบริษัทที่ไม่คุ้นเคย.. บริษัทของเราไม่ใช่บริษัทขนาดใหญ่ และเพิ่งเริ่มทำ Digital Marketing เพราะอดีตเค้าทำงานกันแบบ Offline มาโดยตลอด (ไม่ใช่บริษัทเปิดใหม่ แต่เป็นสิ่งใหม่มากของบริษัท) ฉะนั้นบุคลากรจึงมีไม่เยอะท่าไหร่ และ Database ก็มีน้อยมากเช่นกัน
เริ่มงานกันเถอะ... วันแรกความกดดันก็มาซะแล้ว
การที่ Walk In เพื่อไปเสนองานของบริษัท มันต้องรู้วิธีการ บวกกับความหน้า ด้านที่เราต้องมี เพื่อจะไปพบปะและเสนองานให้กับ Customer เอาจริงๆความหน้า ด้านของเรานี่หละ มันอาจจะทำให้เราขายงานได้ ก็จริง แต่สินค้าของเราเมื่อเทียบกับคู่แข่งในท้องตลาดแล้ว ถือว่ายาก! ก.ไก่ 2ตัวพอน่ารักๆ ความกดดันที่มีอยู่ในหัวก็เริ่มออกมา.. ต้องคิดใหม่ วางแผนใหม่ทั้งหมด แผน A เมื่อไม่ได้ผล ก็ต้องพึ่งแผน A ใช่ เรามีแต่แผน A เพราะสิ่งที่เราต้องปฏิบัติคือสิ่งที่ต้องทำให้เรามีผลงานมากที่สุด ส่วนผลลับไม่รู้ เพราะยังไม่ได้ลงมือทำ สมองถูกใช้งานแบบ MAXIMUM ในหัวมีแต่เรื่อง Marketing มันใช่หน้าที่ของเซลล์หรอ? เปล่า เปล่าเลย แต่ถ้าเราไม่ตีตลาด แล้วลูกค้าจะรับงานเรายังไง ในเมื่อผลงานของบริษัทก็ยังมีน้อยมาก มันคือปัญหาของเราจริงๆหรอ
คำถามต่อไปเริ่มตามมา ตอนนี้ต้องทำให้ตัวเองมีแรงฮึดสู้ขึ้นมาก่อน ความกดดันช่างหัวมันปะไร
รถพร้อม น้ำมันไม่ค่อยจะพร้อม แต่ก็ต้องพร้อม
ไป.. ลุย สถานที่แรกที่จะทำการตลาด เพื่อเอามาเป็น Database คือ ขึ้นต้นด้วยอมตะ ลงท้ายด้วยนคร อยู่ที่จังหวัดขึ้นต้นด้วยชล ลงท้ายด้วยบุรี แน่นอนว่าที่นี่มีคนเข้ามาไม่ขาดสาย และทุกคนต้องหางานที่ได้งานทำกันจริงๆ ใบสมัคร และรูปภาพสำหรับการสมัครงานที่เห็น ถูกส่งไปเป็นกอบเป็นกำ ร้านถ่ายเอกสารมีแต่คนต่อแถวเพื่อที่จะนำไปยื่นให้กับบริษัทต่างๆ แล้วเราจะทำอะไร? เราก็ให้คนพวกนี้มาสมัครเรซูเม่กับเราสิ นั่นหละะะ ฐานข้อมูลชั้นยอด โอ้โหววว มีความวางแผนและลงมือปฏิบัติจริง และผลที่ได้มันคือ ฐานข้อมูลเริ่มแน่น ขายงานให้ Customer ได้ตัดสินใจง่ายขึ้น
รู้หรือยังครับ ว่าผมทำงานเกี่ยวกับอะไร บางคนอาจทราบ หรือไม่ทราบ แต่ผมแฮปปี้
จบ..