รีวิว "ทริปครบุรี" สถานที่ท่องเที่ยวโคราชที่อยากให้ทุกคนไป
รีวิว "ครบุรี" โคราช
: สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้มีโอกาสได้ตั้งกระทู้หลังจากคิดอยู่นาน แต่เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวที่จะนำเสนอนี้
มีเรื่องราวและประวัติที่น่าสนใจ สถานที่เหล่านี้มีคนรู้จักไม่มากนัก จึงอยากให้ทุกคนได้มาลองสัมผัส
: สถานที่ตั้งอยู่ ที่อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา
*นำรถส่วนตัวมาจะสะดวกในการเดินทาง
*เหมาะสำหรับขาลุย
Photo By sony a5100
จุดเริ่มต้น ท่าเรือเขื่อนลำแชะ
ปลายทาง วัดครบุรีหลวงปู่นิล

วันที่ 6 มกราคม 2560 เวลา 16.00น. เริ่มเดินทางขึ้นรถจาก บขส.ใหม่ รถประจำทางสาย ครบุรี-ละหานทราย ลงที่โลตัสในตัวอำเภอครบุรี เวลาประมาณ 19.00น. ถึงครบุรี เนื่องจากรถขับช้าและผู้โดยสารก็เยอะกว่าจะถึงจุดหมายใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
เวลา 19.00น. ก่อนจะกลับที่พัก ได้แวะเดินตลาดไนท์บาซ่า เทศบาลตำบลแชะ เพื่อหาของรองท้องเติมพลังสำหรับการเดินทางวันพรุ่งนี้



วันที่ 7 มกราคม 2560 เวลา 07.00น. ออกเดินทางระหว่างการเดินทางไปน้ำตกวังเต่าพวกเราก็ได้สอบถามเส้นทางกับชาวบ้านที่ทำไร่และเด็กๆที่กำลังไปทำรายงานกันค่ะ


เวลา 08.00น. เดินทางถึงท่าเรือเขื่อนลำแชะเพื่อจะไปน้ำตกวังเต่าและทางกลุ่มของเราขอขอบคุณ อาจารย์ณิชาภัทร รัตน์สกุล ที่จัดหาเรือและอาหารให้มื้อเช้าและมื้อกลางวันให้กับทางของพวกเรา


การเดินทางไปน้ำตกวังเต่า การไปน้ำตกวังเต่าสามารถเดินทางได้โดยเรือและแพเท่านั้น โดยทางพวกเราได้เลือกการขึ้นเรือไป กลุ่มเราได้มีการเดินทางไปในช่วงเช้า จึงทำให้อากาศเย็นสบายค่ะ มีหมอกตลอด 2 ข้างทาง


เวลา 10.00น.เดินทางมาถึงทางเข้าน้ำตกวังเต่า พวกเราได้จอดเรือไว้ที่โขดหินและไปกราบไหว้ศาลยายคล๊อกทาง เมื่อถึงทางขึ้นน้ำตกวังเต่า คุณลุงต๋อยคนขับเรือได้พาพวกเราไปไหว้ศาลยายค๊อกและคุณลุงต๋อยยังได้เล่าประวัติเกี่วกับศาลยายค๊อก คือ ศาลยายค๊อก เกิดจากตำนานของยายค๊อกกับยายก็อตได้พายเรือมาเก็บของป่ากับพระ 2 รูป และในช่วงเวลากลับได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น น้ำไหลเชี่ยวทำให้หัวเรือชนกับก้อนหินกลางน้ำ เรือจึงคว่ำ พระรูปหนึ่งได้ดึงแขนยายก็อตไว้ อีกรูปไม่กล้าจับยายค๊อกเพราะกลัวศีลขาด จึงเป็นเหตุให้ยายค๊อกตาย จึงทำให้เกิดการตั้งศาลยายค๊อก และจะมีชาวบ้านมากราบไหว้อยู่เป็นประจำ ซึ่งเป็นศาลที่นักท่องเที่ยวจะมาไหว้ทุกครั้งเมื่อถึงน้ำตกวังเต่า


ระยะทางจากจุดที่จอดเรือ ไปน้ำตกวังเต่า ประมาณ 400 เมตร ระหว่างทางก็จะเต็มไปด้วยป่าไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ จะเห็นได้ว่าเป็นป่าที่มีการอนุรักษ์ทางเดิน 2 ข้างทางเป็นป่าที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ เพราะจากการที่สังเกตก็เห็นได้ว่าป่ามีความอุดมสมบูรณ์และพืชพันธุ์ที่หายาก ให้ผู้คนที่มาท่องเที่ยวได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ธรรมชาติอย่างแท้จริง

และระหว่างทางพวกเราได้พบก้อนหินขนาดใหญ่มีไม้เล็กๆค้ำไว้ จากที่ลุงต๋อยเล่าให้พวกเราฟังว่า การเอาไม้ค้ำหินถือเป็นความเชื่อในการต่อชะตาชีวิตให้กับตนเอง

เวลา 10.15น. เดินทางมาถึงน้ำตกวังเต่า น้ำตกวังเต่าตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทับลานซึ่งคุณลุงยมที่แพรพาราไดซ์ได้เล่าประวัติเกี่ยวกับน้ำตกวังเต่าตั้งแต่มาถึงท่าแพรก็คือ น้ำตกวังเต่า ตั้งอยู่ที่บ้านมาบกราด ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมาเป็นพื้นที่ติดกับอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งมีป่าไม้ มีภูเขาสูงต่ำ สลับซับซ้อน ไหลเซาะลงแก่งหินเป็นทางยาวเรียกว่าแก่งวังเต่า แก่งวังเต่าเป็นต้นน้ำของแม่น้ำมูลเรียกว่ามูลสามง่าม ก็คือมีแม่น้ำสามสายไหลลงมา สายที่ 1 ไปลงที่ลำมูลบน สายที่สองไปลำแชะ สายที่สามไปลำเอี้ยง น้ำตกวังเต่ามีมาก่อนการมีเขื่อนลำแชะ มีมานานเป็นรอยปีมีต้นนำอยู่บนภูเขา บรรยากาศที่น้ำตกวังเต่าเงียบสงบนักท่องเที่ยวแค่กลุ่มของผู้จัดทำ เนื่องจากอยู่ในช่วงหน้าหนาวน้ำจึงไม่ค่อยมีน้ำมากซักเท่าไหร่ จะสังเกตได้ว่าน้ำตกวังเต่าจะมีก้อนหินก้อนใหญ่ลักษณะคล้ายเต่าจำนวนมาก น้ำที่น้ำตกวังเต่าจะเย็นมากแต่ถ้าจะเล่นน้ำ ก็ต้องระมัดระวังหินที่มีตะไคร้น้ำติดยู่เพราะอาจจะทำให้ลื่นได้ ใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลที่น้ำตกประมาณ 30 นาทีก็เดินทางกลับมาที่เรือ เพื่อกลับไปที่ท่าแพ



เวลา 11.00น. ได้เดินทางกลับจากน้ำตกวังเต่าเพื่อที่จะเขื่อนลำแชะและวัดถ้ำวัวแดงต่อไป

เวลา 12.00น. เดินทางกลับมาถึงท่าแพพาราไดซ์ อาจารย์ณิชาภัทร รัตน์สกุล และ คุณลุงบุญยงค์ นาคำ ก็ได้ทำอหารเที่ยงรอพวกเราที่แพค่ะ ทั้งสองท่านใจดีมากๆ

เวลา 13.00น.เดินทางมาถึงสันเขื่อนลำแชะ อยู่ที่ หมู่ที่ 7 บ้านโคกบัว ตำบลโคกกระชาย อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา สชป.8 อยู่ในความดูแลของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลบล-ลำแชะ จังหวัดนครราชสีมา ช่วงเวลาที่เดินทางไป คือช่วงบ่ายอากาศจะร้อนมาก สันเขื่อนลำแชะถือว่าเป็นว่าเป็นสันเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในครบุรี วิวที่มองจากสันเขื่อนจะเห็นเป็นเป็นแม่น้ำสุดลูกหูลูกตางดงามมาก มักจะเป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวจะต้องมาเยี่ยมชมและถ่ายรูป โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตก


เวลา 13.30น. เดินทางมาถึงถ้ำวัวแดง จะตั้งจะอยู่ในพื้นที่ของวัดเขาสุวรรณบรรพต(ถ้ำวัวแดง) ตำบลเฉลียง อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ถ้ำวัวแดงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธ์ของอำเภอครบุรี มีเรื่องราวที่สลักในถ้ำแห่งนี้ เป็นศิลปวัฒนธรรมของขอม มองเข้าไปในปากถ้ำ จะเห็นรูปที่สลักไว้ในถ้ำ ภายในถ้ำจะมีรูปปั้นพรศิวะ พระนางอุมาเทวี ปู่ฤๅษีตาไฟ ปู่ฤๅร้อยแปด และปู่ฤๅษีหัววัว จะเห็นได้ว่าทางวัดมีการอนุรักษ์รูปปั้นและรูปวาดภายในถ้ำเป็นอย่างดีโดยการใส่ลูกกรง เพราะว่าเป็นการทำให้โบราณวัตถุไม่เกิดความเสียหาย

และได้เดินทางขึ้นไปศักการะพระพุทธบาทซ้อนรอยและบ่อน้ำทิพย์ ซึ่งบ่อน้ำทิพย์จะมีความเชื่อกันว่า ถ้าได้ล้างหน้าจากบ่อน้ำทิพย์แห่งนี้จะทำให้พบเจอแต่สิ่งที่ดีๆ ดังนั้นจึงได้บูชาค่าน้ำทิพย์ด้วยจำนวนเงิน 19 บาท และหย่อนถังน้ำลงไปในบ่อน้ำทิพย์และนำมาล้างหน้าเพื่อเป็นศิริมงคลเพื่อขอให้พวกเราเจอแต่สิ่งดีๆค่ะ ^^



เวลา 14.00น. ได้เดินทางต่อไปที่ เขื่อนมูลบน ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 7 บ้านมูลบน ตำบลจระเข้หิน อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา อยู่ในความดูแลของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลบล-ลำแชะ จังหวัดนครราชสีมา เขื่อนมูลบนจะมีวิวที่สวยงามและจะไม่ทอดยาวเท่าสันเขื่อนลำแชะ ลมที่สันเขื่อนจะพัดแรงมาก ถ้ามองจากสันเขื่อนทอดยาวไปจะเห็นชายหาดจอมทอง ซึ่งก็มักจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาถ่ายรูปที่สันเขื่อนมูลบนมากกว่าสันเขื่อนลำแชะ เพราะว่าอยู่ติดกับสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งก็คือหาดจอมทอง
ทางไปหาดจอมทอง เส้นทางจะคดเคี้ยวรอบข้างจะเต็มไปด้วยป่าไม้ ส่วนมากมักจะเป็นต้นผักหวาน และจะมีชาวบ้านมาเก็บไปขายอยู่เป็นประจำ และเมื่อเดินทางมาถึงหาดจอมทอง ที่หาดจอมทองเป็นทะเลน้ำจืด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของอำเภอครบุรี ที่หาดจะมีลมพัดเย็นๆตลอดเวลา นักท่องเที่ยวสามารถขับรถเข้าไปจอดที่บริเวณที่นั่งริมหาดได้ และจะมีเต้นให้เช่าอยู่เป็นจำนวนมาก และจะมีพ่อค้าแม่ค้าเดินขายอยู่เป็นประจำและจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวอยู่ตลอดเวลา และถ้ามองจากหาดจอมทองไปทางขวามือจะพบกับเขาจอมทอง ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของอำเภอครบุรี


เวลา 14.30น.เดินทางไปที่พระปรางค์ครบุรี ตั้งอยู่ ณ โรงเรียนบ้านครบุรีนครธรรมโฆสิทวิทยาคาร(บ้านครบุรี) บ้านครบุรี ตำบลครบุรี อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา จะเป็นปราสาทขนาดใหญ่ตั้งอยู่ภายในโรงเรียน ภายในบริเวณปราสาทจะมีต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปี และจะมีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อยู่ในบริเวณปราสาท และจะมีศิลาแลงที่ได้รับการบูรณะ ข้างๆปราสาทจะมีสระน้ำ



เวลา 15.30น.เดินทางไปที่สุดท้ายคือวัดหลวงปู่นิล ซึ่งเป็นสถานที่สุดท้ายในการศึกษาครั้งนี้ วัดหลวงปู่นิลจะตั้งอยู่ใน ตำบลครบุรีใต้ เหมือนกับปรางค์ครบุรี ซึ่งจะมาระยะห่างจากครบุรี 500 เมตร ภายในวัดจะมีโบสถ์ซึ่งงดงามมาก และจะมีพิพิธภัณฑ์แสดงเกร็ดประวัติของหลวงปู่นิล


**การเดินทางของพวกเราก็สิ้นสุดลงขอขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาชมกระทู้ของพวกเราแล้วเจอกันใหม่กระทู้หน้า สวัสดึค่ะ

**
[CR] รีวิวครบุรี Trip 1 Day
รีวิว "ครบุรี" โคราช
: สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้มีโอกาสได้ตั้งกระทู้หลังจากคิดอยู่นาน แต่เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวที่จะนำเสนอนี้
มีเรื่องราวและประวัติที่น่าสนใจ สถานที่เหล่านี้มีคนรู้จักไม่มากนัก จึงอยากให้ทุกคนได้มาลองสัมผัส
: สถานที่ตั้งอยู่ ที่อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา
*นำรถส่วนตัวมาจะสะดวกในการเดินทาง
*เหมาะสำหรับขาลุย
Photo By sony a5100
จุดเริ่มต้น ท่าเรือเขื่อนลำแชะ
ปลายทาง วัดครบุรีหลวงปู่นิล
วันที่ 6 มกราคม 2560 เวลา 16.00น. เริ่มเดินทางขึ้นรถจาก บขส.ใหม่ รถประจำทางสาย ครบุรี-ละหานทราย ลงที่โลตัสในตัวอำเภอครบุรี เวลาประมาณ 19.00น. ถึงครบุรี เนื่องจากรถขับช้าและผู้โดยสารก็เยอะกว่าจะถึงจุดหมายใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
เวลา 19.00น. ก่อนจะกลับที่พัก ได้แวะเดินตลาดไนท์บาซ่า เทศบาลตำบลแชะ เพื่อหาของรองท้องเติมพลังสำหรับการเดินทางวันพรุ่งนี้
ระยะทางจากจุดที่จอดเรือ ไปน้ำตกวังเต่า ประมาณ 400 เมตร ระหว่างทางก็จะเต็มไปด้วยป่าไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ จะเห็นได้ว่าเป็นป่าที่มีการอนุรักษ์ทางเดิน 2 ข้างทางเป็นป่าที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ เพราะจากการที่สังเกตก็เห็นได้ว่าป่ามีความอุดมสมบูรณ์และพืชพันธุ์ที่หายาก ให้ผู้คนที่มาท่องเที่ยวได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ธรรมชาติอย่างแท้จริง
เวลา 13.00น.เดินทางมาถึงสันเขื่อนลำแชะ อยู่ที่ หมู่ที่ 7 บ้านโคกบัว ตำบลโคกกระชาย อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา สชป.8 อยู่ในความดูแลของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลบล-ลำแชะ จังหวัดนครราชสีมา ช่วงเวลาที่เดินทางไป คือช่วงบ่ายอากาศจะร้อนมาก สันเขื่อนลำแชะถือว่าเป็นว่าเป็นสันเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในครบุรี วิวที่มองจากสันเขื่อนจะเห็นเป็นเป็นแม่น้ำสุดลูกหูลูกตางดงามมาก มักจะเป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวจะต้องมาเยี่ยมชมและถ่ายรูป โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตก
เวลา 13.30น. เดินทางมาถึงถ้ำวัวแดง จะตั้งจะอยู่ในพื้นที่ของวัดเขาสุวรรณบรรพต(ถ้ำวัวแดง) ตำบลเฉลียง อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ถ้ำวัวแดงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธ์ของอำเภอครบุรี มีเรื่องราวที่สลักในถ้ำแห่งนี้ เป็นศิลปวัฒนธรรมของขอม มองเข้าไปในปากถ้ำ จะเห็นรูปที่สลักไว้ในถ้ำ ภายในถ้ำจะมีรูปปั้นพรศิวะ พระนางอุมาเทวี ปู่ฤๅษีตาไฟ ปู่ฤๅร้อยแปด และปู่ฤๅษีหัววัว จะเห็นได้ว่าทางวัดมีการอนุรักษ์รูปปั้นและรูปวาดภายในถ้ำเป็นอย่างดีโดยการใส่ลูกกรง เพราะว่าเป็นการทำให้โบราณวัตถุไม่เกิดความเสียหาย
และได้เดินทางขึ้นไปศักการะพระพุทธบาทซ้อนรอยและบ่อน้ำทิพย์ ซึ่งบ่อน้ำทิพย์จะมีความเชื่อกันว่า ถ้าได้ล้างหน้าจากบ่อน้ำทิพย์แห่งนี้จะทำให้พบเจอแต่สิ่งที่ดีๆ ดังนั้นจึงได้บูชาค่าน้ำทิพย์ด้วยจำนวนเงิน 19 บาท และหย่อนถังน้ำลงไปในบ่อน้ำทิพย์และนำมาล้างหน้าเพื่อเป็นศิริมงคลเพื่อขอให้พวกเราเจอแต่สิ่งดีๆค่ะ ^^
เวลา 14.00น. ได้เดินทางต่อไปที่ เขื่อนมูลบน ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 7 บ้านมูลบน ตำบลจระเข้หิน อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา อยู่ในความดูแลของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลบล-ลำแชะ จังหวัดนครราชสีมา เขื่อนมูลบนจะมีวิวที่สวยงามและจะไม่ทอดยาวเท่าสันเขื่อนลำแชะ ลมที่สันเขื่อนจะพัดแรงมาก ถ้ามองจากสันเขื่อนทอดยาวไปจะเห็นชายหาดจอมทอง ซึ่งก็มักจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาถ่ายรูปที่สันเขื่อนมูลบนมากกว่าสันเขื่อนลำแชะ เพราะว่าอยู่ติดกับสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งก็คือหาดจอมทอง
ทางไปหาดจอมทอง เส้นทางจะคดเคี้ยวรอบข้างจะเต็มไปด้วยป่าไม้ ส่วนมากมักจะเป็นต้นผักหวาน และจะมีชาวบ้านมาเก็บไปขายอยู่เป็นประจำ และเมื่อเดินทางมาถึงหาดจอมทอง ที่หาดจอมทองเป็นทะเลน้ำจืด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของอำเภอครบุรี ที่หาดจะมีลมพัดเย็นๆตลอดเวลา นักท่องเที่ยวสามารถขับรถเข้าไปจอดที่บริเวณที่นั่งริมหาดได้ และจะมีเต้นให้เช่าอยู่เป็นจำนวนมาก และจะมีพ่อค้าแม่ค้าเดินขายอยู่เป็นประจำและจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวอยู่ตลอดเวลา และถ้ามองจากหาดจอมทองไปทางขวามือจะพบกับเขาจอมทอง ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของอำเภอครบุรี
เวลา 14.30น.เดินทางไปที่พระปรางค์ครบุรี ตั้งอยู่ ณ โรงเรียนบ้านครบุรีนครธรรมโฆสิทวิทยาคาร(บ้านครบุรี) บ้านครบุรี ตำบลครบุรี อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา จะเป็นปราสาทขนาดใหญ่ตั้งอยู่ภายในโรงเรียน ภายในบริเวณปราสาทจะมีต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปี และจะมีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อยู่ในบริเวณปราสาท และจะมีศิลาแลงที่ได้รับการบูรณะ ข้างๆปราสาทจะมีสระน้ำ
**การเดินทางของพวกเราก็สิ้นสุดลงขอขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาชมกระทู้ของพวกเราแล้วเจอกันใหม่กระทู้หน้า สวัสดึค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น