ดอกบ๊วยหรือดอกเหมยสำหรับชาวญี่ปุ่นถือเป็นตัวแทนของฤดูหนาว และตอนนี้ชาวญี่ปุ่นกำลังชื่นชมกับ “เทศกาลดอกบ๊วยบาน” ก่อนที่จะชื่นชมดอกซากุระในฤดูต่อไปนั่นเองค่ะ



บ๊วยเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน จากนั้นจึงได้ขยายพันธุ์ไปปลูกในประเทศญี่ปุ่น เกาหลี และเวียดนาม ดอกบ๊วยสามารถบานสะพรั่งได้ท่ามกลางหิมะและอากาศที่หนาว ดอกบ๊วยจึงถือเป็นสัญญะที่สื่อความหมายถึงการเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ


ดอกบ๊วยมีหลากสีหลายสายพันธุ์ตั้งแต่สีแดงเข้ม สีแดงสด สีชมพู จนถึงสีขาว เมื่อบานในฤดูหนาวช่วงที่ต้นอื่น ๆ ยังไม่มีแม้แต่ใบ ทำให้ยิ่งดูสวยงาม



ซึ่งจริง ๆ แล้วชาวญี่ปุ่นชื่นชมดอกบ๊วยบานมาก่อนชื่นชมดอกซากุระเสียอีก โดยตั้งแต่สมัยนาระ (ค.ศ. 710-794) ก็มีเทศกาลดอกบ๊วยบานแล้ว ขณะที่ดอกซากุระเพิ่งได้รับความนิยมในสมัยเฮอัน (ค.ศ.794-1185)



วันนี้มินิรีวิวขอพาทุกคนไปงานชมดอกบ๊วย (Ume-matsuri [梅祭り]) ที่ ศาลเจ้ายุชิมะเท็นจิน (YushimaTenjin [湯島天神]) ในโตเกียว ซึ่งที่ศาลเจ้านี้เราจะสามารถชมความงามของต้นบ๊วยกว่า 300 ต้น (ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ชิโรกางะสีขาว) ผลิดอกบานสะพรั่งไปพร้อมกับงานแสดงกลองวะไดโกะและลิ้มรสชาญี่ปุ่นรวมทั้งการแสดงอีกมากมาย



เดินมาที่ด้านหน้าศาลเจ้า ก็จะเห็นดอกบ๊วยทันที







ตอนนี้มีทั้งดอกบานและดอกตูม ส่วนมากที่เห็นก็จะเป็นสีขาวและสีชมพูอ่อน ๆ ค่ะ


ยิ่งดูใกล้ ๆ ยิ่งสวย ><





เข้ามาด้านในก็จะเห็นศาลเจ้าที่มีดอกบ๊วยปลูกอยู่รอบ ๆ







เดินเข้ามาอีกก็จะเห็นสวนดอกบ๊วย


คนญี่ปุ่นเองก็มาชื่นชมดอกบ๊วยและเก็บภาพสวย ๆ เหมือนกันนะ







ยิ่งใส่ชุดกิโมโนพร้อมกับเดินชมดอกบ๊วยไปด้วยทำให้ยิ่งฟิน >_<
ตัวศาลเจ้าเองก็สวยนะ ^^


มีศิลาหินตั้งอยู่กลางสวนด้วยค่ะ



มีสวนเล็ก ๆ อยู่อีกฝั่งนึงแต่เข้าไปข้างในไม่ได้ เก็บภาพสวย ๆ มาแทนละกันค่ะ


โดยศาลเจ้านี้มีความโด่งดังในเรื่องการสอบติดจึงทำให้มีนักเรียนมาอธิฐานขอให้สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้อย่างเนื่องแน่น เห็นได้จากป้ายขอพรที่ถูกไว้เต็มไปหมด






ศาลเจ้านี้เป็นที่ประดิษฐานของ “สุกุวะระ มิชิซาเนะ” นักการศึกษาและนักการเมืองชื่อดังในสมัยเฮอัน ที่ชื่นชอบดอกบ๊วยเป็นพิเศษ
โดยเมื่อเขาเสียชีวิตและได้รับยกย่องเป็น “เทพแห่งความรู้” จึงได้ใช้ตราสัญลักษณ์รูปดอกบ๊วยเป็นตราประจำศาลเจ้าเทพแห่งความรู้ทุกแห่ง
เด็กนักเรียนทั่วประเทศญี่ปุ่นจึงมักจะไปสักการะตามศาลเจ้าต่าง ๆ ในช่วงก่อนการสอบ



มีเครื่องรางจำหน่ายหลากหลายรูปแบบ แน่นอนว่าส่วนมากจะเน้นไปที่ทำให้สอบติด



อยากได้กลับบ้าน สวยมาก ๆ แต่เห็นราคาแล้วเจ็บปวดเหลือเกิน T T



มีต้นบ๊วยต้นเล็กด้วยนะ เห็นว่าเขามีจำหน่ายสำหรับคนที่อยากได้กลับไปดูต่อที่บ้านด้วย




อยากได้กลับมาด้วย แต่อากาศบ้านเราคงไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ ถ่ายรูปกลับมาดูแทนละกัน TwT



จะสีชมพูหรือสีขาวก็สวยทั้งนั้น




นอกจากนี้ยังมีร้านค้าเล็ก ๆ ขายทั้งชองฝาก ของที่ระลึก และของกินอีกด้วย



ศาลเจ้านี้อยู่ในโตเกียวการเดินทางจึงไม่ยากลำบากเท่าใดนัก เพียงแค่เดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Chiyoda ลงที่สถานี Yushima
เดินออกจากสถานีอีกนิดเดียวก็ถึงแล้วจ้า



เมื่อเข้าวัดไปแล้วอย่าลืมไปหาบ่อน้ำเพื่อชำระล้างตามธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่นเสียก่อนกันด้วยนะคะ


เริ่มจากการใช้มือขวาหยิบกระบวย ตักน้ำแล้วล้างมือซ้าย



จากนั้นเปลี่ยนไปใช้มือซ้ายจับกระบวยแล้วล้างมือขวา



จากนั้นใช้มือขวาตักน้ำขึ้นมาอีกครั้งแล้วเทใส่มือซ้ายเพื่อบ้วนปาก สุดท้ายใช้มือทั้งสองข้างตั้งกระบวยขึ้นให้น้ำที่เหลือไหลลงตามด้ามเพื่อเป็นการล้าง เสร็จแล้วก็วางกระบวยกลับเข้าที่แล้วเข้าไปนมัสการศาลเจ้าได้ค่ะ



ใครอยากถ่ายรูปแบบไม่ติดคนมากนักก็ไปได้ตั้งแต่เช้าเลย เพราะศาลเจ้าเปิดตั้งแต่ 8 โมงเช้า และปิดเวลา 1 ทุ่มครึ่งจ้า

นอกจากนี้ทางศาลเจ้าก็มีเว็บไซต์ภาษาอังกฤษด้วยนะ ใครอยากดูรายละเอียดเพิ่มเติมเข้าไปดูที่นี้ได้เลยจ้า
http://www.yushimatenjin.or.jp/pc/eng-page/english.htm


ถึงแม้รูปที่เราถ่ายมาดอกบ๊วยจะบานไม่มาก เพราะถ่ายช่วงกลางเดือนกุมภา แต่ขอบอกว่าสวยมากๆเลยนะ ถ้าทุกคนไปหลังจากนี้อีกนิด เชื่อว่าต้องบานสะพรั่งสวยมากๆแน่นอนค่ะ
นอกจากที่ศาลเจ้านี้ สถานที่อื่นที่ได้รับความนิยมในการไปชมดอกบ๊วยบานหรือมีงาน “เทศกาลดอกบ๊วย” ได้แก่
    
ป.ล.วันที่ ๆ ดอกบ๊วยบานไม่ตามกำหนดการเป๊ะ ๆ นะจ๊ะ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละที่ด้วย

ถ้ามีเวลากระทู้หน้าจะมารีวิวชุดกิโมโนสวย ๆ ที่โตเกียวนะคะ

---------------------------------------------------------------------------------------------
ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ ยังไงฝากกดlike กด share กันด้วยนะคะ
⁃    Facebook :https://www.facebook.com/MiniReviewss/  
⁃    Youtube :  https://www.youtube.com/c/NoufaiiMini_MiniReview
⁃    Hashtag : #minireview