เจ้าคง แมวน้อย ที่พลัดหลงมาจากไหนก็ไม่รู้ มาติดอยู่กรงประตูรั้ว หน้าบ้าน
ณ วันนั้น จุดเริ่มต้นชีวิตใหม่ ที่มีบ้าน ของแมวน้อยตัวหนึ่งได้เริ่มขึ้น 9/10/2559
ตอนนั้น ผม ตั้งชื่อว่า เจ้าเงิน เพราะสีออกขาวๆเงินๆ ทันทีที่ได้บ้านใหม่ เงินอ้อนทาส เก่งมาก เอาใจสารพัด
ทาสแมว มีหรือ จะไม่รัก เงินใช้ชีวิตในบ้านนี้ อย่างมีความสุข จนราว เดิน ธันวาคมปีที่ผ่านมา เรื่องที่ไม่คาดคิดกับเงิน ก็เกิดขึ้น เราวางแผนที่จะทำวัคซีนให้เงิน แต่ไม่ทันได้ทำวัคซีน เงินมีอาการไข้ขึ้น ไม่ทาน เพียงไมทานอาหาร เราก็ใจคอไม่สู้ดี พาไปพบสัตว์แพทย์ ที่คลินิกใกล้บ้าน ระยะนั้น ตรวจเลือดทุกอย่าง ไม่พบโรคชนิดใดเลย มีค่าเม็ดเลือดขาว ที่สูงขึ้นเล็กน้อย และ ค่าไตสูงเล็กน้อย หมอให้ยาแก้อักเสบ ยาก้างปลา และเติมน้ำเกลือ ทุกๆวัน และวันเว้นวัน ในหลายสัปดาห์ต่อไป จนจะถึงช่วงสิ้นปี เงินมีอาการดีขึ้น ทานเก่ง ซน และเอาใจทาสเก่งเช่นเดิม เวลานั้น เราสุขใจมาก มีความสุขมาก วางแผนจะทำวัคซีนให้แมวน้อยของเราต่อ เราเปลี่ยนชื่อแมวด้วย ให้ชื่อ ไอ้คง เพื่อฉลองที่น้องหายป่วย
ฝันร้ายครั้งที่ 2 ได้เริ่มต้นขึ้น
เมื่อต้นเดือน กุมภาพันธ์ คง ป่วยอีกครั้ง มีไข้สูง เราไปพบสัตว์แพทย์ใกล้บ้านที่เดิม ครั้งนี้ ได้ยาลดไข้ แก้อักเสบ เติมน้ำเกลือ สักสี่วัน ไอ้คง ก็มีอาการดีขึ้น
16/2/2560 ไอ้คงเริ่มซึม ไม่ทานอาหาร เราไม่เคยรอช้า พาพบสัตว์แพทย์ทันที หมอตรวจพบมีไข้เล็กน้อย ให้ยาแก้อักเสบ เติมน้ำเกลือ ยาก้างปลา นัดดูอาการ วันที่ 19/2/2560
19/2/2560 อาการโดยรวมไม่ดีขึ้น พบหมอตามนัด ระหว่างคุยกับหมอ เราว่า น้องชอบของเล่นเดินไปมา หมอคิดว่า อาจจะมีอะไรติดอยู่ในลำไส้ จึง x-ray ดู แต่ ผลปรากฎว่า มีน้ำในช่องอก ตอนนั้นหมอบอกว่า น้องเป็น FIP รักษาไม่หายนะ ประคองอาการอย่างเดียว วินาทีนั้น เราเจ็บปวดมาก เพราะภาวนามาตลอดว่า แมวที่เลี้ยง ไม่อยากให้เป็นโรคนี้เลย ได้ยาแก้อักเสบ และ ยาฆ่าเชื้อ
20/2/2560 อาการน้องไม่ดีขึ้น จึงตัดสินใจ พาน้อง ไปหาหมอที่ รสพ. แห่งใหม่ พอไปถึง หมอดูฟิล์ม x-ray ที่เรานำมาด้วย หมอก็บอกว่า มีน้ำในช่องอก เป็น FIP หมอเติมน้ำเกลือ ฉีดยาขับน้ำ และ ให้อ๊อกซิเจนน้อง พร้อมยาฆ่าเชื้อ ได้ยากลับบ้านมี Virbagen ยาบำรุงไต และวิตตามิน ยาฆ่าเชื้อ
จากนั้น 1 วัน น้องหอบมากขึ้น เราสังเกตได้ คิดอยู่ในใจ จะทำยังไงให้น้องไม่ทรมาน มีความหวังลึกๆว่าไม่ใช่ FIP นั่งค้นหาข้อมูล เป็นวันเป็นคืน อ่านเรื่องราวต่างๆ ที่พอจะหาได้ในอินเตอร์เน็ท เราตัดพ้กให้ ไอ้คงฟังว่า ทำไมเอ็งต้องโชคร้ายแบบนี้ อุดส่าห์มีบ้านที่อบอุ่นทั้งที ใยต้องมาป่วยแบบนี้ ไอ้คงรับรู้ถึงความทุกข์ของเราได้ เราสังเกตจากแววตา คืนนั้นนอนไม่หลับ เพราะต้องคอยดูน้อง เวลาผ่านไป
22/2/2560 เราตัดสินใจ หาน้องไปหาหมอ ที่ รพส.เกษตร ทั้งที่รู้ว่า ค่ารักษาค่อนข้างสูง ภาระเราเยอะ แต่เรารักน้อง วินาทีนั้น คนจะกินอะไรยังไงก็ช่าง ขอน้องไม่ทรมาน ออกจากแปดริ้ว ราว 6 โมงเย็น ถึง รพส. เกือบ 2 ทุ่ม ไปที่แผนกฉุกเฉิน คุณหมอน่ารักมาก ชมน้องว่าน่ารัก เรามีกำลังใจขึ้น พบหมอน่ารัก หมอพาน้อง x-ray แล้ว ก็ให้ข้อมูลเราว่า มีน้ำสะสมในช่องอกมาก จึงต้อง ขอเจาะดูดน้ำออกเพื่อให้น้องหายใจได้สะดวกขึ้น เราเซ็นยินยอมให้หมอวางยาและรักษาน้อง วินาทีนั้น ใจเราไม่เป็นสุข เป็นห่วงน้องมากๆ จนต้องตื่นขึ้นมา น้องก็ดูหายใจดีขึ้น หมอบอกว่า จะนำน้ำในช่องอกนี้ไปตรวจ เพื่อหาเชื้อไวรัส ลักษณะของน้ำ หมอบอกว่า สีฟางข้าว ไม่เหนียวหนืด หมอว่าถ้าเป็นไวรัส ก็ต้องทำใจไว้ก่อนยังรักษาไม่ได้ แต่ดูแล้ว อาจจะไม่ใช่เพราะมีหลายสาเหตุ ที่ทำให้มีน้ำออกในช่องอก คุณหมอ นัดให้พบอายุรกรรมทั่วไปในวันถัดไปเพื่อติดตามอาการ คืนนี้ พอถึงบ้าน น้องทานได้เล็กน้อย
23/2/2560 วันนี้ น้องทานอาหารแมวป่วยของคานิน ได้นิดหน่อย ทาสต้องป้อนเอง น้องเดินจิบน้ำบ่อย ดูแล้ว ท่าจะดี แต่พอไปพบหมอตามนัดดูอาการ x-ray อีกรอบ หมอบอกว่า มีน้ำเพิ่มมาอีก วันนี้ต้องขอเจาะอีกรอบ แต่น้องจะเสี่ยงมาก เพราะ เพิ่งทำการรักษาไปเมื่อวาน เราทำใจลำบากมาก แต่น้องก็ทรมานหายใจลำบาก ก่อนจะไปวางยา น้องต้องเจ็บปวดกับการให้ยาก่อน 3 เข็ม เราจับน้องไปด้วย ร้องไห้ไปด้วย ปวดใจที่สุด ไม่มีใครอยากนำแมวมาทรมาน มาตื่นกลัวแบบนี้เลย แต่เวลานั้น เราคิดว่าเราทำดีที่สุด ครึ้นเสร็จ แล้ว ก็เช่นเดิม หมอพาไปห้องฉุกเฉิน แล้วทำการวางยาน้ำ เจาะดูดน้ำในช่องอก วันนี้นานมาก เราเริ่มใจคอไม่ดี แต่ เกือบ สองทุ่ม หมอเรียกเข้าไปรับน้อง น้อง ร่าเริงมาก ร้องอ้อแอ้ตลอดเวลา อ้อนทาสหนักกว่าเดิม เรายิ้มออก พร้อมกับคำอธิบายของหมอว่า ผลอัลตราซาวน์หลังจากเจาะรอบนี้ เหมือนว่าในช่องอกจะมีก้อนเนื้ออยู่ ซึ่งชนิดนี้ตอบสนองกับยาที่มีอยู่ และสามารถรักษาได้ และน้ำในช่องอก ส่วนมาก น่าจะเป็นกลุ่มโรคนี้ ทั้งนี้ ให้รอผลจากlab ก่อน เราเริ่มมีกำลังใจ วันนี้ได้ยากลับบ้าน 3 ตัว มี Virbagen ยากระตุ้นการอยากอาหาร และยาฆ่าเชื้อ พอมาถึงบ้าน น้องร้องกินอาหาร ตลอดและทานถี่มาก ในคืนนั้น ไม่รู้ว่าจะดีหรือเปล่า
24/2/2560 หลังจากเจาะดูดน้ำออกครั้งที่ 2 วันนี้ น้องทานอาหารเอง ทั้ง อาหารแมวป่วยของคานิน ปลาโอนึ่ง ทานถี่และบ่อยมาก ร่าเริงมาก เราก็คิดว่า น่าจะเป็นโรคที่รักษาได้ เรามีความสุขมากวันนี้ มีความหวัง
25/2/2560 สองทุ่มครึ่ง น้องหอบหนักมาก เราก็ไม่รอช้า รีบพากันนำน้อง ไปเกษตร ทันที หมอแจ้งไว้ว่า ถ้าหอบก็พามาได้ที่ห้องฉุกเฉิน คืนนี้ พบหมอคนเดิมที่เมื่อวานทำการรักษาน้อง หมอก็ให้เรานั่งรอ หมอก็ทำการรักษาเช่นเดิม หลังจาก น้องฟื้นจากยาสลบ หมอนำน้องมาส่งพร้อมกับอธิบายว่า แนวโน้ม ก็น่าจะเป็นเนื้องอก มากกว่า FIP ทั้งนี้รอผลตรวจเช่นเดิม (หมอนัดฟังผลวันที่2/3/60) หมอได้ใส่เข็มไว้เป็นลวด ที่ขาน้อง เพื่อที่ว่ามาครั้งต่อไปจะได้ไม่ต้องเจาะให้น้องเครียดบ่อยๆตรงขา กลับมา ถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน น้องก็ร่าเริง กินจุเหมือนเดิม
ระหว่างนี้ เราพยายามหาข้อมูลเพิ่มขึ้นหลายๆอย่าง ปลอบใจตัวเองว่า น้องจะไม่เป็น FIP และที่สำคัญ ขยันขายของให้ได้เงินเพื่อน้องมากที่สุด เราจะอย่างไร ช่างไว้ก่อน เวลานี้ เราให้ใจน้องมากๆ ไม่อยากให้ทรมาน
27/2/60 น้องมีอาการหอบ เราก็ไม่รอช้า ตามที่หมอบอก ถ้าทิ้งไว้อาจจะไม่ดีเสี่ยงให้ต้องช็อกได้ รีบพาไปทั้งๆดึกๆ พอไปถึงที่เกษตร วันนี้มีคุณหมอคนใหม่ มารักษาน้อง ฟังเสียงปวดของน้อง แล้วดูประวัติ บอกว่า ยังคงไม่เจาะ ให้มาตามนัดวันที่ 2 วันนี้ ยังดูไม่เป็นไร ถ้าเจาะไปก็มีน้ำไม่มาก เราก็ไม่ได้คิดอะไร ลองถามหมอดูว่า ผลที่นัดฟังวันที่ 2 ออกหรือยัง หมอแจ้งว่า ออกแล้วนะ ต้องติดเชื้อไวรัส ณ เวลานั้น เราอึ้งไปหมด สับสน เจ็บปวดใจ
ถามหมอย้ำไปว่า FIP นะเหรอ หมอตอบชัดว่า ใช่คะ ต้องประคองอาการ ส่วนมาก จะจากไปค่อนข้างไว เราเลยถามกลับว่า หมออีกคนว่า อาจจะมีเนื้องอกด้วย หมอก็ตอบว่า ผลยังไม่ออก ขอให้มาตามนัดวันที่ 2/3/60 นี้ พบแพทย์อายุรกรรมทั่วไป ตามนัด จะดีกว่า
วันนี้ เราพาน้องกลับบ้านด้วยความเสียใจ เราหลอกตัวเองมาสองสามวัน ว่าน้องป่วยอย่างอื่น ไม่ใช่ FIP มันเจ็บปวดมาก ที่ได้ฟังถ้อยคำที่หมอได้บอกในค่ำคืนนี้ เรานอนไม่หลับ อยากดูแลน้องให้ดีที่สุด เท่าที่ชีวิตนี้น้องจะมีความสุข ไม่ทรมาน ยังขอหลอกตัวเองต่อไป ว่าวันที่ 2 ที่จะไปพบหมอตามนัด ผลจะออกมาในทิศทางที่เราอยากให้เป็น แต่ ในใจ มันก็ปวดร้าวลึกๆ สงสารแมวน้อยตัวหนึ่ง ที่พึ่งจะกินอิ่มนอนหลับ มีที่หลับนอนได้สุขสบาย เวลา 4 เดือนเศษ ที่เราได้อยู่ด้วยกัน มันทำให้เรา รักและผูกพันกับน้องมาก มานั่งคิด ทำไมเวลาของน้องมันสั้นนัก
เช้าวันนี้ จนถึงเวลาที่ตั้งกระทู้นี้ ไอ้คง ก็ยังทานข้าวเองได้เหมือนเดิม มีอาการหอบหนัก เป็นรอบๆ
ผมจึงอยากขอคำแนะนำ จากทุกท่านที่มีประสบการณ์ครับ
1. ผมจะมีวิธีไหนที่จะดูแลน้องให้ไม่ทรมาน ช่วยบรรเทาน้องให้สุขใจที่สุด สงบใจที่สุด และน้อง อยู่กับเราให้นานกว่านี้ ที่สุดเท่าที่ไม่ทรมาน
2. อ่านเจอ เรื่อยา จาก ต่างประเทศ ผมต้องเตรียมเงินกี่บาท และจะตั้งสั่งที่ไหนอย่างไร ทานใดมีประสบการณ์ ผมอยากได้รับคำแนะนำมากครับ
ทั้งนี้ ผมยอมรับว่าทุกชีวิต
ทุกอย่างเป็นไปตามกฎของธรรมชาติ เกิด แก่ เจ็บ ตาย แต่ผมก็ยังอยากฝืนให้น้อง มีความสบาย อยากให้น้องอยู่บนโลกนี้ได้นานอีกนิด จึงตัดสินใจมาตั้งกระทู้ หาแนวทาง และมามองหากำลังใจ ครับผม
เมื่อเจ้าคง อดีตแมวจร มีความสุขกับบ้านใหม่ได้แค่ 4 เดือนกว่า กำลังเผชิญกับ FIP ทาสทำใจอย่างไรดี
ณ วันนั้น จุดเริ่มต้นชีวิตใหม่ ที่มีบ้าน ของแมวน้อยตัวหนึ่งได้เริ่มขึ้น 9/10/2559
ตอนนั้น ผม ตั้งชื่อว่า เจ้าเงิน เพราะสีออกขาวๆเงินๆ ทันทีที่ได้บ้านใหม่ เงินอ้อนทาส เก่งมาก เอาใจสารพัด
ทาสแมว มีหรือ จะไม่รัก เงินใช้ชีวิตในบ้านนี้ อย่างมีความสุข จนราว เดิน ธันวาคมปีที่ผ่านมา เรื่องที่ไม่คาดคิดกับเงิน ก็เกิดขึ้น เราวางแผนที่จะทำวัคซีนให้เงิน แต่ไม่ทันได้ทำวัคซีน เงินมีอาการไข้ขึ้น ไม่ทาน เพียงไมทานอาหาร เราก็ใจคอไม่สู้ดี พาไปพบสัตว์แพทย์ ที่คลินิกใกล้บ้าน ระยะนั้น ตรวจเลือดทุกอย่าง ไม่พบโรคชนิดใดเลย มีค่าเม็ดเลือดขาว ที่สูงขึ้นเล็กน้อย และ ค่าไตสูงเล็กน้อย หมอให้ยาแก้อักเสบ ยาก้างปลา และเติมน้ำเกลือ ทุกๆวัน และวันเว้นวัน ในหลายสัปดาห์ต่อไป จนจะถึงช่วงสิ้นปี เงินมีอาการดีขึ้น ทานเก่ง ซน และเอาใจทาสเก่งเช่นเดิม เวลานั้น เราสุขใจมาก มีความสุขมาก วางแผนจะทำวัคซีนให้แมวน้อยของเราต่อ เราเปลี่ยนชื่อแมวด้วย ให้ชื่อ ไอ้คง เพื่อฉลองที่น้องหายป่วย
ฝันร้ายครั้งที่ 2 ได้เริ่มต้นขึ้น
เมื่อต้นเดือน กุมภาพันธ์ คง ป่วยอีกครั้ง มีไข้สูง เราไปพบสัตว์แพทย์ใกล้บ้านที่เดิม ครั้งนี้ ได้ยาลดไข้ แก้อักเสบ เติมน้ำเกลือ สักสี่วัน ไอ้คง ก็มีอาการดีขึ้น
16/2/2560 ไอ้คงเริ่มซึม ไม่ทานอาหาร เราไม่เคยรอช้า พาพบสัตว์แพทย์ทันที หมอตรวจพบมีไข้เล็กน้อย ให้ยาแก้อักเสบ เติมน้ำเกลือ ยาก้างปลา นัดดูอาการ วันที่ 19/2/2560
19/2/2560 อาการโดยรวมไม่ดีขึ้น พบหมอตามนัด ระหว่างคุยกับหมอ เราว่า น้องชอบของเล่นเดินไปมา หมอคิดว่า อาจจะมีอะไรติดอยู่ในลำไส้ จึง x-ray ดู แต่ ผลปรากฎว่า มีน้ำในช่องอก ตอนนั้นหมอบอกว่า น้องเป็น FIP รักษาไม่หายนะ ประคองอาการอย่างเดียว วินาทีนั้น เราเจ็บปวดมาก เพราะภาวนามาตลอดว่า แมวที่เลี้ยง ไม่อยากให้เป็นโรคนี้เลย ได้ยาแก้อักเสบ และ ยาฆ่าเชื้อ
20/2/2560 อาการน้องไม่ดีขึ้น จึงตัดสินใจ พาน้อง ไปหาหมอที่ รสพ. แห่งใหม่ พอไปถึง หมอดูฟิล์ม x-ray ที่เรานำมาด้วย หมอก็บอกว่า มีน้ำในช่องอก เป็น FIP หมอเติมน้ำเกลือ ฉีดยาขับน้ำ และ ให้อ๊อกซิเจนน้อง พร้อมยาฆ่าเชื้อ ได้ยากลับบ้านมี Virbagen ยาบำรุงไต และวิตตามิน ยาฆ่าเชื้อ
จากนั้น 1 วัน น้องหอบมากขึ้น เราสังเกตได้ คิดอยู่ในใจ จะทำยังไงให้น้องไม่ทรมาน มีความหวังลึกๆว่าไม่ใช่ FIP นั่งค้นหาข้อมูล เป็นวันเป็นคืน อ่านเรื่องราวต่างๆ ที่พอจะหาได้ในอินเตอร์เน็ท เราตัดพ้กให้ ไอ้คงฟังว่า ทำไมเอ็งต้องโชคร้ายแบบนี้ อุดส่าห์มีบ้านที่อบอุ่นทั้งที ใยต้องมาป่วยแบบนี้ ไอ้คงรับรู้ถึงความทุกข์ของเราได้ เราสังเกตจากแววตา คืนนั้นนอนไม่หลับ เพราะต้องคอยดูน้อง เวลาผ่านไป
22/2/2560 เราตัดสินใจ หาน้องไปหาหมอ ที่ รพส.เกษตร ทั้งที่รู้ว่า ค่ารักษาค่อนข้างสูง ภาระเราเยอะ แต่เรารักน้อง วินาทีนั้น คนจะกินอะไรยังไงก็ช่าง ขอน้องไม่ทรมาน ออกจากแปดริ้ว ราว 6 โมงเย็น ถึง รพส. เกือบ 2 ทุ่ม ไปที่แผนกฉุกเฉิน คุณหมอน่ารักมาก ชมน้องว่าน่ารัก เรามีกำลังใจขึ้น พบหมอน่ารัก หมอพาน้อง x-ray แล้ว ก็ให้ข้อมูลเราว่า มีน้ำสะสมในช่องอกมาก จึงต้อง ขอเจาะดูดน้ำออกเพื่อให้น้องหายใจได้สะดวกขึ้น เราเซ็นยินยอมให้หมอวางยาและรักษาน้อง วินาทีนั้น ใจเราไม่เป็นสุข เป็นห่วงน้องมากๆ จนต้องตื่นขึ้นมา น้องก็ดูหายใจดีขึ้น หมอบอกว่า จะนำน้ำในช่องอกนี้ไปตรวจ เพื่อหาเชื้อไวรัส ลักษณะของน้ำ หมอบอกว่า สีฟางข้าว ไม่เหนียวหนืด หมอว่าถ้าเป็นไวรัส ก็ต้องทำใจไว้ก่อนยังรักษาไม่ได้ แต่ดูแล้ว อาจจะไม่ใช่เพราะมีหลายสาเหตุ ที่ทำให้มีน้ำออกในช่องอก คุณหมอ นัดให้พบอายุรกรรมทั่วไปในวันถัดไปเพื่อติดตามอาการ คืนนี้ พอถึงบ้าน น้องทานได้เล็กน้อย
23/2/2560 วันนี้ น้องทานอาหารแมวป่วยของคานิน ได้นิดหน่อย ทาสต้องป้อนเอง น้องเดินจิบน้ำบ่อย ดูแล้ว ท่าจะดี แต่พอไปพบหมอตามนัดดูอาการ x-ray อีกรอบ หมอบอกว่า มีน้ำเพิ่มมาอีก วันนี้ต้องขอเจาะอีกรอบ แต่น้องจะเสี่ยงมาก เพราะ เพิ่งทำการรักษาไปเมื่อวาน เราทำใจลำบากมาก แต่น้องก็ทรมานหายใจลำบาก ก่อนจะไปวางยา น้องต้องเจ็บปวดกับการให้ยาก่อน 3 เข็ม เราจับน้องไปด้วย ร้องไห้ไปด้วย ปวดใจที่สุด ไม่มีใครอยากนำแมวมาทรมาน มาตื่นกลัวแบบนี้เลย แต่เวลานั้น เราคิดว่าเราทำดีที่สุด ครึ้นเสร็จ แล้ว ก็เช่นเดิม หมอพาไปห้องฉุกเฉิน แล้วทำการวางยาน้ำ เจาะดูดน้ำในช่องอก วันนี้นานมาก เราเริ่มใจคอไม่ดี แต่ เกือบ สองทุ่ม หมอเรียกเข้าไปรับน้อง น้อง ร่าเริงมาก ร้องอ้อแอ้ตลอดเวลา อ้อนทาสหนักกว่าเดิม เรายิ้มออก พร้อมกับคำอธิบายของหมอว่า ผลอัลตราซาวน์หลังจากเจาะรอบนี้ เหมือนว่าในช่องอกจะมีก้อนเนื้ออยู่ ซึ่งชนิดนี้ตอบสนองกับยาที่มีอยู่ และสามารถรักษาได้ และน้ำในช่องอก ส่วนมาก น่าจะเป็นกลุ่มโรคนี้ ทั้งนี้ ให้รอผลจากlab ก่อน เราเริ่มมีกำลังใจ วันนี้ได้ยากลับบ้าน 3 ตัว มี Virbagen ยากระตุ้นการอยากอาหาร และยาฆ่าเชื้อ พอมาถึงบ้าน น้องร้องกินอาหาร ตลอดและทานถี่มาก ในคืนนั้น ไม่รู้ว่าจะดีหรือเปล่า
24/2/2560 หลังจากเจาะดูดน้ำออกครั้งที่ 2 วันนี้ น้องทานอาหารเอง ทั้ง อาหารแมวป่วยของคานิน ปลาโอนึ่ง ทานถี่และบ่อยมาก ร่าเริงมาก เราก็คิดว่า น่าจะเป็นโรคที่รักษาได้ เรามีความสุขมากวันนี้ มีความหวัง
25/2/2560 สองทุ่มครึ่ง น้องหอบหนักมาก เราก็ไม่รอช้า รีบพากันนำน้อง ไปเกษตร ทันที หมอแจ้งไว้ว่า ถ้าหอบก็พามาได้ที่ห้องฉุกเฉิน คืนนี้ พบหมอคนเดิมที่เมื่อวานทำการรักษาน้อง หมอก็ให้เรานั่งรอ หมอก็ทำการรักษาเช่นเดิม หลังจาก น้องฟื้นจากยาสลบ หมอนำน้องมาส่งพร้อมกับอธิบายว่า แนวโน้ม ก็น่าจะเป็นเนื้องอก มากกว่า FIP ทั้งนี้รอผลตรวจเช่นเดิม (หมอนัดฟังผลวันที่2/3/60) หมอได้ใส่เข็มไว้เป็นลวด ที่ขาน้อง เพื่อที่ว่ามาครั้งต่อไปจะได้ไม่ต้องเจาะให้น้องเครียดบ่อยๆตรงขา กลับมา ถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน น้องก็ร่าเริง กินจุเหมือนเดิม
ระหว่างนี้ เราพยายามหาข้อมูลเพิ่มขึ้นหลายๆอย่าง ปลอบใจตัวเองว่า น้องจะไม่เป็น FIP และที่สำคัญ ขยันขายของให้ได้เงินเพื่อน้องมากที่สุด เราจะอย่างไร ช่างไว้ก่อน เวลานี้ เราให้ใจน้องมากๆ ไม่อยากให้ทรมาน
27/2/60 น้องมีอาการหอบ เราก็ไม่รอช้า ตามที่หมอบอก ถ้าทิ้งไว้อาจจะไม่ดีเสี่ยงให้ต้องช็อกได้ รีบพาไปทั้งๆดึกๆ พอไปถึงที่เกษตร วันนี้มีคุณหมอคนใหม่ มารักษาน้อง ฟังเสียงปวดของน้อง แล้วดูประวัติ บอกว่า ยังคงไม่เจาะ ให้มาตามนัดวันที่ 2 วันนี้ ยังดูไม่เป็นไร ถ้าเจาะไปก็มีน้ำไม่มาก เราก็ไม่ได้คิดอะไร ลองถามหมอดูว่า ผลที่นัดฟังวันที่ 2 ออกหรือยัง หมอแจ้งว่า ออกแล้วนะ ต้องติดเชื้อไวรัส ณ เวลานั้น เราอึ้งไปหมด สับสน เจ็บปวดใจ
ถามหมอย้ำไปว่า FIP นะเหรอ หมอตอบชัดว่า ใช่คะ ต้องประคองอาการ ส่วนมาก จะจากไปค่อนข้างไว เราเลยถามกลับว่า หมออีกคนว่า อาจจะมีเนื้องอกด้วย หมอก็ตอบว่า ผลยังไม่ออก ขอให้มาตามนัดวันที่ 2/3/60 นี้ พบแพทย์อายุรกรรมทั่วไป ตามนัด จะดีกว่า
วันนี้ เราพาน้องกลับบ้านด้วยความเสียใจ เราหลอกตัวเองมาสองสามวัน ว่าน้องป่วยอย่างอื่น ไม่ใช่ FIP มันเจ็บปวดมาก ที่ได้ฟังถ้อยคำที่หมอได้บอกในค่ำคืนนี้ เรานอนไม่หลับ อยากดูแลน้องให้ดีที่สุด เท่าที่ชีวิตนี้น้องจะมีความสุข ไม่ทรมาน ยังขอหลอกตัวเองต่อไป ว่าวันที่ 2 ที่จะไปพบหมอตามนัด ผลจะออกมาในทิศทางที่เราอยากให้เป็น แต่ ในใจ มันก็ปวดร้าวลึกๆ สงสารแมวน้อยตัวหนึ่ง ที่พึ่งจะกินอิ่มนอนหลับ มีที่หลับนอนได้สุขสบาย เวลา 4 เดือนเศษ ที่เราได้อยู่ด้วยกัน มันทำให้เรา รักและผูกพันกับน้องมาก มานั่งคิด ทำไมเวลาของน้องมันสั้นนัก
เช้าวันนี้ จนถึงเวลาที่ตั้งกระทู้นี้ ไอ้คง ก็ยังทานข้าวเองได้เหมือนเดิม มีอาการหอบหนัก เป็นรอบๆ
ผมจึงอยากขอคำแนะนำ จากทุกท่านที่มีประสบการณ์ครับ
1. ผมจะมีวิธีไหนที่จะดูแลน้องให้ไม่ทรมาน ช่วยบรรเทาน้องให้สุขใจที่สุด สงบใจที่สุด และน้อง อยู่กับเราให้นานกว่านี้ ที่สุดเท่าที่ไม่ทรมาน
2. อ่านเจอ เรื่อยา จาก ต่างประเทศ ผมต้องเตรียมเงินกี่บาท และจะตั้งสั่งที่ไหนอย่างไร ทานใดมีประสบการณ์ ผมอยากได้รับคำแนะนำมากครับ
ทั้งนี้ ผมยอมรับว่าทุกชีวิต
ทุกอย่างเป็นไปตามกฎของธรรมชาติ เกิด แก่ เจ็บ ตาย แต่ผมก็ยังอยากฝืนให้น้อง มีความสบาย อยากให้น้องอยู่บนโลกนี้ได้นานอีกนิด จึงตัดสินใจมาตั้งกระทู้ หาแนวทาง และมามองหากำลังใจ ครับผม