วันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 10.30 น. ณ ห้อง War Elephant ที่ทำการสมาคมฯ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดการประชุมร่วมกับ ตัวแทนมหาวิทยาลัย กรุงเทพ-ธนบุรี เพื่อสรุปข้อตกลงในการสร้างศูนย์ฝึกอคาเดมี
การประชุมครั้งนี้ ประกอบไปด้วย พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ เป็นประธานในการประชุม พร้อมกับ คุณพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและโฆษกสมาคมฯ, ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรื่อง รองอธิการบดี ฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยกรุงเทพขธนบุรี และ ผศ. วิทยา เบ็ญจาธิกุล รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร
หลังการประชุม พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ กล่าวว่า "วันนี้สมาคมฯ ได้เชิญตัวแทนจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ-ธนบุรี เพื่อพูดถึงความร่วมมือระหว่างสมาคมฯ กับทางมหาวิทยาลัย ที่จะใช้สถานที่เป็นศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอล สำหรับนักกีฬาที่ทางสมาคมฯคัดเลือกมาเป็นนักกีฬาของสมาคมฯ ตั้งแต่รุ่น U14,U16, U19, U21 ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ ทางสมาคมฯ กับ มหาวิทยาลัยก็ร่างสัญญา ร่วมกัน ต่อไปนี้ศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลของสมาคมฯ จะไปอยู่ที่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ-ธนบุรี ก็ได้รับความกรุณาจากมหาวิทยาลัย ที่เปิดโอกาสให้สมาคมฯ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครับ ทั้งสนามซ้อม ห้องฟิตเนส ห้องสปา ตลอดจนพื้นที่ที่ทางมหาวิทยาลัย ให้สมาคมฯ เป็นที่ทำงาน มีหอพัก อยู่ในมาตรฐานที่เหมาะสำหรับนักกีฬา นักกีฬาทุกรุ่น ถ้าเป็นเด็กที่เรียนระดับมัธยม ก็จะเรียนที่โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ-ธนบุรี ถ้าอายุมากขึ้นก็เรียนต่อที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ-ธนบุรี สำหรับเด็กมัธยมจะได้ส่วนลดค่าใช้จ่าย 40 เปอร์เซ็นต์ ส่วนในระดับมหาวิทยาลัยถ้าเป็นนักกีฬาทีมชาติ ก็จะได้เรียนฟรี"
"จากการใช้ที่มหาวิทยาลัยเป็นที่ฝึกสอน ฝึกฝน จะทำให้ผู้ฝึกสอนสามารถดูแลนักกีฬาได้อย่างเต็มที่ ทั้งการซ้อม การนอน โภชนาการ วิทยาศาสตร์การแพทย์การกีฬา จะถูกนำมาใช้อย่างเป็นระบบ เพื่อหวังที่จะสร้างนักกีฬาฟุตบอลในอนาคต ให้มีมาตรฐานให้พร้อมทุกด้าน ไม่ใช่แค่เตะฟุตบอลอย่างเดียว ต้องพร้อมเรื่องร่างกาย โภชนาการ เราจะควบคุมให้อยู่กรอบ ศูนย์นี้จะเป็นศูนย์ที่ทำให้นักกีฬาก้าวขึ้นไปอยู่ในระดับโลก เพราะว่าโค้ชหรือผู้ฝึกสอนทุกรุ่นจะเป็นโค้ชที่ผ่านการทำงานมีประสบการณ์ทั้งสิ้น และมาจากสเปนทั้งหมด ต่อไปนักกีฬาของสมาคมฯ ทุกรุ่น จะต้องฝึกซ้อม เรียนรู้ สไตล์การเล่นของสเปน และปรับมาเป็นสไตล์แบบไทย เราเชื่อว่าเราจะได้นักกีฬาที่มีความรู้ ที่สำคัญศูนย์นี้จะฝึกเรื่องวินัยอย่างเป็นระบบ ใครที่ได้รับการคัดเลือกต้องยอมรับกติกาของสมาคมฯ แต่เมื่อเข้ามาแล้ว ไม่ได้หมายความว่าจะติดทีมชาติทุกคน ท่านคือนักกีฬาของอคาเดมีสมาคมฯ เท่านั้น เมื่อมีการแข่งขันระดับประเทศในฐานะตัวแทนทีมชาติ ท่านก็ต้องเข้าสู่การคัดเลือก หมายความว่า นักกีฬาไม่ได้สังกัดของสมาคมฯ ก็ยังมีสิทธิ์มาคัดเลือกเป็นนักกีฬาทีมชาติ แต่ผมอยากได้ความเป็นทีมเวิร์ค รูปแบบการเล่นเหมือนกัน และระเบียบวินัยคือสิ่งสำคัญที่สุด ที่นักกีฬาไทยขาดคนนี้ เราต้องสร้างมันขึ้นมา อาจจะใช้เวลา 3-5 ปี แต่ผมมั่นใจว่าใน 4-5 ปี ข้างหน้า นักฟุตบอลไทยจะมีรูปแบบการเล่นแบบไทย"
ที่มาเเฟนเพจ FA Thailand
เห็นมีคนลงในsusu เลยอยากถามความเห็นเพื่อนๆในนี้หน่อยว่าไอ้โปรแจคทีว่านี้ ใช่ที่เคยมีข่าวมาก่อนว่าสมาคมเตรียม สร้างศูนย์ฝึกบอลแห่งใหม่มั้ย
ที่ใช้เป็นที่สนามซ้อม สนามแข่ง ที่เก็บตัวทีมชาติ แบบครบวงจร ซึ่งเงินที่ใช้ เป็นงบที่สมาคมโดยตรง+งบจากฟีฟ่า+และของเอกชน
ถ้าใช่ ต้องขอกว่าน่าผิดหวังสุดเลย เพราะที่กับลังทำนี่หลายๆสโมสรเค้าก้อทำกันเกือบหมดแล้ว แล้วจะทำอีกให้มันซ้ำซ้อนเพื่อ?
แทนที่จะเอางบส่วนนี้ไปพัฒนาสิ่งที่ยังขาด เช่น พัฒนาคุณภาพผู้ตัดสิน พัฒนาโคช พัฒนาลีกรอง พัฒนาลีกหญิงไม่ดีกว่าหรือ
แล้วที่ผมเคยฝันไว้ว่าจะได้เห็น ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งใหม่แบบครบวงจร มีสนามฟุตบอลของสมาคมเอง ก็คงต้องฝันกันต่อซิมนะ เฮ้อ...
สมาคมฟุตบอล เตรียมจับมือ ม.กรุงเทพ-ธนบุรีสร้างศูนย์ฝึกอคาเดมี่
การประชุมครั้งนี้ ประกอบไปด้วย พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ เป็นประธานในการประชุม พร้อมกับ คุณพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและโฆษกสมาคมฯ, ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรื่อง รองอธิการบดี ฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยกรุงเทพขธนบุรี และ ผศ. วิทยา เบ็ญจาธิกุล รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร
หลังการประชุม พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ กล่าวว่า "วันนี้สมาคมฯ ได้เชิญตัวแทนจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ-ธนบุรี เพื่อพูดถึงความร่วมมือระหว่างสมาคมฯ กับทางมหาวิทยาลัย ที่จะใช้สถานที่เป็นศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอล สำหรับนักกีฬาที่ทางสมาคมฯคัดเลือกมาเป็นนักกีฬาของสมาคมฯ ตั้งแต่รุ่น U14,U16, U19, U21 ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ ทางสมาคมฯ กับ มหาวิทยาลัยก็ร่างสัญญา ร่วมกัน ต่อไปนี้ศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลของสมาคมฯ จะไปอยู่ที่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ-ธนบุรี ก็ได้รับความกรุณาจากมหาวิทยาลัย ที่เปิดโอกาสให้สมาคมฯ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครับ ทั้งสนามซ้อม ห้องฟิตเนส ห้องสปา ตลอดจนพื้นที่ที่ทางมหาวิทยาลัย ให้สมาคมฯ เป็นที่ทำงาน มีหอพัก อยู่ในมาตรฐานที่เหมาะสำหรับนักกีฬา นักกีฬาทุกรุ่น ถ้าเป็นเด็กที่เรียนระดับมัธยม ก็จะเรียนที่โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ-ธนบุรี ถ้าอายุมากขึ้นก็เรียนต่อที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ-ธนบุรี สำหรับเด็กมัธยมจะได้ส่วนลดค่าใช้จ่าย 40 เปอร์เซ็นต์ ส่วนในระดับมหาวิทยาลัยถ้าเป็นนักกีฬาทีมชาติ ก็จะได้เรียนฟรี"
"จากการใช้ที่มหาวิทยาลัยเป็นที่ฝึกสอน ฝึกฝน จะทำให้ผู้ฝึกสอนสามารถดูแลนักกีฬาได้อย่างเต็มที่ ทั้งการซ้อม การนอน โภชนาการ วิทยาศาสตร์การแพทย์การกีฬา จะถูกนำมาใช้อย่างเป็นระบบ เพื่อหวังที่จะสร้างนักกีฬาฟุตบอลในอนาคต ให้มีมาตรฐานให้พร้อมทุกด้าน ไม่ใช่แค่เตะฟุตบอลอย่างเดียว ต้องพร้อมเรื่องร่างกาย โภชนาการ เราจะควบคุมให้อยู่กรอบ ศูนย์นี้จะเป็นศูนย์ที่ทำให้นักกีฬาก้าวขึ้นไปอยู่ในระดับโลก เพราะว่าโค้ชหรือผู้ฝึกสอนทุกรุ่นจะเป็นโค้ชที่ผ่านการทำงานมีประสบการณ์ทั้งสิ้น และมาจากสเปนทั้งหมด ต่อไปนักกีฬาของสมาคมฯ ทุกรุ่น จะต้องฝึกซ้อม เรียนรู้ สไตล์การเล่นของสเปน และปรับมาเป็นสไตล์แบบไทย เราเชื่อว่าเราจะได้นักกีฬาที่มีความรู้ ที่สำคัญศูนย์นี้จะฝึกเรื่องวินัยอย่างเป็นระบบ ใครที่ได้รับการคัดเลือกต้องยอมรับกติกาของสมาคมฯ แต่เมื่อเข้ามาแล้ว ไม่ได้หมายความว่าจะติดทีมชาติทุกคน ท่านคือนักกีฬาของอคาเดมีสมาคมฯ เท่านั้น เมื่อมีการแข่งขันระดับประเทศในฐานะตัวแทนทีมชาติ ท่านก็ต้องเข้าสู่การคัดเลือก หมายความว่า นักกีฬาไม่ได้สังกัดของสมาคมฯ ก็ยังมีสิทธิ์มาคัดเลือกเป็นนักกีฬาทีมชาติ แต่ผมอยากได้ความเป็นทีมเวิร์ค รูปแบบการเล่นเหมือนกัน และระเบียบวินัยคือสิ่งสำคัญที่สุด ที่นักกีฬาไทยขาดคนนี้ เราต้องสร้างมันขึ้นมา อาจจะใช้เวลา 3-5 ปี แต่ผมมั่นใจว่าใน 4-5 ปี ข้างหน้า นักฟุตบอลไทยจะมีรูปแบบการเล่นแบบไทย"
ที่มาเเฟนเพจ FA Thailand
เห็นมีคนลงในsusu เลยอยากถามความเห็นเพื่อนๆในนี้หน่อยว่าไอ้โปรแจคทีว่านี้ ใช่ที่เคยมีข่าวมาก่อนว่าสมาคมเตรียม สร้างศูนย์ฝึกบอลแห่งใหม่มั้ย
ที่ใช้เป็นที่สนามซ้อม สนามแข่ง ที่เก็บตัวทีมชาติ แบบครบวงจร ซึ่งเงินที่ใช้ เป็นงบที่สมาคมโดยตรง+งบจากฟีฟ่า+และของเอกชน
ถ้าใช่ ต้องขอกว่าน่าผิดหวังสุดเลย เพราะที่กับลังทำนี่หลายๆสโมสรเค้าก้อทำกันเกือบหมดแล้ว แล้วจะทำอีกให้มันซ้ำซ้อนเพื่อ?
แทนที่จะเอางบส่วนนี้ไปพัฒนาสิ่งที่ยังขาด เช่น พัฒนาคุณภาพผู้ตัดสิน พัฒนาโคช พัฒนาลีกรอง พัฒนาลีกหญิงไม่ดีกว่าหรือ
แล้วที่ผมเคยฝันไว้ว่าจะได้เห็น ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งใหม่แบบครบวงจร มีสนามฟุตบอลของสมาคมเอง ก็คงต้องฝันกันต่อซิมนะ เฮ้อ...