สวัสดีค่ะ ตอนนี้เจ้าของกระทู้มาแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น อยู่เมืองเกียวโตค่ะ
ค่าครองชีพที่ญี่ปุ่นก็แพงอย่างที่เขาร่ำลือกันจริงๆ
ตั้งแต่มาถึงที่นี่ก็ทำบัญชีรายรับรายจ่ายตลอด แต่ก็รู้สึกว่ายังใช้เงินแบบเดือนชนเดือน
เลยอยากขอคำแนะนำจากพี่ๆ เพื่อนๆ ในพันทิพว่าหนูควรจะวางแผนการใช้เงินต่อจากนี้อย่างไรดีคะ
ก่อนอื่นขออธิบายการใช้เงินของตัวเอง ช่วง 6 เดือนแรกก่อนนะคะ
รายรับ
- มาถึงญี่ปุ่นช่วงแรกปลายเดือนกันยา 2016 ⇒ ได้รับเงินก้อนจากพ่อแม่ 227,000 เยน
- เดือนตุลา 2016 – สิงหา 2017 ⇒ ได้รับทุนจากมหาวิทยาลัย เดือนละ 80,000 เยน
- ไม่มีบัตรเครดิต บัตรเดบิตใดๆ ถ้าเงินหมดระหว่างอยู่ที่ญี่ปุ่น พ่อแม่บอกว่าจะไม่มีการโอนเงินใดๆให้ทั้งสิ้นค่ะ ;w;
- หนูไม่ได้ทำงานพิเศษ เลยไม่มีรายรับส่วนอื่นมาเพิ่มค่ะ
ขอใช้แผนภูมิวงกลม กับตารางข้อมูลในการอธิบายรายจ่ายนะคะ
เพื่อไม่ให้ลายตา ขอใส่ข้อมูลรายจ่ายแบบตารางที่แสดงจำนวนเงินไว้ใน Spoil นะคะ
รายจ่าย
-เนื่องจากหนูมาเรียนในนามโครงการแลกเปลี่ยนของมหาวิทยาลัย จึงไม่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียนค่ะ
แต่ต้องจ่ายค่าหอพัก และค่ากินอยู่เอง
เดือนกันยายน 2016
มาถึงแรกๆ ต้องจ่ายค่าหอพักของทั้งเทอม (ตุลา 2016 – มีนา 2017) กับค่าประกันชีวิต
แต่ไม่เป็นไร ยังสบายๆ มีเงินเหลือเฟือ เพราะเพิ่งมาถึง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เดือนตุลาคม 2016
อากาศเริ่มหนาว ลมเย็นๆ เสื้อผ้าที่เตรียมมาใช้ไม่ได้สักตัว มีแต่เสื้อยืด กางเกงยีนส์
เสื้อกันหนาวที่เอามาก็ไม่อุ่น ถือว่าพลาดมากค่ะที่ไม่เตรียมตัวเรื่องเสื้อผ้า
เพราะทำให้เสียค่าใช้จ่ายไปกับค่าเสื้อผ้าเยอะแบบที่ไม่ได้คำนวณไว้ล่วงหน้า
ดีที่หอพักมีเครื่องอบผ้า เลยใส่กางเกงยีนส์ตัวเดียวซ้ำตลอดหกเดือนค่ะ 555
แต่เสื้อกันหนาวได้ซื้อเพิ่มเยอะ เพราะซื้อมาไม่เจอที่อุ่นๆซักกะตัว
เดือนนี้เริ่มซื้อหนังสือกับซีดี ที่เป็นกิเลสอยากได้ตั้งแต่อยู่ไทย
เดือนนี้ซื้อขนมปังเยอะมากเพราะสะสมแสตมป์จะแลกเอาของรางวัลที่ Lawson
จำได้ว่ารีบแจ้นไปดู kimi no na wa (君の名は) กลัวจะออกโรงไปเสียก่อน
หารู้ไม่ว่าจนถึงตอนนี้อนิเมเรื่องนี้ก็ยังฉายอยู่ในโรง (...)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เดือนพฤศจิกายน 2016
ค่าใช้จ่ายเดือนนี้หมดไปกับเสื้อผ้าอีกแล้วค่ะ รองลงมาก็หนังสือนิยายกับมังงะภาษาญี่ปุ่น
เผอิญว่าอยู่ใกล้กับ Book off ด้วย เลยหาซื้อหนังสือได้ในราคาถูกค่ะ เป็นความยินดีอย่างหนึ่งเลย
มีจ่ายค่าตั๋วคอนเสิร์ต 2 งาน ได้ไปดูหนังบ้าง ซึ่งพอตีราคาตั๋วหนังเป็นเงินบาทแล้วถึงกับอึ้งจนไปไม่ถูกเลยค่ะ แพงจัง!
รายจ่ายเล็กๆ น้อยๆ ก็มีค่าส่งจดหมายกับโปสการ์ดหาท่านแม่กับสหายที่ไทยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เดือนธันวาคม 2016
กินข้าวกล่องร้านสะดวกซื้อบ่อยมาก กินเกือบทุกวันเพราะเริ่มเรียนหนัก ไม่ค่อยมีเวลาทำอาหารกินเองค่ะ
กลางวันก็อาศัยกินที่โรงอาหารในมหาวิทยาลัย (ราคาพอๆกับร้านสะดวกซื้อเลย) แล้วก็ดื่มน้ำกดจากตู้บ่อยค่ะ
ค่าเสื้อผ้าลดลงเพราะอาศัยใส่ซ้อนๆ กันให้อุ่นๆ แต่ไปเสียกับค่าดูหนัง 3 เรื่อง ส่งจดหมาย โปสการ์ดบ้าง
แล้วก็ได้ลองไปดัดผมที่ร้านในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกด้วยค่ะ
ส่วนตัวคิดว่าค่าทำผมที่นี่แพง แต่ก็คุ้มค่ากับการบริการและความน่ารักของพนักงานค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เดือนมกราคม 2017
จ่ายค่าซีดีเยอะมาก หน้ามืด โดนกิเลสครอบงำ กับจ่ายค่าตั๋วคอนเสิร์ตไปอีก 1 งาน
ซื้อรองเท้าผ้าใบกับเสื้อกันลมตัวใหม่ เพราะอากาศหนาวขึ้น หิมะตก รองเท้าผ้าใบที่ใส่มาตั้งแต่อยู่ไทยเอาไม่อยู่แล้วค่า
ได้ไปตัดผมครั้งแรกที่ญี่ปุ่นด้วย คราวนี้ไปร้านเดิมแต่เปลี่ยนสาขาค่ะ กลัวช่างดัดผมน้อยใจถ้ากลับไปตัดที่ร้านเดิม ;w;
เพราะทนกลิ่นน้ำยาดัดผมไม่ไหว เลยไปตัดค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เดือนกุมภาพันธ์ 2017
เป็นเดือนที่ทำให้หนูช็อค เพราะทางมหาวิทยาลัยบอกว่าต้องจ่ายค่าหอเทอมใหม่ภายในสิ้นเดือนนี้
ทีแรกหนูคิดไปเองว่าเขาจะให้จ่ายเดือนมีนา-เมษา แต่ก็ยังดีที่เก็บเงินฝากธนาคารไว้เดือนละ 30,000 เยน
ค่าหอเทอมใหม่ 160,000 เยน ก็พอเหลือเงินให้ใช้ในเดือนนี้แค่หมื่นกว่าเยน
เดือนนี้ไม่ซื้ออะไรเลย ทั้งหนังสือทั้งซีดี ใช้เงินไปกับแค่ของกิน
แต่ช่วงต้นเดือนก็ยังไปดูหนัง 2 เรื่อง (ทั้งที่แทบไม่มีจะกินอยู่แล้ว)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สรุป
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตลอดช่วงเวลาเกือบ 6 เดือนทำให้รู้ว่าหนูไม่ได้วางแผนการเงินแบบจริงจังเลย
อยากได้อะไรก็ซื้อ พอเจอการใช้ชีวิตเดือนกุมภา ที่เหลือเงินกินข้าวเพียงน้อยนิด ทำให้รู้ว่าความอดอยากมันทรมาน
ช่วงที่กินข้าวร้านสะดวกซื้อบ่อยๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองใช้เงินเปลืองแล้ว
แต่พอทำบัญชีก็ทำให้รู้ว่านอกจากค่าหอแล้ว เงินมันหมดไปกับพวกกิเลสซีดี คอนเสิร์ต หนังสือทั้งนั้น
ค่าเดินทางเสียน้อยเพราะหนูไม่ค่อยเที่ยว โดนเพื่อนด่าประจำ ว่ามาถึงนี่แล้วก็ต้องเที่ยวบ้าง
ซึ่งสภาพจิตใจตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาคือหนูกังวลกับค่าใช้จ่ายมาก เลยไม่ค่อยมีความรู้สึกอยากเที่ยวเท่าไหร่ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กราฟเปรียบเทียบรายจ่ายในแต่ละเดือน
- เผื่อมีใครอยากมาเรียนที่ญี่ปุ่น อาจมีประโยชน์ในการประเมินรายจ่ายค่ะ
ซึ่งจะเห็นว่าค่าอาหาร ไม่เกิน 30,000 เยน ต่อเดือนก็พออยู่ได้ค่ะ
จากนี้เหลือเวลาใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น 6 เดือน หนูไม่รู้เหมือนกันว่าอนาคตจะได้กลับมาที่นี่อีกไหม
แต่คงโล่งใจบ้างที่ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าหอแล้ว
ทั้งนี้เงินเดือนต่อๆ ไปก็ต้องเก็บออมไว้ สำหรับค่าใช้จ่าย ดังนี้
1. ค่าตั๋วเครื่องบินขากลับ ~ 50,000 เยน
2. ค่าขนของกลับไทย ~ 30,000 เยน
3. เก็บเงินคืนให้พ่อแม่ ~ 250,000 เยน
4. ค่ารถไปสนามบิน ~ 3,500 เยน
รวมเงินที่ต้องเก็บ ~ 333,500 เยน
ตอนนี้วางแผนว่า จากนี้เดือนนึงต้องเก็บออม 56,000 เยน เหลือไว้ใช้ 24,000 เยน
แต่เดือนสิงหา เดือนสุดท้ายจะไม่ต้องเสียค่ากินเต็มเดือนเพราะกลับก่อน เงินที่เหลือจากค่ากิน จะนำไปซื้อของฝาก
ปัญหาอยู่ตรงที่ว่า มาญี่ปุ่นทั้งที แต่ไม่ค่อยได้เที่ยวค่ะ จริงๆ ก่อนมาคิดไว้ว่าอยากไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ศิลปะทั่วญี่ปุ่น
แต่ตอนนี้คงเป็นได้แค่ฝัน ไหนจะค่าเดินทาง ไหนจะค่าเข้าชม ไว้อนาคตค่อยว่ากันใหม่
ค่าเดินทาง ปกติจะซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินแบบเหมาทั้งวัน 600 เยน คุ้มสุดสำหรับหนู เพราะที่พักอยู่ใกล้รถไฟใต้ดินที่สุดค่ะ
สถานที่ที่ได้ไปเที่ยวมาแล้ว
- ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ
- ศาลเจ้าคิตะโนะเทนมังงู
- ศาลเจ้ายาซากะ
- นอกนั้นก็เดินเล่นเล่นไปตามทางเดินแถวๆ สถานีรถไฟใต้ดิน
คำถามคือ
(1) พอจะมีวิธีการใช้เงินแบบที่กินอิ่ม นอนหลับ พร้อมกับได้เที่ยวแบบประหยัดๆ บ้างมั้ยคะ
(2) ควรจะแบ่งสัดส่วนการใช้เงินเดือนละ 80,000 เยนต่อจากนี้ยังไงดี
สิ่งที่อยากบอกเล่า หลังจากมาเรียนที่นี่ 6 เดือนผ่านไป
- เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะกับฤดูกาลดีที่สุด ถ้าไม่มีไม่ต้องขนเสื้อผ้าที่ไทยมาเยอะ มาซื้อเอาที่นี่
- บัตรเครดิตหรือเดบิตสำคัญมาก กรณีที่อยากสมัครใช้เบอร์โทรศัพท์ที่ญี่ปุ่น
- ตั้งเป้าหมายดีๆ ว่าอยากมาที่นี่เพื่อทำอะไรกันแน่
- การเรียนไปพร้อมๆ กับการต้องกังวลเรื่องเงิน ทรมานกว่าที่คิด คิดดีๆ ก่อนจะมาที่นี่ ถ้าไม่มีความพร้อมด้านการเงิน
- คิดถึงอาหารไทยมากกว่าที่คิด
- อยากอ่านนิยายภาษาไทยมาก
- ขอบคุณที่เกียวโตมี wifi ฟรีให้ใช้ ทำให้ไม่หลงทาง เคยไปดูคอนเสิร์ตที่โอซาก้าแล้วหลงทางหนักมาก 555
- อยากทำงานพิเศษ แต่ไม่มั่นใจในภาษาญี่ปุ่นของตัวเอง
- คิดว่าถ้าอยากทำงานพิเศษ เมืองที่เลือกมาควรมีรุ่นพี่ที่รู้จัก หรือรุ่นพี่คนไทย ให้เขาช่วยแนะนำงานให้
- ความรู้สึก "อยากกลับไทย" มาเร็วกว่าที่คิด
[แชร์] ค่าใช้จ่ายเมื่อมาเรียนที่ญี่ปุ่น 6 เดือนแรก และขอคำแนะนำในการใช้เงิน 6 เดือนที่เหลือ (มีรูปแผนภูมิประกอบ)
ค่าครองชีพที่ญี่ปุ่นก็แพงอย่างที่เขาร่ำลือกันจริงๆ
ตั้งแต่มาถึงที่นี่ก็ทำบัญชีรายรับรายจ่ายตลอด แต่ก็รู้สึกว่ายังใช้เงินแบบเดือนชนเดือน
เลยอยากขอคำแนะนำจากพี่ๆ เพื่อนๆ ในพันทิพว่าหนูควรจะวางแผนการใช้เงินต่อจากนี้อย่างไรดีคะ
ก่อนอื่นขออธิบายการใช้เงินของตัวเอง ช่วง 6 เดือนแรกก่อนนะคะ
รายรับ
- มาถึงญี่ปุ่นช่วงแรกปลายเดือนกันยา 2016 ⇒ ได้รับเงินก้อนจากพ่อแม่ 227,000 เยน
- เดือนตุลา 2016 – สิงหา 2017 ⇒ ได้รับทุนจากมหาวิทยาลัย เดือนละ 80,000 เยน
- ไม่มีบัตรเครดิต บัตรเดบิตใดๆ ถ้าเงินหมดระหว่างอยู่ที่ญี่ปุ่น พ่อแม่บอกว่าจะไม่มีการโอนเงินใดๆให้ทั้งสิ้นค่ะ ;w;
- หนูไม่ได้ทำงานพิเศษ เลยไม่มีรายรับส่วนอื่นมาเพิ่มค่ะ
ขอใช้แผนภูมิวงกลม กับตารางข้อมูลในการอธิบายรายจ่ายนะคะ
เพื่อไม่ให้ลายตา ขอใส่ข้อมูลรายจ่ายแบบตารางที่แสดงจำนวนเงินไว้ใน Spoil นะคะ
รายจ่าย
-เนื่องจากหนูมาเรียนในนามโครงการแลกเปลี่ยนของมหาวิทยาลัย จึงไม่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียนค่ะ
แต่ต้องจ่ายค่าหอพัก และค่ากินอยู่เอง
เดือนกันยายน 2016
มาถึงแรกๆ ต้องจ่ายค่าหอพักของทั้งเทอม (ตุลา 2016 – มีนา 2017) กับค่าประกันชีวิต
แต่ไม่เป็นไร ยังสบายๆ มีเงินเหลือเฟือ เพราะเพิ่งมาถึง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เดือนตุลาคม 2016
อากาศเริ่มหนาว ลมเย็นๆ เสื้อผ้าที่เตรียมมาใช้ไม่ได้สักตัว มีแต่เสื้อยืด กางเกงยีนส์
เสื้อกันหนาวที่เอามาก็ไม่อุ่น ถือว่าพลาดมากค่ะที่ไม่เตรียมตัวเรื่องเสื้อผ้า
เพราะทำให้เสียค่าใช้จ่ายไปกับค่าเสื้อผ้าเยอะแบบที่ไม่ได้คำนวณไว้ล่วงหน้า
ดีที่หอพักมีเครื่องอบผ้า เลยใส่กางเกงยีนส์ตัวเดียวซ้ำตลอดหกเดือนค่ะ 555
แต่เสื้อกันหนาวได้ซื้อเพิ่มเยอะ เพราะซื้อมาไม่เจอที่อุ่นๆซักกะตัว
เดือนนี้เริ่มซื้อหนังสือกับซีดี ที่เป็นกิเลสอยากได้ตั้งแต่อยู่ไทย
เดือนนี้ซื้อขนมปังเยอะมากเพราะสะสมแสตมป์จะแลกเอาของรางวัลที่ Lawson
จำได้ว่ารีบแจ้นไปดู kimi no na wa (君の名は) กลัวจะออกโรงไปเสียก่อน
หารู้ไม่ว่าจนถึงตอนนี้อนิเมเรื่องนี้ก็ยังฉายอยู่ในโรง (...)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เดือนพฤศจิกายน 2016
ค่าใช้จ่ายเดือนนี้หมดไปกับเสื้อผ้าอีกแล้วค่ะ รองลงมาก็หนังสือนิยายกับมังงะภาษาญี่ปุ่น
เผอิญว่าอยู่ใกล้กับ Book off ด้วย เลยหาซื้อหนังสือได้ในราคาถูกค่ะ เป็นความยินดีอย่างหนึ่งเลย
มีจ่ายค่าตั๋วคอนเสิร์ต 2 งาน ได้ไปดูหนังบ้าง ซึ่งพอตีราคาตั๋วหนังเป็นเงินบาทแล้วถึงกับอึ้งจนไปไม่ถูกเลยค่ะ แพงจัง!
รายจ่ายเล็กๆ น้อยๆ ก็มีค่าส่งจดหมายกับโปสการ์ดหาท่านแม่กับสหายที่ไทยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เดือนธันวาคม 2016
กินข้าวกล่องร้านสะดวกซื้อบ่อยมาก กินเกือบทุกวันเพราะเริ่มเรียนหนัก ไม่ค่อยมีเวลาทำอาหารกินเองค่ะ
กลางวันก็อาศัยกินที่โรงอาหารในมหาวิทยาลัย (ราคาพอๆกับร้านสะดวกซื้อเลย) แล้วก็ดื่มน้ำกดจากตู้บ่อยค่ะ
ค่าเสื้อผ้าลดลงเพราะอาศัยใส่ซ้อนๆ กันให้อุ่นๆ แต่ไปเสียกับค่าดูหนัง 3 เรื่อง ส่งจดหมาย โปสการ์ดบ้าง
แล้วก็ได้ลองไปดัดผมที่ร้านในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกด้วยค่ะ
ส่วนตัวคิดว่าค่าทำผมที่นี่แพง แต่ก็คุ้มค่ากับการบริการและความน่ารักของพนักงานค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เดือนมกราคม 2017
จ่ายค่าซีดีเยอะมาก หน้ามืด โดนกิเลสครอบงำ กับจ่ายค่าตั๋วคอนเสิร์ตไปอีก 1 งาน
ซื้อรองเท้าผ้าใบกับเสื้อกันลมตัวใหม่ เพราะอากาศหนาวขึ้น หิมะตก รองเท้าผ้าใบที่ใส่มาตั้งแต่อยู่ไทยเอาไม่อยู่แล้วค่า
ได้ไปตัดผมครั้งแรกที่ญี่ปุ่นด้วย คราวนี้ไปร้านเดิมแต่เปลี่ยนสาขาค่ะ กลัวช่างดัดผมน้อยใจถ้ากลับไปตัดที่ร้านเดิม ;w;
เพราะทนกลิ่นน้ำยาดัดผมไม่ไหว เลยไปตัดค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เดือนกุมภาพันธ์ 2017
เป็นเดือนที่ทำให้หนูช็อค เพราะทางมหาวิทยาลัยบอกว่าต้องจ่ายค่าหอเทอมใหม่ภายในสิ้นเดือนนี้
ทีแรกหนูคิดไปเองว่าเขาจะให้จ่ายเดือนมีนา-เมษา แต่ก็ยังดีที่เก็บเงินฝากธนาคารไว้เดือนละ 30,000 เยน
ค่าหอเทอมใหม่ 160,000 เยน ก็พอเหลือเงินให้ใช้ในเดือนนี้แค่หมื่นกว่าเยน
เดือนนี้ไม่ซื้ออะไรเลย ทั้งหนังสือทั้งซีดี ใช้เงินไปกับแค่ของกิน
แต่ช่วงต้นเดือนก็ยังไปดูหนัง 2 เรื่อง (ทั้งที่แทบไม่มีจะกินอยู่แล้ว)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สรุป
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตลอดช่วงเวลาเกือบ 6 เดือนทำให้รู้ว่าหนูไม่ได้วางแผนการเงินแบบจริงจังเลย
อยากได้อะไรก็ซื้อ พอเจอการใช้ชีวิตเดือนกุมภา ที่เหลือเงินกินข้าวเพียงน้อยนิด ทำให้รู้ว่าความอดอยากมันทรมาน
ช่วงที่กินข้าวร้านสะดวกซื้อบ่อยๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองใช้เงินเปลืองแล้ว
แต่พอทำบัญชีก็ทำให้รู้ว่านอกจากค่าหอแล้ว เงินมันหมดไปกับพวกกิเลสซีดี คอนเสิร์ต หนังสือทั้งนั้น
ค่าเดินทางเสียน้อยเพราะหนูไม่ค่อยเที่ยว โดนเพื่อนด่าประจำ ว่ามาถึงนี่แล้วก็ต้องเที่ยวบ้าง
ซึ่งสภาพจิตใจตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาคือหนูกังวลกับค่าใช้จ่ายมาก เลยไม่ค่อยมีความรู้สึกอยากเที่ยวเท่าไหร่ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กราฟเปรียบเทียบรายจ่ายในแต่ละเดือน
- เผื่อมีใครอยากมาเรียนที่ญี่ปุ่น อาจมีประโยชน์ในการประเมินรายจ่ายค่ะ
ซึ่งจะเห็นว่าค่าอาหาร ไม่เกิน 30,000 เยน ต่อเดือนก็พออยู่ได้ค่ะ
จากนี้เหลือเวลาใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น 6 เดือน หนูไม่รู้เหมือนกันว่าอนาคตจะได้กลับมาที่นี่อีกไหม
แต่คงโล่งใจบ้างที่ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าหอแล้ว
ทั้งนี้เงินเดือนต่อๆ ไปก็ต้องเก็บออมไว้ สำหรับค่าใช้จ่าย ดังนี้
1. ค่าตั๋วเครื่องบินขากลับ ~ 50,000 เยน
2. ค่าขนของกลับไทย ~ 30,000 เยน
3. เก็บเงินคืนให้พ่อแม่ ~ 250,000 เยน
4. ค่ารถไปสนามบิน ~ 3,500 เยน
รวมเงินที่ต้องเก็บ ~ 333,500 เยน
ตอนนี้วางแผนว่า จากนี้เดือนนึงต้องเก็บออม 56,000 เยน เหลือไว้ใช้ 24,000 เยน
แต่เดือนสิงหา เดือนสุดท้ายจะไม่ต้องเสียค่ากินเต็มเดือนเพราะกลับก่อน เงินที่เหลือจากค่ากิน จะนำไปซื้อของฝาก
ปัญหาอยู่ตรงที่ว่า มาญี่ปุ่นทั้งที แต่ไม่ค่อยได้เที่ยวค่ะ จริงๆ ก่อนมาคิดไว้ว่าอยากไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ศิลปะทั่วญี่ปุ่น
แต่ตอนนี้คงเป็นได้แค่ฝัน ไหนจะค่าเดินทาง ไหนจะค่าเข้าชม ไว้อนาคตค่อยว่ากันใหม่
ค่าเดินทาง ปกติจะซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินแบบเหมาทั้งวัน 600 เยน คุ้มสุดสำหรับหนู เพราะที่พักอยู่ใกล้รถไฟใต้ดินที่สุดค่ะ
สถานที่ที่ได้ไปเที่ยวมาแล้ว
- ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ
- ศาลเจ้าคิตะโนะเทนมังงู
- ศาลเจ้ายาซากะ
- นอกนั้นก็เดินเล่นเล่นไปตามทางเดินแถวๆ สถานีรถไฟใต้ดิน
คำถามคือ
(1) พอจะมีวิธีการใช้เงินแบบที่กินอิ่ม นอนหลับ พร้อมกับได้เที่ยวแบบประหยัดๆ บ้างมั้ยคะ
(2) ควรจะแบ่งสัดส่วนการใช้เงินเดือนละ 80,000 เยนต่อจากนี้ยังไงดี
สิ่งที่อยากบอกเล่า หลังจากมาเรียนที่นี่ 6 เดือนผ่านไป
- เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะกับฤดูกาลดีที่สุด ถ้าไม่มีไม่ต้องขนเสื้อผ้าที่ไทยมาเยอะ มาซื้อเอาที่นี่
- บัตรเครดิตหรือเดบิตสำคัญมาก กรณีที่อยากสมัครใช้เบอร์โทรศัพท์ที่ญี่ปุ่น
- ตั้งเป้าหมายดีๆ ว่าอยากมาที่นี่เพื่อทำอะไรกันแน่
- การเรียนไปพร้อมๆ กับการต้องกังวลเรื่องเงิน ทรมานกว่าที่คิด คิดดีๆ ก่อนจะมาที่นี่ ถ้าไม่มีความพร้อมด้านการเงิน
- คิดถึงอาหารไทยมากกว่าที่คิด
- อยากอ่านนิยายภาษาไทยมาก
- ขอบคุณที่เกียวโตมี wifi ฟรีให้ใช้ ทำให้ไม่หลงทาง เคยไปดูคอนเสิร์ตที่โอซาก้าแล้วหลงทางหนักมาก 555
- อยากทำงานพิเศษ แต่ไม่มั่นใจในภาษาญี่ปุ่นของตัวเอง
- คิดว่าถ้าอยากทำงานพิเศษ เมืองที่เลือกมาควรมีรุ่นพี่ที่รู้จัก หรือรุ่นพี่คนไทย ให้เขาช่วยแนะนำงานให้
- ความรู้สึก "อยากกลับไทย" มาเร็วกว่าที่คิด