สวัสดีเพื่อนๆที่ไม่ใช่ที่รักชาว Pantip ทุกคนนะครับ
วันนี้ผมจะมาเล่าชีวิตครอบครัวอันแสนจะรื่นรมณ์ของผม ให้อ่านโดยเฉพาะสำหรับคนที่กำลังประสบปัญหาครอบครัว พ่อเลี้ยง แม่เลี้ยงลูกเลี้ยงต่างๆ
อยากให้เข้ามาลองอ่านครับ อาจจะยาวหน่อย แต่ผมไม่รับรองว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนแน่นอน แล้วก็ขออภัยในคำหยาบด้วย
เข้าเรื่องเลยนะครับ พ่อกับแม่ผมแยกทางกันตอนผมอายุได้7ขวบ แล้วอีกไม่กี่ปีต่อมาพวกท่านก็แต่งงานใหม่ทั้งคู่ ซึ่งเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นตอนที่ แม่ทิ้งผมกับพ่อไป แม่บอกผมว่าที่แม่ทนอยู่กับพ่อไม่ได้เพราะ พ่อขี้เหล้า ชอบทุบตีทำร้ายแม่ และติดการพนันจนเงินเกือบหมด (ซึ่งอันที่จริงเขาก็เล่นด้วย กันทั้งคู่นั้นแหละครับ แม่ยังเคยให้ผมไปนั่งเป็นโชคเป็นลาภให้ในวงอยู่เลย)
ส่วนพ่อผม ตอนแม่ทิ้งไปพ่อทุกข์ใจมาก ร้องไห้แล้วเขาก็ถามผมว่าออกไปนอนข้างถนนประชดชีวิตกับพ่อไหม (ตอนนั้นผมจำไม่ได้ว่าตอบอะไรพ่อไป แต่ที่แน่ใจก็คือผมไม่ตอบตกลงแน่ๆ) จำได้แค่ว่าร้องไห้กอดพ่ออยู่ตรงนั้นแหละ พ่อผมพยายามตื้อแม่นะแต่สุดท้ายแล้วผมคิดว่าผมเจ็บปวดที่สุดในสถานการ์แบบนี้ ไม่มีลูกคนไหนอยากให้พ่อกับแม่เลิกกันหรอกครับ แล้วยังจะให้ผมเลือกอีกว่าจะอยู่กับใคร ยืนเถียงกันอยู่หน้าร้าน Top เอาจริงๆมันเลือกยากมาก พ่อผมยืนอยู่ด้านซ้าย ส่วนแม่ยืนอยู่ด้านขวา(มั้งครับ จำได้แค่ว่ายืนอยู่ฝังตรงข้ามกัน) ส่วนผมยืนอยู่ตรงกลางระหว่างพ่อแม่ (อย่างกับรักสามเศร้า)แต่สุดท้ายผมก็เลือกแม่ พ่อผมนิเศร้าหนักมาก อารมณ์ประมาณว่าไปห้างสรรพสินค้าแล้วเจอของเล่นถูกใจแต่แม่ไม่ซื้อให้อะครับ แล้วผมก็มารู้สึกที่หลังว่าตัวเองคิดผิด เพราะหลังจากนั้นแม่ก็กิ๊กกับผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนร่วมงานกับพ่อผมอย่างเปิดเผย วันนั้นผมจำได้ว่าแม่จะชวนเขาไปงานประจำปีด้วย แต่ผมไม่อยากให้เขาไป นั้นแหละครับ ผมคงดื้อเกินไปเลยโดนบาทาสลาตันแม่ไม่ยั้งเลย ดีนะป้าข้างห้อง (ตอนนั้นอยู่ห้องแถว)มาช่วยผมเอาไว้ ตอนนั้นจุดตกต่ำของชีวิตมาก คิดว่าแม่ไม่รักเราแล้ว ผมไม่เคยเกลียดแม่เลยนะ แต่ถ้าไม่โกรธก็กะไรอยู่ (-.-)
ช่วงนั้นผมโทรศัพท์หาพ่อทุกวัน ทั้งน้ำตาเลย รับรู้ด้วยว่าพ่อก็ร้องไห้เหมือนกัน แฟนใหม่แม่ก็ทำตัวหื่นตลอดตั้งแต่หน้ายันท่าทาง ตลอดเวลาที่อยู่กับแม่และไม่ยอมรับผู้ชายคนนั้นรวมถึงแม่บอกผมตลอดว่า พ่อมาตามตื้อน่ารำคาญ แล้วประโยคที่ทิ่มแทงใจที่สุดที่เคยได้ยินจากแม่คือ "มันตัวซวย" (คุณผู้ปกครองที่อ่านอยู่อย่าไปพูดแบบนี้กับลูกท่านนะครับ)เป็นประโยคที่ตอนนั้นฟังแล้วอยากจะตายห่าไปเลย แต่ก็นะ หลังจากนั้นผมก็ไปอยู่กับพ่อ ซึ่งตอนนั้นพ่อผมเละเทะสุดๆ ดื่มเหล้าทุกวันไม่เว้นเลยกับเพื่อนขี้ๆของเขา แต่พ่อก็ได้เจอกับภรรยาใหม่ในวงเหล้านั้นแหละครับ ทีแรกผมก็ไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ แต่พอได้อยู่กับเขาและพ่อเกือบ7ปี บอกเลย ต่างจากที่อยู่กับแม่และแฟนใหม่เขาลิบลับ ผมเรียกแฟนใหม่ของพ่อว่าแม่อย่างเต็มใจเลย ถึงเธอจะขี้จุกจิก และพยายามจะสอนเราให้เป็นผู้หญิงที่มีระเบียบมาตลอด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เคยอยู่ในหัวผมเลย อีกอย่างหนึ่งตอนที่ผมกับพ่อเขาไปในชีวิตของแม่ใหม่ เรามีเงินไม่ถึง100บาท //
ส่วนแม่ของผม เธอเลิกกับผู้ชายคนเก่าแล้วไปแต่งงานกับผู้ชายคนใหม่ที่เป็นพ่อหม้ายลูกติดสองคน แต่ลูกๆของเขาอยู่กับภรรยาเก่า ผู้ชายคนนี้ก็ดูเป็นคนดีครับ จนผมได้ไปอยู่กับเขาและแม่อีกรอบ (เพราะพ่อผมจะกลับไปอยู่บ้านนอกเลย แต่ผมยังเรียนอยู่)ผมก็ระหองระแหงกับแฟนใหม่แม่คนนี้มาตลอด ในความรู้สึกเราเหมือนกับเขาพยายามจะทำตัวดีในสายตาทุกๆคน เหมือนดูละครอะครับเรารู้ว่าเขาแสดง อันนี้ไม่ได้ลำเอียงเลยจริงๆ จนมาถึงวันเกิดผม ผมไม่อยากจัดงานวันเกิดหรอก แต่แม่อยากจัดให้ และสามีใหม่แม่ก็พาเพื่อนฝูงมานั่งกินเหล้า (เกลียดสุดๆ)ตอนนั้นผมนั่งทำงานในโน๊ตอยู่ แล้วแม่ใช้ให้ไปซื้อของ พอผมเดินออกมาหน้าบ้านแล้วมีเพื่อนส่งข้อความมาหาเลยเปิดดูอยู่ตรงนั้น แล้วก็ได้ยินผู้ชายคนนั้นเขาพูดถึงเราให้คนอื่นที่มางานเราฟังเสียงดังใช้ได้เลยทีเดียว (น่าจะไปแข่งท่องอาขยาน) เขาพูดว่า"วันๆเอาแต่หนังเล่นเกมหน้าคอม การบงการบ้านไม่ทำ ไม่ช่วยงานอะไรแม่เลย คงเจริญอยู่หรอก" โอ้โห!!เท่านั้นแหละ หัวร้อนขึ้นมาทันทีทันใด งานบ้านผมก็ช่วยแม่ มีแต่มันนั้นแหละรอให้เรากลับไปทำ พอกลับมาจากการซื้อของให้แม่เลยปล่อยระเบิดเบาๆไป "ที่นั่งอยู่หน้าโน๊ตอะคะ ไม่ได้เล่นเกม แต่ทำงานอยู่ อยากรู้อะไรก็มาถาม ไม่ใช่เอาไปพูดลอยๆ"ตอนนั้นทุกคนนั่งเงียบกริบ
จนงานเลิก พี่แกเขาคงเมาได้ที่แล้ว นั่งมองหน้าผมสักพัก แล้วก็ไปด่าผมให้แม่ฟัง ประมาณว่าไม่สำนึกบุญคุณ เถียงกูอะไรประมาณนี้น่ะครับ แล้วหลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ยินอะไรอีกเลยเพราะใส่หูฟังแล้วขึ้นไปนอน ฟังเยอะไปเดี๋ยวปวดจิต เช้าวันรุ่งขึ้นผมลงมาต้มมาม่ากินก่อนไปโรงเรียน แม่ก็ลงมาด่าซ้ำอีก ทำนองว่าทำไมไปพูดแบบนั้น เขาเลี้ยงนะ ลูกเขาเองยังไม่เลี้ยงเลยต้องมาเลี้ยงเนี่ย พ่อก็ไม่ได้เลี้ยง ผมนิหมดอารมณ์จะกินมาม่ากันเลยทีเดียว แล้วคิดในใจ (ทำไมเขาไม่ไปเลี้ยงลูกเขาละ ส่วนพ่อกูส่งเงินให้ตลอด ไปขอก็ขอได้"
ทุกวันนี้ชีวิตผมก็ยังคงวนเวียนอยู่กับคำว่าบุญคุณนี้อแหละครับ ย้ำจังเลยแม่ ผัวใหม่ก็เหมือนกัน เดี๋ยวนี้พูดอะไรไม่ได้เลยต้องให้เขาด่าได้อย่างเดียว อธิบายก็หาว่าเถียง ผมเลยชั่งมันเลยแล้วไปนั่งดูการ์ตูนช่อง Boom คลายเครียดเอา แต่ขนาดดูการ์ตูนก็ยังไม่วายโดนหาว่าปัญหาอ่อน ยังไม่โตอีก
คือ........คุณจะให้ผมดูAVเหรอครับถึงจะโต ถถถ (เรื่องนี้เลยสอนให้รู้ว่าพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงไม่ได้ดีและไม่ได้เลวทุกคนเสมอไป)
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านที่ผมบ่นนะครับ แต่ที่ผมพิมมายาวเหยียดเนี่ย เพราะอยากให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านได้อ่านไว้เพื่อเป็นอุทาเห่าหอน
และสำหรับ Single mom, Single dad ทั้งหลาย ผมอยากให้พวกคุณคิดดีๆนะครับ แน่นอนว่ามีหลายเหตุผลที่คนเราอยากแต่งงานใหม่ แต่ผมว่ามันไม่มีเหตุผลไหนเลยที่พ่อแม่จะละเลยลูก ใจเขาใจเรานะครับ ผมมีเพื่อนที่มาเล่าเรื่องปัญหาชีวิตให้ฟังมากมาย แน่นอนชีวิตคนเราต่างกัน
-บางครอบครัวพ่อแม่อยู่ด้วยกันปลูกฝังลูกเท่าไข่ในหิน แต่เด็กคนนั้นยังออกนอกลู่นอกทางเพราะกฏเกณฑ์ที่คุณอาจตีกรอบเขาไว้มากเกินไป
-บางครอบครัวพ่อแม่แยกทางกัน แต่เขาดูแลตัวเองได้เพราะอะไร? แต่เด็กเหล่านี้กลับถูกสังคมมองว่า เป็นเด็กก้าวร้าวและเป็นเด็กไม่ดีซะอย่างงั้น
-บางครอบครัวก็ตามใจลูกมากเกินไป อยากได้อะไรต้องได้ดังใจ ทำให้ลูกมีทัศนะคติผิดๆทั้งแต่เด็ก
-บางครอบครัวตั้งความหวังไว้กับลูกเกินไปจนกลายเป็นความหนักใจ เช่นลูกต้องเรียนคณะนี้นะ ทำงานแบบนี้นะ เลือกผู้ชายแบบนี้นะ คุณไม่ต้องทำขนาดนั้นครับ ถ้าคุณรักลูกคุณต้องให้ลูกเพชิญโลกด้วยตัวเองและคุณเป็นคนคอยสนับสนุน ชี้แนะทางที่ถูกที่ควรเท่านั้นเอง
และสำหรับวัยรุ่นบางคนที่ประสบปัญหาชีวิต ปัญหาครอบครัวอยู่ ผมไม่ได้จะบอกว่าให้ทนอยู่กับมันนะครับ เป็นผมก็ทนไม่ไว้ แต่จะระเบิดออกไปก็กะไรอยู่ คุณอาจจะไม่ชอบที่พ่อแม่แต่งงานใหม่ แต่ทุกอย่างต้องรู้จักปรับตัว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(ยกเว้นพ่อเลี้ยงคุณทำอนาจารคุณ แนะนำให้แจ้งคุณปวีณา) ยังไงก็ตามแต่พ่อแม่ย่อมเป็นผู้มีพระคุณที่สุดในชีวิต แนะนำให้หางานอดิเรกทำเช่น เล่นกีฬา ดูการ์ตูนอะไรที่ผ่อนคลายสมอง เพราะถ้าคิดมากไปอาจทำให้คุณจิตตกได้ แต่อยู่กับเพื่อนจะดีสุด แต่ต้องเป็นเพื่อนที่ดีนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เพื่อนที่ดีจะไม่พาคุณไปสู่อบายมุข โดยเฉพาะวัยรุ่นสมัยนี้ที่แสนจะบอกบางเหลือเกิน555
ผมอายุไม่มากหรอกครับ ผมอาจจะไม่เจนโลกเท่าผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า แต่ผมเลือกที่จะเข้าใจโลกครับ ไม่บิดเบื้อน ไม่ตกแต่งอะไร ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด โดยเฉพาะการเรียน
ขอบคุณ
ปล. เจ้าของกระทู้เป็นผู้หญิง แต่ชอบใช้สรรพนามว่าผม
และสำหรับวัยรุ่นบางคนที่ประสบปัญหาพ่อแม่ทะเลาะกันบ่อยๆ ผมมีวิธีแนะนำครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขอแนะนำ ให้ซื้อหูฟังใหญ่ๆมาสักอัน ใส่ไว้แล้วเปิดเพลงดังๆเวลาพ่อแม่คุณทะเลาะกันนะครับ
ปัญหาครอบครัว อยากให้อ่าน เชิญทางนี้ครับ
วันนี้ผมจะมาเล่าชีวิตครอบครัวอันแสนจะรื่นรมณ์ของผม ให้อ่านโดยเฉพาะสำหรับคนที่กำลังประสบปัญหาครอบครัว พ่อเลี้ยง แม่เลี้ยงลูกเลี้ยงต่างๆ
อยากให้เข้ามาลองอ่านครับ อาจจะยาวหน่อย แต่ผมไม่รับรองว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนแน่นอน แล้วก็ขออภัยในคำหยาบด้วย
เข้าเรื่องเลยนะครับ พ่อกับแม่ผมแยกทางกันตอนผมอายุได้7ขวบ แล้วอีกไม่กี่ปีต่อมาพวกท่านก็แต่งงานใหม่ทั้งคู่ ซึ่งเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นตอนที่ แม่ทิ้งผมกับพ่อไป แม่บอกผมว่าที่แม่ทนอยู่กับพ่อไม่ได้เพราะ พ่อขี้เหล้า ชอบทุบตีทำร้ายแม่ และติดการพนันจนเงินเกือบหมด (ซึ่งอันที่จริงเขาก็เล่นด้วย กันทั้งคู่นั้นแหละครับ แม่ยังเคยให้ผมไปนั่งเป็นโชคเป็นลาภให้ในวงอยู่เลย)
ส่วนพ่อผม ตอนแม่ทิ้งไปพ่อทุกข์ใจมาก ร้องไห้แล้วเขาก็ถามผมว่าออกไปนอนข้างถนนประชดชีวิตกับพ่อไหม (ตอนนั้นผมจำไม่ได้ว่าตอบอะไรพ่อไป แต่ที่แน่ใจก็คือผมไม่ตอบตกลงแน่ๆ) จำได้แค่ว่าร้องไห้กอดพ่ออยู่ตรงนั้นแหละ พ่อผมพยายามตื้อแม่นะแต่สุดท้ายแล้วผมคิดว่าผมเจ็บปวดที่สุดในสถานการ์แบบนี้ ไม่มีลูกคนไหนอยากให้พ่อกับแม่เลิกกันหรอกครับ แล้วยังจะให้ผมเลือกอีกว่าจะอยู่กับใคร ยืนเถียงกันอยู่หน้าร้าน Top เอาจริงๆมันเลือกยากมาก พ่อผมยืนอยู่ด้านซ้าย ส่วนแม่ยืนอยู่ด้านขวา(มั้งครับ จำได้แค่ว่ายืนอยู่ฝังตรงข้ามกัน) ส่วนผมยืนอยู่ตรงกลางระหว่างพ่อแม่ (อย่างกับรักสามเศร้า)แต่สุดท้ายผมก็เลือกแม่ พ่อผมนิเศร้าหนักมาก อารมณ์ประมาณว่าไปห้างสรรพสินค้าแล้วเจอของเล่นถูกใจแต่แม่ไม่ซื้อให้อะครับ แล้วผมก็มารู้สึกที่หลังว่าตัวเองคิดผิด เพราะหลังจากนั้นแม่ก็กิ๊กกับผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนร่วมงานกับพ่อผมอย่างเปิดเผย วันนั้นผมจำได้ว่าแม่จะชวนเขาไปงานประจำปีด้วย แต่ผมไม่อยากให้เขาไป นั้นแหละครับ ผมคงดื้อเกินไปเลยโดนบาทาสลาตันแม่ไม่ยั้งเลย ดีนะป้าข้างห้อง (ตอนนั้นอยู่ห้องแถว)มาช่วยผมเอาไว้ ตอนนั้นจุดตกต่ำของชีวิตมาก คิดว่าแม่ไม่รักเราแล้ว ผมไม่เคยเกลียดแม่เลยนะ แต่ถ้าไม่โกรธก็กะไรอยู่ (-.-)
ช่วงนั้นผมโทรศัพท์หาพ่อทุกวัน ทั้งน้ำตาเลย รับรู้ด้วยว่าพ่อก็ร้องไห้เหมือนกัน แฟนใหม่แม่ก็ทำตัวหื่นตลอดตั้งแต่หน้ายันท่าทาง ตลอดเวลาที่อยู่กับแม่และไม่ยอมรับผู้ชายคนนั้นรวมถึงแม่บอกผมตลอดว่า พ่อมาตามตื้อน่ารำคาญ แล้วประโยคที่ทิ่มแทงใจที่สุดที่เคยได้ยินจากแม่คือ "มันตัวซวย" (คุณผู้ปกครองที่อ่านอยู่อย่าไปพูดแบบนี้กับลูกท่านนะครับ)เป็นประโยคที่ตอนนั้นฟังแล้วอยากจะตายห่าไปเลย แต่ก็นะ หลังจากนั้นผมก็ไปอยู่กับพ่อ ซึ่งตอนนั้นพ่อผมเละเทะสุดๆ ดื่มเหล้าทุกวันไม่เว้นเลยกับเพื่อนขี้ๆของเขา แต่พ่อก็ได้เจอกับภรรยาใหม่ในวงเหล้านั้นแหละครับ ทีแรกผมก็ไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ แต่พอได้อยู่กับเขาและพ่อเกือบ7ปี บอกเลย ต่างจากที่อยู่กับแม่และแฟนใหม่เขาลิบลับ ผมเรียกแฟนใหม่ของพ่อว่าแม่อย่างเต็มใจเลย ถึงเธอจะขี้จุกจิก และพยายามจะสอนเราให้เป็นผู้หญิงที่มีระเบียบมาตลอด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เคยอยู่ในหัวผมเลย อีกอย่างหนึ่งตอนที่ผมกับพ่อเขาไปในชีวิตของแม่ใหม่ เรามีเงินไม่ถึง100บาท //
ส่วนแม่ของผม เธอเลิกกับผู้ชายคนเก่าแล้วไปแต่งงานกับผู้ชายคนใหม่ที่เป็นพ่อหม้ายลูกติดสองคน แต่ลูกๆของเขาอยู่กับภรรยาเก่า ผู้ชายคนนี้ก็ดูเป็นคนดีครับ จนผมได้ไปอยู่กับเขาและแม่อีกรอบ (เพราะพ่อผมจะกลับไปอยู่บ้านนอกเลย แต่ผมยังเรียนอยู่)ผมก็ระหองระแหงกับแฟนใหม่แม่คนนี้มาตลอด ในความรู้สึกเราเหมือนกับเขาพยายามจะทำตัวดีในสายตาทุกๆคน เหมือนดูละครอะครับเรารู้ว่าเขาแสดง อันนี้ไม่ได้ลำเอียงเลยจริงๆ จนมาถึงวันเกิดผม ผมไม่อยากจัดงานวันเกิดหรอก แต่แม่อยากจัดให้ และสามีใหม่แม่ก็พาเพื่อนฝูงมานั่งกินเหล้า (เกลียดสุดๆ)ตอนนั้นผมนั่งทำงานในโน๊ตอยู่ แล้วแม่ใช้ให้ไปซื้อของ พอผมเดินออกมาหน้าบ้านแล้วมีเพื่อนส่งข้อความมาหาเลยเปิดดูอยู่ตรงนั้น แล้วก็ได้ยินผู้ชายคนนั้นเขาพูดถึงเราให้คนอื่นที่มางานเราฟังเสียงดังใช้ได้เลยทีเดียว (น่าจะไปแข่งท่องอาขยาน) เขาพูดว่า"วันๆเอาแต่หนังเล่นเกมหน้าคอม การบงการบ้านไม่ทำ ไม่ช่วยงานอะไรแม่เลย คงเจริญอยู่หรอก" โอ้โห!!เท่านั้นแหละ หัวร้อนขึ้นมาทันทีทันใด งานบ้านผมก็ช่วยแม่ มีแต่มันนั้นแหละรอให้เรากลับไปทำ พอกลับมาจากการซื้อของให้แม่เลยปล่อยระเบิดเบาๆไป "ที่นั่งอยู่หน้าโน๊ตอะคะ ไม่ได้เล่นเกม แต่ทำงานอยู่ อยากรู้อะไรก็มาถาม ไม่ใช่เอาไปพูดลอยๆ"ตอนนั้นทุกคนนั่งเงียบกริบ
จนงานเลิก พี่แกเขาคงเมาได้ที่แล้ว นั่งมองหน้าผมสักพัก แล้วก็ไปด่าผมให้แม่ฟัง ประมาณว่าไม่สำนึกบุญคุณ เถียงกูอะไรประมาณนี้น่ะครับ แล้วหลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ยินอะไรอีกเลยเพราะใส่หูฟังแล้วขึ้นไปนอน ฟังเยอะไปเดี๋ยวปวดจิต เช้าวันรุ่งขึ้นผมลงมาต้มมาม่ากินก่อนไปโรงเรียน แม่ก็ลงมาด่าซ้ำอีก ทำนองว่าทำไมไปพูดแบบนั้น เขาเลี้ยงนะ ลูกเขาเองยังไม่เลี้ยงเลยต้องมาเลี้ยงเนี่ย พ่อก็ไม่ได้เลี้ยง ผมนิหมดอารมณ์จะกินมาม่ากันเลยทีเดียว แล้วคิดในใจ (ทำไมเขาไม่ไปเลี้ยงลูกเขาละ ส่วนพ่อกูส่งเงินให้ตลอด ไปขอก็ขอได้"
ทุกวันนี้ชีวิตผมก็ยังคงวนเวียนอยู่กับคำว่าบุญคุณนี้อแหละครับ ย้ำจังเลยแม่ ผัวใหม่ก็เหมือนกัน เดี๋ยวนี้พูดอะไรไม่ได้เลยต้องให้เขาด่าได้อย่างเดียว อธิบายก็หาว่าเถียง ผมเลยชั่งมันเลยแล้วไปนั่งดูการ์ตูนช่อง Boom คลายเครียดเอา แต่ขนาดดูการ์ตูนก็ยังไม่วายโดนหาว่าปัญหาอ่อน ยังไม่โตอีก
คือ........คุณจะให้ผมดูAVเหรอครับถึงจะโต ถถถ (เรื่องนี้เลยสอนให้รู้ว่าพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงไม่ได้ดีและไม่ได้เลวทุกคนเสมอไป)
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านที่ผมบ่นนะครับ แต่ที่ผมพิมมายาวเหยียดเนี่ย เพราะอยากให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านได้อ่านไว้เพื่อเป็นอุทาเห่าหอน
และสำหรับ Single mom, Single dad ทั้งหลาย ผมอยากให้พวกคุณคิดดีๆนะครับ แน่นอนว่ามีหลายเหตุผลที่คนเราอยากแต่งงานใหม่ แต่ผมว่ามันไม่มีเหตุผลไหนเลยที่พ่อแม่จะละเลยลูก ใจเขาใจเรานะครับ ผมมีเพื่อนที่มาเล่าเรื่องปัญหาชีวิตให้ฟังมากมาย แน่นอนชีวิตคนเราต่างกัน
-บางครอบครัวพ่อแม่อยู่ด้วยกันปลูกฝังลูกเท่าไข่ในหิน แต่เด็กคนนั้นยังออกนอกลู่นอกทางเพราะกฏเกณฑ์ที่คุณอาจตีกรอบเขาไว้มากเกินไป
-บางครอบครัวพ่อแม่แยกทางกัน แต่เขาดูแลตัวเองได้เพราะอะไร? แต่เด็กเหล่านี้กลับถูกสังคมมองว่า เป็นเด็กก้าวร้าวและเป็นเด็กไม่ดีซะอย่างงั้น
-บางครอบครัวก็ตามใจลูกมากเกินไป อยากได้อะไรต้องได้ดังใจ ทำให้ลูกมีทัศนะคติผิดๆทั้งแต่เด็ก
-บางครอบครัวตั้งความหวังไว้กับลูกเกินไปจนกลายเป็นความหนักใจ เช่นลูกต้องเรียนคณะนี้นะ ทำงานแบบนี้นะ เลือกผู้ชายแบบนี้นะ คุณไม่ต้องทำขนาดนั้นครับ ถ้าคุณรักลูกคุณต้องให้ลูกเพชิญโลกด้วยตัวเองและคุณเป็นคนคอยสนับสนุน ชี้แนะทางที่ถูกที่ควรเท่านั้นเอง
และสำหรับวัยรุ่นบางคนที่ประสบปัญหาชีวิต ปัญหาครอบครัวอยู่ ผมไม่ได้จะบอกว่าให้ทนอยู่กับมันนะครับ เป็นผมก็ทนไม่ไว้ แต่จะระเบิดออกไปก็กะไรอยู่ คุณอาจจะไม่ชอบที่พ่อแม่แต่งงานใหม่ แต่ทุกอย่างต้องรู้จักปรับตัว[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ยังไงก็ตามแต่พ่อแม่ย่อมเป็นผู้มีพระคุณที่สุดในชีวิต แนะนำให้หางานอดิเรกทำเช่น เล่นกีฬา ดูการ์ตูนอะไรที่ผ่อนคลายสมอง เพราะถ้าคิดมากไปอาจทำให้คุณจิตตกได้ แต่อยู่กับเพื่อนจะดีสุด แต่ต้องเป็นเพื่อนที่ดีนะครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ โดยเฉพาะวัยรุ่นสมัยนี้ที่แสนจะบอกบางเหลือเกิน555
ผมอายุไม่มากหรอกครับ ผมอาจจะไม่เจนโลกเท่าผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า แต่ผมเลือกที่จะเข้าใจโลกครับ ไม่บิดเบื้อน ไม่ตกแต่งอะไร ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด โดยเฉพาะการเรียน
ขอบคุณ
ปล. เจ้าของกระทู้เป็นผู้หญิง แต่ชอบใช้สรรพนามว่าผม
และสำหรับวัยรุ่นบางคนที่ประสบปัญหาพ่อแม่ทะเลาะกันบ่อยๆ ผมมีวิธีแนะนำครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้