ศาลฎีกาลดโทษ เหลือจำคุก 6 ปี คดี 112 สมยศ พฤกษาเกษมสุข
23 ก.พ.2560 เวลา 9.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 911 ศาลอาญา ถนนรัชดาฯ มีกำหนดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดี112 ของ สมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตบรรณาธิการนิตยสาร Voice of Taksin วัย 56 ปี โดยก่อนหน้านี้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษาจำคุก 10 ปีจากการกระทำผิด 2 กรรม (กรรมละ 5 ปี)
เวลาประมาณ 9.45 น. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำคุกลดลง เหลือเพียง 6 ปี (กรรมละ 3 ปี) เมื่อรวมกับโทษจำคุกคดีหมิ่นประมาท พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร อีก 1 ปี รวมเป็น 7 ปี ภายหลังเสร็จสิ้นการอ่านคำพิพากษา ภรรยาของสมยศได้เข้าไปกอดสมยศ และประชาชนผู้มาให้กำลังใจเขาจำนวนหนึ่งต่างแสดงความดีใจที่เขาได้รับการลดโทษ ทั้งนี้ วันนี้มีเจ้าหน้าที่จากองค์กรระหว่างประเทศเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย อาทิ องค์การสหประชาชาติ (UN) สถานทูตสวีเดน สถานทูตฝรั่งเศส สถานทูตสหรัฐอเมริกา สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย
ศาลฎีการะบุเหตุผลว่า ที่จำเลยฎีกาต่อสู้ว่า มิได้มีเจตนากระทำผิด และข้อความในบทความหมายถึงอำมาตย์นั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งในขั้นฎีกาไม่อาจต่อสู้ในข้อเท็จจริงได้อีก อย่างไรก็ตาม ตามที่จำเลยได้ต่อสู้มารับฟังได้ว่า จำเลยเป็นเพียงบรรณาธิการ มิใช่ผู้เขียนและยังให้ข้อมูลว่าใครเป็นผู้เขียน จำเลยยืนยันว่ามีความจงรักภักดี อีกทั้งเมื่อพิจารณาประกอบกับอาชีพ อายุและประวัติของจำเลย ทั้งจำเลยก็ต้องโทษมาเป็นระยะเวลาพอควรแล้ว ศาลฎีกาจึงเห็นควรแก้โทษจำคุก เหลือกระทงละ 3 ปี รวม 2 กระทง 6 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติและทนายความจำเลยไม่ได้รับแจ้งการนัดหมายอ่านคำพิพากษาในวันนี้จากศาล และจำเลยเองก็เพิ่งทราบเมื่อเช้านี้ตอนเจ้าหน้าที่นำตัวออกจากเรือนจำ เมื่อครั้งอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ทนายและญาติก็ไม่ทราบเช่นกัน มีเพียงจำเลยที่ได้เข้าฟังคำพิพากษาในครั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา คดีนี้ถือเป็นคดีแรกที่ต่อสู้ในทาง "เนื้อหา" แล้วมีการพิจารณาจนถึงศาลสูงสุด โดยสมยศต่อสู้ในประเด็นหลักว่าไม่ใช่ผู้เขียน เป็นเพียงบรรณาธิการ และเนื้อหานั้นมิได้หมายความถึงสถาบันกษัตริย์ ก่อนหน้านี้ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล อดีตผู้ต้องขังคดี 112 เคยระบุว่าตั้งใจจะสู้คดีถึงศาลฏีกาแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจสู้เพียงชั้นศาลอุทธรณ์เนื่องจากถูกคุมขังในเรือนจำยาวนานและมีสุขภาพที่ย่ำแย่ ส่วนอีกคดีหนึ่งที่สู้ถึงศาลฎีกาคือ คดีของ บัณฑิต อานียา ถูกจับกุมดำเนินคดีเมื่อปี 2546 ต่อสู้คดีว่าเป็นจิตเภท ในที่สุดศาลฎีกาพิพากษาลงโทษจำคุกแต่ให้รอลงอาญา
ทั้งนี้ สมยศ พฤกษาเกษมสุข ปัจจุบันถูกคุมขังมา 5 ปี 10 เดือนในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เขาเป็นผู้ต้องหาไม่กี่คนที่ต่อสู้คดี 112 สมยศจับกุมวันที่ 30 เม.ย.2554 หลังการรณรงค์ล่า 10,000 ชื่อเพื่อยกเลิกมาตรา 112 เพียง 5 วัน เขายังเป็นผู้ต้องหาคดี 112 ที่ทำสถิติยื่นประกันตัวมากที่สุด ราว 15-16 ครั้ง ใช้หลักทรัพย์ตั้งแต่ 4 แสน จนถึง 2 ล้านบาท เขาถูกฟ้องว่าเป็นบรรณาธิการนิตยสาร Voice of Taksin ซึ่งเผยแพร่บทความ 2 ชิ้นเขียนโดย “จิตร พลจันทร์” ที่มีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ บทความดังกล่าวปรากฏในนิตยสารฉบับเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2553 ชื่อว่า ‘แผนนองเลือด ยิงข้ามรุ่น’ และ ‘6 ตุลาแห่งพ.ศ.2553’ ตามลำดับ ระหว่างสู้คดี เขาถูกนำตัวไปขึ้นศาลยังจังหวัดต่างๆ ถึง 4 แห่งตามที่อยู่ของพยานโจทก์ ไม่ว่า นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ สระแก้ว สงขลา ซึ่งทำให้ครอบครัวเพื่อนมิตรติดตามคดีและไปเยี่ยมเขาอย่างยากลำบาก เพราะต้องมีการย้ายตัวจำเลยไปก่อน 2-4 สัปดาห์ ก่อนขึ้นศาล
ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 10 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
*********************************
ติดคุก คดี 112 เหลืออีก 2 เดือน แล้ว ติด ต่ออีก 1 ปี ขอหา หมิ่น พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร
12 สิงหา ปีนี้ คงได้ลดโทษ ออกมา หวังว่านะ
http://www.prachatai.com/journal/2017/02/70228
สมยศ พฤกษาเกษมสุข ยิ้มแก้มปริ จะได้ออกจากคุกแล้ว
23 ก.พ.2560 เวลา 9.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 911 ศาลอาญา ถนนรัชดาฯ มีกำหนดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดี112 ของ สมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตบรรณาธิการนิตยสาร Voice of Taksin วัย 56 ปี โดยก่อนหน้านี้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษาจำคุก 10 ปีจากการกระทำผิด 2 กรรม (กรรมละ 5 ปี)
เวลาประมาณ 9.45 น. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำคุกลดลง เหลือเพียง 6 ปี (กรรมละ 3 ปี) เมื่อรวมกับโทษจำคุกคดีหมิ่นประมาท พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร อีก 1 ปี รวมเป็น 7 ปี ภายหลังเสร็จสิ้นการอ่านคำพิพากษา ภรรยาของสมยศได้เข้าไปกอดสมยศ และประชาชนผู้มาให้กำลังใจเขาจำนวนหนึ่งต่างแสดงความดีใจที่เขาได้รับการลดโทษ ทั้งนี้ วันนี้มีเจ้าหน้าที่จากองค์กรระหว่างประเทศเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย อาทิ องค์การสหประชาชาติ (UN) สถานทูตสวีเดน สถานทูตฝรั่งเศส สถานทูตสหรัฐอเมริกา สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย
ศาลฎีการะบุเหตุผลว่า ที่จำเลยฎีกาต่อสู้ว่า มิได้มีเจตนากระทำผิด และข้อความในบทความหมายถึงอำมาตย์นั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งในขั้นฎีกาไม่อาจต่อสู้ในข้อเท็จจริงได้อีก อย่างไรก็ตาม ตามที่จำเลยได้ต่อสู้มารับฟังได้ว่า จำเลยเป็นเพียงบรรณาธิการ มิใช่ผู้เขียนและยังให้ข้อมูลว่าใครเป็นผู้เขียน จำเลยยืนยันว่ามีความจงรักภักดี อีกทั้งเมื่อพิจารณาประกอบกับอาชีพ อายุและประวัติของจำเลย ทั้งจำเลยก็ต้องโทษมาเป็นระยะเวลาพอควรแล้ว ศาลฎีกาจึงเห็นควรแก้โทษจำคุก เหลือกระทงละ 3 ปี รวม 2 กระทง 6 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติและทนายความจำเลยไม่ได้รับแจ้งการนัดหมายอ่านคำพิพากษาในวันนี้จากศาล และจำเลยเองก็เพิ่งทราบเมื่อเช้านี้ตอนเจ้าหน้าที่นำตัวออกจากเรือนจำ เมื่อครั้งอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ทนายและญาติก็ไม่ทราบเช่นกัน มีเพียงจำเลยที่ได้เข้าฟังคำพิพากษาในครั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา คดีนี้ถือเป็นคดีแรกที่ต่อสู้ในทาง "เนื้อหา" แล้วมีการพิจารณาจนถึงศาลสูงสุด โดยสมยศต่อสู้ในประเด็นหลักว่าไม่ใช่ผู้เขียน เป็นเพียงบรรณาธิการ และเนื้อหานั้นมิได้หมายความถึงสถาบันกษัตริย์ ก่อนหน้านี้ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล อดีตผู้ต้องขังคดี 112 เคยระบุว่าตั้งใจจะสู้คดีถึงศาลฏีกาแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจสู้เพียงชั้นศาลอุทธรณ์เนื่องจากถูกคุมขังในเรือนจำยาวนานและมีสุขภาพที่ย่ำแย่ ส่วนอีกคดีหนึ่งที่สู้ถึงศาลฎีกาคือ คดีของ บัณฑิต อานียา ถูกจับกุมดำเนินคดีเมื่อปี 2546 ต่อสู้คดีว่าเป็นจิตเภท ในที่สุดศาลฎีกาพิพากษาลงโทษจำคุกแต่ให้รอลงอาญา
ทั้งนี้ สมยศ พฤกษาเกษมสุข ปัจจุบันถูกคุมขังมา 5 ปี 10 เดือนในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เขาเป็นผู้ต้องหาไม่กี่คนที่ต่อสู้คดี 112 สมยศจับกุมวันที่ 30 เม.ย.2554 หลังการรณรงค์ล่า 10,000 ชื่อเพื่อยกเลิกมาตรา 112 เพียง 5 วัน เขายังเป็นผู้ต้องหาคดี 112 ที่ทำสถิติยื่นประกันตัวมากที่สุด ราว 15-16 ครั้ง ใช้หลักทรัพย์ตั้งแต่ 4 แสน จนถึง 2 ล้านบาท เขาถูกฟ้องว่าเป็นบรรณาธิการนิตยสาร Voice of Taksin ซึ่งเผยแพร่บทความ 2 ชิ้นเขียนโดย “จิตร พลจันทร์” ที่มีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ บทความดังกล่าวปรากฏในนิตยสารฉบับเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2553 ชื่อว่า ‘แผนนองเลือด ยิงข้ามรุ่น’ และ ‘6 ตุลาแห่งพ.ศ.2553’ ตามลำดับ ระหว่างสู้คดี เขาถูกนำตัวไปขึ้นศาลยังจังหวัดต่างๆ ถึง 4 แห่งตามที่อยู่ของพยานโจทก์ ไม่ว่า นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ สระแก้ว สงขลา ซึ่งทำให้ครอบครัวเพื่อนมิตรติดตามคดีและไปเยี่ยมเขาอย่างยากลำบาก เพราะต้องมีการย้ายตัวจำเลยไปก่อน 2-4 สัปดาห์ ก่อนขึ้นศาล
ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 10 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
*********************************
ติดคุก คดี 112 เหลืออีก 2 เดือน แล้ว ติด ต่ออีก 1 ปี ขอหา หมิ่น พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร
12 สิงหา ปีนี้ คงได้ลดโทษ ออกมา หวังว่านะ
http://www.prachatai.com/journal/2017/02/70228