สวัสดีครับ ได้เวลาออกไปเที่ยวอีกแล้ว แต่ที่ๆเราจะไป จะไปไหนดี ไปแล้วสบายใจ ได้ไปทำบุญด้วย ได้ไปเจอที่โล่งๆสบายตา นั่งดูวิว นั่งโง่ๆโดยไม่ต้องคิดอะไร และที่ๆผมตัดสินใจจะไปคือก็คือ จ.นครพนมนั่นเอง ปกติเวลาที่ผมจะไปเที่ยวไหน ผมจะชอบนั่งรถทัวร์สนุกดี มันรับรู้ถึงว่าเราได้ไปเที่ยวจริงๆ แต่ที่จ.นครพนมมีสนามบินนี่หว่า เลยลองนั่งเครื่องบินดูบ้างหาประสบการณ์ให้ตัวเอง เพราะพึ่งมาเคยนั่งเครื่องบินครั้งแรกตอนไปเที่ยวน่านเมื่อกันยายน 2559 ครั้งนี้เป็นครั้งที่2 เลยตัดสินใจจองตั๋วไว้เนิ่นๆเพื่อความสบายใจ ตอนแรกก็อยากพักที่ The River เพราะวิวดี ชอบๆ แต่ตัดสินใจช้า หุหุ สมน้ำหน้าเต็ม แล้วจะหาที่พักที่ไหนดีๆที่เห็นวิวโขงเต็มที่ เพราะชอบแม่น้ำโขง อยากได้ที่พักวิวดีๆ หาไปหามาก็เจอแล้วละ ริมโขงปันสุข มันตอบโจทย์เบย ส่งรูปให้เจ้าของดูว่าชอบห้องนี้ จัดไปงานนี้ ไปนอนฟินเบย ฝันหวานที่นครพนมกัน เรามีนัดกัน 18-19 ก.พ. 2560


สวัสดีครับตีห้านาฬิกาปลุก ทั้งๆที่ไม่อยากลุกเลย ช่วงนี้อากาศจะเย็นลง รีบนั่งรถมาลงที่สวนจตุจัตร ต่อสายA1ฝั่งสวน ค่ารถ30บาท ขึ้นทางด่วนเลยถนนโล่งมาก คนก็ไม่เยอะ และได้เห็นกทม.มีหมอกด้วย สวยมากๆ นั่งรถประมาณ 20 นาที ก็ถึงสนามบินดอนเมือง แล้วก็เดินไปหาสายการบินแอร์เอเชียซึ่งผมเช็คอินผ่านมือถือเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่บอกว่าให้โชว์หน้านี้ขึ้นเครื่องได้เลย ผมจึงถามย้ำเพราะความชัวร์ บอกว่าผมไม่เคยขึ้นเครื่องบินที่สนามบิน เจ้าหน้าที่ฝึกงานที่ใส่ชุดนักศึกษาก็พาไปดูตารางบอกว่าเที่ยวบิน กทม.-นครพนม ช่อง55จำให้ดี แล้วผมก็เดินไปโชว์ข้อมูลแล้วก็บัตรปปช. คนเยอมากๆ พอมาตรวจสัมภาระตรวจทุกอย่างแม้กระทั่งเข็มขัดซึ่งผมไม่เคยรู้มาก่อนเบย ถือว่าเป็นประสบการณืใหม่ของผม เดินไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็เจอแล้วช่อง55 นี่เหรอที่นั่งรอขึ้นเครื่องมันดูHisoมาก ห้องน้ำก็หรูหรา ว่าแล้วก็รีบวางของ หามุมเซลฟี่ ตอนนั้นก็ประมาณ 07.20น. เครื่องออก08.30 น. ก็นั่งเล่นนั่งรอไปซิ พอใกล้ถึงเวลาเจ้าหน้าที่ก็ประกาศเที่ยวบินนครพนมขึ้นเครื่องได้ ตื่นเต้นมากๆเลยครับ พอได้ที่นั่งก็รีบเซลฟี่ เช็คอินก่อนที่จะใช้โทรศัพท์ไม่ได้


จากนั้นเครื่องก็เคลื่อนที่เข้าสู่รันเวย์เพื่อที่จะเริ่มบิน ผมตื่นเต้นมากๆ มันเสียวหน้าท้อง หูอื้อพยายามเคี้ยวหมากฝรั่ง วิวบนฟ้าก็สวยพระอาทิตย์กำลังขึ้น แสงแรงปิดหน้าต่างครึ่งหนึ่ง อ่านหนังสือไป พี่ๆพนักงานต้อนรับน่ารักดีบริการดีมากใช้เวลาเดินทางประมาณ1ชม. 09.45 น. ถึงนครพนมเครื่องก็วนหาที่ลง ผมมองเห็นแม่น้ำโขงและภูเขาฝั่งลาวสวยมากๆตื่นเต้นที่สุดเบย และแล้วเครื่องก็จอด นั่งยิ้มแบบตื่นเต้นเย้ๆๆถึงนครพนมแบ้ววว พอลงจากเครื่องก็เซลฟี่สักนิด


จากนั้นก็แวะเข้าห้องน้ำ แล้วเดินไปหารถเข้าเมืองซึ่งมีบริการที่สนามบินคนละ100บาทส่งถึงที่ จะเป็นรถตู้ แต่รถที่ไปส่งผมเป็นรถกระบะ4ประตูอย่างดี นั่งสบายมีผู้โดยสารแค่3คนรวมกับผม ผมก็นั่งดูวิวข้างทางตื่นเต้นมากๆ ผมลงคนสุดท้ายคุณลุงก็มาส่งผมที่โรงแรมริมโขงปันสุข ก็เจอพี่ที่ดูแลห้องพัก โรงแรมสะอาดมากๆเงียบสงบ พี่เค้าน่ารักเป็นกันเองมากๆ แนะนำที่เที่ยวเป็นอย่างดี และให้ผมฝากกระเป๋าไว้ก่อนเพราะแขกยังไม่เช็คเอ้าท์ ตอนนั้นก็ประมาณ 10.20 น. ผมอยากเช่ามอไซต์ขับชิวพี่เขาแนะนำว่าให้ติดต่อที่ร้านทวียนต์ข้างธ.กรุงเทพให้นั่งรถสกายแล็ปไปประมาณ 20-30 บาท


ติดต่อเช่ารถมอไซต์เสร็จก็ 11.00 น. เช่าคันละ 300 บาท 24 ชม. มัดจำ 1000 บาท+บัตรปปช.จากนั้นก็แว้นเบยได้น้องScopiสีแดงหมวกกันน็อคสีชมพู ก่อนจะรับรถพนักงานก็จะเช็ครถให้ก่อน ถือว่าโอเคมากไม่มีไรกังวล แล้วก็ไปเติมน้ำมัน แล้วหาร้านฝากท้องก่อนวนหาร้านพรเทพอาหารเช้า วนไปหลายรอบกว่าจะเจอ ก็เลยสั่งปอเป๊ะทอด80 ปังยัดไส้15 โอเลี้ยง20 มื้อนี้115บาท พอพนักงานมาเสิร์ฟ ต้องพูดในใจเลยว่า Wowww   น่าทานมากๆ ผักสดๆ ผมชอบทานผักด้วย จัดเบยทีนี้ ฟินตั้งแต่คำแรกยันคำสุดท้าย เกลี้ยงเบย


ตอนที่มาเสิร์ฟก็งงว่าร้านนี้เขามีบริการเบียร์ฟรีด้วยเหรอ เห็นน้ำสีเหลือง ผมก็ดมดูไมมันหอมจัง กลิ่นเหมือนดอกมะลิ ถ้าเจ้าของร้านเขาบอกว่าเป็นชามะลิแล้วก็เอามาให้อีกแก้วครับใจดีมาก ผมเลยอุดหนุนชามา1ห่อใหญ่60บาทเอง


จากนั้นก็เที่ยวจิถุงมือหมวกกันน็อคพร้อมที่แรกที่จะไปคือพระธาตุท่าอุเทนเป็นพระธาตุประจำคนเกิดวันศุกร์เป็นวันเกิดผมเอง ห่างจากตัวเมืองประมาณ26 กม.ยิงยาวเบยเส้นทางเลาะริมแม่น้ำโขงไปมุ่งหน้าขึ้นไปทางเหนือคือจ.บึงกาฬ มันฟินมากๆ วิวฝั่งลาวสวยมากๆ ผมชอบครับ ขับไปก็จะเจอสะพานมิตรภาพไทยลาวที่3 สวยมากๆ ขับไปซิ่งไปเต็มที่เลยเพราะถนนโล่งมากๆไม่มีรถขับสบายครับ ผมดูป้ายตลอดทางหลวง212 ไปท่าอุเทนกลัวหลง


พอถึง อ.ท่าอุเทนก็มุ่งหน้าเลาะริมโขงบรรยากาศดีมากๆเลยครับ 12.45 และแล้วก็เจอยอดพระธาตุท่าอุเทนดีใจมากๆ น้ำตาคลอเพราะดีใจและตั้งใจมากราบไหว้เพื่อความเป็นศิริมงคลสักครั้งหนึ่งให้แก่ชีวิตตัวเองจริงๆ พระธาตุท่าอุเทน พระธาตุประจำวันเกิดวันศุกร์ ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระธาตุอุเทน อ.ท่าอุเทน


จากนั้นก็นั่งดูวิวโขงสักแปปพักเหนื่อยและพร้อมจะแว้นต่อ เห็นดอกจานบานแล้วคิดถึงบ้านเบย เป็นสัญลักษณ์ที่จะให้ผมรู้ว่าจะเข้าหน้าร้อนแบ้ว


13.30 น. สายแว้นพร้อม ออกเดินทางได้ พอขับมาริมโขงก็เจอน้องมานั่งเล่นริมโขงแลดูมีความสุขผมเองก็มีความสุขพอเจอจักรยานล้อใหญ่สีชมพูรีบเบรคแทบไม่ทัน เซลฟี่สักแปป


จากนั้นก็แว้นมุ่งหน้าต่ออ.ธาตุพนม52 กม.จากตัวเมืองแต่ตอนนี้ผมอยู่อ.ท่าอุเทน+26=78กม. มุ่งหน้าลงไปทางใต้นครพนม-มุกดาหารที่ผมต้องขับไปผมเริ่มชินทางแล้วผมก็ซิ่งเบยทีนี้ มันดูอันตรายมากที่ขับรถเร็วเกินแต่ผมมั่นใจในตัวเองว่าผมชัวร์เลยซิ่งขนาดนี้บิดคนเร่งจนสุดจนบิดไม่ได้ครับ แซงรถยนต์ตลอด เขาคงด่าผมในใจว่าจะรีบไปไหน ที่ผมรีบเพราะผมจะมาล่องเรือตอน17.00น.มีแค่เที่ยวเดียว และก็เจอวิวสะพานมิตรภาพไทยลาวที่3สวยมาก ผมชอบขอหยุดเก็บภาพแป๊ป


ระหว่างทางผมเจอองค์พระธาตุมรุกขนคร ประดิษฐานที่วัดมรุกขนคร อ.ธาตุพนม ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 40 กม. ผมก็คิดว่าถ้ามีเวลาค่อยแวะขากลับเพราะอยู่ฝั่งขาเข้าเมือง 15.30 น. ผมถึงอ.ธาตุพนม พระธาตุพนม(ประจำวันเกิดวันอาทิตย์) ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระธาตุพนมวรวิหาร เป็นพระธาตุที่ใหญ่และสูงมาก คนเยอะมากๆ ผมต้องรีบทำเวลา พอไหว้เสร็จก็เจอผ้าถุงเรณุสวยมากๆผืนละ180บาทจัดไปฝากคุณแม่สักผืนสวยมากๆ


ตอนนั้นก็15.55น. ผมก็รีบกลับมุ่งหน้าไปอ.เรณูต่อไม่ไกลจากอ.ธาตุพนม ผมรีบทำเวลามากและแวะเติมน้ำมันด้วยใช้เวลาไม่นานก็ถึง พระธาตุเรณูนคร (พระธาตุสีชมพู ประจำวันเกิดวันจันทร์) ประดิษฐานอยู่วัดพระธาตุเรณู ณ บ้านเรณูนคร สวยมากๆผมชอบสีชมพู ไม่ใหญ่มากเท่าพระธาตูพนม และจริงๆแล้วอยากแวะชิมขนมจีนน้ำยากะปิชื่อดังใกล้ๆพระธาตุเรณูแต่ผมต้องทำเวลาจริงๆเสียดายมาก


ตอนนั้น16.20น. อีก40นาทีกับระยะทาง52กม.ไปตัวเมืองนครพนม เราต้องกลับไปให้ทัน 17.00 น. เพื่อล่องเรือ ผมต้องทำได้ แว้นยาวไปงานนี้ จนผ่านองค์พระธาตุมรุกขนคร ผมก็ได้แต่อธิฐานในใจ เพราะผมรีบมากจริงๆ และในที่สุดผมก็มาถึงตัวเมือนครพนมตอน 16.55 น. ผมไปที่ท่าเรือข้ามฟากว่าสนใจล่องเรือชมวิวโขง เจ้าหน้าที่บอกว่าติดต่อที่ตลาดอินโดจีนเลยค๊า ผมก็รีบวิ่งไป ตอนนั้นผมปวดฉี่มาก พอวิ่งมาถึงตลาด ผมก็งงติดต่อตรงไหนดี เดินเอ๋อไปเอ๋อมา เห็นคนยืนรอเยอะมาก เลยเจอพี่คนหนึ่งถามเรื่องล่องเรือ พี่เค้าก็บอกว่า รอตรงท่าเรือเลย เรือกำลังมา ผมดีใจมาก เลยรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำแล้วมารอเรือครับ เห็นเรือกำลังแล่นมา ดีใจมากๆครับ เห้อออในที่สุดก็ทัน


จากนั้นก็ขึ้นเรือ ในใจอยากนั่งชั้น2ครับ แต่คนเต็มนั่งชั้นล่างก็ได้ครับ เลยนั่งใกล้พี่ที่ถามเรื่องเรือ ทำความรู้จักกัน มาจากไหนทำงานอะไร (มีความสุขดีแบบว่าไปเที่ยวสักที่ๆเราไม่รู้จักใคร มันก็ได้ประสบการณ์ใหม่ดีนะ) จากนั้นก็ล่องเรือเที่ยวไปมุ่งหน้าขึ้นไปทางเหนือ มีความสุขจังโว๊ยยยยย ไกด์นำเที่ยวก็บรรยายไป ตลกมากๆเลย พี่เค้าเป็นคนฮามากๆ อากาศดีเย็นสบาย วิวโขงสวยมากๆ ได้ทักทายกับผู้คนริมโขงทั้งฝั่งไทยฝั่งลาว ดีใจมากๆที่ไม่พลาดพระอาทิตย์ก็เริ่มตกดิน สวยมากๆ จากนั้นก็เริ่มไลฟ์สด เซลฟี่ฟินนนไป