สวัสค่ะ จากคราวที่แล้วที่แนะนำคาเบะและแม่ที่เราได้รับเลี้ยงไว้ตามกระทู้  https://ppantip.com/topic/36107090

และได้ให้สัญญาตอนท้ายว่าจะมารีวิวบ้านคาเบะเพราะไม่ว่าจะลงรูปในเฟสหรือในไลน์หรือแม้แต่เพื่อนบ้านในซอยเดียวกัน ก็จะถามตลอดเรื่องบ้านของพวกเธอ วันนี้เลยมารีวิวเผื่อจะเป็นแนวทางให้หลายๆท่านที่อยากจะทำบ้านให้เจ้านายนะคะ

เราไม่มีแผนหรือแพลนที่จะเลี้ยงแมวเลยค่ะ แต่เมื่อโชคชะตานำพาให้ได้เลี้ยง ก็คงเหมือนหลายๆท่านที่เลี้ยงแล้วเราก็อยากให้เค้าได้อยู่ในที่ที่สบายและปลอดภัย เราเซิร์ทกูเกิ้ลเซฟรูปบ้านแมวไว้เยอะมาก และชอบสุดๆกับบ้านแมวของต่างประเทศที่เค้าทำทางเดินออกไปชมนกชมไม้รอบบ้าน ระหว่างนี้แม่หญิงคาเบะก็อยู่กรงเล็ก พอดีที่บ้านเราเลี้ยงชูก้าไกรเดอร์ไว้หลายตัว นางเลยได้ไปอยู่ในกรงชูก้าด้วย

ผ่านไปซักพัก นางโตไวค่ะ เล่นแรงขึ้นด้วย >,< เลยต้องแยกออกมาจากพี่ชูก้า แล้วก็ให้นางครอบครองกรงเพียงผู้เดียว แต่ไม่นานกรงก็ดูเหมือนจะเล็กลงไปอีก

แผนการสร้างกรงเพื่อเป็นบ้านหลังใหม่ของคาเบะจึงเกิดขึ้น โดยจะแบ่งสรรเนื้อที่บางส่วนของห้องชูก้าเพื่อต่อกรงให้คาเบะ

ห้องนี้แต่เดิมเป็นที่จอดรถของบ้านแต่พอชูก้าเยอะขึ้นเราเลยต่อเติมห้องเพื่อที่เค้าจะได้อยู่เป็นสัดเป็นส่วน โดยทางเข้าออกของห้องมีทั้งทางประตูหน้าบ้านและประตูข้างบ้าน

ความคิดก่อนที่จะนัดช่างเข้ามาดูหน้างานและพูดคุยคือเราจะให้มีกรงเล็กไว้มุมสุดของห้อง ซึ่งกรงเล็กนี้จะมีประตูเพื่อออกไปสู่กรงใหญ่ที่อยู่ข้างบ้าน

นี่เป็นภาพข้างบ้านค่ะ ซ้ายมือจะเป็นห้องชูก้า พื้นที่ตรงนี้ปกติด้านหลังเราเอาไว้ตากผ้า

และบริเวณประตูด้านข้างที่จะเข้าห้องจะเป็นที่นอนประจำของคุณแม่นวลตา เพราะนางจะมารอกิน รอเล่นกับคาเบะ

เมื่อคิดคอนเซ็ปต์ได้ก็โทรนัดช่างเลยค่ะ  ช่างของเราเป็นช่างประจำของบ้านเวลามีตรงไหนต้องซ่อมหรืออยากต่อเติมอะไรจะเรียกช่างคนนี้ตลอด เป็นช่างรับเหมาธรรมดาทั่วไปแต่มีประสบการณ์มากและสามารถทำทุกอย่างที่เราอยากได้ ^^ คุยกันพอเข้าใจวาดรูปอธิบายกันแบบนี้เลยค่ะไม่ต้องมีมาตราฐานหรือภาพ 3d อะไร  เอาแบบที่เราและช่างเข้าใจง่าย พอสรุปเคลียรายละเอียดและราคา ตกลงกันได้ก็ลงมือทำเลย

งานเราช้าหน่อยเพราะสั่งทำช่วงคาบเกี่ยวปีใหม่ซึ่งช่างหยุดยาว หลังปีใหม่ก็เริ่มทำเป็นรูปเป็นร่างซึ่งช่าจะส่งรูปอัพเดทให้ชมทางไลน์

ในภาพเป็นกรงใหญ่ ซึ่งกรงใหญ่ในส่วนของประตูหน้าบ้านเราบอกช่างให้ทำเป็นประตู 2 ชั้นค่ะ โดยชั้นนอกสุดเป็นแบบเปิดปิด ส่วนชั้นในเป็นแบบสไลด์ ความกว้างระหว่างสองประตูประมาณ  70 ซม. ถามว่าทำไมต้อง 2 ชั้น คำตอบคือเราเลี้ยงหมาใหญ่ค่ะ เวลาปล่อยเค้าเดินหน้าบ้าน กลัวว่าเค้าจะไปยุ่งกับกรงแมว เลยต้องป้องกันไว้ก่อนค่ะ

ส่วนนี่คือกรงเล็กที่จะเอาไว้ในห้องภายในบ้านค่ะ   พอกรงเสร็จเรียบร้อย เราก็อยากจะได้ชั้น(เริ่มเพิ่มโน่นเพิ่มนี่)

เดี๋ยวนี้สะดวกสะบายค่ะ ทำรูป/อธิบาย ส่งไลน์ จบ ^___^

คราวนี้ก็ร้องเพลงรอให้ช่างนัดมาติดตั้ง--แว๊บบบบ

มากันแล้วคร้าาา ^0^

ครั้งแรกที่เห็นคือ โอ้ว....มันสูงสะใจมากกก

ก่อนประกอบก็ต้องเคลียพื้นที่ก่อนน แฮะๆ อายจังยังไม่ได้เก็บผ้า >,<  ต้นโมกข้างบ้านยังคงไว้อยู่ค่ะเพื่อความเป็นธรรมชาติ แต่แอบลุ้นว่ามันจะรอดมั้ย จะโดนแดดเหมือนเดิมรึเปล่า บลา / จัดการรื้ออิฐที่เคยล้อมต้นโมกไว้และอิฐบริเวณรอบๆที่รกๆเอาออกให้หมด

แม่นวลตาสำรวจใหญ่เลย

ปรับพื้นให้เสมอกัน

กรงเล็กช่างเชื่อมมาจากโรงงานเรียบร้อยแล้วจึงสามารถยกไปวางได้เลย

เอาเข้าทางหน้าต่างเลยจร้า

พื้นที่ดูคับแคบไปหน่อย ห้องรกและกรงชูก้าเยอะมาก ^^"

ประจำที่

เจ้าของห้องทำการสำรวจ

จากนั้นก็เริ่มประกอบกรงใหญ่  ต้นโมกสูงเกะกะไปเลยต้องตัดให้สั้นลงค่ะ เวลาวางชั้นไม้จะได้ไม่ติด

ชั้นในเสร็จแล้วววว

ประตูกรงด้านหน้าบ้านมี 2 ชั้น ชั้นในเป็นแบบเลื่อนไปทางขวา  ที่ต้องทำ 2 ชั้นเพื่อป้องกันเวลาปล่อยหมาใหญ่ออกมาเดินเล่นหน้าบ้านค่ะ ^^"


และประตูชั้นนอกก็เสร็จแล้วค่ะ เป็นแบบเปิด-ปิด

ก่ออิฐปิดช่องว่างด้านล่าง

รูปนี้ถ่ายให้ดูระดับความสูงของกรงค่ะ เราให้ความสูงระดับเดียวกันกับประตูกระจกของห้อง ทำสูงกว่านี้ไม่ได้ค่ะเพราะจะติดพัดระบายอากาศที่เราเจาะไว้ระบายกลิ่นภายในห้องชูก้า

เริ่มต่อบันไดทางเดินขึ้นชั้นบน


แม่นวลตาตรวจงานตลอด 5555

ใส่บันไดไม้


สวยจัง ชอบๆๆ ^^

ใส่ชั้นด้านบนฝั่งต้นโมก

ไม้สองชั้น 2 ระดับ

ไม้อะไรไม่รู้ช่างเคยบอกแต่เราจำไม่ได้ ความหนาโอเคเลยค่ะ ^^

แว๊บมาใส่ชั้นไม้ที่กรงเล็กภายในห้อง

ไล่เป็น 2 ระดับเหมือนกรงด้านนอก

ใส่มุ้งลวดซึ่งตรงฝั่งที่ติดกับเพื่อนบ้านเราใช้เป็นมุ้งลวดสีเงินเพราะมันจะช่วงพลางตา  

แต่ตรงส่วนอื่นเราจะใช้มุ้งลวดสีดำค่ะเพราะสีดำเวลามองมันจะทะลุผ่านตาไปเลยไม่มีเงาสะท้อน

และเพื่อป้องกันฝนสาดเราใช้แผ่นอะคริลิกใสติดตรงฝั่งกำแพง

ช่างบอกติดครึ่งเดียวให้เลยกำแพงพอแล้วปล่อยให้น้ำไหลลงด้านล่าง

แต่ตอนหลังเราไปซื้อพลาสติกใสมาต่อให้ยาวถึงพื้นเพราะไม่อยากให้น้ำกระเด็นเข้ามาภายในกรงค่ะ

ติดเสร็จแล้ววว

ส่วนด้านบนติดแค่ครึ่งเดียวป้องกันฝนสาด แต่ไม่อยากปิดหมดเพราะยังไงเราก็มีหลังคาอยุ่แล้ว

ติดหมดเรากลัวว่าจะทึบและทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวกแล้วจะทำให้ภายในกรงร้อนค่ะ

ระหว่างที่ช่างทำงานของเค้า เราก็เริ่มทำงานของเรา ^^ เริ่มแต่งกรงตามจินตนาการ

จริงๆไม่ได้อะไรเลยค่ะ ใช้ของเดิมที่มันเคยเป็นอยู่ อิฐวงก็เอามาล้อมต้นโมกเหมือนเดิม  

ส่วนอิฐอันอื่นมันเหลือๆจากที่เคยเอาไว้วางกระถางต้นไม้ เราก็เอามาประกอบเป็นเก้าอี้ไว้นั่งมองแมว

คุณแม่นวลตายังคงเฝ้างานตลอด 555

แล้วก็ถึงเวลาใส่ประตูแมว ซึ่งจะใส่ไม่ได้เลยถ้าเราไม่เจาะกระจก

ตอนแรกเป็นลูกน้องที่ร้านกระจกมาทำ แต่พอเห็นประตูกระจกแล้วพากันพูดว่า "พี่ผมไม่กล้าเจาะ" เอ๋า >,<  เพราะประตูบานเลื่อนที่จะเจาะมันเป็นประตูบานใหญ่ค่ะ เค้ากลัวเจาะแล้วจะแตกแบบควบคุมไม่ได้

เลยต้องรออีกวันให้เฮียเจ้าของร้านมาเอง  อยากจะบอกว่าเฮียเซียนมาก ใช้อุปกรณ์คล้ายวงเวียนแต่หัวน่าจะเป็นเพชรสำหรับตัดกระจก  วาดวงเล็ก กลาง ใหญ่ 3 วงในที่เดียว

จากนั้นก็ค่อยๆเคาะๆไล่จากวงกลมวงในสุด ต้องใจเย็นมากๆ ดูคลิปการเจาะได้จากลิงค์ด้านล่างนี้นะคะ



เจาะเสร็จแล้ววววว


อันนี้มองจากภายในกรงเล็ก

จากนั้นก็ติดประตูแมวได้เลยค่ะ

ติดไม่ยาก แค่เอามาประกบด้านในกับด้านนอกแล้วขันน็อต

สวยงาม ชอบมากเลย ^0^

ดูคลิปการใช้งานประตูแมวของเด็กๆได้จากลิงค์ด้านล่างนี้นะคะ