รีวิวให้ข้อมูลล้วนๆนะครับ ไม่มีดราม่าอะไรทั้งสิ้นสำหรับกระทู้นี้
พอดีเมื่อช่วงวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ไปซื้อมอไซค์คันแรกในชีวิตมาครับ เลยศึกษาเรื่องการไปทำใบขับขี่
ปัญหาที่เจอคือ ข้อมูลหลายๆที่ค่อนข้างเก่า ทั้งจากในพันทิปเองและบลอคต่างๆ หรือไม่ส่วนมากก็จะมีแต่ขั้นตอนของรถยนต์
กระทู้นี้เลยอยากมาอัพเดทมันไว้ในฐานข้อมูลซะหน่อยครับ ว่าปี 60 แล้วขั้นตอนเป็นยังไงบ้าง สำหรับการสอบกับ UPD ส่วนของ จักรยานยนต์
*สำหรับคนที่ไม่ทราบ UPD คือโรงเรียนสอนขับรถ ที่ได้รับรองจากกรมขนส่งโดยตรง เราสามารถอบรมและสอบได้ที่นี่เลยครับ
(แต่ต้องไปทำใบขับขี่โดยเอาเอกสารที่รับรองจากที่นี่ ไปยื่นที่ขนส่งอีกที เพื่อทำบัตรกับทางขนส่งนะครับ)*
**UPD มีหลายสาขานะครับลองหาข้อมูลดู สำหรับผมไปที่ UPD ประชาอุทิศ ครับ**
---- วัน พฤ ที่ 16 กพ 2560
เริ่มจากโทรไปสอบถามทาง UPD ก่อนครับ ก็ได้คำตอบมาว่า ให้วอล์คอินเข้าไปติดต่อได้เลย โดยในวันที่วอล์คอินเข้าไปนั้น
จะต้องทำพรีเทสก่อน
- จักรยานยนต์ 50 ข้อ ต้องทำให้ได้ 40 ข้อ
- รถยนต์ 50 ต้องทำให้ได้ 45 ข้อ
เมื่อพรีเทสผ่านแล้วจะนัดวันสอบภาคปฏิบัติ+กากบาทอีกทีนึง คร่าวๆเท่านี้ครับ สำหรับการโทรสอบถามข้อมูล
---- วัน อา ที่ 19 กพ 2560
ผมไปถึงซักประมาน 10.30 ก็ทำการแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า จะมาทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์โดยขอสอบที่นี่
เจ้าหน้าที่ก็แจ้งมาเหมือนเดิมครับว่า
- มีค่าใช้จ่าย 1000 บาท (รถยนต์ 5500)
- ทำพรีเทสให้ผ่านก่อน
- นัดวันสอบจริง
ก็ตกลงจ่ายเงินไปครับแล้วก็กรอกข้อมูล เอกสารที่ต้องใช้ในวันนี้มีแค่ บัตรประชาชน ใบเดียวครับ จากนั้นเค้าจะให้ไปห้องสอบ
มาถึงห้องสอบใครฟิตๆหน่อยก็ดิ่งไปสอบได้เลยครับ แต่ผมนั่งอ่านแนวอยู่นานเลย อ่านทุกข้อ ประมานเกือบ 40 หน้า เนื่องจากว่า
เราจะมีโอกาสแก้ตัวได้ 3 ครั้ง ถ้าสอบตก 3 ครั้ง จะโดนจับเข้าห้องอบรมในวันนั้นเลย เพื่อมาทำพรีเทสให้ผ่าน ไม่เอาครับอยากกลับบ้านไว
เลยนั่งอ่านไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นก็มีคนทะยอยเดินมาขอสอบใหม่เป็นระยะๆ เนื่องจากยังไม่ผ่าน
พอผมอ่านจบก็ลุกไปสอบครับ เป็นกากบาท 50 ข้อ ต้องถูก 40 ข้อ ถึงจะผ่านพรีเทส พลาดสามครั้งโดนโยนเข้าห้องอบรมครับ
ซึ่งผมส่งครั้งแรกก็ได้ 44/50 ผ่านเลยครับก็รับเอกสารนัดวันสอบ ซึ่งผมเลือกเป็นวัน พุธ ไปครับเนื่องจาก วันก่อนหน้านี้ไม่ว่าง เค้ารับวันละ 25 คน
จากนั้นเค้าจะให้ผลสอบมาครับ ว่าพรีเทสเราได้เท่าไหร่ ตรงนี้ต้องเก็บไว้เป็นหลักฐานดีๆนะครับ ว่าเราผ่านมาแล้วจริง ห้ามทำหาย ถ้ากลัวหายถ่ายรูปเก็บไว้ก็ได้ครับ หลังจากนั้นก็กลับบ้านครับ เสร็จประมาน เที่ยงกว่าๆ วันแรกแปบเดียวครับ เสร็จก็กลับบ้านได้เลย รอมาสอบจริง
---- วัน พ ที่ 22 กพ 2560
วันนี้ชี้ชะตาครับ เค้านัด 07.00-17.00 เลยทีเดียว ลากเช้าตรู่ยันเย็นเลย โดยช่วงเช้าจะเป็นช่วงของการ อบรมก่อน ตั้งแต่ 07.00-12.00 5 ชม เต็ม
โดย 07.00-10.00 จะเป็นการให้เรานั่งดูวิดิโอไปเรื่อยๆครับ จากนั้นประมาณ 10.00-12.00 จะเป็นการอบรมโดยครูฝึกของที่นั่น
หลังจากนั้นครูที่อบรมเราก็จะพาไปสอบครับ โดยเริ่มจากสอบ ปฏิบัติก่อน ก็ต้องฟังครูฝึกให้ดีครับ เค้าให้ทำอะไรก็ทำ อย่าทำให้เค้าหงุดหงิด เดี๋ยวเค้าปรับตก โดยการสอบจะมี 5 ด่าน ดังนี้ครับ
1. ขับผ่านลูกระนาด
2. ขับขึ้นสะพาน
3. ขับโค้งทางแคบรูปตัว S
4. ขับทรงตัวบนทางแคบ 10 วิ
5. ขับซิกแซกผ่านกรวย
สำหรับคนที่ขับมอไซค์จนชินกันแล้ว คิดว่าด่านที่ยากจะมีด่านเดียวคือด่านที่ 4 ครับ เพราะส่วนใหญ่ต้องวนมาแก้ใหม่ตลอด
ด่าน 1
ด่านนี้จะมีลูกระนาดจำนวนมากเรียงกันเป็นตอนลึกทางตรง l l l l l l l l l l ประมานนี้ครับ ซึ่งแน่นอนว่าขับผ่านไปรถเราจะกระดกๆๆ
เราต้องขับฝ่าออกไปให้ได้ เทคนิคคือต้องยกก้นขึ้นจากเบาะครับ แล้วย่อเข่าไว้ มือสองข้างประคองแฮนด์ให้ตรง บิดคันเรงใช้ความเร็วต่ำ
พ้นลูกระนาดอันสุดท้ายได้ก็ผ่านละครับ ง่ายมากสำหรับ ผช แต่สำหรับคุณ ผญ ที่ขับไม่แข็ง ชอบเอาขาลงเวลาขับความเร็วต่ำ จะลำบากมาก
เพราะรถมันจะกระแทกๆๆๆ ทำให้เสียการควบคุม เอาขาลงก็ไม่ผ่านแล้วครับต้องต่อคิวคันท้ายสุดวนมาสอบใหม่
ด่าน 2
ด่านนี้ไม่มีอะไรครับ ขับขึ้นสะพานแล้วจอดตรงทางขึ้น ไม่เลยเส้นกั้นที่สาม จอดเพื่อรอเพื่อนๆมาให้ครบ 5 คน ครูฝึกก็จะปล่อยทีละคันเพื่อไปด่านต่อไปครับ
ด่าน 3 ขับโค้งทางแคบรูปตัว S
ด่านนี้ก็ไม่มีอะไรครับ ขับไปตามทาง หลุดออกมาได้ก็แสตนด์บายรอเจอด่านมหาหินได้เลย (ด่านนี้ครูฝึกไม่มองหรอกครับ เพราะมันไม่มีอะไร เป็นเหมือนขับผ่านทางไปธรรมดาๆ)
ด่าน 4 ขับทรงตัวบนทางแคบ 10 วิ
มาถึงเจ้าด่านนรกสำหรับหลายๆคนละครับ คือการขับทรงตัวบนทางแคบ โดยครูฝึกจะปล่อยทีละคน ให้ทรงตัวอยู่บนทางไม้กระดานแคบๆให้ได้ 10 วิ
จะเริ่มจับเวลาเมื่อล้อหลังขึ้นไปบนทางแคบแล้ว เอาขาลงไม่ผ่าน รถหล่นลงมาจากทางแคบไม่ผ่าน ล้อหลังลงทางแคบก่อนครับ 10 วิ ไม่ผ่านครับ
เทคนิคอยู่ที่การใช้คันเร่งช่วงก่อนขึ้น ต้องบิดให้พอดี ไม่เร็วไปไม่ช้าไป ขึ้นไปแล้วแทบจะใช้คันเร่งไม่ได้แล้วครับ เพราะจะเสียการทรงตัว
ความยากมันอยู่ที่ ครูฝึกไม่นับเวลาให้เราได้ยิน ว่าถึงไหนแล้ว ก็ต้องพยายามทรงตัวอยู่ให้นานที่สุด ก่อนขับผ่านลงทางแคบ
ตรงนี้รอบแรกผมหล่นครับ ไม่เคยฝึกมาก่อน ตื่นเต้นด้วย ขับมาได้ครึ่งทาง ร่วงเลย อีกอย่างรถผมล้อใหญ่ด้วยครับ (aerox 155) หมุนแฮนด์นิดเดียว ล้อไปกินขอบทางแล้ว ก็เลยวนไปต่อคิวใหม่ รอบสองมาดีครับ ทรงตัวอยู่ได้นาน พอผ่านลงมาได้ไป 13 วิ ก็ผ่านไปด่านต่อไปเลยครับ
ด่าน 5 ขับซิกแซกผ่านกรวย
ด่านนี้ไม่มีอะไรครับ หลังผ่านด่าน 4 มาแล้ว ก็เลี้ยวรถมาขับซิกแซกอ้อมกรวย (ด่านนี้ครูฝึกก็ไม่มองเช่นกัน) แล้วก็วนเอารถไปจอดก็ผ่านละครับ ที่เหลือก็นั่งรอเพื่อนๆชุดนั้นๆให้สอบผ่านให้ครับ ก็ไปพักทานข้าวได้เลย
จบแล้วครับช่วงเช้า
ผิดไปจากสิ่งที่คิดเหมือนกันครับ เนื่องจากคิดว่า ไม่ได้สอบกับทางกรมขนส่งแล้ว อาจจะผ่านง่ายหน่อย (เห็นมีจ่ายไปตั้ง 1000 นึง) คิดว่าครูที่นี่จะช่วยเรา
แต่จริงๆไม่เลยครับ เคี่ยวมากๆ ในเรื่องของความถูกต้อง ถ้าผิด ไม่มีอนุโลมครับ วนไปต่อคิวใหม่อย่างเดียว อาจจะช่วยก็ตรงที่ กี่รอบก็ได้นี่แหล่ะครับ
แต่ก็ยังมีจำกัดเวลาอยู่ดี เพราะถ้าทำไปไม่ผ่านไปเรื่อยๆ จนเลยเวลาสอบแล้ว เค้าก็ไม่ให้ผ่านนะครับ เค้าจะเอาจนกว่าเราจะพร้อมที่จะผ่านด่านจนได้เพื่อความปลอดภัยเวลาขับขี่จริงๆบนท้องถนน เยี่ยมมากๆครับจุดนี้
หลังจากนั้นก็จะปล่อยพักทานข้าวกลางวันครับ ที่นั่นเค้ามีให้ฟรีๆ วันที่ผมไปได้ กระเพราครับ ก็กินได้สบายๆ
หลังจากทานข้าวกันเสร็จก็กลับเข้าห้องอบรมอีกครั้งครับ เพื่อทำการอบรมอีกนิดหน่อยเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่ อบรมเสร็จก็จะเข้าสู่ช่วงการสอบกากบาทละครับ
ก่อนสอบกากบาทก็จะมีการทดสอบสมรรถนะทางร่างกายกันตามแบบฉบับของขนส่งก็คือ
1.ทดสอบตาบอดสี
โดยการทดสอบนี้จะให้ครูฝึกชี้ไปที่สีเรามีหน้าที่บอกให้ถูกตามสีที่เค้าชี้ก็ผ่านละครับ
2.ทดสอบปฏิกิริยาในการตอบสนอง
อันนี้เป็นการทดสอบการตอบสนองในการเหยียบเบรคครับ ก็คือ ให้เราเหยียบคันเร่งไปไฟเขียวด้านหน้าเราจะติด ประมาน 3-4 วินาที ไฟแดงจะขึ้น
เมื่อเปลี่ยนเป็นไฟแดง เราต้องเหยียบเบรคทันทีครับ โดยพอไฟแดงเริ่มติด จะมีไฟวิ่งขึ้นมาตามตัวเลข ถ้าไฟวิ่งขึ้นมาเกินตัวเลข 75 แล้วเรายังไม่เหยียบเบรค ถือว่าไม่ผ่านครับ ตั้งสติ ไฟแดงขึ้นปุ้บ เหยียบเบรคทันที ทันแน่นอน
3.ทดสอบการกะระยะ
เป็นการทดสอบการกะระยะที่ห่างไกลออกไป โดยจะให้มองไปที่ตู้ ตู้จะมีเสาสองแท่งสีขาว เสาด้านขวาเรา จะอยู่นิ่งๆขยับไม่ได้ ที่เราต้องทำคือการขยับเสาด้านซ้าย ให้มาพอดีกับเสาด้านขวาหรือห่างกันไม่เกิน 1 นิ้ว ก็กะระยะเอาพร้อมกับดูสีของเสาครับ ถ้าระยะใกล้เคียงกัน ไฟที่ส่องลงมากระทบเสา จะให้แสงที่เสาเป็นสีเดียวกันกับเสาด้านขวา กะระยะอาจจะยาก ใช้กะสีเอาก็ได้ครับ เลื่อนโดยการกดปุ่มสีเขียวที่แท่นกด ถ้าเลยก็กดปุ่มสีแดงให้มันถอยกลับ
เมื่อพร้อมแล้วปล่อยมือ ครูฝึกจะเช็คให้ ไม่เกิน 1 นิ้วก็ผ่านเลย
4.ทดสอบสายตาด้านข้าง
จะเป็นการไปนั่งที่โต้ะ คล้ายๆวัดสายตา โดยครูฝึกจะกดสวิทสีต่างๆ ให้ขึ้นมาที่บริเวณหางตาเราทั้งซ้ายและขวา เราจะต้องมองตรงไปข้างหน้า ห้ามเหลือบตามองด้านข้างเด็ดขาด ใช้หางตามองเท่านั้น ว่าสีที่ขึ้นมาเป็นสีอะไร
พอผ่านเสร็จครูฝึกจะอนุญาตให้เราเข้าห้องสอบได้ ตรงนี้เรียกได้ว่า มือสั่น ของจริง เพราะการสอบจริงในตอนแรกคิดว่าจะมีให้แก้ตัวถ้าเราพลาดแต่เค้าบอกว่า
*สอบกากบาทตกครั้งเดียวกลับบ้านเลยครับ รอมาแก้ตัวใหม่อีก 3 วัน*
อารมณ์เปลี่ยนจากพรีเทสเลยครับ ที่แก้ตัวได้สามครั้ง สอบได้ชิลๆ ไม่ผ่านเอาใหม่ อันนี้ไม่ผ่านรอสามวัน ลางานมาใหม่ตั้งแต่เช้า ไม่สนุกแน่ๆครับ
ก็เลยทำอย่างจริงจังที่สุดในโลก ทำเสร็จแล้วก็ยังไม่กล้าดึงบัตรออกจากเครื่อง เพราะกลัวขึ้นมาเป็นสีแดง ตรงนี้ชี้ชะตาสุดๆจริงๆ เข้าไปไม่มีใครช่วยคุณได้แล้วตอนนั้นต้องใช้ทั้งจากที่เรียนมา อบรมมา และอ่านแนวข้อสอบมา ในห้องนี้ให้หมด
ผมใช้วิธีนับข้อเอาเลยครับก่อนลุกออก จะได้ทำใจรอ ว่าข้อที่เราไม่ชัวร์มีกี่ข้อ ผมทำไป 48 เว้นไว้ 2 ข้อ จากนั้นไล่ตั้งแต่ข้อแรกว่ามีข้อไหนบ้างที่ไม่มั่นใจ
นับเสร็จถึงกับสลดครับ เพราะมีข้อที่ไม่แน่ใจอยู่แล้ว 4 ข้อ รวมถึงอีกสองข้อที่เว้นไว้ เป็น 6 ถ้าทั้งหมดนี่ผิด ผมกลับบ้านมือเปล่าเลยครับ
นั่งทวนอยู่ซักพัก ปรับคำตอบไปๆมาๆ แล้วกลั้นหายใจ ดึงบัตรออกครับ !!!
ผลที่ออกมาคือ ขึ้นเป็นสีเขียวครับ !!!! ผ่านนนนนนนนนแล้ววววววววววววววววววว
ได้ 47/50 รีบดึงบัตรแล้วลุกออกมาเลยครับ ดีใจจนลืมดูเลยว่าผมตอบอะไรผิดไปบ้าง ตรงนี้เสียดายสุดๆ
หลังจากที่สอบผ่านทั้งหมดแล้วก็เป็นอันเสร็จสิ้นครับ แล้วก็เดินยิ้มหน้าบานออกมาที่ห้องแรกอีกครั้ง เพื่อยื่นผลสอบแล้วก็รอรับใบรับรองได้เลย ถึงตอนนี้ต้องใช้ สำเนาบัตรประชาชน+ใบรับรองแพทย์ครับ แล้วเค้าจะให้ซองน้ำตาลเรามาด้านในเป็น ใบรับรองจากสถาบันครับ ว่าเราผ่านการทดสอบและการอบรมแล้วจริง
ก็สามารถนำเอกสารชุดในซองน้ำตาลนี้ (ซึ่งจะมี ใบรับรองจากสถาบัน+ใบรับรองแพทย์ขอเราเอง+สำเนาบัตรประชาชนของเราเอง) ไปยื่นที่กรมขนส่งที่ไหนก็ได้เลยครับ เพื่อทำใบขับขี่ ก็หมดไปครับสำหรับวันนี้
วัน พฤ ที่ 23 กพ 2560
เมื่อไปถึงกรมขนส่งแล้ว (ของผมไปที่พระปะแดงนะครับ) ก็ยื่นเอกสาร บอกว่าเอาใบรับรองมายื่นเพื่อทำบัตร จนท ก็จะตรวจสอบ แล้วก็ให้เราไปรอชำระเงินค่าธรรมเนียม 205 บาท จากนั้นก็รอถ่ายรูปเพื่อทำบัตร ถ่ายรูปเสร็จก็เสร็จเรียบร้อยครับ ได้ใบขับขี่ไปใช้ ขับขี่ได้อย่างสบายใจอย่างถูกกฎหมาย ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆกันอีกต่อไป
โดยรวมแล้ว ก่อนหน้าที่จะผ่านตรงนี้มาผมเข้าใจว่าที่นี่จะปล่อยผ่านง่ายๆ เพราะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการทำใบขับขี่ทั่วๆไป แต่จริงๆแล้วไม่เลยครับ โอกาสที่จะโดนกลับมาแก้ตัวก็มีสูง ซึ่งวันที่ผมไปก็มีคนที่กลับมาแก้ตัวรวมอยู่ด้วยเช่นกัน ดังนั้นที่หลายๆคนคิดว่ามาจ่ายตังที่นี่เพื่อซื้อใบขับขี่นั้นไม่จริงเลยครับ เค้ามีการเทสมีการอบรมมีการทดสอบตามมาตรฐานของขนส่งเลย ถ้าทำไม่ได้ คุณไม่ได้ใบขับขี่แน่ๆ ในส่วนของการอบรม ก็อบรมด้วยใจ คำพูดที่ใช้กับผู้เข้ารับการอบรมคือด้วยความหวังดีทั้งนั้นครับ จะแฝงด้วยคำเตือนและข้อคิดตลอดเวลา ว่าสอนอะไรไปให้นำไปใช้ ด้วยเจตนาที่อยากลดจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนนลงจริงๆ ไม่ใช่แค่มาเพื่อขายใบขับขี่ให้เรา ถือว่าแก้ความเข้าใจผิดเรื่องมาจ่ายตังที่นี่เพื่อซื้อใบขับขี่ไปได้อย่างสิ้นเชิงเลยครับ ซึ่งจำนวนเงินที่จ่ายไปก็ไม่ทราบครับ ว่ามันแพงค่าอะไร ส่วนตัวเข้าใจว่ามันเป็นหลักสูตรการสอนขับด้วยครับ ซึ่งผมไม่ได้อยากเรียนขับ ก็เลยสอบเลย
จบแล้วครับ สำหรับการเข้าทำใบขับขี่กับ UPD ที่สาขาประชาอุทิศครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่คนที่กำลังหาข้อมูลเพื่อตัดสินใจเลือกวิธีที่จะไปทำใบขับขี่นะครับ สวัสดีครับ
แชร์ประสบการณ์สอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์กับ UPD ปี 60 ครับ
พอดีเมื่อช่วงวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ไปซื้อมอไซค์คันแรกในชีวิตมาครับ เลยศึกษาเรื่องการไปทำใบขับขี่
ปัญหาที่เจอคือ ข้อมูลหลายๆที่ค่อนข้างเก่า ทั้งจากในพันทิปเองและบลอคต่างๆ หรือไม่ส่วนมากก็จะมีแต่ขั้นตอนของรถยนต์
กระทู้นี้เลยอยากมาอัพเดทมันไว้ในฐานข้อมูลซะหน่อยครับ ว่าปี 60 แล้วขั้นตอนเป็นยังไงบ้าง สำหรับการสอบกับ UPD ส่วนของ จักรยานยนต์
*สำหรับคนที่ไม่ทราบ UPD คือโรงเรียนสอนขับรถ ที่ได้รับรองจากกรมขนส่งโดยตรง เราสามารถอบรมและสอบได้ที่นี่เลยครับ
(แต่ต้องไปทำใบขับขี่โดยเอาเอกสารที่รับรองจากที่นี่ ไปยื่นที่ขนส่งอีกที เพื่อทำบัตรกับทางขนส่งนะครับ)*
**UPD มีหลายสาขานะครับลองหาข้อมูลดู สำหรับผมไปที่ UPD ประชาอุทิศ ครับ**
---- วัน พฤ ที่ 16 กพ 2560
เริ่มจากโทรไปสอบถามทาง UPD ก่อนครับ ก็ได้คำตอบมาว่า ให้วอล์คอินเข้าไปติดต่อได้เลย โดยในวันที่วอล์คอินเข้าไปนั้น
จะต้องทำพรีเทสก่อน
- จักรยานยนต์ 50 ข้อ ต้องทำให้ได้ 40 ข้อ
- รถยนต์ 50 ต้องทำให้ได้ 45 ข้อ
เมื่อพรีเทสผ่านแล้วจะนัดวันสอบภาคปฏิบัติ+กากบาทอีกทีนึง คร่าวๆเท่านี้ครับ สำหรับการโทรสอบถามข้อมูล
---- วัน อา ที่ 19 กพ 2560
ผมไปถึงซักประมาน 10.30 ก็ทำการแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า จะมาทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์โดยขอสอบที่นี่
เจ้าหน้าที่ก็แจ้งมาเหมือนเดิมครับว่า
- มีค่าใช้จ่าย 1000 บาท (รถยนต์ 5500)
- ทำพรีเทสให้ผ่านก่อน
- นัดวันสอบจริง
ก็ตกลงจ่ายเงินไปครับแล้วก็กรอกข้อมูล เอกสารที่ต้องใช้ในวันนี้มีแค่ บัตรประชาชน ใบเดียวครับ จากนั้นเค้าจะให้ไปห้องสอบ
มาถึงห้องสอบใครฟิตๆหน่อยก็ดิ่งไปสอบได้เลยครับ แต่ผมนั่งอ่านแนวอยู่นานเลย อ่านทุกข้อ ประมานเกือบ 40 หน้า เนื่องจากว่า
เราจะมีโอกาสแก้ตัวได้ 3 ครั้ง ถ้าสอบตก 3 ครั้ง จะโดนจับเข้าห้องอบรมในวันนั้นเลย เพื่อมาทำพรีเทสให้ผ่าน ไม่เอาครับอยากกลับบ้านไว
เลยนั่งอ่านไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นก็มีคนทะยอยเดินมาขอสอบใหม่เป็นระยะๆ เนื่องจากยังไม่ผ่าน
พอผมอ่านจบก็ลุกไปสอบครับ เป็นกากบาท 50 ข้อ ต้องถูก 40 ข้อ ถึงจะผ่านพรีเทส พลาดสามครั้งโดนโยนเข้าห้องอบรมครับ
ซึ่งผมส่งครั้งแรกก็ได้ 44/50 ผ่านเลยครับก็รับเอกสารนัดวันสอบ ซึ่งผมเลือกเป็นวัน พุธ ไปครับเนื่องจาก วันก่อนหน้านี้ไม่ว่าง เค้ารับวันละ 25 คน
จากนั้นเค้าจะให้ผลสอบมาครับ ว่าพรีเทสเราได้เท่าไหร่ ตรงนี้ต้องเก็บไว้เป็นหลักฐานดีๆนะครับ ว่าเราผ่านมาแล้วจริง ห้ามทำหาย ถ้ากลัวหายถ่ายรูปเก็บไว้ก็ได้ครับ หลังจากนั้นก็กลับบ้านครับ เสร็จประมาน เที่ยงกว่าๆ วันแรกแปบเดียวครับ เสร็จก็กลับบ้านได้เลย รอมาสอบจริง
---- วัน พ ที่ 22 กพ 2560
วันนี้ชี้ชะตาครับ เค้านัด 07.00-17.00 เลยทีเดียว ลากเช้าตรู่ยันเย็นเลย โดยช่วงเช้าจะเป็นช่วงของการ อบรมก่อน ตั้งแต่ 07.00-12.00 5 ชม เต็ม
โดย 07.00-10.00 จะเป็นการให้เรานั่งดูวิดิโอไปเรื่อยๆครับ จากนั้นประมาณ 10.00-12.00 จะเป็นการอบรมโดยครูฝึกของที่นั่น
หลังจากนั้นครูที่อบรมเราก็จะพาไปสอบครับ โดยเริ่มจากสอบ ปฏิบัติก่อน ก็ต้องฟังครูฝึกให้ดีครับ เค้าให้ทำอะไรก็ทำ อย่าทำให้เค้าหงุดหงิด เดี๋ยวเค้าปรับตก โดยการสอบจะมี 5 ด่าน ดังนี้ครับ
1. ขับผ่านลูกระนาด
2. ขับขึ้นสะพาน
3. ขับโค้งทางแคบรูปตัว S
4. ขับทรงตัวบนทางแคบ 10 วิ
5. ขับซิกแซกผ่านกรวย
สำหรับคนที่ขับมอไซค์จนชินกันแล้ว คิดว่าด่านที่ยากจะมีด่านเดียวคือด่านที่ 4 ครับ เพราะส่วนใหญ่ต้องวนมาแก้ใหม่ตลอด
ด่าน 1
ด่านนี้จะมีลูกระนาดจำนวนมากเรียงกันเป็นตอนลึกทางตรง l l l l l l l l l l ประมานนี้ครับ ซึ่งแน่นอนว่าขับผ่านไปรถเราจะกระดกๆๆ
เราต้องขับฝ่าออกไปให้ได้ เทคนิคคือต้องยกก้นขึ้นจากเบาะครับ แล้วย่อเข่าไว้ มือสองข้างประคองแฮนด์ให้ตรง บิดคันเรงใช้ความเร็วต่ำ
พ้นลูกระนาดอันสุดท้ายได้ก็ผ่านละครับ ง่ายมากสำหรับ ผช แต่สำหรับคุณ ผญ ที่ขับไม่แข็ง ชอบเอาขาลงเวลาขับความเร็วต่ำ จะลำบากมาก
เพราะรถมันจะกระแทกๆๆๆ ทำให้เสียการควบคุม เอาขาลงก็ไม่ผ่านแล้วครับต้องต่อคิวคันท้ายสุดวนมาสอบใหม่
ด่าน 2
ด่านนี้ไม่มีอะไรครับ ขับขึ้นสะพานแล้วจอดตรงทางขึ้น ไม่เลยเส้นกั้นที่สาม จอดเพื่อรอเพื่อนๆมาให้ครบ 5 คน ครูฝึกก็จะปล่อยทีละคันเพื่อไปด่านต่อไปครับ
ด่าน 3 ขับโค้งทางแคบรูปตัว S
ด่านนี้ก็ไม่มีอะไรครับ ขับไปตามทาง หลุดออกมาได้ก็แสตนด์บายรอเจอด่านมหาหินได้เลย (ด่านนี้ครูฝึกไม่มองหรอกครับ เพราะมันไม่มีอะไร เป็นเหมือนขับผ่านทางไปธรรมดาๆ)
ด่าน 4 ขับทรงตัวบนทางแคบ 10 วิ
มาถึงเจ้าด่านนรกสำหรับหลายๆคนละครับ คือการขับทรงตัวบนทางแคบ โดยครูฝึกจะปล่อยทีละคน ให้ทรงตัวอยู่บนทางไม้กระดานแคบๆให้ได้ 10 วิ
จะเริ่มจับเวลาเมื่อล้อหลังขึ้นไปบนทางแคบแล้ว เอาขาลงไม่ผ่าน รถหล่นลงมาจากทางแคบไม่ผ่าน ล้อหลังลงทางแคบก่อนครับ 10 วิ ไม่ผ่านครับ
เทคนิคอยู่ที่การใช้คันเร่งช่วงก่อนขึ้น ต้องบิดให้พอดี ไม่เร็วไปไม่ช้าไป ขึ้นไปแล้วแทบจะใช้คันเร่งไม่ได้แล้วครับ เพราะจะเสียการทรงตัว
ความยากมันอยู่ที่ ครูฝึกไม่นับเวลาให้เราได้ยิน ว่าถึงไหนแล้ว ก็ต้องพยายามทรงตัวอยู่ให้นานที่สุด ก่อนขับผ่านลงทางแคบ
ตรงนี้รอบแรกผมหล่นครับ ไม่เคยฝึกมาก่อน ตื่นเต้นด้วย ขับมาได้ครึ่งทาง ร่วงเลย อีกอย่างรถผมล้อใหญ่ด้วยครับ (aerox 155) หมุนแฮนด์นิดเดียว ล้อไปกินขอบทางแล้ว ก็เลยวนไปต่อคิวใหม่ รอบสองมาดีครับ ทรงตัวอยู่ได้นาน พอผ่านลงมาได้ไป 13 วิ ก็ผ่านไปด่านต่อไปเลยครับ
ด่าน 5 ขับซิกแซกผ่านกรวย
ด่านนี้ไม่มีอะไรครับ หลังผ่านด่าน 4 มาแล้ว ก็เลี้ยวรถมาขับซิกแซกอ้อมกรวย (ด่านนี้ครูฝึกก็ไม่มองเช่นกัน) แล้วก็วนเอารถไปจอดก็ผ่านละครับ ที่เหลือก็นั่งรอเพื่อนๆชุดนั้นๆให้สอบผ่านให้ครับ ก็ไปพักทานข้าวได้เลย
จบแล้วครับช่วงเช้า
ผิดไปจากสิ่งที่คิดเหมือนกันครับ เนื่องจากคิดว่า ไม่ได้สอบกับทางกรมขนส่งแล้ว อาจจะผ่านง่ายหน่อย (เห็นมีจ่ายไปตั้ง 1000 นึง) คิดว่าครูที่นี่จะช่วยเรา
แต่จริงๆไม่เลยครับ เคี่ยวมากๆ ในเรื่องของความถูกต้อง ถ้าผิด ไม่มีอนุโลมครับ วนไปต่อคิวใหม่อย่างเดียว อาจจะช่วยก็ตรงที่ กี่รอบก็ได้นี่แหล่ะครับ
แต่ก็ยังมีจำกัดเวลาอยู่ดี เพราะถ้าทำไปไม่ผ่านไปเรื่อยๆ จนเลยเวลาสอบแล้ว เค้าก็ไม่ให้ผ่านนะครับ เค้าจะเอาจนกว่าเราจะพร้อมที่จะผ่านด่านจนได้เพื่อความปลอดภัยเวลาขับขี่จริงๆบนท้องถนน เยี่ยมมากๆครับจุดนี้
หลังจากนั้นก็จะปล่อยพักทานข้าวกลางวันครับ ที่นั่นเค้ามีให้ฟรีๆ วันที่ผมไปได้ กระเพราครับ ก็กินได้สบายๆ
หลังจากทานข้าวกันเสร็จก็กลับเข้าห้องอบรมอีกครั้งครับ เพื่อทำการอบรมอีกนิดหน่อยเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่ อบรมเสร็จก็จะเข้าสู่ช่วงการสอบกากบาทละครับ
ก่อนสอบกากบาทก็จะมีการทดสอบสมรรถนะทางร่างกายกันตามแบบฉบับของขนส่งก็คือ
1.ทดสอบตาบอดสี
โดยการทดสอบนี้จะให้ครูฝึกชี้ไปที่สีเรามีหน้าที่บอกให้ถูกตามสีที่เค้าชี้ก็ผ่านละครับ
2.ทดสอบปฏิกิริยาในการตอบสนอง
อันนี้เป็นการทดสอบการตอบสนองในการเหยียบเบรคครับ ก็คือ ให้เราเหยียบคันเร่งไปไฟเขียวด้านหน้าเราจะติด ประมาน 3-4 วินาที ไฟแดงจะขึ้น
เมื่อเปลี่ยนเป็นไฟแดง เราต้องเหยียบเบรคทันทีครับ โดยพอไฟแดงเริ่มติด จะมีไฟวิ่งขึ้นมาตามตัวเลข ถ้าไฟวิ่งขึ้นมาเกินตัวเลข 75 แล้วเรายังไม่เหยียบเบรค ถือว่าไม่ผ่านครับ ตั้งสติ ไฟแดงขึ้นปุ้บ เหยียบเบรคทันที ทันแน่นอน
3.ทดสอบการกะระยะ
เป็นการทดสอบการกะระยะที่ห่างไกลออกไป โดยจะให้มองไปที่ตู้ ตู้จะมีเสาสองแท่งสีขาว เสาด้านขวาเรา จะอยู่นิ่งๆขยับไม่ได้ ที่เราต้องทำคือการขยับเสาด้านซ้าย ให้มาพอดีกับเสาด้านขวาหรือห่างกันไม่เกิน 1 นิ้ว ก็กะระยะเอาพร้อมกับดูสีของเสาครับ ถ้าระยะใกล้เคียงกัน ไฟที่ส่องลงมากระทบเสา จะให้แสงที่เสาเป็นสีเดียวกันกับเสาด้านขวา กะระยะอาจจะยาก ใช้กะสีเอาก็ได้ครับ เลื่อนโดยการกดปุ่มสีเขียวที่แท่นกด ถ้าเลยก็กดปุ่มสีแดงให้มันถอยกลับ
เมื่อพร้อมแล้วปล่อยมือ ครูฝึกจะเช็คให้ ไม่เกิน 1 นิ้วก็ผ่านเลย
4.ทดสอบสายตาด้านข้าง
จะเป็นการไปนั่งที่โต้ะ คล้ายๆวัดสายตา โดยครูฝึกจะกดสวิทสีต่างๆ ให้ขึ้นมาที่บริเวณหางตาเราทั้งซ้ายและขวา เราจะต้องมองตรงไปข้างหน้า ห้ามเหลือบตามองด้านข้างเด็ดขาด ใช้หางตามองเท่านั้น ว่าสีที่ขึ้นมาเป็นสีอะไร
พอผ่านเสร็จครูฝึกจะอนุญาตให้เราเข้าห้องสอบได้ ตรงนี้เรียกได้ว่า มือสั่น ของจริง เพราะการสอบจริงในตอนแรกคิดว่าจะมีให้แก้ตัวถ้าเราพลาดแต่เค้าบอกว่า *สอบกากบาทตกครั้งเดียวกลับบ้านเลยครับ รอมาแก้ตัวใหม่อีก 3 วัน*
อารมณ์เปลี่ยนจากพรีเทสเลยครับ ที่แก้ตัวได้สามครั้ง สอบได้ชิลๆ ไม่ผ่านเอาใหม่ อันนี้ไม่ผ่านรอสามวัน ลางานมาใหม่ตั้งแต่เช้า ไม่สนุกแน่ๆครับ
ก็เลยทำอย่างจริงจังที่สุดในโลก ทำเสร็จแล้วก็ยังไม่กล้าดึงบัตรออกจากเครื่อง เพราะกลัวขึ้นมาเป็นสีแดง ตรงนี้ชี้ชะตาสุดๆจริงๆ เข้าไปไม่มีใครช่วยคุณได้แล้วตอนนั้นต้องใช้ทั้งจากที่เรียนมา อบรมมา และอ่านแนวข้อสอบมา ในห้องนี้ให้หมด
ผมใช้วิธีนับข้อเอาเลยครับก่อนลุกออก จะได้ทำใจรอ ว่าข้อที่เราไม่ชัวร์มีกี่ข้อ ผมทำไป 48 เว้นไว้ 2 ข้อ จากนั้นไล่ตั้งแต่ข้อแรกว่ามีข้อไหนบ้างที่ไม่มั่นใจ
นับเสร็จถึงกับสลดครับ เพราะมีข้อที่ไม่แน่ใจอยู่แล้ว 4 ข้อ รวมถึงอีกสองข้อที่เว้นไว้ เป็น 6 ถ้าทั้งหมดนี่ผิด ผมกลับบ้านมือเปล่าเลยครับ
นั่งทวนอยู่ซักพัก ปรับคำตอบไปๆมาๆ แล้วกลั้นหายใจ ดึงบัตรออกครับ !!!
ผลที่ออกมาคือ ขึ้นเป็นสีเขียวครับ !!!! ผ่านนนนนนนนนแล้ววววววววววววววววววว
ได้ 47/50 รีบดึงบัตรแล้วลุกออกมาเลยครับ ดีใจจนลืมดูเลยว่าผมตอบอะไรผิดไปบ้าง ตรงนี้เสียดายสุดๆ
หลังจากที่สอบผ่านทั้งหมดแล้วก็เป็นอันเสร็จสิ้นครับ แล้วก็เดินยิ้มหน้าบานออกมาที่ห้องแรกอีกครั้ง เพื่อยื่นผลสอบแล้วก็รอรับใบรับรองได้เลย ถึงตอนนี้ต้องใช้ สำเนาบัตรประชาชน+ใบรับรองแพทย์ครับ แล้วเค้าจะให้ซองน้ำตาลเรามาด้านในเป็น ใบรับรองจากสถาบันครับ ว่าเราผ่านการทดสอบและการอบรมแล้วจริง
ก็สามารถนำเอกสารชุดในซองน้ำตาลนี้ (ซึ่งจะมี ใบรับรองจากสถาบัน+ใบรับรองแพทย์ขอเราเอง+สำเนาบัตรประชาชนของเราเอง) ไปยื่นที่กรมขนส่งที่ไหนก็ได้เลยครับ เพื่อทำใบขับขี่ ก็หมดไปครับสำหรับวันนี้
วัน พฤ ที่ 23 กพ 2560
เมื่อไปถึงกรมขนส่งแล้ว (ของผมไปที่พระปะแดงนะครับ) ก็ยื่นเอกสาร บอกว่าเอาใบรับรองมายื่นเพื่อทำบัตร จนท ก็จะตรวจสอบ แล้วก็ให้เราไปรอชำระเงินค่าธรรมเนียม 205 บาท จากนั้นก็รอถ่ายรูปเพื่อทำบัตร ถ่ายรูปเสร็จก็เสร็จเรียบร้อยครับ ได้ใบขับขี่ไปใช้ ขับขี่ได้อย่างสบายใจอย่างถูกกฎหมาย ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆกันอีกต่อไป
โดยรวมแล้ว ก่อนหน้าที่จะผ่านตรงนี้มาผมเข้าใจว่าที่นี่จะปล่อยผ่านง่ายๆ เพราะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการทำใบขับขี่ทั่วๆไป แต่จริงๆแล้วไม่เลยครับ โอกาสที่จะโดนกลับมาแก้ตัวก็มีสูง ซึ่งวันที่ผมไปก็มีคนที่กลับมาแก้ตัวรวมอยู่ด้วยเช่นกัน ดังนั้นที่หลายๆคนคิดว่ามาจ่ายตังที่นี่เพื่อซื้อใบขับขี่นั้นไม่จริงเลยครับ เค้ามีการเทสมีการอบรมมีการทดสอบตามมาตรฐานของขนส่งเลย ถ้าทำไม่ได้ คุณไม่ได้ใบขับขี่แน่ๆ ในส่วนของการอบรม ก็อบรมด้วยใจ คำพูดที่ใช้กับผู้เข้ารับการอบรมคือด้วยความหวังดีทั้งนั้นครับ จะแฝงด้วยคำเตือนและข้อคิดตลอดเวลา ว่าสอนอะไรไปให้นำไปใช้ ด้วยเจตนาที่อยากลดจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนนลงจริงๆ ไม่ใช่แค่มาเพื่อขายใบขับขี่ให้เรา ถือว่าแก้ความเข้าใจผิดเรื่องมาจ่ายตังที่นี่เพื่อซื้อใบขับขี่ไปได้อย่างสิ้นเชิงเลยครับ ซึ่งจำนวนเงินที่จ่ายไปก็ไม่ทราบครับ ว่ามันแพงค่าอะไร ส่วนตัวเข้าใจว่ามันเป็นหลักสูตรการสอนขับด้วยครับ ซึ่งผมไม่ได้อยากเรียนขับ ก็เลยสอบเลย
จบแล้วครับ สำหรับการเข้าทำใบขับขี่กับ UPD ที่สาขาประชาอุทิศครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่คนที่กำลังหาข้อมูลเพื่อตัดสินใจเลือกวิธีที่จะไปทำใบขับขี่นะครับ สวัสดีครับ