สวัสดีครับ วันนี้จะพาไปดูลิงแช่ออนเซ็นที่ อุทยานลิงหิมะ จิโกกุดานิ (Jigokudani-地獄谷)
การเดินทางครั้งนี้ บรรยากาศและเรื่องราวระหว่างทางน่าตื่นเต้นไม่แพ้ปลายทางเลยครับ
รีวิวทั้งหมดของ Temmax ถูกรวมและเรียบเรียงข้อมูล เรื่องกิน เที่ยว
ไว้เป็นเรื่องเป็นราว เพื่อให้เพื่อนๆได้ติดตามและค้นข้อมูลได้ง่ายๆ ไว้แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ติดตามและส่องต่อได้ตาม Link นี้เลย
Facebook : http://www.facebook.com/tem.temmax
Website : http://www.tem-temmax.com
...
...
...
หนึ่งในภาพคุ้นตาเมื่อนึกถึงญี่ปุ่นคือภาพลิงแก้มแดง นั่งหน้าฟินๆแช่ออนเซ็น
คราวนี้เต็มแม็กซ์เลยจะพาไปดูลิงแช่ออนเซ็น ที่อุทยานลิงหิมะจิโกกุดานิ (Jigokudani-地獄谷) กันครับ
อุทยานแห่งชาติ Jigokudani หรือเรียกง่ายๆว่า Snow Monkey Park
ที่นี่เราจะได้เจอกับลิงกว่า 200 ตัวมาหาอาหารและแช่ออนเซ็นเพื่อคลายหนาวกันเป็นปกติ
บอกก่อนเลยว่าการเดินทางทางมาที่นี่ไม่ง่ายเลย แต่พอถึงจริงๆนอกจากจะฟินกับลิงแล้ว
วิวและบรรยากาศระหว่างทางนี่มันสุดยอดจริงๆ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง
ติดตามได้จากรูปและคลิปนะครับ ^^
ผมวางแผนการเดินทางผ่าน www.hyperdia.com ซึ่งจะบอกข้อมูล
ประกอบตารางเดินรถแบบอัพเดท ไว้อย่างละเอียด
เมื่อถึง Yudanaka Station (ฝากกระเป๋าที่นี่ได้) ก็นั่งรถบัสไปลงที่ Snow Monkey Park
แล้วเดินเท้าต่อเข้าไปในอุทยานครับ ขากลับก็ขึ้นรถบัสจาก Bus Stop A หรือ B
แล้วไปลงที่ Yudanaka Station (แต่ผมจะแวะเดินเล่นแถว Shibu Onsen สักหน่อย)
ที่จริงจาก JR Nagano สามารถนั่งรถบัส Kabanyashi Onsen มายัง Snow Monkey Park ได้เลย
แต่ผมจองที่พัก Ski Resort ไว้เลยต้องไป Yudanaka เพื่อฝากสัมภาระทั้งหมดก่อน
จะเห็นว่าการมาที่นี่ผมต้องเดินทางหลายต่อ ตอนวางแพลนนี่ทำใจไว้แล้ว
แต่ยังไม่รู้ชะตากรรมความลำบากกับการรับมือกับหิมะแบบจริงจัง
เพราะเครื่องแต่งกายไม่พร้อมเอาซะเลย (แถวบ้านเหยียบพื้น รองเท้าก็ละลายละครับ)
ระหว่างทางไปดูลิงเนี่ยใช้ใจล้วนๆ ฮ่าาาา
ผมออกเดินทางจาก Tokyo ตั้งแต่เช้า โมงเช้าด้วยรถไฟ Shinkansen ปลายทาง JR Nagano
กว่าจะหาวิธีขึ้นรถไฟได้ถูกขบวน วิ่งหากันซะเหงื่อแตก เพราะซ่าไปซื้อตู้ตั๋วผ่านตู้ครับ
(สรุปต้องซื้อตั๋ว + Express ถึงจะขึ้นรถได้ ต้องไปซื้อ express กับพนักงานเพิ่มอีกใบ)
ทริปนี้ตั้งใจมากๆ ว่าจะต้องมาสัมผัสหิมะให้ได้ เลยเลือกช่วงหิมะพีคๆ ปลายเดือนมกราคม
คือถ้ามาช่วงหน้าหนาวจะไม่เห็นใบไม้เลยครับ แล้วถ้าไม่เห็นหิมะอีก
ทุกอย่างคงดูซึมๆไปหมด เพราะต้นไม้เหลือแต่กิ่ง 5555
ที่โตเกียวหนาวอย่างเดียว พอเริ่มนั่งรถไฟไกลออกมาหิมะก็เริ่มหนาขึ้นๆ
ฉะนั้นความฟินเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่บนรถไฟเลยครับ นั่งมองวิวไปยิ้มไป ไม่รู้เป็นอะไร
นั่งมองเฉยๆก็ฟินได้ (ก็แถวบ้านไม่มีนี่นา)
บ้านหลังนี้ถูกล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ที่ผลัดใบเหลือแต่กิ่ง
คิดว่าถ้าเป็นฤดูอื่นที่มีสีเขียวล้อมรอบบ้าน คงสวยไปอีกแบบ
พื้นที่การเกษตรถูกปกคลุมด้วยหิมะไปหมด ตอนนี้คงเป็นช่วงพัก
เตรียมพร้อมสำหรับฤดูถัดไป
ภูเขาหิมะที่ดูเป็นขนๆ เพราะสีดำๆคือต้นไม้ ตัดกับหิมะที่สะสมอยู่บนพื้น
มองไปก็แปลกตาดีเหมือนกัน
มาถึง JR Nagano จะเจอป้ายไป Snow Monkey เต็มไปหมดครับ
ตอนนี้พับลายแทงที่หาไว้ เดินตามป้ายไปยังไงก็ได้เจอลิง ชัวร์!
จะนั่งรถไฟไป Yudanaka Station ต้องขึ้น Nagano Dentetsu Line ครับ
วิวระหว่างทางมันดีจริงๆ
แล้วผมก็มาถึง Yudanaka Station ประมาณ 10 โมง
ลงรถไฟแล้วเดินไปปลายชานชาลา ก็ได้ภาพมุมนี้มาครับ
หิมะหนานุ่มพองฟูทั่วบริเวณ
อย่าว่างั้นงี้เลย หิมะหนาวจริงๆ ถึงเวลาได้สัมผัสหิมะจริงๆแล้ววว
ออกจากชานชาลาจะมี Tourist Information อยู่ทางขวามือ สามารถสอบถามข้อมูลได้หมด
รวมทั้งสอบถามจุดฝากกระเป๋า ซึ่งเจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำได้ดี
เพราะแถวนี้มีที่เที่ยวที่ขึ้นชื่อเยอะมาก ทั้งสกีรีสอร์ทให้เล่น เช่น Nozawa, Ryuoo, หรือ Shigakogen
รวมทั้งเมืองออนเซ็นขึ้นชื่อ เช่น Shibu Onsen ที่ใกล้ Yudanaka
หรือ Kabanyashi Onsen ซึ่งใกล้ Snow Monkey Park
ผมเดินไปที่เคาท์เตอร์นี้เพื่อซื้อตั๋วรถบัส (เข้าใจว่าซื้อบนรถก็ได้)
แล้วรถบัสสาย Shigakogen Line ก็มาจอดรอเราพอดีครับ
อันนี้คือเส้นทางเดินรถของ Shigakogen Line ครับ
ระหว่างทางก็จะเจอกับแม่น้ำกลางเมือง วิวหมู่บ้าน และภูเขาแบบนี้
รถก็จะค่อยๆผ่าน Shibu Onsen ก่อนจะเลี้ยวขับพาขึ้นภูเขาไปครับ
แล้วรถก็พาจอดที่ Snow Monkey (Bus Stop A) ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยชี้บอกเส้นทาง
ไม่ต้องห่วงครับ 50% ของคนที่นั่งมาบนรถมีจุดหมายเดียวกันคือที่นี่ครับ
เส้นทางเดินเป็นถนนที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะที่ถูกอัดตัวเป็นน้ำแข็ง
...
...
...
ตอนนี้เริ่มรู้ชะตากรรมของตัวเองแล้ว
เพราะรองเท้าที่เอามาคือรองเท้าวิ่ง! หน้าตาแบบนี้เลย
คุณสมบัติของรองเท้านี้คือ กระชับ เดินสบาย วิ่งก็ได้
และที่สำคัญมีรูระบายอากาศรอบทิศทาง จะซ้าย-ขวา พื้นรองเท้าก็มีรูระบายอากาศอย่างดี
และยิ่งกว่านั้นคือ ลื่นตลอดทาง ไม่เกาะหิมะเลย จังหวะนี้คือตั้งสติใช้ใจล้วนๆ
เดินมาเรื่อยๆประมาณ 100 เมตร จะเจอกับ Kabanyashi Onsen Area
ซึ่งจะอยู่ใกล้กับ Snow Monkey Park ถ้าขึ้นรถ Kabanyashi Line ก็มาลงตรงนี้เลย
แต่ยังไม่ถึงนะครับ ค่อยๆเดินขึ้นถนนที่ลาดเอียงขึ้นไป
ซึ่งต้องเดินต่อไปอีก 1.8 Km ในป้ายจะมีลิงเล่นหิมะคอยหลอกล่อเราอยู่
...
...
...
ถึงจุดนี้เริ่มรู้ว่าต้องเลือกเหยียบหิมะที่ยังขาวๆฟูๆ จะลื่นน้อยกว่า
แต่ถ้ามันอัดเป็นน้ำแข็งแล้วจะลื่นสุดๆ
...
...
ตอนเอารองเท้ามาคิดแค่ว่าขอให้เดินสบายไม่กัด หนาวก็ใส่ถุงเท้าซ้อนไปจะได้อุ่น
แต่ที่ลืมคิดคือ ถึงจะซ้อนถุงเท้าให้อุ่นแค่ไหน หิมะก็ละลายซึมซาบซ่านอยู่ข้างใน
เดินไปนี่ได้ยินเสียงซวบๆๆๆ ตลอดเวลา
บรรยากาศระหว่างทางก็จะเป็นถนนแบบนี้ ต้องคอยหลบรถดีๆ
บางทีก็มีกองหิมะร่วงจากบนต้นไม้ สนุกไปอีกแบบ
...
...
จนถึงจุดนี้ ลื่นไปแล้ว 3 รอบครับ ลื่นแบบ Free Fall ควบคุมไม่ได้เลย 5555
เท้าก็ต้องเดิน รูปก็จะถ่าย หนาวก็หนาว ทุลักทุเลมากก้นดำไปหมดแล้วคับ
ลื่นล้มบ่อยๆ ค่อยๆรู้หลัก .. (ใช่เหรอ?)
เดินไปอีกหน่อยจะเจอกับทางเข้าอุทยาน Jigokudani หรือ Snow Monkey Park
และต้องเดินไปอีก 1.6 Km ครับ
จะมีร้านขายของที่ระลึก รวมถึงให้เช่ารองเท้าด้วย
ค่าเช่าอยู่ที่ 800-1300 เยน สามารถเช่าได้ครับ
...
...
...
แต่ผมไม่เช่าครับ เมื่อกี้เดินมาสักพักก็โอเคนี่ นี่แค่ 1.6 Km ทำไมจะไม่ไหว
ค่อยๆเดินไง คงไม่ต่างกันหรอก (ยังไม่เลิกซ่า)
// ตอนนั้นหนาวจนลืมคูณระยะทางไป-กลับ และสภาพเส้นทาง
เส้นทางก็จะเป็นหิมะปกคลุมตลอดทาง บางช่วงจะเห็นเจ้าหน้าที่พ่นไฟเพื่อละลายหิมะด้วย
ทางเดินพอจะเดินสวนกันได้ บางช่วงก็แคบไม่มีราวกั้น
ถ้าจะล้มก็ต้องเลือกดีๆ -,,- ด้านซ้ายก็ลาดลงภูเขา ด้านขวาก็คูน้ำเย็นเจี๊ยบ
เดินมาสักพักก็เจอกับวิวแรกที่ต้อนรับผมอยู่ กับบ้าน ต้นไม้ ลำธาร
คือแบบ โห ชอบ ชอบมากกกก เป็นวิวในอุดมคติ องค์ประกอบเป๊ะมากถ่ายยังไงก็สวย
เดินๆไปก็เจอกับลิงนั่งหน้านิ่งๆ ชมวิวอยู่ปลายกิ่งไม้
แล้วก็เจอทางเข้าอุทยาน ค่าเข้าคนละ 800 เยน พอผ่านประตูก็ต้องเดินต่อเข้าไปอีกครับ
...
...
...
เดี๋ยวมาต่อครับ
[CR] พาชม ลิงแช่ออนเซ็นที่อุทยานลิงหิมะ จิโกกุดานิ (Jigokudani-地獄谷)
การเดินทางครั้งนี้ บรรยากาศและเรื่องราวระหว่างทางน่าตื่นเต้นไม่แพ้ปลายทางเลยครับ
รีวิวทั้งหมดของ Temmax ถูกรวมและเรียบเรียงข้อมูล เรื่องกิน เที่ยว
ไว้เป็นเรื่องเป็นราว เพื่อให้เพื่อนๆได้ติดตามและค้นข้อมูลได้ง่ายๆ ไว้แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
...
...
...
หนึ่งในภาพคุ้นตาเมื่อนึกถึงญี่ปุ่นคือภาพลิงแก้มแดง นั่งหน้าฟินๆแช่ออนเซ็น
คราวนี้เต็มแม็กซ์เลยจะพาไปดูลิงแช่ออนเซ็น ที่อุทยานลิงหิมะจิโกกุดานิ (Jigokudani-地獄谷) กันครับ
อุทยานแห่งชาติ Jigokudani หรือเรียกง่ายๆว่า Snow Monkey Park
ที่นี่เราจะได้เจอกับลิงกว่า 200 ตัวมาหาอาหารและแช่ออนเซ็นเพื่อคลายหนาวกันเป็นปกติ
บอกก่อนเลยว่าการเดินทางทางมาที่นี่ไม่ง่ายเลย แต่พอถึงจริงๆนอกจากจะฟินกับลิงแล้ว
วิวและบรรยากาศระหว่างทางนี่มันสุดยอดจริงๆ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง
ติดตามได้จากรูปและคลิปนะครับ ^^
ผมวางแผนการเดินทางผ่าน www.hyperdia.com ซึ่งจะบอกข้อมูล
ประกอบตารางเดินรถแบบอัพเดท ไว้อย่างละเอียด
เมื่อถึง Yudanaka Station (ฝากกระเป๋าที่นี่ได้) ก็นั่งรถบัสไปลงที่ Snow Monkey Park
แล้วเดินเท้าต่อเข้าไปในอุทยานครับ ขากลับก็ขึ้นรถบัสจาก Bus Stop A หรือ B
แล้วไปลงที่ Yudanaka Station (แต่ผมจะแวะเดินเล่นแถว Shibu Onsen สักหน่อย)
ที่จริงจาก JR Nagano สามารถนั่งรถบัส Kabanyashi Onsen มายัง Snow Monkey Park ได้เลย
แต่ผมจองที่พัก Ski Resort ไว้เลยต้องไป Yudanaka เพื่อฝากสัมภาระทั้งหมดก่อน
จะเห็นว่าการมาที่นี่ผมต้องเดินทางหลายต่อ ตอนวางแพลนนี่ทำใจไว้แล้ว
แต่ยังไม่รู้ชะตากรรมความลำบากกับการรับมือกับหิมะแบบจริงจัง
เพราะเครื่องแต่งกายไม่พร้อมเอาซะเลย (แถวบ้านเหยียบพื้น รองเท้าก็ละลายละครับ)
ระหว่างทางไปดูลิงเนี่ยใช้ใจล้วนๆ ฮ่าาาา
ผมออกเดินทางจาก Tokyo ตั้งแต่เช้า โมงเช้าด้วยรถไฟ Shinkansen ปลายทาง JR Nagano
กว่าจะหาวิธีขึ้นรถไฟได้ถูกขบวน วิ่งหากันซะเหงื่อแตก เพราะซ่าไปซื้อตู้ตั๋วผ่านตู้ครับ
(สรุปต้องซื้อตั๋ว + Express ถึงจะขึ้นรถได้ ต้องไปซื้อ express กับพนักงานเพิ่มอีกใบ)
ทริปนี้ตั้งใจมากๆ ว่าจะต้องมาสัมผัสหิมะให้ได้ เลยเลือกช่วงหิมะพีคๆ ปลายเดือนมกราคม
คือถ้ามาช่วงหน้าหนาวจะไม่เห็นใบไม้เลยครับ แล้วถ้าไม่เห็นหิมะอีก
ทุกอย่างคงดูซึมๆไปหมด เพราะต้นไม้เหลือแต่กิ่ง 5555
ที่โตเกียวหนาวอย่างเดียว พอเริ่มนั่งรถไฟไกลออกมาหิมะก็เริ่มหนาขึ้นๆ
ฉะนั้นความฟินเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่บนรถไฟเลยครับ นั่งมองวิวไปยิ้มไป ไม่รู้เป็นอะไร
นั่งมองเฉยๆก็ฟินได้ (ก็แถวบ้านไม่มีนี่นา)
บ้านหลังนี้ถูกล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ที่ผลัดใบเหลือแต่กิ่ง
คิดว่าถ้าเป็นฤดูอื่นที่มีสีเขียวล้อมรอบบ้าน คงสวยไปอีกแบบ
พื้นที่การเกษตรถูกปกคลุมด้วยหิมะไปหมด ตอนนี้คงเป็นช่วงพัก
เตรียมพร้อมสำหรับฤดูถัดไป
ภูเขาหิมะที่ดูเป็นขนๆ เพราะสีดำๆคือต้นไม้ ตัดกับหิมะที่สะสมอยู่บนพื้น
มองไปก็แปลกตาดีเหมือนกัน
มาถึง JR Nagano จะเจอป้ายไป Snow Monkey เต็มไปหมดครับ
ตอนนี้พับลายแทงที่หาไว้ เดินตามป้ายไปยังไงก็ได้เจอลิง ชัวร์!
จะนั่งรถไฟไป Yudanaka Station ต้องขึ้น Nagano Dentetsu Line ครับ
วิวระหว่างทางมันดีจริงๆ
แล้วผมก็มาถึง Yudanaka Station ประมาณ 10 โมง
ลงรถไฟแล้วเดินไปปลายชานชาลา ก็ได้ภาพมุมนี้มาครับ
หิมะหนานุ่มพองฟูทั่วบริเวณ
อย่าว่างั้นงี้เลย หิมะหนาวจริงๆ ถึงเวลาได้สัมผัสหิมะจริงๆแล้ววว
ออกจากชานชาลาจะมี Tourist Information อยู่ทางขวามือ สามารถสอบถามข้อมูลได้หมด
รวมทั้งสอบถามจุดฝากกระเป๋า ซึ่งเจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำได้ดี
เพราะแถวนี้มีที่เที่ยวที่ขึ้นชื่อเยอะมาก ทั้งสกีรีสอร์ทให้เล่น เช่น Nozawa, Ryuoo, หรือ Shigakogen
รวมทั้งเมืองออนเซ็นขึ้นชื่อ เช่น Shibu Onsen ที่ใกล้ Yudanaka
หรือ Kabanyashi Onsen ซึ่งใกล้ Snow Monkey Park
ผมเดินไปที่เคาท์เตอร์นี้เพื่อซื้อตั๋วรถบัส (เข้าใจว่าซื้อบนรถก็ได้)
แล้วรถบัสสาย Shigakogen Line ก็มาจอดรอเราพอดีครับ
อันนี้คือเส้นทางเดินรถของ Shigakogen Line ครับ
ระหว่างทางก็จะเจอกับแม่น้ำกลางเมือง วิวหมู่บ้าน และภูเขาแบบนี้
รถก็จะค่อยๆผ่าน Shibu Onsen ก่อนจะเลี้ยวขับพาขึ้นภูเขาไปครับ
แล้วรถก็พาจอดที่ Snow Monkey (Bus Stop A) ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยชี้บอกเส้นทาง
ไม่ต้องห่วงครับ 50% ของคนที่นั่งมาบนรถมีจุดหมายเดียวกันคือที่นี่ครับ
เส้นทางเดินเป็นถนนที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะที่ถูกอัดตัวเป็นน้ำแข็ง
...
...
...
ตอนนี้เริ่มรู้ชะตากรรมของตัวเองแล้ว
เพราะรองเท้าที่เอามาคือรองเท้าวิ่ง! หน้าตาแบบนี้เลย
คุณสมบัติของรองเท้านี้คือ กระชับ เดินสบาย วิ่งก็ได้
และที่สำคัญมีรูระบายอากาศรอบทิศทาง จะซ้าย-ขวา พื้นรองเท้าก็มีรูระบายอากาศอย่างดี
และยิ่งกว่านั้นคือ ลื่นตลอดทาง ไม่เกาะหิมะเลย จังหวะนี้คือตั้งสติใช้ใจล้วนๆ
เดินมาเรื่อยๆประมาณ 100 เมตร จะเจอกับ Kabanyashi Onsen Area
ซึ่งจะอยู่ใกล้กับ Snow Monkey Park ถ้าขึ้นรถ Kabanyashi Line ก็มาลงตรงนี้เลย
แต่ยังไม่ถึงนะครับ ค่อยๆเดินขึ้นถนนที่ลาดเอียงขึ้นไป
ซึ่งต้องเดินต่อไปอีก 1.8 Km ในป้ายจะมีลิงเล่นหิมะคอยหลอกล่อเราอยู่
...
...
...
ถึงจุดนี้เริ่มรู้ว่าต้องเลือกเหยียบหิมะที่ยังขาวๆฟูๆ จะลื่นน้อยกว่า
แต่ถ้ามันอัดเป็นน้ำแข็งแล้วจะลื่นสุดๆ
...
...
ตอนเอารองเท้ามาคิดแค่ว่าขอให้เดินสบายไม่กัด หนาวก็ใส่ถุงเท้าซ้อนไปจะได้อุ่น
แต่ที่ลืมคิดคือ ถึงจะซ้อนถุงเท้าให้อุ่นแค่ไหน หิมะก็ละลายซึมซาบซ่านอยู่ข้างใน
เดินไปนี่ได้ยินเสียงซวบๆๆๆ ตลอดเวลา
บรรยากาศระหว่างทางก็จะเป็นถนนแบบนี้ ต้องคอยหลบรถดีๆ
บางทีก็มีกองหิมะร่วงจากบนต้นไม้ สนุกไปอีกแบบ
...
...
จนถึงจุดนี้ ลื่นไปแล้ว 3 รอบครับ ลื่นแบบ Free Fall ควบคุมไม่ได้เลย 5555
เท้าก็ต้องเดิน รูปก็จะถ่าย หนาวก็หนาว ทุลักทุเลมากก้นดำไปหมดแล้วคับ
ลื่นล้มบ่อยๆ ค่อยๆรู้หลัก .. (ใช่เหรอ?)
เดินไปอีกหน่อยจะเจอกับทางเข้าอุทยาน Jigokudani หรือ Snow Monkey Park
และต้องเดินไปอีก 1.6 Km ครับ
จะมีร้านขายของที่ระลึก รวมถึงให้เช่ารองเท้าด้วย
ค่าเช่าอยู่ที่ 800-1300 เยน สามารถเช่าได้ครับ
...
...
...
แต่ผมไม่เช่าครับ เมื่อกี้เดินมาสักพักก็โอเคนี่ นี่แค่ 1.6 Km ทำไมจะไม่ไหว
ค่อยๆเดินไง คงไม่ต่างกันหรอก (ยังไม่เลิกซ่า)
// ตอนนั้นหนาวจนลืมคูณระยะทางไป-กลับ และสภาพเส้นทาง
เส้นทางก็จะเป็นหิมะปกคลุมตลอดทาง บางช่วงจะเห็นเจ้าหน้าที่พ่นไฟเพื่อละลายหิมะด้วย
ทางเดินพอจะเดินสวนกันได้ บางช่วงก็แคบไม่มีราวกั้น
ถ้าจะล้มก็ต้องเลือกดีๆ -,,- ด้านซ้ายก็ลาดลงภูเขา ด้านขวาก็คูน้ำเย็นเจี๊ยบ
เดินมาสักพักก็เจอกับวิวแรกที่ต้อนรับผมอยู่ กับบ้าน ต้นไม้ ลำธาร
คือแบบ โห ชอบ ชอบมากกกก เป็นวิวในอุดมคติ องค์ประกอบเป๊ะมากถ่ายยังไงก็สวย
เดินๆไปก็เจอกับลิงนั่งหน้านิ่งๆ ชมวิวอยู่ปลายกิ่งไม้
แล้วก็เจอทางเข้าอุทยาน ค่าเข้าคนละ 800 เยน พอผ่านประตูก็ต้องเดินต่อเข้าไปอีกครับ
...
...
...
เดี๋ยวมาต่อครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น