สวัสดีค่ะ แนะนำตัวเพื่อนๆ เหล่าคุณแม่นิดนึงค่ะ

เราเป็นคุณแม่มือใหม่ค่ะ กำลังตั้งท้องลูกคนแรก ไปตั้งแต่ท้อง 7 เดือน ตอนนี้ก็ 8 เดือนแล้วค่ะ
จริงๆ เราเขียนกระทู้ช้ามากค่ะ เพราะงานมีตั้งแต่วันที่ 21ม.ค.59
แต่เรามีความกิจเยอะค่ะ เขียนๆ พักๆ ตามความเหนื่อยและความฮึดอยากเขียนต่อในแต่ละวันค่ะ 555555

เขียนเพราะอยากรีวิวคุณแม่มือใหม่ที่ที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ดีไหม หรือเลี้ยงด้วยนมแม่นานเท่าไหร่ เพราะก่อนหน้านี้เราเองก็ลังเลอยู่มาก เพราะสถาณการณ์ตอนนี้กำลังจะเข้าข่าย Single Mom ด้วย ไหนจะต้องทำงาน ไหนจะต้องเตรียมคลอด เรียกว่าพิจารณาข้อมูลหลายทางมาก จินตนาการถึงค่าใช้จ่ายทุกวันเลยทีเดียว 5555
นอกจากจะท้องลูกคนแรกแล้ว นี่ก็ยังเป็นกระทู้แรกด้วยค่ะ ผิดพลาดตรงไหน หรือใช้ภาษาไม่เหมาะสมยังไง รบกวนแนะนำด้วยนะคะ

โอเคเริ่ม!

เริ่มจากเหตุผลที่จะไปงานนี้ก่อนค่ะ
สำหรับคุณแม่ที่กำลังลังเลว่าจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ดีไหม สะดวกไหม ต้องเลี้ยงนานเท่าไหร่ จัดเก็บอย่างไร ลูกกินนมเยอะแค่ไหน นมจะพอไหม มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง (นี่สำคัญ) ประมาณนี้ เรียกว่า.. แทบจะมี ? ในทุกภาคส่วนเลยล่ะค่ะ 55555
อันที่จริงเราก็มีการ search หาข้อมูลใน Internet บ้าง ตามเพจที่เค้าพูดถึงนมแม่บ้าง จนเราไปเจอโพสต์อีเวนท์นี้จากเพจ “นมแม่แฮปปี้” ค่ะ รายละเอียดคร่าวๆ คือ.. มีส่วนที่เจ้าของเพจนี้จะไปแชร์เรื่องเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การดูแลตัวเอง มีคลาสโยคะย่อยๆ และ.... โปรโมชั่นเยอะมากกกก เราเลยสมัครเข้าร่วมอีเวนท์นี้ด้วยค่ะ

ก็จ่ายค่าลงทะเบียนไป 3,500 บาทไทย จริงๆ เค้ามีสำหรับผู้ติดตาม 1,000 บาทนะคะ แต่ในส่วนของ Single Mom สวยๆ อย่างเรา.. ไปคนเดียวค่าาา มั่นมากกกก 55555

พอเข้ามาถึงงานบรรยากาศน่ารักมาก งานเป็นธีมแบบขาวชมพูดูฟรุ้งฟริ้ง เหมาะกับแม่ๆอย่างเรามากกก ที่จริงเขามีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปเยอะมาก  แต่เราไปคนเดียวก็เงอะๆงะๆ ไม่กล้าไปเซลฟี่คนเดียวเลยถ่ายมานิดหน่อย #มีความเขิน 555555

จากนั้นเดินไปโต๊ะลงทะเบียน แล้วพอลงชื่อเขาก็จะแจกแฟ้มมาให้ ข้างในก็จะมีกระดาษไว้ให้เราจด ปากกา และใบเกร็ดความรู้ทั่วไปที่แม่ๆควรรู้ เช่น ผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อแม่ๆขณะตั้งท้องไรงี้ ..อันนี้ก็เป็นธรรมดาเวลามางานสัมนาใช่ไหมคะ
แต่ความดีงามมันอยู่ตรงนี้ค่ะ ในแฟ้มมีแนวเอกสารตารางปั้มนม อันนี้คือสวยงามพระรามพระลักษณ์มากๆค่ะ

ยังค่ะ ยังไม่เข้างาน ขออุ้มท้องเดินโฉบบูธหน้างานแปปนึง เพราะโอ้โห โปรเยอะมาก ในส่วนของการเป็นคุณแม่สายคำนวนเงินนี่แบบดีดเครื่องคิดเลขจนมือเป็นระวิงยั่งกะอั้มในโฆษณาสัญญาณโทรศัพท์กังหันสีฟ้าเลยล่ะค่ะ 55555555
เอาล่ะค่ะ เดี๋ยวจะเวิ่นเว้อเกินไป ขอตัดภาพมาที่สาระที่เราอยากแชร์เลยดีกว่าค่ะ
อย่างที่บอกในตอนแรกว่าเราตามอีเวนท์ขี้มาจากเพจ นมแม่แฮปปี้ จริงๆ ก็ตั้งใจมาฟังคุณบี (แอดมินเพจนมแม่แฮปปี้นี่แหละค่ะ)
ขอแชร์ที่เลคเชอร์มาฝากแม่ๆ ตามนี้นะคะ ^^
หลักๆก็จะพูดถึงประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งเราก็รู้ๆ กันหลวมๆ คร่าวๆ อยู่แล้วว่าในนมแม่มีโปรตีน วิตามินมากมายหลายอย่าง ที่มากกว่านมผงราคาแพง

แต่ก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่า

“ในนมแม่จะมีสารที่ช่วยเข้าไปเคลือบช่องปาก ลำคอ และกระเพราะของลูกเพื่อป้องกันการติดเชื้อ”

ถ้าลูกได้รับนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดจะทำให้ลูกเราได้รับภูมิต้านทานไปด้วย ระบบขับถ่ายของลูกน้อยก็จะดีไม่มีปัญหาท้องผูกเหมือนกับกินนมสำเร็จรูป ถ้าเราให้นมแม่เราไม่จำเป็นต้องให้นมผงเสริมเลยค่ะเพราะในนมแม่มีประโยชน์ครบถ้วนตามที่ลูกต้องการ
(มีบางยี่ห้อที่เคลมว่านมแบรนด์ของตนมีประโยชน์เทียบเท่านมแม่ ซึ่งคุณบีบอกว่าไม่มีนมไหนจะสามารถเทียบเท่านมแม่ได้)
บอกตรงนี้เลยว่า.. ก่อนหน้านี้ เราเข้าใจจริงๆ ว่าไอ่สารอาหารที่ชื่อฟังยากๆ ทั้งหลายที่นมผงพูดกันว่ามีนู้นนี่ เราเข้าใจว่านมแม่ไม่มี และถ้าเราเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ คงต้องกินนมผงเสริมอีกที พอได้ยินแล้วอยากเขกกะโหลกในความเข้าใจผิดของตัวเอง อารมณ์แบบ #ความรู้เจ้ายังด้อยเร่งศึกษา จริงๆค่ะ ><
และข้อดีอีกอย่างหนึ่งก็คือลูกจะได้รับความอบอุ่นจากอกแม่ ทำให้ลูกรู้สึกปลอดภัย เวลานี้คือเวลาทองของแม่ๆที่จะได้ใกล้ชิดกับลูกและมอบความรักให้ลูกมากที่สุด

ฟังข้อนี้แล้วเจ้าตัวเล็กก็ถีบท้องใหญ่เลยค่ะ ไม่รู้ว่าฟังรู้เรื่องป่าว 555555555555
ถึงตอนนี้เราเริ่มมั่นใจละว่า แม่จะเลี้ยงหนูด้วยนมแม่น๊าาา >3<

ทีนี้ก็มาถึงปัญหาที่เรากลัวมากๆ เรื่องนึงค่ะ ที่คุณแม่หลายคนคงรุ้สึกกลัวอยู่เหมือนกันคือ เรากลัวน้ำนมไม่พอ น้ำนมน้อยค่ะ
เรื่องนี้คุณบีก็มีพูดถึงการแนะนำวิธีทำยังไงให้มีน้ำนมเยอะๆ
เราอาจจะเคยได้ยินมาจากบรรดาแม่และยายของเราว่าถ้าอยากให้น้ำนมมาเยอะๆ ต้องห้ามกินน้ำเย็น และให้กินขิง หัวปลี แกงเลียงอะไรพวกนี้ แต่พอมาฟังบรรยายก็รู้ซึ้งว่า ของพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการทำให้น้ำนมเราเยอะแต่อย่างใด แต่เป็นเพียงวิธีที่ทำให้น้ำนมเรามาเร็วขึ้นเท่านั้นค่ะ
...เอาอีกแล้ววววว #ความรู้เจ้ายังด้อยเร่งศึกษา จริงๆค่ะ ><

แล้วความเข้าใจผิดๆของแม่ๆ อย่างเช่น ให้นมแม่แล้วต้องให้ลูกกินน้ำไปด้วย
อันนี้ตั้งแต่เล้กจนโตเวลาเห็นพี่ ป้า น้า อา เลี้ยงเด็กก็จะมีขวดนม 2 ขวดใช่ไหมคะ
ขวดนม 1 ขวด , ขวดน้ำ 1 ขวด
คุณบีบอกว่าอันที่จริงในนมแม่นั้นเต็มไปด้วยประโยชน์และมีน้ำผสมอยู่ด้วย เรียกว่ากลมกล่อม พอดีมีประโยชน์พอดีแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเพิ่มน้ำให้ลูกแต่อย่างใดค่ะ
และมีคุณแม่บางคนบอกว่าตอนให้นมลูกห้ามกินไข่ชะอม เพราะชะอมทำให้น้ำนมไม่ไหล แต่คุณบีบอกว่าอันที่จริงแล้วชะอมไม่ผิด แต่ที่ผิดคือไข่เจียว เพราะของมันๆ ทั้งหลายจะไปอุดตันท่อน้ำนมทำให้มันไหลออกมาไม่ได้ ...อื้อหืออออ ถ้าต้องงดกินมันนี่ รับรองหลังคลอดหุ่นกลับมาเร็วแน่นอน เรื่องงดกินมันนี่ถ้าเป็นภาวะปรกตินี่เราทำไม่ได้แน่นอน แต่วันนี้รู้แล้วว่า เราทำได้ เราต้องทำให้ได้! มุ่นมั่นมากค่ะจุดนี้

แล้วก็มีพูดถึงเรื่องวิธีแยกแยะเสียงร้องไห้ของลูก ร้องแบบนี้แปลว่าหิวนม แบบนี้แปลว่าไม่สบายตัว แล้วแก้ไขยังไง.. อันนี้อธิบายยากอ่ะ เราไม่ได้อัดเสียงมา ><
แล้วก็พูดไปถึงเรื่องของการอุ้มลูกยังไง คือมันดีมากอ่ะ เราอาจจะเจอความรู้พวกนี้ตามเพจหรือเว็บไซต์ทั่วไป แต่การมาฟังบรรยายครั้งนี้คือเราได้ปฏิบัติจริงด้วย ได้ลองอุ้มจริงๆ มันดีตรงนี้
นอกจากวิธีการอุ้มลูกแล้ว ใน workshop ก็จะมีวิธีบีบนม นวดนม การรีดน้ำนมด้วยมือ หรือการปั้มนมจากเครื่องของ Brusta เองด้วย คืออ่านเองแล้วอาจจะทำตามไม่ถูกไง แต่นี้เขาสอนตัวต่อตัวเลยอ่ะ แทบจะเรียกว่าจับมือทำเลย แล้วแบบเราที่ไปงานคนเดียวทีมงานก็เข้ามาดูแล support คือดีย์มากน้ำตาจะไหล ขออนุญาติขอบคุณจากใจมากๆ ตรงนี้เลยค่ะ ^^
โดยเฉพาะช่วยที่สอนรีดน้ำนม ...เราเล็งเห็นเลยว่าชีวิตขุ่นแม่จะไม่ง่ายแล้ว เพราะดูเหมือนต้องฝึกฝนเพื่อควบคุมทิศทางอยู่พอควร ทำจริง มีเลอะเทอะแน่นอน และคงเมื่อยมากกกกกก เราเลยว่า โอเค ไหนๆ อะไรๆ มันจะยากไปซะหมด ของ่ายเรื่องนึงแล้วกัน ใช้เครื่องปั้มนมน่าจะง่ายกว่า สะดวกกว่า เราต้องเลี้ยงลูกและทำงาน ไม่น่าจะมีเวลาเยอะ เพราะเท่าที่ดูรีวิวคุณแม่มือใหม่ เวลาจะนอนยังหายาก ขอเซฟเวลาไปนอนน่าจะโอเคกว่า

และหลังจากที่ลองเล่นเครื่องปั้มนมของ Brusta ดู นอกจากจะปรับระดับการปั้มได้ถึง 9 ระดับ แล้ว ยังมีโหมดรีดน้ำนมค้างเต้าด้วย น่าจะครบถ้วนที่ต้องการละ
แล้วในงานเองก็ลดราคาอีก 2,000 บาท จาก 9,500 บาท เหลือ 7,500 บาท
จากที่ฟังงานวันนี้ เราวางแผนจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยาวๆ เลย 2 ปี ตามระยะเวลาประกันของเครื่องเลยทีเดียว ลองคำนวนดูก็เสียประมาณ 312.5 บาท แล้วก็น่าจะมีเพิ่มอีกนิดหน่อยคือถุงเก็บน้ำนม

โอเคคำนวนมาถึงจุดนี้แล้ว เราว่าแค่ค่าใช้จ่ายก็ประหยัดกว่าเลี้ยงลูกด้วยนมผงแล้ว
ไหนยังจะประโยชน์เยอะแยะทั้งด้านสุขภาพ สมอง และพัฒนาการนู้นอีก คุ้มกว่ากันเยอะค่ะ
เพราะงั้นถ้าคุณแม่ๆ ทั้งหลายที่ทั้งลังเลว่าจะเอายังไงดี เลี้ยงลูด้วยนมแม่ดี หรือนมผงดี
หรือกำลังดีดตัวเลขคำนวนค่าใช้จ่ายหลังคลอด เราขออนุญาติเป็นอีกเสียงที่ยืนยันเลยว่า เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เถอะค่ะ ดีกว่าเยอะ ประหยัดกว่าเยอะ เรายังมีค่าใช้จ่ายข้างหน้าอีกเยอะ ^^

ขอกลับเข้ามาที่อีเวนท์นิดนึงค่ะ สั้นๆ ละ เพราะเราง่วงละ 555555
ช่วงบ่ายแม่ๆก็จะแบ่งเป็นกลุ่มๆ ไปถ่ายรูปครอบครัวและไปเรียนโยคะค่ะ
คือตอนเรียนโยคะสำหรับแม่ๆ กับครูหนิงอ่ะดีมากเลย ช่วยแก้อาการปวดหลังได้เยอะเลย อันนี้มีความสุขมากกกกกก ทั้งฝึกการหายใจ และท่าขยายเชิงกรานเพื่อให้คลอดง่าย
    เสร็จแล้วก็ไปถ่ายรูปครอบครัวโดย FullFrame Studio อิฉันก็ถ่ายเดี่ยวเกร๋ๆ เก็บไว้ให้ลูกดูว่าตอนแม่ท้องแม่สวยแค่ไหน (รูปเขาจะส่งมาให้ที่บ้านเลย ตอนนี้อยากเห็นรูปแล้ว ว่าจะออกมาเป็นยังไง อิอิ)

แต่ค่ะ ยังไม่จบความคุ้มของอีเวนท์ Brusta baby shower 2017 เพียงเท่านี้นะคะ
ในตอนท้ายก่อนจะปิดงานทางผู้จัดรวมกับสปอนต์เซอร์ยังมี Goody bag มามอบให้แม่ๆทุกคนอีกด้วย อันนี้คือดีงามมากเป็นของที่แม่ๆได้ใช้แน่นอน ถือว่าคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มอีก ณ จุดๆนี้
เราขอสรุปรีวิวแบบรวบรัดเลยนะคะ สำหรับข้อสงสัยของเราก่อนเข้ามาจอยอีเวนท์ครั้งนี้
สำหรับคุณแม่ที่กำลังลังเลว่าจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ดีไหม?
- ดีที่สุดสำหรับลูกของเราค่ะ ทั้งเรื่องของสุขภาพลูก พัฒนาการลูก และกระเป๋าตังค์คุณแม่เอง

สะดวกไหม?
- จากการ workshop แล้ว.. #คหสต เลยนะคะ
ถ้าเรารีดน้ำนมเอง อันนี้เราว่าก็ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ค่ะ ยิ่งสกิลอย่างเราแล้วไม่น่าจะสะดวกเลยค่ะ เลยจัดการซื้อเจ้าเครื่องปั้มนมในงานของ Brusta มาเรียบร้อยค่ะ
คือนอกจากที่เราลองเล่นแล้วฟังชันก์เราว่าครบถ้วนดีงาม ปั้มได้ 2 ระบบด้วย คือนอกจากปั๊มนมโหมดปกติที่สามารถเลือกว่าแรงของการปั๊มได้แล้ว จบปุ๊บ ก็กดโหมดรีดน้ำนมค้างเต้า 2 สเต็ป จบ! ...โอเค ไม่งง ถือว่าผ่าน 555555
แล้วเราชอบมากตรงประกัน 2 ปีนี่แหละ แล้วประกันเค้านับจากวันที่เราคลอดด้วย ถ้าคลอดแล้วค่อยซื้อก็นับจากวันซื้อด้วย เรียกว่าใช้มันส์ไม่กลัวพังแน่ๆ 55555

ควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นานเท่าไหร่?
-  จริงๆ เค้าแนะนำ 6 เดือนขึ้นไปค่ะ แต่เราคิดว่าจะเลี้ยง 2 ปีค่ะ (ถ้าลูกจะยังกินนะ 555)
ส่วนตอนที่จะเปลี่ยนให้ทานอาหารอ่อน ก็ได้ทริคมาแล้วค่ะว่าให้เริ่มจากผสมนมแม่ในอาหาร ลูกจะทานง่ายขึ้นด้วย

-    ต้องให้นมมากเท่าไหร่?
อันนี้เราสงสัยมากค่ะ ว่าถ้าให้นมลูกเราต้องให้เท่าไหร่ ไม่มากไม่น้อยไป แบบไหนที่พอดี คุณบีบอกว่าในตอนแรกเกิดลูกจะมีความอยากอยู่กับแม่ให้มากที่สุด ไม่ยอมละออกจากเต้าแม่เลย เลยอาจจะดูเหมือนอยากดูดนมตลอดเวลา คุณแม่เลยอาจจะรู้สึกว่าน้ำนมไม่พอหรือปล่าว? อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ เค้าให้ดูว่าลูกอุจจาระเกินปริมาณ อุจจาระมากกว่า 2 ครั้ง ปัสสาวะมากกว่า 6 ครั้งต่อวัน ก็ถือว่าโอเคค่ะ
แล้วก็ได้ทริกมาอีกว่า ถ้าเราปั๊มนมออกมาเยอะไปก็สามารถเอามาให้ลูกแช่ทำสปาน้ำนมให้ลูกได้เก๋ๆ
แต่เดี๋ยวก่อน ไม่ได้เก๋อย่างเดียวนะคะ น้ำนมแม่มีภูมิต้านทานค่ะ เพราะงั้นจะช่วยให้ผิวของลูกแข็งแรงขึ้นด้วย!! เค้าว่างั้นอ่ะนะ

ที่เลคเชอร์มาได้จากงาน Brusta baby shower 2017 ก็มีประมาณนี้
เป็นกำลังใจให้คุณแม่ที่ตั้งใจอยากเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นะคะ ตอนที่หาข้อมูลเยอะๆ เราเคยอ่านมา ว่า 95% ของคุณแม่อยากเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน แต่คนที่ทำสำเร็จจริงๆ คือ 15% เท่านั้น
เรามาเป็น 1 ใน 15% นั้นไปด้วยกันนะคะ จุดๆ นี้ตื่นเต้นมาก