เคยอ่านเจอหลายกระทู้ พูดถึงการทำ IUI ด้วยเทคนิคทางการแพทย์ หลากหลายวิธี..
อาจจะด้วยเทคนิคของคุณหมอแต่ละคนไม่เหมือนกัน หรืออาจจะขึ้นอยู่กับสภาวะร่างกายของว่าที่คุณแม่แต่ละคนที่แตกต่าง ทำให้คุณหมอเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด ที่แตกต่างกันออกไป (อันนี้ไม่มั่นใจนะ)
แต่เราก็เป็นคนหนึ่ง ที่ผ่านการทำ IUI มาถึง 3 ครั้ง และสำเร็จ ได้น้องแฝดมาเป็นครั้งที่ 3 เห้ออออออออออ...... สิ้นสุดการรอคอยกะเค้าสักที
เราเลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ที่เราได้พบเจอมากับเพื่อนๆ ชาวพันทิปนะคะ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับว่าที่คุณแม่หลายๆๆ คน ที่กำลังรอคอยเด็กน้อยกันอยู่
การทำ IUI ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล หรือน่ากลัวอย่างที่คิดเลยค่ะ
การทำ IUI คือ การฉีดเชื้อเข้าสู้โพรงมดลูกโดยตรง จะเป็นวิธีที่เพิ่มโอกาสของการตั้งครรภ์และเหมือนธรรมชาติที่สุดตรงที่ ตัวเชื้อที่แข็งแรงจะว่ายเข้าไปเจาะไข่เอง แตกต่างจากการมีเพศสัมพันธ์ปกติ อวัยวะของผู้ชายจะได้ลึกสุดแค่ ช่องคลอด แล้วเชื้อจะต้องเดินทางไกล กว่าจะถึงไข่ กว่าจะเจาะไข่ได้ บางตัวก็สิ้นใจซ่ะกลางทาง บางตัวก็ว่ายผิดทาง ยิ่งถ้าฝ่ายชายมีปริมาณเชื้อน้อยด้วยแล้ว โอกาสที่จะสำเร็จก็จะยากขึ้นไปด้วยค่ะ
หลังจากตัดสินใจคุยกับคุณหมอเป็นที่เรียบร้อย ขั้นตอนแรกคุณหมอจะให้ยามาทาน 2 ชุด มันคือยาเร่งการตกไข่ (เหตุผลที่ใช้วิธีทานยาเพราะค่าใช้จ่ายถูกกว่าการฉีด และเราก็กลัวเข็มด้วย เลยหลีกเลี่ยงการฉีดยาให้น้อยสุด) คุณหมอจะสั่งให้ทานยาทุกวัน เป็นเวลา 2 สัปดาห์
** ในระหว่าง 2 สัปดาห์นี้ พยายามกำหนดเวลาทานยาให้เป็นเวลาเดียวกันให้ได้ทุกวัน และพยายามอย่าเครียดหรือกังวลใจอะไร ปล่อยชิวๆ ไปเที่ยว เริงร่าให้สบายใจ IUI 2ครั้งแรก เรากังวลใจมากๆ และคาดหวังเอาไว้สูง คิดในใจว่าอยากได้ๆๆๆๆ พอครั้งแรกแป้ววว ไป ประจำเดือนมา ก็หง่อยอีก จิตใจหดหู่
### เหตุผลที่อยากได้ทุกคนปล่อยชิว ห้ามกังวลใจก็เพราะว่า มันมีผลกับไข่ด้วย ครั้งแรกเราได้ไข่ 2ใบ // ก็พลาดไป โอกาสน้อยลง // ครั้งที่ 2 ก็ยังกังวลพร้อมกับมีความคาดหวังใหญ่ๆๆ เหมือนเดิม ก็ได้ไข่ 2 ใบ แถมเป็นไข่ที่คุณหมอไม่ชอบอีก ไม่ชอบในที่นี้คือ ขนาดความโตของไข่ ไม่ได้มาตรฐานที่จะผสมได้ T T
ปรากฎว่า ก็พลาดไปทั้ง 2 ครั้งแรก เกิดอาการท้อใจ เลยหยุดไปประมาณ 3 เดือนและหึดดด กลับมาทำใหม่
รอบนี้เราไม่เครียด คือ ชิวมาก กินยาเร่งไข่ไปด้วย ไปเที่ยว เราไม่หมกมุ่นและคาดหวังใหญ่อีก
หลังจากครบ 2อาทิตย์ที่ทานยา ก็กลับมาหาคุณหมอ เพื่อเช็คไข่ ปรากฎว่าได้ไข่มา 5ใบ เป็นที่น่าพอใจมาก เพราะคุณหมอเล็งไว้ 2ใบ เป็นขนาดที่สวย กำลังดี ใบกลมโต หลังจากนั้นคุณหมอก็นัดวันให้มาฉีดยาเร่งไข่สุกในวันถัดไป และนัดให้เข้ามาฉีดเชื้อ
** วันนัดฉีดยาเร่งไข่สุก กับนัดฉีดเชื้อ คุณหมอจะเป็นคนคำนวนเอง โดยคำนวนจากขนาดของไข่ ณ วันที่ตรวจ และวันที่คาดว่าไข่จะสุกพอดี พร้อมที่จะฉีดเชื้อได้
คราวนี้ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการทำ IUI ซึ่งไม่มีอะไรซับซ้อนเลย
เริ่มจากการเก็บน้ำเชื้อ เพื่อจะเอาไปปั่นคัดเฉพาะเชื้อที่แข็งแรง ใช้เวลาปั่นเชื้อประมาณ 30-45 นาที (คร่าวๆ นะ)
จากนั้นว่าที่คุณแม่ ก็ขึ้นเตียงขาหยั่งเลยจ้าาาาา.. คุณหมอจะเช็ดทำความสะอาดอวัยวะ จากนั้นก็จะใช้คีมปากเป็ด (อันนี้จะเจ็บไม่มาก แต่จะตึงๆ แบบทนได้) เป็นการเปิดทาง เพื่อที่จะนำหลอดพลาสติกขนาดเล็ก ยาววววววว ใส่เข้าไป ความรู้สึกจะหนึบๆ นิดหน่อย จากนั้นก็ฉีดเชื้อ และเอาคีมปากเป็ดออก
หลอดพลาสติกจะยังค้างอยู่ในอวัยวะของเรานะ คุณหมอจะให้นอนยกก้นขึ้นเล็กน้อย มีพยาบาลเอาหมอนเล็กๆ มารองให้ และให้นอนค้างอยู่แบบนั้นประมาณ 30-40นาที ในระหว่างนั้น เราก็แชทคุยกับแฟนตลอดเลย เป็นการรายงานสถานะการณ์ >,<
เสร็จสิ้นขั้นตอนทุกอย่าง คุณหมอจะออกใบนัดให้เรา และให้เราสังเกตุตัวเองเบื้องต้น หลังจากทำ IUI ไปแล้ว 15วัน ถ้าประจำเดือนยังไม่มา ก็สามารถซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจดูได้เลย และหลังจาก 18วันไปแล้ว ถ้าประจำเดือนยังคงไม่มา ก็ให้มาพบหมอ...
ลุ้นกันต่อไปค่ะ เป็นครั้งที่ 3 แล้วสินะ กับการทำ IUI
เราคุยกับแฟนไว้นะ เค้าก็ไม่อยากให้เราใช้ยาเร่งการตกไข่เยอะ เพราะมันก็มีผลเสียด้วย หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็เลยกะว่า ถ้ารอบนี้ยังไม่สมหวัง ก็คงจะหยุดไปอีกสักพัก ค่อยว่ากันใหม่..
ครบ 15วันแล้ว ปรากฎว่า ประจำเดือนยังไม่มา และเราก็มีอาการตึงๆๆ คัดๆๆ เต้านม เราคิดอยู่ในใจละว่ารอบนี้คงต้องสำเร็จจริงๆๆ แล้วแน่..
ใจมันตุ้มๆๆ ต่อมๆๆ อยากเช็คก็อยากเช็ค แต่อดใจไว้ ค่อยไปรอลุ้น ณ วันที่คุณหมอนัดดีกว่า..
ผ่านไป 18วัน ครบกำหนดตามที่คุณหมอนัด ก็ไปหาคุณหมอ คุณหมอก็ตรวจให้ ปรากฎว่าขึ้น 2ขีด เข้มและชัดเจนมากกกกกกกกกกกกกกก
เรากับแฟนดีใจมากกกกกกกก คุณหมอก็ให้ฝากครรภ์เลย พร้อมกับเจาะเลือดเรากับแฟนไปตรวจ (ผลเลือดของเรากับแฟนปกติดี)
คุณหมอจ่ายวิตามิน โฟลิค กับ B6 ให้เรามาทานทุกวันเป็นเวลา 28วัน พอยาหมดคุณหมอก็ให้มาหาอีกรอบ
การมาหาหมอครั้งนี้ ระทึกใจมากค่ะ.. เพราะเราจะได้เห็นทารกตัวน้อยๆ และได้ฟังเสียงหัวใจ ได้เห็นหัวใจดวงเล็กๆๆ เต้นตุ๊บๆๆ
ณ วันนั้นเราคิดแค่นั้น... แค่นั้นเราก็ดีใจมากมายแล้ววววว จริงๆๆ
ได้เวลาขึ้นเตียง ตรวจดูเจ้าตัวน้อยแล้ว การตรวจผ่านไปได้ด้วยดี เสียงหัวใจดังกังวาล พาลให้น้ำตาไหล นี่แหละน๊าา เลือดเนื้อเชื้อไขของเรา
ในระหว่างที่ตรวจ คุณหมอก็ทำหน้าตาขมวดคิ้ว เรามองหน้าหมอด้วยความกังวลใจ คุณหมอบอกกับเราและแฟนว่า "มีอีกคนนึงคับ"
เราช็อคหนักกว่าเดิม ถามคุณหมอซ้ำอีกหลายรอบ อะไรนะคะคุณหมอ คุณหมอก็บอกว่า "แฝดครับ" ..............................
แล้วคุณหมอก็ให้ดูเด็กน้อยอีกคน และเสียงหัวใจดวงเล็กๆๆ อีกดวง เต้นตุ๊บๆๆๆๆ
สิ้นเสียงคุณหมอปุ๊บ เราน้ำตาไหลไม่หยุดเลย ด้วยความดีใจและก็ความกังวลใจ ปนกันไปหมด
ท้องเดี่ยวกว่าจะท้องได้ ก็ยากเหลือเกิน นี่เป็นท้องแฝดอีก เราทำตัวไม่ถูกจริงๆ
คิดอยู่อย่างเดียวคือ ตอนนี้เราเป็นแม่ของน้องแฝดแล้วนะ 2คนของแม่ แม่จะทำทุกวิถีทาง จะดูแลหนูทั้งสองคนในท้องให้ดี
ให้หนูแข็งแรง สมบูรณ์ ครบถ้วน ไม่ขาดไม่เกิน
ตอนนี้ อายุครรภ์ 11สัปดาห์แล้วค่ะ คุณหมอนัดตรวจอีกครั้งอาทิตย์หน้า หวั่นใจอีกแล้วค่ะทุกคน..
อ่านเจอมาว่า เราจะเริ่มตรวจความผิดปกติของทารกในครรภ์ได้ตั้งแต่ 12สัปดาห์ ถ้าเป็นครรภ์เดี่ยวก็จะรู้เลย
แต่นี่เป็นครรภ์แฝด ความผิดปกติจะปนอยู่ในเลือดของแม่ หากตรวจเจอความผิดปกติ อันนี้เราจะไม่ทราบว่ามาจากทารกคนไหน
คือท้องแฝด จะตรวจยากกว่าท้องเดี่ยว.. เราไม่มีความรู้เรื่องนี้ชัดเจนเท่าไหร่นะ หากคุณแม่ท้องแฝดท่านไหน มีประสบการณ์เคยผ่านการตรวจความผิดปกติของทารกในครรภ์แฝดมาแล้ว รบกวนช่วยแชร์ประสบการณ์ให้เราด้วยนะ.. ข้อมูลท้องแฝดหาอ่านได้น้อยมากเลยค่ะ
มาถึงตรงนี้ ต้องขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้ของเรานะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับว่าที่คุณแม่หลายๆ คน ในการวางแผน ในการเตรียมตัว เตรียมใจ รับมือกับสถานะการณ์ช็อคๆ อย่างเรา
และขอเป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัว สมหวังในสิ่งที่หวัง มีเด็กน้อยกลอยใจในเร็ววันนี้จ้าาา...
ปล. ท้องแฝดเราโชคดีตรงที่ เรามีอาการแพ้นะ แต่แพ้ไม่หนัก แค่หิวบ่อยและต้องกินทันที ถ้าไม่ได้กินจะแสบท้อง พอถึงขั้นแสบท้องแล้ว ถ้ากินก็จะกินได้น้อยมากๆ และจะเวียนหัว สุดท้ายกินเสร็จก็อ้วกออกหมดเลยจ้าาาาา.. แค่ระวังอย่าให้ท้องว่างจนหิว เท่านั้นเอง แต่ถ้าอิ่มมาก ก็จะแน่นท้อง เวียนหัว จะอ้วกอีก เพราะฉะนั้นคือ ต้องกินแต่น้อยและกินให้หลากหลาย ให้ครบหมู่ เรากินบ่อยมาก แทบจะทุกๆ 2ชั่วโมง ด้วยความหิวจริงๆ นะ ไม่ใช่เพราะอยากกก คุณแม่ชั่งใจแล้ว อิอิ.. อย่าให้ทันหิวจัด ^^ ที่สำคัญนอนให้เยอะอย่างเพียงพอนะ
แชร์ประสบการณ์ การทำ IUI แล้วได้ลูกแฝด 2
อาจจะด้วยเทคนิคของคุณหมอแต่ละคนไม่เหมือนกัน หรืออาจจะขึ้นอยู่กับสภาวะร่างกายของว่าที่คุณแม่แต่ละคนที่แตกต่าง ทำให้คุณหมอเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด ที่แตกต่างกันออกไป (อันนี้ไม่มั่นใจนะ)
แต่เราก็เป็นคนหนึ่ง ที่ผ่านการทำ IUI มาถึง 3 ครั้ง และสำเร็จ ได้น้องแฝดมาเป็นครั้งที่ 3 เห้ออออออออออ...... สิ้นสุดการรอคอยกะเค้าสักที
เราเลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ที่เราได้พบเจอมากับเพื่อนๆ ชาวพันทิปนะคะ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับว่าที่คุณแม่หลายๆๆ คน ที่กำลังรอคอยเด็กน้อยกันอยู่
การทำ IUI ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล หรือน่ากลัวอย่างที่คิดเลยค่ะ
การทำ IUI คือ การฉีดเชื้อเข้าสู้โพรงมดลูกโดยตรง จะเป็นวิธีที่เพิ่มโอกาสของการตั้งครรภ์และเหมือนธรรมชาติที่สุดตรงที่ ตัวเชื้อที่แข็งแรงจะว่ายเข้าไปเจาะไข่เอง แตกต่างจากการมีเพศสัมพันธ์ปกติ อวัยวะของผู้ชายจะได้ลึกสุดแค่ ช่องคลอด แล้วเชื้อจะต้องเดินทางไกล กว่าจะถึงไข่ กว่าจะเจาะไข่ได้ บางตัวก็สิ้นใจซ่ะกลางทาง บางตัวก็ว่ายผิดทาง ยิ่งถ้าฝ่ายชายมีปริมาณเชื้อน้อยด้วยแล้ว โอกาสที่จะสำเร็จก็จะยากขึ้นไปด้วยค่ะ
หลังจากตัดสินใจคุยกับคุณหมอเป็นที่เรียบร้อย ขั้นตอนแรกคุณหมอจะให้ยามาทาน 2 ชุด มันคือยาเร่งการตกไข่ (เหตุผลที่ใช้วิธีทานยาเพราะค่าใช้จ่ายถูกกว่าการฉีด และเราก็กลัวเข็มด้วย เลยหลีกเลี่ยงการฉีดยาให้น้อยสุด) คุณหมอจะสั่งให้ทานยาทุกวัน เป็นเวลา 2 สัปดาห์
** ในระหว่าง 2 สัปดาห์นี้ พยายามกำหนดเวลาทานยาให้เป็นเวลาเดียวกันให้ได้ทุกวัน และพยายามอย่าเครียดหรือกังวลใจอะไร ปล่อยชิวๆ ไปเที่ยว เริงร่าให้สบายใจ IUI 2ครั้งแรก เรากังวลใจมากๆ และคาดหวังเอาไว้สูง คิดในใจว่าอยากได้ๆๆๆๆ พอครั้งแรกแป้ววว ไป ประจำเดือนมา ก็หง่อยอีก จิตใจหดหู่
### เหตุผลที่อยากได้ทุกคนปล่อยชิว ห้ามกังวลใจก็เพราะว่า มันมีผลกับไข่ด้วย ครั้งแรกเราได้ไข่ 2ใบ // ก็พลาดไป โอกาสน้อยลง // ครั้งที่ 2 ก็ยังกังวลพร้อมกับมีความคาดหวังใหญ่ๆๆ เหมือนเดิม ก็ได้ไข่ 2 ใบ แถมเป็นไข่ที่คุณหมอไม่ชอบอีก ไม่ชอบในที่นี้คือ ขนาดความโตของไข่ ไม่ได้มาตรฐานที่จะผสมได้ T T
ปรากฎว่า ก็พลาดไปทั้ง 2 ครั้งแรก เกิดอาการท้อใจ เลยหยุดไปประมาณ 3 เดือนและหึดดด กลับมาทำใหม่
รอบนี้เราไม่เครียด คือ ชิวมาก กินยาเร่งไข่ไปด้วย ไปเที่ยว เราไม่หมกมุ่นและคาดหวังใหญ่อีก
หลังจากครบ 2อาทิตย์ที่ทานยา ก็กลับมาหาคุณหมอ เพื่อเช็คไข่ ปรากฎว่าได้ไข่มา 5ใบ เป็นที่น่าพอใจมาก เพราะคุณหมอเล็งไว้ 2ใบ เป็นขนาดที่สวย กำลังดี ใบกลมโต หลังจากนั้นคุณหมอก็นัดวันให้มาฉีดยาเร่งไข่สุกในวันถัดไป และนัดให้เข้ามาฉีดเชื้อ
** วันนัดฉีดยาเร่งไข่สุก กับนัดฉีดเชื้อ คุณหมอจะเป็นคนคำนวนเอง โดยคำนวนจากขนาดของไข่ ณ วันที่ตรวจ และวันที่คาดว่าไข่จะสุกพอดี พร้อมที่จะฉีดเชื้อได้
คราวนี้ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการทำ IUI ซึ่งไม่มีอะไรซับซ้อนเลย
เริ่มจากการเก็บน้ำเชื้อ เพื่อจะเอาไปปั่นคัดเฉพาะเชื้อที่แข็งแรง ใช้เวลาปั่นเชื้อประมาณ 30-45 นาที (คร่าวๆ นะ)
จากนั้นว่าที่คุณแม่ ก็ขึ้นเตียงขาหยั่งเลยจ้าาาาา.. คุณหมอจะเช็ดทำความสะอาดอวัยวะ จากนั้นก็จะใช้คีมปากเป็ด (อันนี้จะเจ็บไม่มาก แต่จะตึงๆ แบบทนได้) เป็นการเปิดทาง เพื่อที่จะนำหลอดพลาสติกขนาดเล็ก ยาววววววว ใส่เข้าไป ความรู้สึกจะหนึบๆ นิดหน่อย จากนั้นก็ฉีดเชื้อ และเอาคีมปากเป็ดออก
หลอดพลาสติกจะยังค้างอยู่ในอวัยวะของเรานะ คุณหมอจะให้นอนยกก้นขึ้นเล็กน้อย มีพยาบาลเอาหมอนเล็กๆ มารองให้ และให้นอนค้างอยู่แบบนั้นประมาณ 30-40นาที ในระหว่างนั้น เราก็แชทคุยกับแฟนตลอดเลย เป็นการรายงานสถานะการณ์ >,<
เสร็จสิ้นขั้นตอนทุกอย่าง คุณหมอจะออกใบนัดให้เรา และให้เราสังเกตุตัวเองเบื้องต้น หลังจากทำ IUI ไปแล้ว 15วัน ถ้าประจำเดือนยังไม่มา ก็สามารถซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจดูได้เลย และหลังจาก 18วันไปแล้ว ถ้าประจำเดือนยังคงไม่มา ก็ให้มาพบหมอ...
ลุ้นกันต่อไปค่ะ เป็นครั้งที่ 3 แล้วสินะ กับการทำ IUI
เราคุยกับแฟนไว้นะ เค้าก็ไม่อยากให้เราใช้ยาเร่งการตกไข่เยอะ เพราะมันก็มีผลเสียด้วย หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็เลยกะว่า ถ้ารอบนี้ยังไม่สมหวัง ก็คงจะหยุดไปอีกสักพัก ค่อยว่ากันใหม่..
ครบ 15วันแล้ว ปรากฎว่า ประจำเดือนยังไม่มา และเราก็มีอาการตึงๆๆ คัดๆๆ เต้านม เราคิดอยู่ในใจละว่ารอบนี้คงต้องสำเร็จจริงๆๆ แล้วแน่..
ใจมันตุ้มๆๆ ต่อมๆๆ อยากเช็คก็อยากเช็ค แต่อดใจไว้ ค่อยไปรอลุ้น ณ วันที่คุณหมอนัดดีกว่า..
ผ่านไป 18วัน ครบกำหนดตามที่คุณหมอนัด ก็ไปหาคุณหมอ คุณหมอก็ตรวจให้ ปรากฎว่าขึ้น 2ขีด เข้มและชัดเจนมากกกกกกกกกกกกกกก
เรากับแฟนดีใจมากกกกกกกก คุณหมอก็ให้ฝากครรภ์เลย พร้อมกับเจาะเลือดเรากับแฟนไปตรวจ (ผลเลือดของเรากับแฟนปกติดี)
คุณหมอจ่ายวิตามิน โฟลิค กับ B6 ให้เรามาทานทุกวันเป็นเวลา 28วัน พอยาหมดคุณหมอก็ให้มาหาอีกรอบ
การมาหาหมอครั้งนี้ ระทึกใจมากค่ะ.. เพราะเราจะได้เห็นทารกตัวน้อยๆ และได้ฟังเสียงหัวใจ ได้เห็นหัวใจดวงเล็กๆๆ เต้นตุ๊บๆๆ
ณ วันนั้นเราคิดแค่นั้น... แค่นั้นเราก็ดีใจมากมายแล้ววววว จริงๆๆ
ได้เวลาขึ้นเตียง ตรวจดูเจ้าตัวน้อยแล้ว การตรวจผ่านไปได้ด้วยดี เสียงหัวใจดังกังวาล พาลให้น้ำตาไหล นี่แหละน๊าา เลือดเนื้อเชื้อไขของเรา
ในระหว่างที่ตรวจ คุณหมอก็ทำหน้าตาขมวดคิ้ว เรามองหน้าหมอด้วยความกังวลใจ คุณหมอบอกกับเราและแฟนว่า "มีอีกคนนึงคับ"
เราช็อคหนักกว่าเดิม ถามคุณหมอซ้ำอีกหลายรอบ อะไรนะคะคุณหมอ คุณหมอก็บอกว่า "แฝดครับ" ..............................
แล้วคุณหมอก็ให้ดูเด็กน้อยอีกคน และเสียงหัวใจดวงเล็กๆๆ อีกดวง เต้นตุ๊บๆๆๆๆ
สิ้นเสียงคุณหมอปุ๊บ เราน้ำตาไหลไม่หยุดเลย ด้วยความดีใจและก็ความกังวลใจ ปนกันไปหมด
ท้องเดี่ยวกว่าจะท้องได้ ก็ยากเหลือเกิน นี่เป็นท้องแฝดอีก เราทำตัวไม่ถูกจริงๆ
คิดอยู่อย่างเดียวคือ ตอนนี้เราเป็นแม่ของน้องแฝดแล้วนะ 2คนของแม่ แม่จะทำทุกวิถีทาง จะดูแลหนูทั้งสองคนในท้องให้ดี
ให้หนูแข็งแรง สมบูรณ์ ครบถ้วน ไม่ขาดไม่เกิน
ตอนนี้ อายุครรภ์ 11สัปดาห์แล้วค่ะ คุณหมอนัดตรวจอีกครั้งอาทิตย์หน้า หวั่นใจอีกแล้วค่ะทุกคน..
อ่านเจอมาว่า เราจะเริ่มตรวจความผิดปกติของทารกในครรภ์ได้ตั้งแต่ 12สัปดาห์ ถ้าเป็นครรภ์เดี่ยวก็จะรู้เลย
แต่นี่เป็นครรภ์แฝด ความผิดปกติจะปนอยู่ในเลือดของแม่ หากตรวจเจอความผิดปกติ อันนี้เราจะไม่ทราบว่ามาจากทารกคนไหน
คือท้องแฝด จะตรวจยากกว่าท้องเดี่ยว.. เราไม่มีความรู้เรื่องนี้ชัดเจนเท่าไหร่นะ หากคุณแม่ท้องแฝดท่านไหน มีประสบการณ์เคยผ่านการตรวจความผิดปกติของทารกในครรภ์แฝดมาแล้ว รบกวนช่วยแชร์ประสบการณ์ให้เราด้วยนะ.. ข้อมูลท้องแฝดหาอ่านได้น้อยมากเลยค่ะ
มาถึงตรงนี้ ต้องขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้ของเรานะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับว่าที่คุณแม่หลายๆ คน ในการวางแผน ในการเตรียมตัว เตรียมใจ รับมือกับสถานะการณ์ช็อคๆ อย่างเรา
และขอเป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัว สมหวังในสิ่งที่หวัง มีเด็กน้อยกลอยใจในเร็ววันนี้จ้าาา...
ปล. ท้องแฝดเราโชคดีตรงที่ เรามีอาการแพ้นะ แต่แพ้ไม่หนัก แค่หิวบ่อยและต้องกินทันที ถ้าไม่ได้กินจะแสบท้อง พอถึงขั้นแสบท้องแล้ว ถ้ากินก็จะกินได้น้อยมากๆ และจะเวียนหัว สุดท้ายกินเสร็จก็อ้วกออกหมดเลยจ้าาาาา.. แค่ระวังอย่าให้ท้องว่างจนหิว เท่านั้นเอง แต่ถ้าอิ่มมาก ก็จะแน่นท้อง เวียนหัว จะอ้วกอีก เพราะฉะนั้นคือ ต้องกินแต่น้อยและกินให้หลากหลาย ให้ครบหมู่ เรากินบ่อยมาก แทบจะทุกๆ 2ชั่วโมง ด้วยความหิวจริงๆ นะ ไม่ใช่เพราะอยากกก คุณแม่ชั่งใจแล้ว อิอิ.. อย่าให้ทันหิวจัด ^^ ที่สำคัญนอนให้เยอะอย่างเพียงพอนะ