ช่วงเวลาที่ผ่านมาได้มีโอกาสกลับมาเล่นเกม harvest moon เหมือนตอนเด็กๆอีกครั้ง ย้อนไปซักสิบกว่าปี ถ้าใครอายุราวๆ 20-30 ก็น่าจะประมานคนที่เกิดในยุค 90 คงจะรู้จักเกมนี้กันดี(มั้ง) เพราะช่วงนั้น เกมบอย เกมกด เกมตลับ play station ต่างๆกำลังมาแรงเซงทางโค้ง ชนิดที่ว่าชีวิตวัยเด็กมันมีสีสันได้เพราะเกมเหล่านี้เลย จันทร์ถึงศุกร์ไปโรงเรียน เสาร์อาทิตย์ตื่นมาดูการ์ตูน (ตื่นเช้ากว่าไปโรงเรียนอีก 555) สายๆ การ์ตูนจบก็นั่งเล่นเกมต่อ และต้องมีบ้านเพื่อนซักคนนึงเป็นจุดนัดพบของการเล่นเกมส์ด้วยนะ  ในยุคที่เข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ยากเย็นแสนเข็ญ ติ๊ด ติ๊ด หลุด ติ๊ด ติ๊ด หลุด แบบนั้น มันก็ต้องพึ่งพาอะไรแบบนี้แหละ พอเบื่อๆหน่อยก็ออกไปรับแสงแดด แสงอาทิตย์ เล่นแปลงร่างต่อสู้กันไปตามประสา เออ นอกเรื่องมานาน เข้าเรื่องเกม harvest moon กันดีกว่า

หากดูเรื่องโดยรวมของเกมนี้ ก็ออกจะเป็นเกมที่ค่อนข้างจะออกไปทาง ปลูกผัก ทำสวน เลี้ยงสัตว์ ขายผลผลิตไป ดูหงิมๆติ๋มๆ แต่แค่นั้นมันคงดูน่าเบื่อเกินไป เกมนี้เขายังมีอีกพาร์ทหนึ่ง ให้ผู้เล่นได้รู้สึกว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น นั่นคือ การจีบสาวจีบหนุ่มกันไป สนุกสนานกันเลยทีนี้ แทนที่จะมัวแต่ปลูกผัก ขายของไป เอาเวลาไปจีบสาวดีกว่า เงินหาไม่ยาก ไปเล่นพนันเอากับการแข่งม้าละกัน ก็ได้มาเยอะพอสมควร (ก็มันมีทริคในการเล่นน่า) เล่นไปเล่นมาเริ่มมีลูก เริ่มมีสูตรอาหาร มีต่อเติมบ้าน มีเรื่องความสัมพันธ์กับชาวเมืองในเกมส์เข้ามาเกี่ยวข้อง และพอเรื่อมเบื่อ ก็มี harvest moon ภาคใหม่ๆ มาให้เล่นอีก เป็นเกมส์ที่เล่นเรื่อยๆ ไม่ติด แต่ก็ไม่น่าเบื่อนะ เล่นเอาเพลิน^^

ลองมาดูว่าเราคิดถึงอะไรในเกมนี้กันบ้าง (ในภาพมาจาก harvest moon friends of mineral town : game boy versions)

ดูในมุมมองของตัวละครหลักที่ได้มรดกเป็นฟาร์มแห่งใหญ่ ตอนนั้นอารมณ์ตัวเอกคงแบบ ทำไมต้องมาทำไร่ ไถนา ทำสวนบ้าบอ ทำไมไม่มีมรดกที่มันเข้าท่ากว่านี้ ขอแค่นั่งๆนอนๆ ได้เงินเลย จะได้มั้ยยยยยย

เมืองนี้อยู่ไหนก็นอนได้นะปลอดภัยทุกที่ หน้าบ้าน หน้าทะเล ในป่า พี่แกนอนได้หมด ชีวิตไม่ต้องกังวลเรื่องโจร เรื่องวิ่งราวอะไรมากมาย เพราะเรื่องราวเลวร้ายเหล่านี้ไม่ได้ถูกบรรจุลงไปในเกม (แค่มีอยู่ในชีวิตจริงโลกเราก็โหดร้ายกันเต็มทีแล้ว) ให้เกมนี้เป็นเกมใสๆ เล่นแบบไม่มีพิษมีภัยละกัน

นอนไปทุกที่ นอนหน้าบ้านมันซะเลย แขกมาก็ช่างปะไร ไม่สนหรอก

นอนกลางป่า ท่ามกลางดอกไม้ซะเลย จะเป็นไรไป

นอนริมทะเลยังได้เลย นอนอวดความขี้เกียจขนาดนี้ สาวที่ไหนก็ต้องเมิน (น้องคาเรนยังเมินเลย)

มัวแต่ไปนอนเล่นที่อื่น ปล่อยน้องหมาน้อยนอนเฝ้าอยู่ที่ฟาร์ม

นอกจากนอนได้ทุกทีแล้ว เราก็มีงานต้องทำเป็นชิ้นเป็นอันเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเลี้ยงไก่ เลี้ยงวัว เลี้ยงแกะ เลี้ยงม้า เลี้ยงหมา มาหมด และงานหลักๆก็คือการทำฟาร์มนั่นเอง

งานเลี้ยงไก่ อุ้มไก่วิ่งก็มา

งานเลี้ยงวัว ปลุกวัว รีดนมวัว ก็มา

งานเลี้ยงแกะ แปลงขน ตัดขนก็มา

งานลี้ยงมา ขี่ม้า ก็มา

ที่ลืมไม่ได้เลย คืองานเลี้ยงน้องมาตัวป่วน

งานเดินรอบฟาร์มก็มา

แล้วมันจะมีอะไรดีกว่าการที่มีคนแคระมาช่วยงานในฟาร์มอีกหล่ะ แค่เอาของเล็กๆน้อยๆไปมอบให้คนแคระบ่อยๆ พอนางเริ่มมีใจให้เรา เฮ้ย ไม่ใช่ พอเริ่มสนิทคุ้นเคยกันเราก็จะขอแรงให้มาช่วยงานเราได้ เอาจริงๆ เราก็แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย รดน้ำ เก็บผัก ทำให้หมด (อาจมีอู้บ้าง แต่ก็ไม่เสียหายเท่าไหร่ คิดซะว่าแบ่งกันกินแบ่งกันใช้)

ว่างๆก็เดินสวนสนามเล่นกับเหล่าคนแคระก็ยังได้

ด้วยความที่เดินไปมา จนเครื่องนับก้าวเดินก็นับได้ครบหมื่นก้าวพอดิบพอดี นางฟ้าก็จะโพล่มาทันทีแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

ตอนเช้าๆ ก็ตื่นเช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบนเขา

สายๆหน่อยก็เดินเล่นกับสาวๆในป่า

แช่ออนเซ็นกลางป่า ท่ามกลางธรรมชาติก็ยังได้

จากนั้นก็ไปจิบชายามบ่ายที่บ้านคนแคระกันดีกว่า

คนแคระใจดีให้ใบชามาเป็นที่ละลึกด้วย แถมยังชวนให้มาร่วมปาร์ตีน้ำชาอีกในปีหน้า ^^

เสร็จก็ไปต่อกันที่โรงแรมเพื่อสังสรรค์และพบปะชาวเมือง

และแล้วทริปเที่ยวเมืองวันนี้ก็หมดลง ถึงเวลากลับบ้านไปพักผ่อนให้สบาย เก็บแรงไว้ต่อวันพรุ่งนี้

ทุกวันเสาร์ก็มี TV Shopping ด้วยนะ จะซื้ออะไรก็ซื้อได้ตามสบายเลย ถ้าพอใจอยากซื้อก็ไปโทรสั่งได้เลย ที่ร้านอาหารมีโทรศัพท์อยู่ สองวันถึง จัดส่งรวดเร็ว สินค้าคุณภาพเยี่ยมยอด สุดยอดการขายใจอุดมคติเลยจ้า

นอกจากนี้ยังมี ตกปลา ขุดแร่ในเหมือง จีบสาว กิจกรรมในเทศกาลต่างๆ การเพิ่มความสัมพันธ์กับชาวเมืองอีกมากมาย เรียกได้ว่าเล่นได้เรื่อยๆ แบบ feel good  เลยทีเดียว เอาเป็นว่าใครที่เคยเล่นแล้วยังคิดถึงเกมนี้ หรือกำลังเล่นเกมนี้กันอยู่ เรามาอวดภาพน่ารักๆจากเกม รวมถึงเหตุการณ์ดีๆน่าจดจำในเกมกันเถอะ