คัดลอกมาจาก นสพ ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/861352
เขียนได้ตรงใจครับ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่รู้สึกรู้สาว่าเป็นปัญหาแต่อย่างใด
ยิ่งผู้มีอำนาจบารมี รู้สึกดูเหมือนว่ายิ่งชอบ จะได้หาเรื่องอนุมัติงบสร้างถนน ขยายถนนได้ง่ายขึ้น
เมื่อเลนขวากลายเป็นเลนรถช้า!!
อุบัติเหตุและจำนวนผู้เสียชีวิตบนท้องถนนในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นทุกปีจนติดอันดับสองของโลกเป็นเครื่องชี้วัดการขับขี่อันย่ำแย่ของคนไทยหลายๆ คน เรื่องดังกล่าวสมควรที่ผู้เกี่ยวข้องและผู้ใช้รถยนต์ในประเทศไทยต้องหันมาใส่ใจก่อนที่อุบัติเหตุจะเกิดขึ้นกับตัวของคุณเอง กฎจราจรที่ถูกละเลยจากการขับแบบตามใจฉัน ขับช้าแช่คาอยู่ในเลนรถเร็ว สมาธิของคนขับไม่ได้มุ่งไปที่ความปลอดภัยและการคิดคำนึงถึงส่วนรวมมากกว่าคิดถึงแต่ตัวเอง อุบัติเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นทุกวันทำให้การใช้รถใช้ถนนในประเทศนี้เต็มไปด้วยอันตราย เลนขวาสุดนั้นเป็นเลนรถเร็วและมีไว้สำหรับรถที่วิ่งเร็วใช้แซงรถช้า หากถนนโล่งอยู่ในสภาวะปกติไม่ได้มีรถวิ่งจนเต็มทุกช่องทาง เมื่อรถที่ขับเร็วกว่าแซงผ่านทางช่องขวาเรียบร้อยก็ต้องกลับมาวิ่งที่เลนกลางตามกฎข้อบังคับด้านความปลอดภัยซึ่งเป็นวินัยจราจรที่ถูกละเลยมานานแสนนาน แนวคิดเก่าๆ ที่คิดกันว่า ควรจะขับอยู่ในเลนตัวเองไม่ควรเปลี่ยนเลนไปมาซึ่งที่จริงก็ถูกแต่ไม่ทั้งหมดในเมื่อคุณใช้ความเร็วต่ำกว่ารถคันอื่นแต่ดันไปวิ่งคาอยู่ในเลนรถเร็วช่องขวาสุด
ไม่ว่าจะขับรถอะไร จะเป็นรถกระบะ รถเก๋ง หรือแม้แต่รถบรรทุกล้อเยอะ สิ่งที่พบเห็นบ่อยสุดๆ ก็คือการขับโดยใช้เลนขวาวิ่งกันอย่างสบายใจเฉิบ โดยเฉพาะรถพ่วงที่ชอบใช้เลนขวาสุดแซงรถพ่วงด้วยกันเอง โดยไม่เคยสนใจไยดีว่ารถข้างหลังที่ตามมาจะติดกันเป็นขบวนเนื่องจากมีรถคันโตขับช้าแช่อยู่ในเลนขวาเพียงแค่คันเดียว กว่าจะแซงพ้นก็เล่นเอารถหลังขับตามท้ายกันนับสิบๆ คัน พ่อเจ้าประคุณที่ไม่รู้ประสีประสากับการใช้ช่องทางให้ถูกต้องกับความเร็ว แม้ถนนจะโล่งก็ยังขับแค่ 80-100 แล้วคาขวาสุดจนรถที่เร็วกว่าต้องใช้ช่องทางด้านซ้ายแซง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดและอันตรายมาก คนที่ขับเร็วกว่าพยายามเลี่ยงการทะเลาะวิวาทด้วยการแซงทางซ้ายแบบรูดยาวก็ยิ่งอันตรายเนื่องจากเป็นช่องทางที่มีรถใหญ่ล้อเยอะวิ่งอยู่เป็นจำนวนมาก
รถที่ตามหลังพวกขับช้าอยู่ขวาสุด บางคนพยายามหาทางแซงแต่ถูกรถช้าบังช่องทางขวาไว้หมดก็ใช้การยกไฟสูง หนักหน่อยออกแนวโมโหก็บีบแตรไล่ คนที่ไม่เคยแคร์สังคมแล้วออกมาใช้รถใช้ถนนร่วมกับผู้อื่นก็ยังคงทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ยังนิ่งเฉยขับแช่อยู่ขวาคาที่เดิม บางคนมีแนวความคิดประหลาดเหมือนกับไม่แยแสต่อสังคมส่วนรวมคิดถึงแต่ตัวเองเป็นหลัก ฉันจะขับแบบนี้ใครจะทำไม ก็เสียภาษีเหมือนกันจะแช่อยู่ขวาพวกคุณก็ต้องหาทางแซงซ้ายกันเอาเองซิ จะขับไปตรงๆ แบบนี้แหละมีอะไรหรือเปล่า หากคิดได้แค่นี้ขอบอกตามตรงว่าไม่น่ามาขับรถเลยจริงๆนะครับ
กระจกมองหลังซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในการใช้รถถูกละเลยจากพวกประสาทนิ่ง ประสาทช้า หรือไม่มีสมาธิจดจ่อกับการขับ แม้จะขับแต่ใจล่องลอยไปคิดถึงเรื่องอื่นจนเกิดอุบัติเหตุก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองนั้นเป็นฝ่ายผิด ขับช้าแช่ขวา วิ่งหวานเย็นอยู่ที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงบนเลนด้านขวาสุดของทางแบบไฮเวย์ข้ามจังหวัดหรือแม้แต่บนทางด่วนในกรุงเทพฯ ก็มีให้เห็นทุกวัน เลนขวาซึ่งเป็นเลนรถเร็วกลายเป็นที่อยู่ของเต่าที่ใช้คลานบนถนนซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ทุกเมื่อจากการแซงในช่องทางจราจรด้านซ้ายซึ่งไม่ใช่เลนที่จะเอาไว้แซง คนเหล่านี้ไม่เคยแม้แต่จะมองกระจกหลังหรือสังเกตดูการขับของตัวเองว่าช้าจนรถเลนซ้ายแซงผ่านไปนับสิบๆ คันก็ยังขับคาอยู่ในเลนรถเร็วเหมือนเดิม
ขับช้าแบบคลานหรือบรรทุกมาเต็มเหนี่ยวแล้วไม่ชอบเปลี่ยนเลน หรือขับอยู่ในเลนซ้ายสุดซึ่งเป็นเลนของรถบรรทุกหรือรถที่ขับช้ามันสะเทือนจากถนนที่พังยับ ขอแช่ขวายาวๆ มีให้เห็นทุกวันโดยเฉพาะรถกระบะที่บรรทุกมาเต็มเหนี่ยวจนวิ่งไม่ออกแต่ไม่อยากวิ่งอยู่ในเลนรถช้า รถหลังยกไฟสูงก็ยังไม่หลบแถมยังยกไฟเลี้ยวขวาคาไว้ราวกับจะบอกรถคันข้างหลังว่าไม่หลบนะ หาทางไปเอาเองซิ เป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวและเป็นการขับที่ห่วยสุด ทั้งผิดกฎหมายจราจรและทำให้รถเคลื่อนตัวไม่สะดวก แถมยังเกิดอันตรายได้ง่ายๆ
เมื่อรถคันที่เร็วกว่าต้องใช้เลนซ้ายในการแซง บางรายขับคาติ่งอยู่ขวาแถมยังเบรกใส่รถคันข้างหลังด้วยความโมโหเมื่อถูกยกไฟสูงหรือบีบแตรไล่เพื่อขอให้หลบ เมื่อไม่หลบแล้วยังขับแบบกั๊กไม่ยอมให้รถที่เร็วกว่าแซงในเลนที่ถูกต้อง รถที่จะแซงบางคันเป็นคนใจร้อนเจ้าอารมณ์ที่ชอบพกพาอาวุธปืนติดตัวไปด้วย เมื่อยกไฟก็แล้ว บีบแตรก็แล้วไม่เกิดอะไรขึ้น ก็ยิ่งไปสร้างความโกรธให้กับคนเหล่านี้มากยิ่งขึ้นจนเกิดอารมณ์ฉุนเฉียวโมโห ตามมาด้วยการไล่ปาดไล่เบียดจนตกถนนหรือบานปลายเลยเถิดหนักข้อมากยิ่งขึ้นจากอารมณ์ที่ขุ่นมัวลุกลามไปจนถึงขั้นงัดเอาอาวุธปืนที่ติดตัวออกมาไล่ยิงกันจนบาดเจ็บเสียชีวิตไปแล้วก็หลายราย
เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเกือบทุกวันจากคลิป VDO ที่ได้จากกล้องติดรถที่กำลังแพร่ระบาดในโลกโซเชียล เป็นการประจานนิสัยของการขับรถสุดแย่ที่ไม่ควรลอกเลียนแบบ เมื่อใช้รถร่วมทางกับผู้อื่น ควรมีน้ำใจคิดคำนึงถึงคนอื่นให้มากกว่าตัวเอง เป็นเรื่องที่สมควรกระทำเพื่อสังคมส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อความสะดวกสบายตามใจตัว คิดว่าฉันจะขับแบบไหนก็ได้แล้วยังไงมีอะไรหรือเปล่า??? ไม่สนใจรถรารอบๆ ตัวเองแม้แต่น้อย ซึ่งตามหลังมาเป็นแพเนื่องจากช่องทางซ้ายมีรถเต็มทุกช่องทาง ใบขับขี่ที่ได้มาจากกรมขนส่งฯ ก็ลืมนึกถึงการอบรมบ่มสันดานก่อนที่จะต้องสอบใหม่เพื่อต่ออายุใบขับขี่ นักขับบางคนเดินออกจากกรมขนส่งทางบกไปแล้วก็ลืมเลยว่าควรจะขับอย่างไรถึงจะถูกกฎจราจร ทั้งๆ ที่เพิ่งจะผ่านการเรียนรู้วิธีการขับรถที่ถูกต้องถูกกฎจราจร สุดท้าย การแช่อยู่ในเลนขวาแล้วไปเจอเอานักเลงโตเข้าก็เกิดเรื่องเกิดราวตามมาด้วยคดีความหรือการสูญเสียที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นแม้แต่น้อย หากมีน้ำใจคิดถึงคนอื่นมากกว่าคิดถึงความสะดวกสบายของตัวเอง เมื่อเห็นว่ารถซ้ายเริ่มที่จะแซงคุณขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ควรที่ยกไฟเพื่อเปลี่ยนเลนเข้าช่องทางเลนกลางให้คนที่ขับเร็วกว่าเขาแซงผ่านไปจะได้ไม่อันตราย เปลี่ยนมาขับเลนกลางให้เหมาะกับความเร็วที่ใช้ ซึ่งควรจะมองไมล์ว่าคุณวิ่งแค่ 80-100 Km/h เท่านั้น ไม่ควรไปเกะกะเขาในช่องทางรถเร็ว นอกจากจะช่วยลดอุบัติเหตุแล้ว หากรถเยอะวิ่งกันเกือบเต็มทุกช่องทางก็ยังช่วยให้สภาพการจราจรไหลลื่นคล่องตัวมากยิ่งขึ้น อย่าให้ใครมองคุณว่าเป็นตัวถ่วงสังคมอีกเลย แค่หลบให้ทางคนอื่นเขาแซงผ่านไป คงไม่ทำให้ถึงกับกระอักเลือดหรือชักดิ้นชักงอคารถหรอกครับ.
อาคม รวมสุวรรณ
เมื่อเลนขวากลายเป็นเลนรถช้า
http://www.thairath.co.th/content/861352
เขียนได้ตรงใจครับ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่รู้สึกรู้สาว่าเป็นปัญหาแต่อย่างใด
ยิ่งผู้มีอำนาจบารมี รู้สึกดูเหมือนว่ายิ่งชอบ จะได้หาเรื่องอนุมัติงบสร้างถนน ขยายถนนได้ง่ายขึ้น
เมื่อเลนขวากลายเป็นเลนรถช้า!!
อุบัติเหตุและจำนวนผู้เสียชีวิตบนท้องถนนในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นทุกปีจนติดอันดับสองของโลกเป็นเครื่องชี้วัดการขับขี่อันย่ำแย่ของคนไทยหลายๆ คน เรื่องดังกล่าวสมควรที่ผู้เกี่ยวข้องและผู้ใช้รถยนต์ในประเทศไทยต้องหันมาใส่ใจก่อนที่อุบัติเหตุจะเกิดขึ้นกับตัวของคุณเอง กฎจราจรที่ถูกละเลยจากการขับแบบตามใจฉัน ขับช้าแช่คาอยู่ในเลนรถเร็ว สมาธิของคนขับไม่ได้มุ่งไปที่ความปลอดภัยและการคิดคำนึงถึงส่วนรวมมากกว่าคิดถึงแต่ตัวเอง อุบัติเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นทุกวันทำให้การใช้รถใช้ถนนในประเทศนี้เต็มไปด้วยอันตราย เลนขวาสุดนั้นเป็นเลนรถเร็วและมีไว้สำหรับรถที่วิ่งเร็วใช้แซงรถช้า หากถนนโล่งอยู่ในสภาวะปกติไม่ได้มีรถวิ่งจนเต็มทุกช่องทาง เมื่อรถที่ขับเร็วกว่าแซงผ่านทางช่องขวาเรียบร้อยก็ต้องกลับมาวิ่งที่เลนกลางตามกฎข้อบังคับด้านความปลอดภัยซึ่งเป็นวินัยจราจรที่ถูกละเลยมานานแสนนาน แนวคิดเก่าๆ ที่คิดกันว่า ควรจะขับอยู่ในเลนตัวเองไม่ควรเปลี่ยนเลนไปมาซึ่งที่จริงก็ถูกแต่ไม่ทั้งหมดในเมื่อคุณใช้ความเร็วต่ำกว่ารถคันอื่นแต่ดันไปวิ่งคาอยู่ในเลนรถเร็วช่องขวาสุด
ไม่ว่าจะขับรถอะไร จะเป็นรถกระบะ รถเก๋ง หรือแม้แต่รถบรรทุกล้อเยอะ สิ่งที่พบเห็นบ่อยสุดๆ ก็คือการขับโดยใช้เลนขวาวิ่งกันอย่างสบายใจเฉิบ โดยเฉพาะรถพ่วงที่ชอบใช้เลนขวาสุดแซงรถพ่วงด้วยกันเอง โดยไม่เคยสนใจไยดีว่ารถข้างหลังที่ตามมาจะติดกันเป็นขบวนเนื่องจากมีรถคันโตขับช้าแช่อยู่ในเลนขวาเพียงแค่คันเดียว กว่าจะแซงพ้นก็เล่นเอารถหลังขับตามท้ายกันนับสิบๆ คัน พ่อเจ้าประคุณที่ไม่รู้ประสีประสากับการใช้ช่องทางให้ถูกต้องกับความเร็ว แม้ถนนจะโล่งก็ยังขับแค่ 80-100 แล้วคาขวาสุดจนรถที่เร็วกว่าต้องใช้ช่องทางด้านซ้ายแซง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดและอันตรายมาก คนที่ขับเร็วกว่าพยายามเลี่ยงการทะเลาะวิวาทด้วยการแซงทางซ้ายแบบรูดยาวก็ยิ่งอันตรายเนื่องจากเป็นช่องทางที่มีรถใหญ่ล้อเยอะวิ่งอยู่เป็นจำนวนมาก
รถที่ตามหลังพวกขับช้าอยู่ขวาสุด บางคนพยายามหาทางแซงแต่ถูกรถช้าบังช่องทางขวาไว้หมดก็ใช้การยกไฟสูง หนักหน่อยออกแนวโมโหก็บีบแตรไล่ คนที่ไม่เคยแคร์สังคมแล้วออกมาใช้รถใช้ถนนร่วมกับผู้อื่นก็ยังคงทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ยังนิ่งเฉยขับแช่อยู่ขวาคาที่เดิม บางคนมีแนวความคิดประหลาดเหมือนกับไม่แยแสต่อสังคมส่วนรวมคิดถึงแต่ตัวเองเป็นหลัก ฉันจะขับแบบนี้ใครจะทำไม ก็เสียภาษีเหมือนกันจะแช่อยู่ขวาพวกคุณก็ต้องหาทางแซงซ้ายกันเอาเองซิ จะขับไปตรงๆ แบบนี้แหละมีอะไรหรือเปล่า หากคิดได้แค่นี้ขอบอกตามตรงว่าไม่น่ามาขับรถเลยจริงๆนะครับ
กระจกมองหลังซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในการใช้รถถูกละเลยจากพวกประสาทนิ่ง ประสาทช้า หรือไม่มีสมาธิจดจ่อกับการขับ แม้จะขับแต่ใจล่องลอยไปคิดถึงเรื่องอื่นจนเกิดอุบัติเหตุก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองนั้นเป็นฝ่ายผิด ขับช้าแช่ขวา วิ่งหวานเย็นอยู่ที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงบนเลนด้านขวาสุดของทางแบบไฮเวย์ข้ามจังหวัดหรือแม้แต่บนทางด่วนในกรุงเทพฯ ก็มีให้เห็นทุกวัน เลนขวาซึ่งเป็นเลนรถเร็วกลายเป็นที่อยู่ของเต่าที่ใช้คลานบนถนนซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ทุกเมื่อจากการแซงในช่องทางจราจรด้านซ้ายซึ่งไม่ใช่เลนที่จะเอาไว้แซง คนเหล่านี้ไม่เคยแม้แต่จะมองกระจกหลังหรือสังเกตดูการขับของตัวเองว่าช้าจนรถเลนซ้ายแซงผ่านไปนับสิบๆ คันก็ยังขับคาอยู่ในเลนรถเร็วเหมือนเดิม
ขับช้าแบบคลานหรือบรรทุกมาเต็มเหนี่ยวแล้วไม่ชอบเปลี่ยนเลน หรือขับอยู่ในเลนซ้ายสุดซึ่งเป็นเลนของรถบรรทุกหรือรถที่ขับช้ามันสะเทือนจากถนนที่พังยับ ขอแช่ขวายาวๆ มีให้เห็นทุกวันโดยเฉพาะรถกระบะที่บรรทุกมาเต็มเหนี่ยวจนวิ่งไม่ออกแต่ไม่อยากวิ่งอยู่ในเลนรถช้า รถหลังยกไฟสูงก็ยังไม่หลบแถมยังยกไฟเลี้ยวขวาคาไว้ราวกับจะบอกรถคันข้างหลังว่าไม่หลบนะ หาทางไปเอาเองซิ เป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวและเป็นการขับที่ห่วยสุด ทั้งผิดกฎหมายจราจรและทำให้รถเคลื่อนตัวไม่สะดวก แถมยังเกิดอันตรายได้ง่ายๆ
เมื่อรถคันที่เร็วกว่าต้องใช้เลนซ้ายในการแซง บางรายขับคาติ่งอยู่ขวาแถมยังเบรกใส่รถคันข้างหลังด้วยความโมโหเมื่อถูกยกไฟสูงหรือบีบแตรไล่เพื่อขอให้หลบ เมื่อไม่หลบแล้วยังขับแบบกั๊กไม่ยอมให้รถที่เร็วกว่าแซงในเลนที่ถูกต้อง รถที่จะแซงบางคันเป็นคนใจร้อนเจ้าอารมณ์ที่ชอบพกพาอาวุธปืนติดตัวไปด้วย เมื่อยกไฟก็แล้ว บีบแตรก็แล้วไม่เกิดอะไรขึ้น ก็ยิ่งไปสร้างความโกรธให้กับคนเหล่านี้มากยิ่งขึ้นจนเกิดอารมณ์ฉุนเฉียวโมโห ตามมาด้วยการไล่ปาดไล่เบียดจนตกถนนหรือบานปลายเลยเถิดหนักข้อมากยิ่งขึ้นจากอารมณ์ที่ขุ่นมัวลุกลามไปจนถึงขั้นงัดเอาอาวุธปืนที่ติดตัวออกมาไล่ยิงกันจนบาดเจ็บเสียชีวิตไปแล้วก็หลายราย
เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเกือบทุกวันจากคลิป VDO ที่ได้จากกล้องติดรถที่กำลังแพร่ระบาดในโลกโซเชียล เป็นการประจานนิสัยของการขับรถสุดแย่ที่ไม่ควรลอกเลียนแบบ เมื่อใช้รถร่วมทางกับผู้อื่น ควรมีน้ำใจคิดคำนึงถึงคนอื่นให้มากกว่าตัวเอง เป็นเรื่องที่สมควรกระทำเพื่อสังคมส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อความสะดวกสบายตามใจตัว คิดว่าฉันจะขับแบบไหนก็ได้แล้วยังไงมีอะไรหรือเปล่า??? ไม่สนใจรถรารอบๆ ตัวเองแม้แต่น้อย ซึ่งตามหลังมาเป็นแพเนื่องจากช่องทางซ้ายมีรถเต็มทุกช่องทาง ใบขับขี่ที่ได้มาจากกรมขนส่งฯ ก็ลืมนึกถึงการอบรมบ่มสันดานก่อนที่จะต้องสอบใหม่เพื่อต่ออายุใบขับขี่ นักขับบางคนเดินออกจากกรมขนส่งทางบกไปแล้วก็ลืมเลยว่าควรจะขับอย่างไรถึงจะถูกกฎจราจร ทั้งๆ ที่เพิ่งจะผ่านการเรียนรู้วิธีการขับรถที่ถูกต้องถูกกฎจราจร สุดท้าย การแช่อยู่ในเลนขวาแล้วไปเจอเอานักเลงโตเข้าก็เกิดเรื่องเกิดราวตามมาด้วยคดีความหรือการสูญเสียที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นแม้แต่น้อย หากมีน้ำใจคิดถึงคนอื่นมากกว่าคิดถึงความสะดวกสบายของตัวเอง เมื่อเห็นว่ารถซ้ายเริ่มที่จะแซงคุณขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ควรที่ยกไฟเพื่อเปลี่ยนเลนเข้าช่องทางเลนกลางให้คนที่ขับเร็วกว่าเขาแซงผ่านไปจะได้ไม่อันตราย เปลี่ยนมาขับเลนกลางให้เหมาะกับความเร็วที่ใช้ ซึ่งควรจะมองไมล์ว่าคุณวิ่งแค่ 80-100 Km/h เท่านั้น ไม่ควรไปเกะกะเขาในช่องทางรถเร็ว นอกจากจะช่วยลดอุบัติเหตุแล้ว หากรถเยอะวิ่งกันเกือบเต็มทุกช่องทางก็ยังช่วยให้สภาพการจราจรไหลลื่นคล่องตัวมากยิ่งขึ้น อย่าให้ใครมองคุณว่าเป็นตัวถ่วงสังคมอีกเลย แค่หลบให้ทางคนอื่นเขาแซงผ่านไป คงไม่ทำให้ถึงกับกระอักเลือดหรือชักดิ้นชักงอคารถหรอกครับ.
อาคม รวมสุวรรณ