...
สวัสดีครับ วันนี้มาพบกันอีกครั้งแต่มครั้งนี้ไม่ได้มาเรื่องรถ หรือเรื่องท่องเที่ยวแต่เป็นในเรื่องของกางเกงยีนส์การ์ด
หลายๆท่านอาจจะมีอุปกรณ์ หรือ เครื่องแต่งกาย ที่ใช้ในการขับขี่จักรยานยนต์กันอยู่บ้างแล้ว
ส่วนความคุ้มค่ามันอยู่ที่ไหนอันนี้คงไม่มีใครกำหนดได้ เพราะอยู่ที่ใจชอบและความพร้อมทางด้านกำลังจับจ่ายใช้สอยณ เวลานั้นๆ
ซึ่งในวันนี้กางเกงยีนส์ที่ผมจะนำมาบอกเล่าสู่กันอ่าน ต้องแจ้งก่อนว่าเป็นกางเกงยีนส์พร้อมการ์ดที่ราคาค่อนไปทางสูงนิดๆ
แต่ภายใต้ราคานั้นมันจะมีอะไรที่มากกว่า หรือน้อยกว่ากางเกงยีนส์การ์ดที่เราพบเห็นกันทั่วไปนั้น มาติดตามกันครับ
กางเกงที่เป็นพระเอกของบทความในวันนี้คือ MADDOG DENIM
กางเกงยีนส์ MADDOG ถ้าให้เปรียบคงเปรียบได้เหมือนดังเช่นศิลปะครับ
เนื่องจากเนื้อผ้าทำมาจากผ้าดิบ ซึ่งจะหยิบยกในส่วนนี้ออกมาแยกย่อยให้อ่านกันก่อนแล้วจะรู้ว่าทำไมมันถึงเป็นดังเช่นศิลปะ
ซึ่งถ้าเป็นคนเล่นยีนส์อยู่แล้วคงทราบถึงศิลปะชิ้นนี้ได้เป็นอย่างดี ส่วนขยายนี้จะเพิ่มเติมในส่วนของหลายๆท่าน ที่อาจจะยังไม่ทราบกัน
ก่อนหน้าจะมาทำบทความนี้ผมก็เป็นเช่นใครหลายๆคนในกลุ่มหลังครับ ยีนส์ก็คือยีนส์ อะไรก็ใส่ได้ ใส่แล้วชอบจบ!!!
พอได้เรียนรู้ และทดสอบใช้งานเองจริงๆ ทำให้รู้ว่านอกจากความเป็นศิลปะแล้วมันยังสอดแทรกความคลาสสสิคเข้าไปอย่างกลมกลืน
ก่อนจะออกทะเลไปไกลกลับมาเข้าเรื่องกันก่อนดีกว่า
ยีนส์ผ้าดิบคืออะไร ?
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับยีนส์กันก่อนนะครับ
"Denim" หลายคนเคยได้ยินคำๆนี้บ่อยๆ หรืออาจจะไม่บ่อยก็ตาม แต่ต้องเคยได้ยินกันมาบ้างหละ ถ้าไม่เคยได้ยินเลย ก็อ่านเอาตรงนี้แหละ บางคนเอาไปตั้งคำถามในกระทู้ต่างๆ มากมาย ว่า "เดนิมกับยีนส์" มันแตกต่างกันอย่างไร? มาเริ่มกันเลยนะครับ เดนิม นั้นเป็นผืนผ้าชนิดหนึ่ง ที่มีการทอลักษณะพิเศษเฉพาะ ทอออกมาแล้วมันก็คล้ายกับผืนผ้าใบนั่นแหละครับ ซึ่งเป็นผ้าที่เขานำมาเพื่อตัดเย็บเป็น กางเกงยีนส์ เสื้อแจ็คเก็ตยีนส์ นั้นเอง ซึ่งเขาเรียกว่า "ผ้าเดนิม" ซึ่งผ้าเดนิมนั้นเกิดขึ้นที่เมือง Genoa ในประเทศอิตาลี จากการคาดเดา เข้าใจว่าเมืองนี้เป็นต้นแบบในการนำผ้าเดนิมมาตัดเย็บเป็นกางเกง ที่เรียกว่า ยีนส์ (Jeans) ซึ่งเป็นภาษาและสำเนียงคนฝรั่งเศษ ซึ่งน่าจะเพี้ยนมาจาก Genes ก็คือเมือง Genoa ของอิตาลีนั่นเอง
Raw Denim, Dry Denim มันก็คือ เส้นด้าย "เดนิม" ที่ถูย้อมสีด้วย "Indigo" สีน้ำเงินคราม ซึ่งมาจากพืชชนิดหนึ่ง หลังจากย้อมด้าย เสร็จแล้วก็นำมาถักทอขึ้นรูปเป็น "ผ้าเดนิม" เสร็จแล้วก็นำมาตัดเย็บเป็นกางเกงยีนส์ที่เรานำมาใส่กันได้อย่างเท่ นี่เองครับ ซึ่งผ้าของยีนส์ที่เป็นสีน้ำเงินเข้มสวยงามและไม่ได้ผ่านการฟอกใดๆ เลย มันก็คือ "ยีนส์ผ้าดิบ" นั่นเอง แต่งานศิล์ปมันเริ่มหลังจากนี้ครับ
โดยเจ้าผ้าดิบเนี่ย จะมีความพิเศษคือ สีของตัวยีนส์นั้นจะค่อยๆ จางไปตามกาลเวลา ตามลักษณะการสอดใส่ จนทำให้เกิดริ้วร้อยที่เขาเรียกกันว่า Fade ซึ่งยีนส์แต่ละตัวจะมีลักษณะที่สวยงามต่างกันออกไป ถือเป็นคุณลักษณะเฉพาะตัวของยีนส์ตัวนั้นเลยทีเดียวครับ แม้ว่าจะเป็นยีนส์รุ่นเดียวกัน การเกิดเฟด ก็แตกต่างกันออกไป ในส่วนของความคลาสสิคอันนี้อยู่กับระยะเวลาความมากน้อยในการใส่ของแต่ละบุคคล เรียกง่ายๆว่ามันจะเพิ่มมูลค่าให้แก่ตัวของมันเองเมื่อถึงเวลาและมีลวดลายที่สวยงามนั่นเองงงง
จบเรื่องมีสาระไปแล้วมาเข้าสู่ช่วงบอกสเป็คคร่าวๆ
โดยรุ่นที่ผมได้มาทดสอบนี้ มีช่วงชัก กำลังอัดและซีซีเท่าไหร่นั้น เดี๋ยวๆๆๆๆๆ นี่มันบทความเรื่องกางเกงเฟ้ย
เอาจริงละ
- ไซส์หลักที่มีให้เลือก 30”/ 32”/ 34” (ใส่ตรงเอวจริง) ไซส์นอกเหนือจากนี้สามารถสั่งตัดได้และบริการดีมากครับ
ขาผมสั้นๆความยาว inseamเรียกง่ายๆว่าความยาวจากช่วงง่ามขาถึงตาตุ่ม ไม่ได้ปกติคนไทยซักเท่าไหร่นัก สั่งแก้เปลี่ยนแปลงได้เลยจ้า เอาง่ายๆว่ารับประกันจนสิ้นอายุกางเกงนั่นแหล่ะ
อันนี้รับประกันว่าคุ้มค่าจริงๆครับ ตัวที่ผมเอามาสวมใส่นี้เอว30" แต่ความยาวเบื้องต้นก็ตามภาพ
อารมณ์แบบมีสกูบานี่พาไปดำนำดูแนวปะการังได้เลย ถถถ ถ้าให้พับขาโชว์ตะเข็บเท่ห์ก็คงพับขึ้นมาถึงเข่าอ่ะครับเห็นรูปแล้วอย่าโทษกางเกงนะครับ
โทษขาสั้นๆของผมเองดีกว่า TT
- ทรงกระบอกเล็ก (Slim Straight Fit) ที่พัฒนาต่อยอดมาจากล็อตแรก ให้เหมาะสมกับการขับขี่มอเตอร์ไซค์และสรีระของคนไทยมากขึ้น
- ผ้า Kaihara ริมแดง (Red Selvedge)15 ออนซ์ ค็อตตอน 100% ผ่านกระบวนการทำให้หดแล้ว (Sanforized) ทอแบบ Right Hand Twill ให้รอย fade ที่คมชัด บ่งบอกเรื่องราวในการขับขี่เฉพาะของแต่ละคน ของผมหกเดือนยังไม่ค่อยขึ้นแฮะ
ึ
- การตัดเย็บที่เน้นรายละเอียดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยใช้จักรแบบโบราณทั้งหมดในการตัดเย็บ คงไว้ซึ่งความแข็งแรงทนทาน และเสน่ห์สไตล์วินเทจ
- กระดุม และหมุด ทำจากทองเหลืองแท้ ปั๊มโลโก้ ซิป YKK หมดห่วงเรื่องคุณภาพ ตรงโลโก้จะเป็นรูปลูกสูบด้วยนะครับ ส่วนซิบเวลารูดระวังสูบติดด้วยละกันนนน
- ป้ายหนังฟอกฝาดอิตาลี หนา 2.3 มิลลิเมตร ปั๊มด้วยความร้อน ยิ่งใช้ยิ่งสวยตามกาลเวลา
- ชิ้นเอวด้านหลังเดินด้าย 3 เส้น (เหลือง แดง ขาว) เดินเข็มเย็บแบบลูกโซ่ทั้งตัวเพื่อเพิ่มความทนทาน โลโก้ปักสีแดงบริเวณขอบกระเป๋าหลังด้านนอกขวา และขอบเอวด้านในเพิ่มคมชัดกว่าเดิม
- กระเป๋าลับพับซ่อนริมแดง แบะโชว์ให้เห็นเล็กน้อยเพื่อความเรียบง่ายแต่ซ่อนไว้ด้วยรายละเอียด
- หูเข็มขัดสอดเชือกม้วนนูน เพิ่มมิติในการเฟด และเย็บสอดเข้าขอบเอวตามสไตล์งานวินเทจ
- เดินลูกโซ่สุดขอบเอว และเย็บ v-stitch เพื่อความเรียบร้อยสวยงาม
การป้องกัน อันนี้ใจไม่กล้าพอที่จะทดสอบ เลยเอาเรื่องอุปกรณ์ที่อยู่ด้านในกางเกง มาบอกแทนครับ
โดยรวมโครงสร้างทางด้านการป้องกันก็จะเป็นตามรูปนี้เลย
-เสริมkevlarเค้าว่าน่ารัก ผมนั้นชักชักอยากจะเห็น ถถ
- การ์ดมาตรฐาน CE ทั้งบริเวณเข่า และสะโพก จาก POWERTECTOR การ์ดที่ได้มาตรฐานจากประเทศเกาหลี สามารถถอดได้ การ์ดเข่าสารมารถปรับได้ 3 ระดับซึ่งอันนี้ดีงามพระรามแปดมากครับ คนช่วงขาจะสั้นจะยาวการ์ดเข่าจะไม่ตกไปเป็นสนับแข้งให้รำคาญใจ
ช่วงสะโพกก็ตัดเย็บออกมาพอดีเป๊ะ
การ์ดมีความยืดหยุ่นสูง ใส่แล้วไม่เจ็บไม่ดัน
เอาล่ะครับ ร่ายมาซะยืดยาว ยังไม่กล่าวถึงเรื่องราคา
ราคาของMaddog เนี่ยอยู่ที่ 6,900 บาทครับ
หลายคนพออ่านมาถึงบรรทัดนี้อาจ ห๊ะ บางคนอาจเฉยๆ ส่วนตัวขอบอกว่า ราคานี้คุ้มค่ากับสิ้นค้าแล้วครับ วัสดุที่ให้รายละเอียดชัดเจน การตัดเย็บที่ประณีต ที่สำคัญจริงๆ คือ "บริการ" ครับ
เมื่อเราซื้อมาไม่ต้องห่วงว่าจะโดนลอยแพ ทางร้านคอยให้คำแนะนำ และแสดงความรับผิดชอบโดยดีตลอด คะแนนตรงนี้ผมยกให้เต็มสิบ
นอกจากอุปกรณ์ที่ใข้ปกป้องตัวเราเองแล้ว อย่าลืมใช้สติในการขับขี่เพื่อปกป้องทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเราและตัวเราเองด้วยนะครับ
ขอขอบคุณ MADDOG DENIM
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้[urlhttps://m.facebook.com/maddogdenim/?rc=p&refid=52&_ft_=og_action_id.868373709974971%3Atop_level_post_id.868373703308305%3Atl_objid.868373703308305%3Athrowback_story_fbid.868373703308305&__tn__=~R] สำหรับกางเกงที่ใช้ในการทำบทความครั้งนี้
และหากใครสนใจ จิ้มเข้าไปสั่งซื้อทางลิ้งค์ได้เลยครับ
ขอบคุณ Just-Ride-It
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.just-ride-it.com ที่ประสานงานให้
รอบนี้มาแบบรวดเดียว ใครสงสัยอะไรสอบถามไว้ได้นะครับ แล้วจิรีบกลับมาตอบ
สำหรับวันนี้ราตรีสวัสดิ์ครับ แล้วพบกันใหม่ได้เรื่อยๆ
[SR] MADDOG DENIM คลาสสิค บริการและงานศิลป์
สวัสดีครับ วันนี้มาพบกันอีกครั้งแต่มครั้งนี้ไม่ได้มาเรื่องรถ หรือเรื่องท่องเที่ยวแต่เป็นในเรื่องของกางเกงยีนส์การ์ด
หลายๆท่านอาจจะมีอุปกรณ์ หรือ เครื่องแต่งกาย ที่ใช้ในการขับขี่จักรยานยนต์กันอยู่บ้างแล้ว
ส่วนความคุ้มค่ามันอยู่ที่ไหนอันนี้คงไม่มีใครกำหนดได้ เพราะอยู่ที่ใจชอบและความพร้อมทางด้านกำลังจับจ่ายใช้สอยณ เวลานั้นๆ
ซึ่งในวันนี้กางเกงยีนส์ที่ผมจะนำมาบอกเล่าสู่กันอ่าน ต้องแจ้งก่อนว่าเป็นกางเกงยีนส์พร้อมการ์ดที่ราคาค่อนไปทางสูงนิดๆ
แต่ภายใต้ราคานั้นมันจะมีอะไรที่มากกว่า หรือน้อยกว่ากางเกงยีนส์การ์ดที่เราพบเห็นกันทั่วไปนั้น มาติดตามกันครับ
กางเกงที่เป็นพระเอกของบทความในวันนี้คือ MADDOG DENIM
กางเกงยีนส์ MADDOG ถ้าให้เปรียบคงเปรียบได้เหมือนดังเช่นศิลปะครับ
เนื่องจากเนื้อผ้าทำมาจากผ้าดิบ ซึ่งจะหยิบยกในส่วนนี้ออกมาแยกย่อยให้อ่านกันก่อนแล้วจะรู้ว่าทำไมมันถึงเป็นดังเช่นศิลปะ
ซึ่งถ้าเป็นคนเล่นยีนส์อยู่แล้วคงทราบถึงศิลปะชิ้นนี้ได้เป็นอย่างดี ส่วนขยายนี้จะเพิ่มเติมในส่วนของหลายๆท่าน ที่อาจจะยังไม่ทราบกัน
ก่อนหน้าจะมาทำบทความนี้ผมก็เป็นเช่นใครหลายๆคนในกลุ่มหลังครับ ยีนส์ก็คือยีนส์ อะไรก็ใส่ได้ ใส่แล้วชอบจบ!!!
พอได้เรียนรู้ และทดสอบใช้งานเองจริงๆ ทำให้รู้ว่านอกจากความเป็นศิลปะแล้วมันยังสอดแทรกความคลาสสสิคเข้าไปอย่างกลมกลืน
ก่อนจะออกทะเลไปไกลกลับมาเข้าเรื่องกันก่อนดีกว่า
ยีนส์ผ้าดิบคืออะไร ?
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับยีนส์กันก่อนนะครับ
"Denim" หลายคนเคยได้ยินคำๆนี้บ่อยๆ หรืออาจจะไม่บ่อยก็ตาม แต่ต้องเคยได้ยินกันมาบ้างหละ ถ้าไม่เคยได้ยินเลย ก็อ่านเอาตรงนี้แหละ บางคนเอาไปตั้งคำถามในกระทู้ต่างๆ มากมาย ว่า "เดนิมกับยีนส์" มันแตกต่างกันอย่างไร? มาเริ่มกันเลยนะครับ เดนิม นั้นเป็นผืนผ้าชนิดหนึ่ง ที่มีการทอลักษณะพิเศษเฉพาะ ทอออกมาแล้วมันก็คล้ายกับผืนผ้าใบนั่นแหละครับ ซึ่งเป็นผ้าที่เขานำมาเพื่อตัดเย็บเป็น กางเกงยีนส์ เสื้อแจ็คเก็ตยีนส์ นั้นเอง ซึ่งเขาเรียกว่า "ผ้าเดนิม" ซึ่งผ้าเดนิมนั้นเกิดขึ้นที่เมือง Genoa ในประเทศอิตาลี จากการคาดเดา เข้าใจว่าเมืองนี้เป็นต้นแบบในการนำผ้าเดนิมมาตัดเย็บเป็นกางเกง ที่เรียกว่า ยีนส์ (Jeans) ซึ่งเป็นภาษาและสำเนียงคนฝรั่งเศษ ซึ่งน่าจะเพี้ยนมาจาก Genes ก็คือเมือง Genoa ของอิตาลีนั่นเอง
Raw Denim, Dry Denim มันก็คือ เส้นด้าย "เดนิม" ที่ถูย้อมสีด้วย "Indigo" สีน้ำเงินคราม ซึ่งมาจากพืชชนิดหนึ่ง หลังจากย้อมด้าย เสร็จแล้วก็นำมาถักทอขึ้นรูปเป็น "ผ้าเดนิม" เสร็จแล้วก็นำมาตัดเย็บเป็นกางเกงยีนส์ที่เรานำมาใส่กันได้อย่างเท่ นี่เองครับ ซึ่งผ้าของยีนส์ที่เป็นสีน้ำเงินเข้มสวยงามและไม่ได้ผ่านการฟอกใดๆ เลย มันก็คือ "ยีนส์ผ้าดิบ" นั่นเอง แต่งานศิล์ปมันเริ่มหลังจากนี้ครับ
โดยเจ้าผ้าดิบเนี่ย จะมีความพิเศษคือ สีของตัวยีนส์นั้นจะค่อยๆ จางไปตามกาลเวลา ตามลักษณะการสอดใส่ จนทำให้เกิดริ้วร้อยที่เขาเรียกกันว่า Fade ซึ่งยีนส์แต่ละตัวจะมีลักษณะที่สวยงามต่างกันออกไป ถือเป็นคุณลักษณะเฉพาะตัวของยีนส์ตัวนั้นเลยทีเดียวครับ แม้ว่าจะเป็นยีนส์รุ่นเดียวกัน การเกิดเฟด ก็แตกต่างกันออกไป ในส่วนของความคลาสสิคอันนี้อยู่กับระยะเวลาความมากน้อยในการใส่ของแต่ละบุคคล เรียกง่ายๆว่ามันจะเพิ่มมูลค่าให้แก่ตัวของมันเองเมื่อถึงเวลาและมีลวดลายที่สวยงามนั่นเองงงง
จบเรื่องมีสาระไปแล้วมาเข้าสู่ช่วงบอกสเป็คคร่าวๆ
โดยรุ่นที่ผมได้มาทดสอบนี้ มีช่วงชัก กำลังอัดและซีซีเท่าไหร่นั้น เดี๋ยวๆๆๆๆๆ นี่มันบทความเรื่องกางเกงเฟ้ย
เอาจริงละ
- ไซส์หลักที่มีให้เลือก 30”/ 32”/ 34” (ใส่ตรงเอวจริง) ไซส์นอกเหนือจากนี้สามารถสั่งตัดได้และบริการดีมากครับ
ขาผมสั้นๆความยาว inseamเรียกง่ายๆว่าความยาวจากช่วงง่ามขาถึงตาตุ่ม ไม่ได้ปกติคนไทยซักเท่าไหร่นัก สั่งแก้เปลี่ยนแปลงได้เลยจ้า เอาง่ายๆว่ารับประกันจนสิ้นอายุกางเกงนั่นแหล่ะ
อันนี้รับประกันว่าคุ้มค่าจริงๆครับ ตัวที่ผมเอามาสวมใส่นี้เอว30" แต่ความยาวเบื้องต้นก็ตามภาพ
อารมณ์แบบมีสกูบานี่พาไปดำนำดูแนวปะการังได้เลย ถถถ ถ้าให้พับขาโชว์ตะเข็บเท่ห์ก็คงพับขึ้นมาถึงเข่าอ่ะครับเห็นรูปแล้วอย่าโทษกางเกงนะครับ
โทษขาสั้นๆของผมเองดีกว่า TT
- ทรงกระบอกเล็ก (Slim Straight Fit) ที่พัฒนาต่อยอดมาจากล็อตแรก ให้เหมาะสมกับการขับขี่มอเตอร์ไซค์และสรีระของคนไทยมากขึ้น
- ผ้า Kaihara ริมแดง (Red Selvedge)15 ออนซ์ ค็อตตอน 100% ผ่านกระบวนการทำให้หดแล้ว (Sanforized) ทอแบบ Right Hand Twill ให้รอย fade ที่คมชัด บ่งบอกเรื่องราวในการขับขี่เฉพาะของแต่ละคน ของผมหกเดือนยังไม่ค่อยขึ้นแฮะ
- การตัดเย็บที่เน้นรายละเอียดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยใช้จักรแบบโบราณทั้งหมดในการตัดเย็บ คงไว้ซึ่งความแข็งแรงทนทาน และเสน่ห์สไตล์วินเทจ
- กระดุม และหมุด ทำจากทองเหลืองแท้ ปั๊มโลโก้ ซิป YKK หมดห่วงเรื่องคุณภาพ ตรงโลโก้จะเป็นรูปลูกสูบด้วยนะครับ ส่วนซิบเวลารูดระวังสูบติดด้วยละกันนนน
- ป้ายหนังฟอกฝาดอิตาลี หนา 2.3 มิลลิเมตร ปั๊มด้วยความร้อน ยิ่งใช้ยิ่งสวยตามกาลเวลา
- ชิ้นเอวด้านหลังเดินด้าย 3 เส้น (เหลือง แดง ขาว) เดินเข็มเย็บแบบลูกโซ่ทั้งตัวเพื่อเพิ่มความทนทาน โลโก้ปักสีแดงบริเวณขอบกระเป๋าหลังด้านนอกขวา และขอบเอวด้านในเพิ่มคมชัดกว่าเดิม
- กระเป๋าลับพับซ่อนริมแดง แบะโชว์ให้เห็นเล็กน้อยเพื่อความเรียบง่ายแต่ซ่อนไว้ด้วยรายละเอียด
- หูเข็มขัดสอดเชือกม้วนนูน เพิ่มมิติในการเฟด และเย็บสอดเข้าขอบเอวตามสไตล์งานวินเทจ
- เดินลูกโซ่สุดขอบเอว และเย็บ v-stitch เพื่อความเรียบร้อยสวยงาม
การป้องกัน อันนี้ใจไม่กล้าพอที่จะทดสอบ เลยเอาเรื่องอุปกรณ์ที่อยู่ด้านในกางเกง มาบอกแทนครับ
โดยรวมโครงสร้างทางด้านการป้องกันก็จะเป็นตามรูปนี้เลย
-เสริมkevlarเค้าว่าน่ารัก ผมนั้นชักชักอยากจะเห็น ถถ
- การ์ดมาตรฐาน CE ทั้งบริเวณเข่า และสะโพก จาก POWERTECTOR การ์ดที่ได้มาตรฐานจากประเทศเกาหลี สามารถถอดได้ การ์ดเข่าสารมารถปรับได้ 3 ระดับซึ่งอันนี้ดีงามพระรามแปดมากครับ คนช่วงขาจะสั้นจะยาวการ์ดเข่าจะไม่ตกไปเป็นสนับแข้งให้รำคาญใจ
การ์ดมีความยืดหยุ่นสูง ใส่แล้วไม่เจ็บไม่ดัน
เอาล่ะครับ ร่ายมาซะยืดยาว ยังไม่กล่าวถึงเรื่องราคา
ราคาของMaddog เนี่ยอยู่ที่ 6,900 บาทครับ
หลายคนพออ่านมาถึงบรรทัดนี้อาจ ห๊ะ บางคนอาจเฉยๆ ส่วนตัวขอบอกว่า ราคานี้คุ้มค่ากับสิ้นค้าแล้วครับ วัสดุที่ให้รายละเอียดชัดเจน การตัดเย็บที่ประณีต ที่สำคัญจริงๆ คือ "บริการ" ครับ
เมื่อเราซื้อมาไม่ต้องห่วงว่าจะโดนลอยแพ ทางร้านคอยให้คำแนะนำ และแสดงความรับผิดชอบโดยดีตลอด คะแนนตรงนี้ผมยกให้เต็มสิบ
นอกจากอุปกรณ์ที่ใข้ปกป้องตัวเราเองแล้ว อย่าลืมใช้สติในการขับขี่เพื่อปกป้องทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเราและตัวเราเองด้วยนะครับ
ขอขอบคุณ MADDOG DENIM [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ สำหรับกางเกงที่ใช้ในการทำบทความครั้งนี้
และหากใครสนใจ จิ้มเข้าไปสั่งซื้อทางลิ้งค์ได้เลยครับ
ขอบคุณ Just-Ride-It[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ที่ประสานงานให้
รอบนี้มาแบบรวดเดียว ใครสงสัยอะไรสอบถามไว้ได้นะครับ แล้วจิรีบกลับมาตอบ
สำหรับวันนี้ราตรีสวัสดิ์ครับ แล้วพบกันใหม่ได้เรื่อยๆ