มันก็ใช่อยู่ ที่ว่าเกมส์ ปกติ เป็นโปรแกรม ที่ มนุษย์
เข้าไปใช้งาน   โดยที่ ตัวเอง นั่งอยู่หน้าจอคอม
หรือมือถือ  ส่วน การประมวลผล ของเกมส์
แน่นอน ว่า ต้องถูกโปรแกรม สั่งประมวลผล บน Server ที่อยู่อีกฟากจึง สามารถบอกได้ 100% ว่านั่นคือ bug  

ส่วนเจตจำนง ของมนุษย์ ที่ เหนือระบบ  นั้นในเกมส์ปัจจุบันที่ sever ความเร็วสูงประมวลผลอยู่ที่ใดที่หนึ่ง  ยังไงก็ ถูกตีค่า เป็น bug หรือ error ของระบบ อันนี้ แน่นอน

ส่วนที่ว่าเจตนาที่เหนือกว่าระบบใน SAOใช่ว่า จะเป็นทฤษฏีที่เป็นไปไม่ได้ หรือพูดได้ว่า มีความเป็นไปได้จนน่าทึ่ง  จะเหมาะสมกว่า  

เพราะใน sao นั้น มีความต่างออกไป
เนื่องจาก เนิร์ฟเกียร์ นั้น เป็นเครื่องที่สแกน การทำงานสมองมนุษย์  
ไม่ว่าจะดีใจ เสียใจ ก็สั่งประมวลผลให้ออกมาทางใบหน้า เป็นรอยยิ้ม หรือหยดน้ำตา ได้

พอมองออกมั้ยว่า ความเก่งในการต่อสู้ นั้น คิริโตะ ซึ่งเป็นบีทเตอร์ ใช้เวลา ใน sao ในการล่ามอนสเตอร์ ทำเควส  ทั้งวัน ทั้งคืน จึงเป็น ผู้ที่สมองทำงาน  มีความเข้ากันได้กับเนิร์ฟเกียร์  หรือเทคโนโลยี ฟูลไดร์ สูงกว่า ผู้เล่น คนอื่นๆ   จนน่าทึ่ง
อัตราการตอบสนอง ความเข้ากันได้ กับเทคโนโลยี นี่เอง ได้มาจาก
ชม.บิน ที่เก็บ level อย่างโหด ทั้งวัน ทั้งคืน มา 1 ปี 5 เดือน     ทั้งๆที่ผู้เล่นอื่นส่วนมากมืดแล้วกลับในนอนในเมืองที่เป็นเขตปลอดภัยในเวลากลางคืน
และบางครั้งคิริโตะถึงกับนอนในดันเจี้ยนที่มีมอนเสตอร์บุกมาฆ่าได้ตลอดเวลา  ตามลำพัง  ซ้ำตอนเช้ายังตื่นออกมาล่ามอนเสตอร์ต่อได้อีก

การออกล่ามอนสเตอร์ ทั้งวันทั้งคืน ต้องใช้กำลังใจที่เข้มแข็งมาก เนื่องจาก
จิตใจเหนื่อยล้าที่ต้องประมวลผลทำงานตลอดเวลา คนอื่นต้องนอนพักสักคืน
แต่คิริโตะก้าวข้ามความเหน็ดเหนื่อยทางจิตใจในการต่อสู้ที่ต้องรับภาระ ได้เร็ว มากกว่ามาก  
เมื่อเจอความลำยาก  ความเหน็ดเหนื่อย ในการต่อสู้  ก็ทำให้ใจสงบ มีสมาธิได้รวดเร็ว     ผลจากการฝึกโหดสินะ   

การกวัดแกว่งดาบอย่างรวดเร็ว โดยที่มีความใจเย็น และสงบ ในการต่อสู้    ผิดแผกจาก player คนอื่น ๆ  
เรียกว่า sense ในการค่อสู้ คิริโคะ ดี ใจที่สงบ เยือกเย็นมีสมาธิ ย่อมมีการประมวลผลสมอง ได้รวดเร็ว  

ด้วยค่าการประมวลผลผ่านเนิร์ฟเกียร์ ที่สแกนสมอง ผู้เล่น ด้วยละก็ แปรเป็น agi ที่เหนือผู้เล่นคนอื่น +ความสามารถ สกิล ในการเอาตัวรอด ทำให้คิริโตะ
ถูกคายาบะ อากิฮิโกะมอบสกิลดาบ นิโดริว ( ดาบคู่)   ให้เชียว  

ส่วนคนที่เหนือกว่าระบบในแง่ผู้ควบคุม คือคายาบะ

ส่วนคิริโตะ ก็เป็นเจตนาของมนุษย์ที่เหนือระบบ
คงเป็นเพราะอย่างที่บอกไว้ข้างบน  คิริโตะ เคยเล่นเคนโด้ +เป็นเด็กที่ฉลาด ตอนเด็กเอาเศษขยะ มาประกอบเป็น PC ใช้งานได้เอง  
การทำงานของสมองที่รองรับการสแกน จากเทคโนโลยี ฟูลไดร์  จึงเข้ากันได้ สูงเหนือกว่า คนอื่นๆ (ไม่ขอรวม  ยูกิ  ในภาคต่อๆ ไป อันนั้น ไดร์ VRMMORPG 3 ปี จนมีความเร็วดาบใกล้เคียงระบบ ไปแล้ว  )

ส่วนอาสึนะ นั้นเข้ากับ เทคโนโลยี ฟูลไดร์ ได้มาก เป็นรองก็แค่ คิริโตะนี่แหละ  อาสึนะเองก็ป็นคนที่ ทำ level สูงๆรองลงมาจาก คิริโตะ ที่ level 96 ตอนนั้น ไม่กี่ level  
(เสริมว่า อาสึนะเองก็พักผ่อนน้อย เวลา1 ปี 5เดือน  นั้น ตกกลางคืนก็พากิลล์ไปออกล่ามอนสเตอร์ บ่อยๆจน level ขึ้นสูง )

อาสึนะ เป็นพวก iq ฉลาดหัวกะทิ อ้างอิงจากผลการเรียนระดับท็อป ที่ผ่านๆ มา และค้นพบว่า ตัวเองมีพรสวรรค์ เรื่องการต่อสู้  เป็นนักวางกลยุทธ์ในการจู่โจมบอส แค่ละชั้น  มีสกิลต่างๆในระดับสูง  
ความเร็วดาบ นั้น ขนาดคิริโตะยังยอมรับว่า เร็วมาก มองไม่ทัน ในแง่ความเร็วการขยับร่างกายอาสึนะ น่าจะทำได้ เหนือกว่า คิริโตะเสียอีก

ขอเสริมด้วยคำพูด ของ ยูอิ ที่บอกคิริโตะ กับอาสึนะ ว่า  ตอนนั้น เธอเจอผู้คนสองคน ที่มีค่าการทำงานแสกนของเนิร์ฟเกียร์  
ต่างจากผู้เล่น คนอื่น ๆ   ทั้ง...  สงบ และเป็นสุข  ทำให้เธออยากไปอยู่ใกล้ๆ อยากเจอทั้งสองคน.....

เจตจำนงของมนุษย์ที่เหนือกว่า ระบบ
มาจากทฤษฏีที่ เนริ์ฟเกียร์มี function แสกน การทำงานของสมอง ของผู้เล่น และนำมาประมวลผล

คายาบะ ใส่เงื่อนไข ความเป็นตายในเกมส์
เท่ากับความเป็นตาย ในโลกจริงๆให้
โดยนึกว่า ทุกคนอยู่ใน ระบบ  ที่ประมวลโดยแกนกลาง ที่มีชื่อว่า คาลดินัล ตัวเองสร้างขึ้น
  
แต่คายาบะ ไม่ได้สนใจเรื่อง
พลังแฝง ของมนุษย์  ที่อยากจะปกป้องคนรัก
พลังแฝงของนักดาบ
ที่ประกอบพลังสมาธิขั้นสูง และจิตใจที่เข้มแข็ง

เมื่อประกอบกับคาลดินัล ที่เป็น AI ที่ประมวลได้ด้วยตัวเองมา 1 ปี 5 เดือน  
คิริโตะ และอาสึนะ ที่เล่นจนเกิดความเข้ากันได้กับระบบ ในระยะเวลา 1 ปี 5 เดือน เช่นกัน  ก็ใช่ว่า จะทำให้เกิดปาฏิหารย์ ใน sao ไม่ได้  

เมื่อ เนิร์ฟเกียร์ แสกน และคาลดินัล   ประมวลผล
จึงเกิดอาการ ที่สามารถขยับตัวได้รวดเร็ว และเปี่ยมด้วยพลัง   ยกตัวอย่างว่า

1. ตอนคิริโตะถูกพิษอัมพาต ใกล้ตายครั้งแรก ในตำแหน่งที่ อยู่ ใช้เวลาเดินทาง มาถึงทั้งหมด 1 ชม .
แต่อาสึนะ ใช้เวลาแค่ 5 นาที เพราะรีบมาช่วยคิริโตะ
เจ้าตัวก็บอกคิริโตะว่า ไม่รู้ว่าทำได้ยังไงเหมือนกัน คงเป็นพลัง ความรัก ละมั้ง

ซึ่งเป็นเหตุการณ์ราวๆ 2 สัปดาห์ก่อนที่ คิริโตะกับฮีทคลีฟจะสู้กัน ถ้าเป็น bug ระบบจริง คาบายะ คงแก้ไขเสร็จไปแล้ว

2. อาสึนะ แก้พิษอัมพาตได้เอง โผมารับดาบ ปกป้อง จนกลายเป็นเศษโพลิกอน ต่อหน้าคิริโตะ  ตามเหตุผลที่อ้างอิงไว้ข้างบน

3. คิริโตะ ที่แสดงพลังแฝง เฮือกสุดท้ายออกมา ทั้งๆ ที่ระบบ จะตัดการทำงานของสมองอยู่แล้ว แปลว่า เนริ์ฟเกียร์และเทคโนโลยี ฟูลไดร์ ต้องถูกส่งค่าจากสมองคิริโตะ มาด้วยพลังความเร็วที่ไวมากๆ

ส่วนคายาบะเอง ก็ยอมรับได้ ที่จะจบแบบนี้   เห็นได้จากตอนคุยกับคิริโตะและอาสึนะ ก่อนไอแครดจะล่มสลาย มีความสงบ เรียบง่ายในการคุย ..

คายาบะ ก็คงจะพอใจนั่นแหละ เพราะเทคโนโลยีที่ตัวเองสร้าง  กลับทำงานได้เหนือกว่า ที่ตัวเองคิดไว้เสียอีก  

**อ้างอิงเรื่องการทำงานของเนิร์ฟเกียร์จากนิยาย ด้วยส่วนนึง ซึ่งอธิบายทฤษฏีไว้ละเอัยด กว่า
ผ่านการประมวลผล ในการอ่านของเรา เลยได้ข้อสรุป เรื่องนี้มา
(อันที่จริง ทฤษฏีนี้ ตอนอ่าน SAO จบเราก็คิดแบบนี้แหละ แต่เพื่งเขียนอธิบายออกมาเป็นตัวหนังสือครั้งแรก ยาวเลย ต้องขออภัยด้วย)