John Wick: Chapter 2 เกร็ดเล็กน้อยขององค์กรอาชญากรรม



               หลายคนคงได้รับความสนุกจากความระห่ำของ Killer มือพระกาฬอย่าง John Wick ภาค 2 ไปกัน ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าภาคนี้ทำได้สะใจมาก ส่วนตัวผมนั้นชอบสุด ๆ ในเรื่องของการเพิ่มทักษะการต่อสู้มือเปล่าเข้ามา จนน่าทึ่งที่ว่าคนอายุเข้าเลข 5 อย่าง Keanu Reeves มาเริ่มฝึก Jiu Jitsu, Judo และ BJJ แถมยังทำออกมาได้ดีอีกด้วย



               แต่ที่จะมาเขียนในกระทู้นี้มิใช่การอวยภาพยนตร์แต่อย่างใด แต่เนื้อหาที่ผมสนใจในภาพยนตร์ก็คือเรื่องของ “สภา” ซึ่งสภาที่เอ่ยในเรื่องนี้คือสภาอาชญากรรมที่มีหลายองค์กรทั่วโลกเข้าร่วม แต่มันน่าสนใจที่ว่ามันดันเป็นเรื่องจริงที่คนไทยอาจจะไม่เคยนึกถึงมาก่อนว่า “มีแบบนี้ด้วยหรอ?” ซึ่งในตัวภาพยนตร์นั้นเล่าถึงองค์กรอาชญากรรมที่ John Wick ถล่มเละไปในภาคนี้คือ Gomorrah



               เท้าความสั้น ๆ Gomorrah เป็นชื่อเมืองที่อยู่ในพระคัมภีร์ Bible เล่าถึงช่วงที่ในเมือง Sodom และ Gomorrah ประพฤติบาปผิดมากมายจนกลายเป็นเมืองที่พระเจ้าไม่ประทับใจ เพราะเต็มไปด้วยความบาปมากมายทั้งการเข่นฆ่า, ปล้น, ค้าประเวณีรวมไปถึงการกระทำที่ผิดอีกมากมายจนพระเจ้าต้องลงโทษเผาเมืองทั้งสองโดยให้ลูกไฟจากฟ้าลงมาถล่มจนราบคาบเพื่อล้างบางความบาปออกไปจากโลก



               แต่ Gomorrah ที่อยู่ในภาพยนตร์นี้นั้นก็คงไม่ต่างกันมากมายนัก ซึ่งชื่อเรียกจริง ๆ ขององค์กรอาชญากรรมนี้คือ Camorra เป็นองค์กรอาชญากรรมชาวอิตาเลียนที่มีศูนย์กลางหลักอยู่ที่เมือง Naples หรือชื่อไทยที่คุ้นเคยคือ นาโปลี โดยที่เรียกว่า Gomorrah นั้นเพื่อเป็นการเล่นคำของนักเขียนท่านหนึ่ง (จะกล่าวในช่วงท้าย)



               คามอร์ราถือกำเนิดขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 โดยประมาณ โดยเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มอาชญากรรมแก๊งเล็กก๊วนน้อยที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดในช่วงเวลานั้น โดยมีความยากจนข้นแค้นและสภาพชีวิตที่ขาดแคลน เป็นแรงผลักดันสำคัญ แต่อย่างไรแล้ว คามอร์ราก็มีการสืบทอดต่ออายุกันมาอย่างเข้มแข็งยาวนานหลายศตวรรษจนกระทั่งปัจจุบัน


ภาพการพิจารณาคดีกลุ่มคามอร์ราในปี ค.ศ.1911




               คามอร์รานั้นมีธุรกิจการหาเงินที่ผิดกฎหมายชัดเจน เช่น ข่มขู่ รีดไถ เรียกเก็บค่าคุ้มครอง เปิดบ่อน ค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ ฯลฯ ขณะเดียวกันก็ยังมีธุรกิจด้านอื่นๆ ที่เหมือนจะถูกกฎหมาย อาทิ ธุรกิจค้านม ค้าปลา ค้ากาแฟ ทำโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า แต่เบื้องหลังเต็มไปด้วยความไม่ชอบมาพากลสารพัดอย่าง ทั้งผูกขาดการค้า หลบเลี่ยงภาษี ฟอกเงิน ธุรกิจทั้งหมดนั้น สร้างรายได้ให้ทางกลุ่มสูงถึง 2 แสน 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งข่าวลับ ลวง พราง มากมายยังได้เอ่ยอีกว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังองค์กรคามอร์รานั้นมีตั้งแต่นักการเมืองยันบาทหลวง ซึ่งทำให้ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่า ตัวใหญ่ ของคามอร์รานั้นคือใคร และยังเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้



               และแน่นอนว่าเมื่อมีกลุ่มหนึ่ง ก็ต้องมีการขัดขากับอีกกลุ่ม ทำให้กลุ่มคามอร์ราจะมีการซัดกับคู่อริบ่อยจนเสียชีวิตไปมากมาย จนทำให้นาโปลีมีสถิติอาชญากรรมสูงที่สุดในอิตาลี (แต่โดยรวมยังถือว่าต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ บนโลก)



               ดังที่กล่าวมานั้นคามอร์ราจึงกลายเป็นสิ่งที่รัฐบาลอิตาลีถือเป็นหนามยอกและต้องกำจัด แต่เมื่อลงมือปราบปรามจริงก็ใช่ว่าจะง่ายเสมอไป เพราะสมาชิกกลุ่มคามอร์ราเลือกที่จะปิดปากเงียบ หากสมาชิกในกลุ่มมีการถูกจับกุมไป คามอร์ราจะส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัวของสมาชิกที่ติดคุกอยู่อย่างดี กรณีนี้รวมไปถึงสมาชิกที่บาดเจ็บและเสียชีวิตด้วย


ภาพกลุ่มคามอร์ราใน New York เมื่อสมัยก่อน

               
               ยิ่งกว่านั้นโครงสร้างของคามอร์ราประกอบด้วยกลุ่มย่อยอีกมากมายและมีระเบียบกฎเกณฑ์ที่สมาชิกทุกคนล้วนปฏิบัติตามกันอย่างดี แถมยังมีกลุ่มย่อยที่อยู่ต่างประเทศเช่น สหรัฐอเมริกาและอังกฤษ



               และเรื่องราวเหล่านี้ได้ถูกเปิดเผยโดยนักเขียนนาม โรแบร์โต ซาเวียโนนักเขียนชาวอิตาลีพื้นเพเป็นคนนาโปลีเมืองเดียวกับคามอร์รา ได้คิดการใหญ่ เขาทำการแฝงตัวไปเข้าร่วมกลุ่มคามอร์ราโดยการเป็นลูกจ้างของกลุ่มไปทำงานหลากหลายมากมาย เขาได้พบกับการขนของเถื่อนโดยมีกลุ่มชาวจีนคอยรับหน้า หัตถกรรมชื่อดังของอิตาลีต้องแลกกับแรงงานชาวจีนหรือผู้ลี้ภัยประเทศอื่น ๆ โดยได้รับค่าจ้างเพียงน้อยนิดและสภาพความเป็นอยู่ที่แย่ ยาเสพติด การค้ามนุษย์ การเอาคืนกับกลุ่มคู่อริ การฟอกเงินและอีกมากมาย





               ท้ายที่สุด โรแบร์โต จึงได้ร่ายปากกาเขียนเรื่องราวที่เขาได้ประสบกับกลุ่มนี้และเขียนออกมาเป็นหนังสือ Gomorrah: Italy’s Other Mafia ซึ่งหลังจากตีพิมพ์ออกไปได้ไม่กี่เดือน ชีวิตของ โรแบร์โต ก็เปลี่ยนไปทันทีเมื่อคามอร์ราหมายหัวเขาไว้ จนต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยคุ้มกันเขาตลอด 24 ชั่วโมง แต่หนังสือก็ทำเงินมากมายและได้ตีพิมพ์ไปมากกว่า 1 ล้านเล่ม แถมหนังสือยังถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์อีกด้วย ภาพยนตร์ได้พาเราไปพบอีกมุมของประเทศอิตาลีที่เสื่อมโทรม เต็มไปด้วยปัญหาต่าง ๆ เช่น ปัญหาแรงงานต่างด้าว ยาเสพติด อาวุธสงคราม ไปจนถึงปัญหาของคนระดับบนอย่างนักธุรกิจที่ทำธุรกิจโดยที่ไม่สนใจความเดือดร้อนของชาวบ้าน ปัจจุบันโรแบร์โตยังคงใช้ชีวิตอยู่ภายใต้การอารักขาของตำรวจตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีนานาประเทศคอยให้การสนับสนุนตัวเขากับรัฐบาลอิตาลีในการต่อสู้กับคามอร์รา





               และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งขององค์กรอาชญากรรมคามอร์รา หากให้เขียนทั้งหมดก็คงใช้เวลาเป็นเดือน หากอยากรู้รายละเอียดก็ลองหาหนังสือ Gomorrah หรือในชื่อไทย “โคตรมาเฟีย” ซึ่งอาจจะพอมีเหลืออยู่บ้างเล็กน้อย ไม่ก็หาซื้อ DVD เรื่อง Gomorrah มาดูก็ได้ครับ





               แต่อย่างไรแล้ว John Wick ก็จัดการกระหน่ำถล่มเละไปเรียบร้อยแล้ว และหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะครับ


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่