ปี 2537 ผลงานภาพยนตร์เรื่อง "เสียดาย" ของ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ปรากฏตัวสู่สายตาคอหนังไทยนับล้านคน เรื่องราวว่าด้วยปัญหาสังคมเกี่ยวกับการเสพยาเสพติดของวัยรุ่น เรื่องนี้ประสบผลสำเร็จทั้งรายได้และรางวัลจำนวนมากมาย แม้ว่าจะใช้ทีมนักแสดงนำหน้าใหม่ ส่วนตัวละครที่เป็นผู้ปกครองก็ใช้นักแสดงที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีมารับหน้าที่ไป
จนกระทั่งในปี 2539 จึงเกิด "เสียดาย 2" ยังคงถ่ายทอดปัญหาสังคมของวัยรุ่นเช่นเคย แต่เรื่องราวเปลี่ยนเป็นปัญหาโรคเอดส์ ใช้ทีมนักแสดงไม่เหมือนชุดก่อน ก็ประสบผลสำเร็จอีกเช่นกัน
ผ่านไปกว่า 20 ปีจนถึงวันนี้ "เสียดาย" ทั้ง 2 ครั้ง ถือเป็นภาพยนตร์ที่ยังอยู่ในดวงใจของคนหลาย ๆ คน เพราะด้วยเนื้อหาสาระที่ไม่ค่อยมีใครกล้าทำและการแสดงอันเฉียบขาด เรียกว่าถ้าพลาดดูเรื่องนี้จะเสียดายสมชื่อเรื่อง
ล่าสุด ภาพยนตร์เรื่องเสียดายได้ดัดแปลงมาเป็นละครโทรทัศน์แล้ว โดยโอนให้ธิดาของท่านมุ้ยอย่าง หม่อมราชวงศ์ศรีคำรุ้ง ยุคล เป็นผู้จัดละครและกำกับการแสดง จะฉายให้ชมกันทางช่องพีพีทีวี ในอีกไม่ช้านี้ โดยหยิบเรื่องราวปัญหาสังคมจากภาพยนตร์ในครั้งแรกมานำเสนอ
แต่ในใจหนึ่งของคอหนังบางคน ก็อยากจะให้เกิดภาพยนตร์เรื่องเสียดาย ครั้งที่ 3 สักที เพราะเห็นว่ายังมีปัญหาสังคมไทยอีกหลายเรื่องที่น่าจะตีแผ่ผ่านภาพยนตร์ได้อย่างเข้าถึงและถึงใจ และอาจจะแหวกทุกกฎเกณฑ์ของวงการหนังไทยก็เป็นได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรนั้น ถ้าฉายในโรงภาพยนตร์จริงคงจะได้รับการสนับสนุนจากหลาย ๆ ฝ่ายได้เป็นอย่างดี
นาทีนี้คงต้องลองถามแฟนหนังทั้งเก่าใหม่แล้วกันว่า ถ้ามี "เสียดาย 3" ขึ้นจริง จะตีแผ่ปัญหาสังคมเรื่องใดดี สวัสดี.
ถ้าท่านมุ้ยจะสร้าง"เสียดาย 3" คุณอยากให้เนื้อเรื่องเกี่ยวกับปัญหาสังคมเรื่องใด?
จนกระทั่งในปี 2539 จึงเกิด "เสียดาย 2" ยังคงถ่ายทอดปัญหาสังคมของวัยรุ่นเช่นเคย แต่เรื่องราวเปลี่ยนเป็นปัญหาโรคเอดส์ ใช้ทีมนักแสดงไม่เหมือนชุดก่อน ก็ประสบผลสำเร็จอีกเช่นกัน
ผ่านไปกว่า 20 ปีจนถึงวันนี้ "เสียดาย" ทั้ง 2 ครั้ง ถือเป็นภาพยนตร์ที่ยังอยู่ในดวงใจของคนหลาย ๆ คน เพราะด้วยเนื้อหาสาระที่ไม่ค่อยมีใครกล้าทำและการแสดงอันเฉียบขาด เรียกว่าถ้าพลาดดูเรื่องนี้จะเสียดายสมชื่อเรื่อง
ล่าสุด ภาพยนตร์เรื่องเสียดายได้ดัดแปลงมาเป็นละครโทรทัศน์แล้ว โดยโอนให้ธิดาของท่านมุ้ยอย่าง หม่อมราชวงศ์ศรีคำรุ้ง ยุคล เป็นผู้จัดละครและกำกับการแสดง จะฉายให้ชมกันทางช่องพีพีทีวี ในอีกไม่ช้านี้ โดยหยิบเรื่องราวปัญหาสังคมจากภาพยนตร์ในครั้งแรกมานำเสนอ
แต่ในใจหนึ่งของคอหนังบางคน ก็อยากจะให้เกิดภาพยนตร์เรื่องเสียดาย ครั้งที่ 3 สักที เพราะเห็นว่ายังมีปัญหาสังคมไทยอีกหลายเรื่องที่น่าจะตีแผ่ผ่านภาพยนตร์ได้อย่างเข้าถึงและถึงใจ และอาจจะแหวกทุกกฎเกณฑ์ของวงการหนังไทยก็เป็นได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรนั้น ถ้าฉายในโรงภาพยนตร์จริงคงจะได้รับการสนับสนุนจากหลาย ๆ ฝ่ายได้เป็นอย่างดี
นาทีนี้คงต้องลองถามแฟนหนังทั้งเก่าใหม่แล้วกันว่า ถ้ามี "เสียดาย 3" ขึ้นจริง จะตีแผ่ปัญหาสังคมเรื่องใดดี สวัสดี.