สวัสดีค่า.. วันนี้มีจะนำเหนอที่เที่ยวสุดคิวท์ติดบีทีเอส ไม่ต้องไปไกลที่ไหนในห้างเกตเวย์เอกมัยของพวกเรานี่เองง! (พูดเหมือนเป็นของเรา5555) เรากับแฟนเองเพิ่งค้นพบกันมาสดๆร้อนๆ กลับบ้านมาด้วยความรู้สึกที่อิ่มความน่ารักมาเต็มที่ ด้วยความฟินทั้งหมดที่มีเลยขอเขียนมาบอกต่อนิสนึงงง >.<”
ที่นี่คือเมืองจำลอง สแตนลีย์ มินิเวนเจอร์ (Stanley MiniVenture) ค่ะ เราอาจจะเคยได้ที่เที่ยวที่เป็นเมืองจำลองอยู่บ่อยๆ แต่ที่แตกต่างของที่นี้คือ เป็นเมืองจำลองฟิกเกอร์ค่าา!!! ตอนแรกเราไม่รู้ว่ามีที่เที่ยวแบบหรอก แต่วันนั้นเรากะแฟนไปเจอกันที่ห้างนี้ กินข้าวกันเสร็จก็ไม่รู้จะทำอะไรต่อ
เลยเดินดูของกันไป จนมาเจอที่นี่แหละ ด้วยความที่แฟนเราก็ชอบฟิกเกอร์อยู่แล้ว มีสะสมเองอยู่บ้าง การตัดสินใจครั้งนี้เลยไม่ยากเกินไปสำหรับนางเท่าไหร่555555 มาดูกันค่ะ..มันจะสุดคิวท์อย่างที่เราว่าหรือเปล่า
Stanley MiniVenture หรือสแตนลีย์ มินิเวนเจอร์ อยู่ที่ชั้น 2 ของห้างเกตเวย์เอกมัยเลยค่ะ ด้านหน้าจะเป็นทางเข้าเล็กๆ มีรถไฟสีส้มจอดอยู่แบบนี้ มีเคาท์เตอร์ขายตั๋วอยู่อีกด้าน เราก็ดูไปเรื่อยหันมาอีกแฟนเราก็จัดการซื้อตั๋วให้เสร็จสรรพ คือนางชอบอยู่แล้ว มาเจอแบบนี้คืออารมณ์ดีมาก5555 ก็จะได้ตั๋วสองใบกับโบรชัวร์ และไกด์ 1 คนมาค่ะ
ระหว่างที่เดินเข้าไป ไกด์ก็เริ่มอธิบายที่มาที่ไปคร่าวๆค่ะ บอกว่าเจ้าของเคยได้ไปเห็นที่เที่ยวแบบนี้ที่เยอรมันมา แล้วคิดว่าน่าจะมีแบบนี้ที่เมืองไทยบ้าง เพราะมันช่วยเปิดเรื่องความคิดสร้างสรรค์ให้กับคนเข้าชม ช่วยสร้างจินตนาการได้ทั้งกับเด็กและผู้ใหญ่ เลยเป็นแรงบันดาลใจให้เขาสร้างที่นี่ขึ้นมา โดยฟิกเกอร์ที่จำลองนี้จะเป็นสัดส่วน 1:87 ตัวเล็กเท่าข้อนิ้วก้อย!
ฟังละภาพของคนที่ทำขึ้นมาทีละตัวขึ้นมาเลยค่า ไม่ได้สร้างกันง่ายๆอะ งานละเอียดเชียว ซึ่งที่นี่ก็ได้ใช้เวลาทั้งหมดไป 2-3 ปีค่ะจึงมาเป็นเมืองจำลองแบบที่เห็นกันอยู่นี้ ที่น่าประทับใจสุดๆคือทั้งหมดนี้สร้างขึ้นด้วยฝีมือคนไทยค่า! ฟังแล้วแบบ...คนไทยซะอย่าง ไม่เคยแพ้ชาติใดในโลกจริงๆ5555....ส่วนความใหญ่โตของที่นี่ก็ประมาณ 1,000 ตารางเมตรค่ะ ซึ่งไกด์พาทัวร์บอกว่าใหญ่ที่สุดในเอเชียและเป็นอันดับ 3 ของโลกข้างในจะแบ่งออกเป็น 9 โซนและมี Bonus table ที่จะเปิดเป็นโซนในอนาคตอีก 2 โซน
พอเข้าไปข้างในสิ่งแรกที่ได้ยินคือเสียงรถไฟ กับดินแดนฟิกเกอร์ที่ใหญ่มากๆค่ะ! เล่นเอาเรากับแฟนเก็บอาการตื่นเต้นไว้ไม่อยู่เลย ไม่เคยเจอฟิกเกอร์เยอะขนาดนี้ คือมันเยอะมาก! และด้วยเสียงรถไฟที่แล่นผ่านมาตลอด บวกกับความอลังการกับดินแดนของเล่นที่เราไม่ค่อยเห็นบ่อยๆในชีวิตประจำวัน ยอมรับว่าตื่นเต้นเหมือนเด็กเลยค่ะ หันไปดูแฟนที่ชอบฟิกเกอร์อยู่แล้วก็อาการไม่ต่างกัน ชี้นู่น ถ่ายรูปนี่ตลอด แยกกันดูไปไม่รู้ตัวเลย5555 เดี๋ยวมาค่อยๆดูกันดีกว่า ว่ามีโซนอะไรบ้าง ไปกันเลยยย..
Resource Town (เมืองแห่งทรัพยากร)
โซนนี้เป็นโซนแรกเรียกว่า
Resource Town (เมืองแห่งทรัพยากร) ที่เราเข้าไปแล้วจะเจอเลยค่ะ เป็นโซนที่รวมถึงทรัพยากรและการแปรรูปต่างๆค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรดิน น้ำ น้ำมัน ดีบุก เหมืองแร่ ไฟฟ้าหรืออื่นๆอีกมากมาย คือเล่นใหญ่มากกกค่า รวมทั้งยังจำลองถึงสิ่งก่อสร้างที่สำคัญๆของโลกที่เกี่ยวข้อง อย่างสะพานโกลเดนเกต หรือเขื่อนฮูเวอร์ ที่โด่งดังนั่นเองงงงงง
ด่านนี้วิศวกรทั้งนั้นเลยยย ><
Organic Farm (เมืองแห่งเกษตรกรรมและปศุสัตว์)
ที่นี่เค้าจะมีรถไฟ เชื่อมทุกโซนเข้าไว้ด้วยกันค่ะ รวมๆแล้วในห้องนี้จะมีรถไฟวิ่งเป็นสิบๆขบวนเลย เลยเป็นที่มาของเสียงรถไฟที่เราได้ยินตั้งแต่แรกเลย ^^ ส่วนโซนนี้เป็นเรื่องราวของการเพาะปลูกและการเลี้ยงสัตว์ต่างๆของหลายๆประเทศค่ะ ทั้งโคนม ม้า แพะ แกะ เห็นเป็นตัวเล็กๆวิ่งเต็มไปหมด เหมือนเรากำลังนั่งบอลลูนแล้วมองลงไปข้างล่างอะ
โซนนี้จะเน้นเป็นธรรมชาติมีทุ่งหญ้าผืนหญ้าเป็นตัวหลัก ต้นไม้ สัตว์ต่างเป็นตัวประกอบค่ะ ทำกังหันลมบนภูเขาเพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าด้วย ละจากนั้นแล้วยังจำลองถึงวิถีชีวิตของเกษตรกรในอิริยาบทต่างๆอีก เช่น การปลูกบ้านหลังเล็กไม่รบกวนธรรมชาติ การปลูกผักทานเอง ดูแล้วแบบน่ารักกกสุดๆ
ตรงนี้กิมมิคเล็กๆอีกอย่างที่เราชอบบบ..คือฟิกเกอร์บางตัวเคลื่อนไหวได้เว่ยเห้ยย!!
แบบตรงนี้เป็นใบพัดที่จะพัดได้ถ้าเรากดปุ่ม และไม่ได้มีที่เดียวด้วยค่ะ
ถ้าเรากดปุ่มลักษณะนี้ ลองสังเกตดูดีๆ จะมีตัวใดตัวนึงเคลื่อนไหวอยู่ ^^
Residential and Historical Town (เมืองแห่งเรื่องราวและประวัติศาสตร์)
ถ้าถามว่าเราชอบโซนไหนที่สุด..ของเราบอกเลยว่าเราชอบโซนนี้ค่ะ เป็นโซนนึงที่เราอินสุดๆ จำลองออกมาถึงเมืองเก่าในประวัติศาสตร์ฝั่งของอเมริกาและฝั่งของยุโรป แสดงถึงวิถีชีวิตของคนในยุคนั้นอย่างประณีต เก็บรายละเอียดของความแตกต่างของฝั่งอเมริกาและฝั่งยุโรปชัดเจน อย่างอเมริกาก็จะเน้นเรื่องการใช้งานมากกว่าความสวยงาม ไม่ได้ละเอียดอะไร ง่ายๆเท่ๆแบบอเมริกา
ฝั่งทางอเมริกาาา
ส่วนฝั่งยุโรปนี่เก็บรายละเอียดจัดเต็มเลย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบบ้านเมือง รายละเอียดตามเสา โคมไฟ ตามท้องถนน ประดับด้วยแสงสีส้มให้รู้สึกอบอุ่นจนอินว่าเดินอยู่บนถนนเล็กๆในยุโรปกันไปเลยยยยย อะไรจะโรแมนซ์เบอร์นั้นนน
ฟีลหนังโรแมนติค เดินเล่นในกรุงโรมตามหนังฝรั่งมาเต็มมมมจ้าา
Transportation and Entertainment (เมืองที่ไม่หยุดนิ่งและความหรรษาบันเทิง)
โซนนี้เป็นอีกโซนที่เราชอบมากค่าา เพราะมีฟิกเกอร์น่ารักๆทั้งนั้นเลย โดยภายในโซนจะแบ่งเป็น 2 ฝั่งค่ะ ฝั่งแรกของโซนจะเป็นฝั่งเมืองที่ไม่หยุดนิ่ง แสดงถึงการทำงานของรถไฟ เป็นที่มาของชื่อที่ว่าเมืองไม่หยุดนิ่งเลย โซนนี้เราจะเห็นรถไฟจำนวนมาก การซ่อมรถไฟ โกดังเก็บรถไฟ รวมถึงผู้คนต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรถไฟด้วย
ไฮไลท์ของตรงนี้คือตรงนี้ค่ะ เป็นการจำลองการเก็บรถไฟในโกดัง
ตรงนี้มีปุ่มกดเคลื่อนไหวด้วย แต่จะเคลื่อนไหวยังไงบ้างนี่ต้องไปดูเอง อธิบายไม่ถูก 555
ส่วนอีกฝั่งจะเป็นฝั่งความบันเทิง จะรวมความบันเทิง หรรษาเกือบทุกชนิดมาจำลองไว้ที่นี่เลย ไม่ว่าจะเป็น สวนสนุก กิจกรรมต่างๆ ไปดูคอนเสิร์ต ไปชมกีฬาติดขอบสนาม คือตรงนี้เราว่ามันน่ารักมากๆอะ ทุกอย่างมันดูมีกิจกรรม มีเรื่องราวให้เรารู้สึกเหมือนได้เอนจอยไปกับมันจริงๆ เป็นโซนที่เรากับแฟนหยุดดูกันนานมาก ชอบบบ
เล่นมาเยอะแล้ว พักเหนื่อย ดูบอลกันสักเกมส์เถอะ ><
ติดขอบสนามกันเลยไหมล้าา ^w^
Desert (เมืองแห่งทะเลทรายที่ร้อนระอุ)
เราเดินมาถึงโซนนี้ตอนกลางคืนพอดีค่ะ ตอนแรกลืมบอกไปว่ากิมมิคอีกอย่างที่น่าตื่นเต้น คือจะมีการปรับความสว่างของแต่ละโซนอยู่ตลอดค่ะ เพื่อจำลองถึงเวลากลางวัน-กลางคืนของแต่ละที่ อันนี้เราก็ต้องมาลุ้นกันว่าเราจะไปถึงโซนไหนเวลาไหนกัน5555
โซนนี้ตามชื่อเลยค่ะ เป็นดินแดนทะเลทราย เราจะได้เห็นสิ่งที่เราคาดหวังว่าจะเห็นในทะเลทรายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าอูฐ ต้นตะบองเพชร โอเอซิสกลางทะเลทราย รวมถึงขบวนพ่อค้าหรือนักเดินทางที่ใช้ทางผ่านที่นี่อีกด้วย ละนอกจากนั้นยังมีพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์และสวนสัตว์อีกหลายชนิดอีกด้วยย จัดว่าครบจ้าา
Beach (เมืองแห่งท้องทะเล)
ถ้าจินตนาการไปตามความสว่าง ตอนนี้ก็เหมือนใกล้สว่างแล้วอะค่ะ เพราะเริ่มมีแสงสว่างขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย ดีค่ะเหมาะกับเที่ยวทะเลยามเช้า555 เพราะสถานีต่อไปจะพาคุณไปเดอะบีชค่าา! หาดทรายขาวๆ น้ำทะเลใสๆ นี่ก็จัดได้ว่าเป็นการรวมทุกแอคทิวิตี้ทางน้ำที่เราจะคิดออกเหมือนกัน เล่นน้ำ นอนอาบแดด ขี่เจ็ทสกี บานานาโบ๊ท หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการพักผ่อนบนชายหาด มีหมดเลยจ้า ใครอยากไปทะเลอยู่นี่มีหวั่นไหว บอกเลยย >.<
อีกฝั่งของโซนจะเป็นฝั่งของทะเลน้ำลึกด้วยจ้าา
Cave (ถ้ำกาลเวลา)
เมื่อกี้กำลังบอกว่าคงใกล้จะเช้าแล้ว แต่เรากับต้องมามืดลงอีกครั้งค่ะ เพราะเราจะพาเข้าไปในถ้ำ! หาไฟฉายติดหัวด่วนๆ555 โซนนี้จะกระตุ้นความเป็นนักสำรวจที่เราใฝ่ฝันตอนเด็กกลับมาอีกครั้งค่ะ เพราะที่นี่ตัวเราที่ไปชมก็จะได้เข้าถ้ำไปสำรวจฟิกเกอร์กันจริงๆ
เราจะได้เห็นถึงสิ่งของหรือปริศนาหลายๆอย่างที่เราดูในหนัง ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดในสมัยดึกดำบรรพ์ ไดโนเสาร์ มังกร ค้างคาว หรือมนุษย์ยุคหินก็มานะจ๊ะ จัดมาเต็มอีกโซนค่าา แฟนเราคนนึงอะชอบมาก
มีในพาร์ทซากเรือเก่าแก่ใต้ทะเลกันด้วย มาตรงนี้คิดถึงแจ็คสแปร์โร่ว์ (เอ๊ะ!?)
Port (เมืองท่าสีขาว)
ผ่านโซนภูเขา โซนทะเล และโซนทะเลทรายไปแล้ว โซนต่อมาจะเป็นเรื่องราวของโซนหิมะ ค่าา!! ซึ่งโซนนี้ถ้าเทียบกับโซนอื่นๆถือว่ายาวพอสมควรเลย มีหมดทั้งหิมะแบบขั้วโลกเหนือ หิมะจีน หรือหิมะแบบซีรีส์เกาหลีก็มีครบจ้า
ละยังรวมไปถึงการจำลองเมืองท่า แสดงการทำงานเวลาเรือขนส่งสินค้าเข้าท่าอีกด้วย เด็ดค่ะ..แปลกดีไม่เคยเห็นมาก่อน
แถมตรงนี้เค้ายังมีเครื่องให้บังคับเรือได้ด้วยนะ แต่คนรอเล่นอยู่เต็มเลย เราเลยไม่เล่นก็ได้
[CR] พาบุกสวรรค์ของคนรักฟิกเกอร์ “Stanley MiniVenture” เมืองจำลองสุดน่ารักที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
ที่นี่คือเมืองจำลอง สแตนลีย์ มินิเวนเจอร์ (Stanley MiniVenture) ค่ะ เราอาจจะเคยได้ที่เที่ยวที่เป็นเมืองจำลองอยู่บ่อยๆ แต่ที่แตกต่างของที่นี้คือ เป็นเมืองจำลองฟิกเกอร์ค่าา!!! ตอนแรกเราไม่รู้ว่ามีที่เที่ยวแบบหรอก แต่วันนั้นเรากะแฟนไปเจอกันที่ห้างนี้ กินข้าวกันเสร็จก็ไม่รู้จะทำอะไรต่อ
เลยเดินดูของกันไป จนมาเจอที่นี่แหละ ด้วยความที่แฟนเราก็ชอบฟิกเกอร์อยู่แล้ว มีสะสมเองอยู่บ้าง การตัดสินใจครั้งนี้เลยไม่ยากเกินไปสำหรับนางเท่าไหร่555555 มาดูกันค่ะ..มันจะสุดคิวท์อย่างที่เราว่าหรือเปล่า
Stanley MiniVenture หรือสแตนลีย์ มินิเวนเจอร์ อยู่ที่ชั้น 2 ของห้างเกตเวย์เอกมัยเลยค่ะ ด้านหน้าจะเป็นทางเข้าเล็กๆ มีรถไฟสีส้มจอดอยู่แบบนี้ มีเคาท์เตอร์ขายตั๋วอยู่อีกด้าน เราก็ดูไปเรื่อยหันมาอีกแฟนเราก็จัดการซื้อตั๋วให้เสร็จสรรพ คือนางชอบอยู่แล้ว มาเจอแบบนี้คืออารมณ์ดีมาก5555 ก็จะได้ตั๋วสองใบกับโบรชัวร์ และไกด์ 1 คนมาค่ะ
ระหว่างที่เดินเข้าไป ไกด์ก็เริ่มอธิบายที่มาที่ไปคร่าวๆค่ะ บอกว่าเจ้าของเคยได้ไปเห็นที่เที่ยวแบบนี้ที่เยอรมันมา แล้วคิดว่าน่าจะมีแบบนี้ที่เมืองไทยบ้าง เพราะมันช่วยเปิดเรื่องความคิดสร้างสรรค์ให้กับคนเข้าชม ช่วยสร้างจินตนาการได้ทั้งกับเด็กและผู้ใหญ่ เลยเป็นแรงบันดาลใจให้เขาสร้างที่นี่ขึ้นมา โดยฟิกเกอร์ที่จำลองนี้จะเป็นสัดส่วน 1:87 ตัวเล็กเท่าข้อนิ้วก้อย!
ฟังละภาพของคนที่ทำขึ้นมาทีละตัวขึ้นมาเลยค่า ไม่ได้สร้างกันง่ายๆอะ งานละเอียดเชียว ซึ่งที่นี่ก็ได้ใช้เวลาทั้งหมดไป 2-3 ปีค่ะจึงมาเป็นเมืองจำลองแบบที่เห็นกันอยู่นี้ ที่น่าประทับใจสุดๆคือทั้งหมดนี้สร้างขึ้นด้วยฝีมือคนไทยค่า! ฟังแล้วแบบ...คนไทยซะอย่าง ไม่เคยแพ้ชาติใดในโลกจริงๆ5555....ส่วนความใหญ่โตของที่นี่ก็ประมาณ 1,000 ตารางเมตรค่ะ ซึ่งไกด์พาทัวร์บอกว่าใหญ่ที่สุดในเอเชียและเป็นอันดับ 3 ของโลกข้างในจะแบ่งออกเป็น 9 โซนและมี Bonus table ที่จะเปิดเป็นโซนในอนาคตอีก 2 โซน
พอเข้าไปข้างในสิ่งแรกที่ได้ยินคือเสียงรถไฟ กับดินแดนฟิกเกอร์ที่ใหญ่มากๆค่ะ! เล่นเอาเรากับแฟนเก็บอาการตื่นเต้นไว้ไม่อยู่เลย ไม่เคยเจอฟิกเกอร์เยอะขนาดนี้ คือมันเยอะมาก! และด้วยเสียงรถไฟที่แล่นผ่านมาตลอด บวกกับความอลังการกับดินแดนของเล่นที่เราไม่ค่อยเห็นบ่อยๆในชีวิตประจำวัน ยอมรับว่าตื่นเต้นเหมือนเด็กเลยค่ะ หันไปดูแฟนที่ชอบฟิกเกอร์อยู่แล้วก็อาการไม่ต่างกัน ชี้นู่น ถ่ายรูปนี่ตลอด แยกกันดูไปไม่รู้ตัวเลย5555 เดี๋ยวมาค่อยๆดูกันดีกว่า ว่ามีโซนอะไรบ้าง ไปกันเลยยย..
Resource Town (เมืองแห่งทรัพยากร)
โซนนี้เป็นโซนแรกเรียกว่า Resource Town (เมืองแห่งทรัพยากร) ที่เราเข้าไปแล้วจะเจอเลยค่ะ เป็นโซนที่รวมถึงทรัพยากรและการแปรรูปต่างๆค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรดิน น้ำ น้ำมัน ดีบุก เหมืองแร่ ไฟฟ้าหรืออื่นๆอีกมากมาย คือเล่นใหญ่มากกกค่า รวมทั้งยังจำลองถึงสิ่งก่อสร้างที่สำคัญๆของโลกที่เกี่ยวข้อง อย่างสะพานโกลเดนเกต หรือเขื่อนฮูเวอร์ ที่โด่งดังนั่นเองงงงงง
ด่านนี้วิศวกรทั้งนั้นเลยยย ><
Organic Farm (เมืองแห่งเกษตรกรรมและปศุสัตว์)
ที่นี่เค้าจะมีรถไฟ เชื่อมทุกโซนเข้าไว้ด้วยกันค่ะ รวมๆแล้วในห้องนี้จะมีรถไฟวิ่งเป็นสิบๆขบวนเลย เลยเป็นที่มาของเสียงรถไฟที่เราได้ยินตั้งแต่แรกเลย ^^ ส่วนโซนนี้เป็นเรื่องราวของการเพาะปลูกและการเลี้ยงสัตว์ต่างๆของหลายๆประเทศค่ะ ทั้งโคนม ม้า แพะ แกะ เห็นเป็นตัวเล็กๆวิ่งเต็มไปหมด เหมือนเรากำลังนั่งบอลลูนแล้วมองลงไปข้างล่างอะ
โซนนี้จะเน้นเป็นธรรมชาติมีทุ่งหญ้าผืนหญ้าเป็นตัวหลัก ต้นไม้ สัตว์ต่างเป็นตัวประกอบค่ะ ทำกังหันลมบนภูเขาเพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าด้วย ละจากนั้นแล้วยังจำลองถึงวิถีชีวิตของเกษตรกรในอิริยาบทต่างๆอีก เช่น การปลูกบ้านหลังเล็กไม่รบกวนธรรมชาติ การปลูกผักทานเอง ดูแล้วแบบน่ารักกกสุดๆ
ตรงนี้กิมมิคเล็กๆอีกอย่างที่เราชอบบบ..คือฟิกเกอร์บางตัวเคลื่อนไหวได้เว่ยเห้ยย!!
แบบตรงนี้เป็นใบพัดที่จะพัดได้ถ้าเรากดปุ่ม และไม่ได้มีที่เดียวด้วยค่ะ
ถ้าเรากดปุ่มลักษณะนี้ ลองสังเกตดูดีๆ จะมีตัวใดตัวนึงเคลื่อนไหวอยู่ ^^
Residential and Historical Town (เมืองแห่งเรื่องราวและประวัติศาสตร์)
ถ้าถามว่าเราชอบโซนไหนที่สุด..ของเราบอกเลยว่าเราชอบโซนนี้ค่ะ เป็นโซนนึงที่เราอินสุดๆ จำลองออกมาถึงเมืองเก่าในประวัติศาสตร์ฝั่งของอเมริกาและฝั่งของยุโรป แสดงถึงวิถีชีวิตของคนในยุคนั้นอย่างประณีต เก็บรายละเอียดของความแตกต่างของฝั่งอเมริกาและฝั่งยุโรปชัดเจน อย่างอเมริกาก็จะเน้นเรื่องการใช้งานมากกว่าความสวยงาม ไม่ได้ละเอียดอะไร ง่ายๆเท่ๆแบบอเมริกา
ฝั่งทางอเมริกาาา
ส่วนฝั่งยุโรปนี่เก็บรายละเอียดจัดเต็มเลย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบบ้านเมือง รายละเอียดตามเสา โคมไฟ ตามท้องถนน ประดับด้วยแสงสีส้มให้รู้สึกอบอุ่นจนอินว่าเดินอยู่บนถนนเล็กๆในยุโรปกันไปเลยยยยย อะไรจะโรแมนซ์เบอร์นั้นนน
ฟีลหนังโรแมนติค เดินเล่นในกรุงโรมตามหนังฝรั่งมาเต็มมมมจ้าา
Transportation and Entertainment (เมืองที่ไม่หยุดนิ่งและความหรรษาบันเทิง)
โซนนี้เป็นอีกโซนที่เราชอบมากค่าา เพราะมีฟิกเกอร์น่ารักๆทั้งนั้นเลย โดยภายในโซนจะแบ่งเป็น 2 ฝั่งค่ะ ฝั่งแรกของโซนจะเป็นฝั่งเมืองที่ไม่หยุดนิ่ง แสดงถึงการทำงานของรถไฟ เป็นที่มาของชื่อที่ว่าเมืองไม่หยุดนิ่งเลย โซนนี้เราจะเห็นรถไฟจำนวนมาก การซ่อมรถไฟ โกดังเก็บรถไฟ รวมถึงผู้คนต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรถไฟด้วย
ไฮไลท์ของตรงนี้คือตรงนี้ค่ะ เป็นการจำลองการเก็บรถไฟในโกดัง
ตรงนี้มีปุ่มกดเคลื่อนไหวด้วย แต่จะเคลื่อนไหวยังไงบ้างนี่ต้องไปดูเอง อธิบายไม่ถูก 555
ส่วนอีกฝั่งจะเป็นฝั่งความบันเทิง จะรวมความบันเทิง หรรษาเกือบทุกชนิดมาจำลองไว้ที่นี่เลย ไม่ว่าจะเป็น สวนสนุก กิจกรรมต่างๆ ไปดูคอนเสิร์ต ไปชมกีฬาติดขอบสนาม คือตรงนี้เราว่ามันน่ารักมากๆอะ ทุกอย่างมันดูมีกิจกรรม มีเรื่องราวให้เรารู้สึกเหมือนได้เอนจอยไปกับมันจริงๆ เป็นโซนที่เรากับแฟนหยุดดูกันนานมาก ชอบบบ
เล่นมาเยอะแล้ว พักเหนื่อย ดูบอลกันสักเกมส์เถอะ ><
ติดขอบสนามกันเลยไหมล้าา ^w^
Desert (เมืองแห่งทะเลทรายที่ร้อนระอุ)
เราเดินมาถึงโซนนี้ตอนกลางคืนพอดีค่ะ ตอนแรกลืมบอกไปว่ากิมมิคอีกอย่างที่น่าตื่นเต้น คือจะมีการปรับความสว่างของแต่ละโซนอยู่ตลอดค่ะ เพื่อจำลองถึงเวลากลางวัน-กลางคืนของแต่ละที่ อันนี้เราก็ต้องมาลุ้นกันว่าเราจะไปถึงโซนไหนเวลาไหนกัน5555
โซนนี้ตามชื่อเลยค่ะ เป็นดินแดนทะเลทราย เราจะได้เห็นสิ่งที่เราคาดหวังว่าจะเห็นในทะเลทรายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าอูฐ ต้นตะบองเพชร โอเอซิสกลางทะเลทราย รวมถึงขบวนพ่อค้าหรือนักเดินทางที่ใช้ทางผ่านที่นี่อีกด้วย ละนอกจากนั้นยังมีพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์และสวนสัตว์อีกหลายชนิดอีกด้วยย จัดว่าครบจ้าา
Beach (เมืองแห่งท้องทะเล)
ถ้าจินตนาการไปตามความสว่าง ตอนนี้ก็เหมือนใกล้สว่างแล้วอะค่ะ เพราะเริ่มมีแสงสว่างขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย ดีค่ะเหมาะกับเที่ยวทะเลยามเช้า555 เพราะสถานีต่อไปจะพาคุณไปเดอะบีชค่าา! หาดทรายขาวๆ น้ำทะเลใสๆ นี่ก็จัดได้ว่าเป็นการรวมทุกแอคทิวิตี้ทางน้ำที่เราจะคิดออกเหมือนกัน เล่นน้ำ นอนอาบแดด ขี่เจ็ทสกี บานานาโบ๊ท หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการพักผ่อนบนชายหาด มีหมดเลยจ้า ใครอยากไปทะเลอยู่นี่มีหวั่นไหว บอกเลยย >.<
อีกฝั่งของโซนจะเป็นฝั่งของทะเลน้ำลึกด้วยจ้าา
Cave (ถ้ำกาลเวลา)
เมื่อกี้กำลังบอกว่าคงใกล้จะเช้าแล้ว แต่เรากับต้องมามืดลงอีกครั้งค่ะ เพราะเราจะพาเข้าไปในถ้ำ! หาไฟฉายติดหัวด่วนๆ555 โซนนี้จะกระตุ้นความเป็นนักสำรวจที่เราใฝ่ฝันตอนเด็กกลับมาอีกครั้งค่ะ เพราะที่นี่ตัวเราที่ไปชมก็จะได้เข้าถ้ำไปสำรวจฟิกเกอร์กันจริงๆ
เราจะได้เห็นถึงสิ่งของหรือปริศนาหลายๆอย่างที่เราดูในหนัง ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดในสมัยดึกดำบรรพ์ ไดโนเสาร์ มังกร ค้างคาว หรือมนุษย์ยุคหินก็มานะจ๊ะ จัดมาเต็มอีกโซนค่าา แฟนเราคนนึงอะชอบมาก
มีในพาร์ทซากเรือเก่าแก่ใต้ทะเลกันด้วย มาตรงนี้คิดถึงแจ็คสแปร์โร่ว์ (เอ๊ะ!?)
Port (เมืองท่าสีขาว)
ผ่านโซนภูเขา โซนทะเล และโซนทะเลทรายไปแล้ว โซนต่อมาจะเป็นเรื่องราวของโซนหิมะ ค่าา!! ซึ่งโซนนี้ถ้าเทียบกับโซนอื่นๆถือว่ายาวพอสมควรเลย มีหมดทั้งหิมะแบบขั้วโลกเหนือ หิมะจีน หรือหิมะแบบซีรีส์เกาหลีก็มีครบจ้า
ละยังรวมไปถึงการจำลองเมืองท่า แสดงการทำงานเวลาเรือขนส่งสินค้าเข้าท่าอีกด้วย เด็ดค่ะ..แปลกดีไม่เคยเห็นมาก่อน
แถมตรงนี้เค้ายังมีเครื่องให้บังคับเรือได้ด้วยนะ แต่คนรอเล่นอยู่เต็มเลย เราเลยไม่เล่นก็ได้