เนื่องด้วย จขกท. และครอบครัว จะเดินทางไปเทียวเยอรมัน ทั้งหมด 13 คน แต่ทำวีซ่า 11 คน เพราะอีก2คนได้วีซ่าเชงเก้นมาแล้ว ซึ่งครอบคลุมเวลาที่จะไปงวดนี้อีก
ระหว่างวันที่ 9-17 เมษายน 2560
โดยถึงสนามบินบรัสเซลส์วันที่ 9 เมษายน 2560 และเย็นวันนี้เดินทางเข้าเยอรมันเลย และเที่ยวเยอรมันตลอดทริป
จึงต้องไปวีซ่าที่สถานทูตเยอรมัน
มีคนเคยรีวิววิธีการกรอกไว้เยอะแล้ว จขกท.จะเน้นเฉพาะเรื่องเอกสาร เพราะไปกันหลายคน จึงมีหลายเคส
เอกสารที่เตรียมไปมีดังนี้
1.หนังสือเดินทางฉบับจริงที่ยังมีอายุการใช้
-จขกท.copyไปทุกหน้า ที่มีวีซ่าและแสตมป์เข้าออกประเทศต่างๆ (แต่เจ้าหน้าที่ เลือกแต่วีซ่าเชงเก้นไป จขกท. มี 3 วีซ่าเชงเก้น)
2.หนังสือเดินทางเล่มเก่า
-จขกท.copyไปทุกหน้า แต่เจ้าหน้าที่คืนมาทั้งหมด ทั้งเล่มจริงและที่copyไป
-แต่น้องสาวจขกท.เพิ่งทำพาสปอร์ตเล่มใหม่ เจ้าหน้าที่เก็บทั้งตัวจริงและตัวcopy (ยื่นเล่มเก่าไป2เล่ม แต่เจ้าหน้าที่เก็บเล่มที่หมดอายุล่าสุดไปแค่เล่มเดียว)
3.รูปถ่ายแบบไบโอเมตริก 2 ใบ (ไซส์ 3.5"*4.5") ตามข้อกำหนดในเวบของสถานทูต
4.แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าเชงเกนที่กรอกข้อความครบถ้วน 1 ฉบับ พร้อมเซ็นต์รับรอง
5.แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าเชงเกน ลงนามรับทราบข้อกำหนดตามกฎหมายการพำนักมาตรา 54 ข้อ 6 และมาตรา 55 พร้อมเซ็นต์รับรอง
(ถึงแม้ว่าในแบบฟอร์มข้อ 4. ที่ปริ้นท์ออกมา จะมีข้อกฎหมายตามข้อนี้แล้ว ก็ต้องปริ้นท์ไปอีก และเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้คืนมา)
6.แพลนการเดินทาง+ตั๋วรถไฟข้ามประเทศ
-เนื่องจาก จขกท. เดินทางไปประเทศเบลเยี่ยมแค่วันเดียว กลัวเจ้าหน้าที่จะไม่เชื่อ จึงทำแพลนไว้ และได้จองตั๋วรถไฟข้ามประเทศแล้ว จึงแนบไปด้วย
โดยแพลนการเดินทางทำแค่คร่าวๆ วันนี้ เที่ยวที่ไหน เดินทางอย่างไร โรงแรมอะไร
7.หลักฐานยืนยันการจองที่พัก
-ต้องจองที่พักทุกคืนตามกำหนดเวลาที่เราไป และจขกท.ระบุชื่อทุกคนที่ไปในbooking.com แต่เห็นเจ้าหน้าที่เช็คแค่วันครบตามแพลนการเดินทาง
ไม่ได้เช็คชื่อที่ระบุไป
8.หลักฐานการจองเที่ยวบิน
-จขกท. ไปสายการบินไทย แต่เป็นตั๋วโปรโมชั่น ที่เริ่มที่มาเลเซีย จึงแนบตั๋วเครื่องบิน ทั้งของMalindo จากไทย ไปมาเลเซีย
และของการบินไทย จากมาเลเซียไปยุโรป แต่น่าจะมีคนเริ่มบินที่อื่นเยอะเหมือนเคสของจขกท. เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ได้ถามอะไรเลย
9.หลักฐานการทำงาน
-จขกท.เป็นพนักงานบริษัท จึงใช้หนังสือรับรองการทำงานปัจจุบันและหนังสืออนุญาตให้ลาพักร้อน (ที่ระบุตำแหน่ง จำนวนปีการทำงานและเงินเดือน)
-ของแม่เป็นร้านค้า จึงใช้ใบจดทะเบียนพาณิชย์, ภพ.20 และ ใบทะเบียนสมรส เพราะชื่อที่จดในใบทะเบียนพาณิชย์ เป็นชื่อของคุณพ่อ
และคุณพ่อไม่ไปด้วย จึงแนบทะเบียนสมรสไป
เอกสารของคุณแม่ แปลเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด (ใบจดทะเบียนพาณิชย์และใบทะเบียนสมรส เป็นฉบับที่มีการจ้างแปล พร้อมตราประทับ แต่เป็นฉบับเดิมที่มีการแปล ตั้งแต่ปี2011แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ว่าอะไร) ภพ.20 จขกท.แปลเอง
-กรณีญาติของจขกท. เป็นบริษัท ก็ยื่นหนังสือรับรอง พร้อมฉบับแปล ที่มีการแปลเมื่อปี 2015 แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ว่าอะไรเช่นกัน ถึงแม้ว่าวันที่ที่มีการคัดหนังสือรับรองใหม่ จะเป็นคนละวันกับที่แปลไว้แล้ว
10.หลักฐานการเงินสำหรับการเดินทางและการพำนัก (ได้แก่ หนังสือรับรองจากธนาคาร และสมุดบัญชีเงินฝากที่แสดงการเคลื่อนไหวทางด้านการเงินย้อนหลัง 3 เดือนสุดท้าย)
-ใช้หนังสือรับรองจากธนาคารไทยพาณิชย์ โดยแปลงเป็นเงินยูโร
-copyสมุดบัญชี โดยก่อนวันที่จขกท.ไปทำวีซ่า ได้ฝากเงินเข้าไป1,000บาท เพื่อให้แสดงยอดวันใกล้ทำวีซ่ามากที่สุด โดนเจ้าหน้าที่ขอดูสมุดบัญชีตัวจริงด้วย
-พี่สาวจขกท.ขอbank statementจากธนาคารไป เจ้าหน้าที่ไม่ได้ขอดูสมุดบัญชีตัวจริง
11.สำเนาบัตรประชาชน (ไม่ได้แปล)
12.สำเนาทะเบียนบ้าน (แปลเอง)
13.หลักฐานการประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ ระหว่างการเดินทางตลอดระยะเวลาที่ขอพำนัก วงเงินความคุ้มครองไม่ตํ่ากว่า 30,000.- เหรียญยูโร และต้องรวมบริการนำตัวกลับประเทศในกรณีเจ็บป่วยด้วย
-จขกท. ใช้ของMSIG 10 วัน คนละ 780 บาท
**เนื่องจากไปหลายคน แม้จะเป็นทริปเดียวกัน ทุกคนต้องมีเอกสารแยกของแต่ละคน เช่น เอกสารจองโรงแรม แม้ใน1booking จะมีชื่อทุกคน
ก็ต้องปริ้นท์ไป 11ใบ
จขกท.เริ่มนัดจองคิวประมาณกลางเดือน มค. 2560 แต่เนื่องจากคนไปเยอะ จึงหาวันตรงกันค่อนข้างยาก
แต่เห็นว่าวันที่13 กพ. 2560 เป็นวันหยุดชดเชยวันมาฆบูชา และนัดได้ด้วย จึงตกลงนัดไว้วันนี้ ตอนแรกยังไม่แน่ใจ ว่าสถานทูตจะปิดหรือไม่ เพราะเป็นวันหยุดราชการ แต่ในเมื่อมีให้นัดทำวีซ่าได้ จึงนัดไป เวลา 10.00 น.-10.30น.
1.เมื่อไปถึงสถานทูต จะมีรปภ.ตรวจกระเป๋า อย่างเข้มงวด โทรศัพท์ต้องปิดเครื่อง ต้องฝากไว้ (power bank ก็ต้องฝากไว้เช่นกัน)
2.จะมีเจ้าหน้าที่เช็ควันเวลาที่มีการนัด ว่าถูกตรงตรงตามกำหนดหรือไม่ โดยดูจากe-mailที่ได้รับจากการยืนยันจากสถานทูต
น้องสาวของจขกท.ไม่ได้ปริ้นท์ไป จขกท.จะขอดูพาสปอร์ต (จขกท.แนะนำว่าปริ้นท์ไปจะสะดวกมากกว่า)
เจ้าหน้าที่จะถามเรื่องติดรูป เลยแจ้งไปว่ายังไม่ได้ติดแบบฟอร์ม เพราะกลัวรูปจะใช้ไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตรงนี้ช่วยเช็คให้ และบอกได้เลยว่าคนไหนใช้ได้ คนไหนต้องถ่ายรูปใหม่ ก็จะมีบริการถ่ายรูปด้านใน)
3.นั่งรอคิว เจ้าหน้าที่เรียกเป็นรอบๆ จขกท.ถึงประมาณ 9 โมงกว่าๆ เลยไปนั่งเช็คและเรียงเอกสารอีกรอบ โดยข้างในจะมีlistการเรียงเอกสาร
โดยเป็นอันเดียวกับที่แจ้งในเวบ จึงไม่มีปัญหาใดๆ
4.ใกล้ๆ10โมง เจ้าหน้าที่เรียกรอบ10โมง เผื่อผ่านเข้าไปในห้องกระจกเพื่อเตรียมสัมภาษณ์ โดยกลุ่มจขกท.ไปทั้งหมด 13 คน เลยแจ้งว่าจะขอสัมภาษณ์พร้อมกัน แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าได้แค่รอบละ5คนเท่านั้น จึงต้องแยกเป็นครอบครัว
5.เมื่อเข้าไปห้องกระจกแล้ว กดบัตรคิว และนั่งรอเรียกคิว ระหว่างนั้น จขกท.จึงได้บรีฟครอบครัวญาติๆ ว่าไปไหนบ้าง ลงเครื่องที่ไหน วันอะไร กลับวันไหน พักที่ไหนบ้าง
6.เมื่อถึงคิวของครอบครัว จขกท. ต้องไปทีละคน คนที่เหลือให้อยู่บริเวณเก้าอี้ทีเตรียมไว้
คำถามที่โดนถาม คือ ไปทำอะไร, ถึงบรัสเซลส์วันไหน, ออกจากเยอรมันวันไหน, ไปทั้งหมดกี่คน, นอนเยอรมันกี่คืน, เคยถูกปฎิเสธวีซ่าหรือไม่,
เคยได้เชงเก้นมาแล้วหรือไม่, ไปกับครอบครัวใช่ไหม,
ส่วนเรื่องงาน: ทำงานที่ไหน, ทำมาแล้วกี่ปี, เป็นบริษัทของครอบครัวหรือไม่, ได้เงินเดือนผ่านทางไหน
ส่วนคนที่เหลือ จะถูกถามเรื่องงานอย่างเดียวแล้ว ไม่ถามเรื่องแพลนเที่ยวอีก
7. เมื่อสัมภาษณ์ครบทุกคน เจ้าหน้าที่จะให้ใบเล็กๆเพื่อไปจ่ายเงิน คนละ2,300บาท แล้วนำใบเสร็จนี้ไปซื้อ ซองจดหมายที่ด้านนอก เขียนชื่อ+ที่อยู่+เบอร์โทร และนำกลับมาให้เจ้าหน้าที่อีกคนด้านใน
8. เมื่อยื่นซองจดหมายเสร็จ ก็กลับบ้านได้ โดยจขกท.และครอบครัวเสร็จตามกำหนดรอบที่นัดสัมภาษณ์เลย คือ 10.30น.
ไปยื่นวันที่ 13 กพ. 2560 ได้รับไปรษณีย์ถึงบ่ายโมงวันที่ 16 กพ. 2560 เร็วๆมาก
จขกท.กับแม่ได้วีซ่าประมาณ 6 เดือน คือ 9/4/2017 - 23/10/2017 ตอนแรกจขกท.ก็งงๆ ทำไมได้วันแปลกๆ จึงนึกขึ้นได้ว่า พาสปอร์ตจะหมดอายุวันที่ 23/2/2018
ส่วนคนอื่นๆที่เหลือได้1ปีเต็ม จากสถานทูตเยอรมัน
ใครมีอะไรสอบถาม ถามได้เลยนะคะ ยินดีช่วยตอบเต็มที่ค่ะ
[CR] รีวิว ขอวีซ่าเชงเก้นเยอรมัน เป็นครอบครัว ทั้งหมด 11 คน (ยื่น13 กพ. 2560 ได้เล่มคืนทางปณ. 16 กพ. 2560)
ระหว่างวันที่ 9-17 เมษายน 2560
โดยถึงสนามบินบรัสเซลส์วันที่ 9 เมษายน 2560 และเย็นวันนี้เดินทางเข้าเยอรมันเลย และเที่ยวเยอรมันตลอดทริป
จึงต้องไปวีซ่าที่สถานทูตเยอรมัน
มีคนเคยรีวิววิธีการกรอกไว้เยอะแล้ว จขกท.จะเน้นเฉพาะเรื่องเอกสาร เพราะไปกันหลายคน จึงมีหลายเคส
เอกสารที่เตรียมไปมีดังนี้
1.หนังสือเดินทางฉบับจริงที่ยังมีอายุการใช้
-จขกท.copyไปทุกหน้า ที่มีวีซ่าและแสตมป์เข้าออกประเทศต่างๆ (แต่เจ้าหน้าที่ เลือกแต่วีซ่าเชงเก้นไป จขกท. มี 3 วีซ่าเชงเก้น)
2.หนังสือเดินทางเล่มเก่า
-จขกท.copyไปทุกหน้า แต่เจ้าหน้าที่คืนมาทั้งหมด ทั้งเล่มจริงและที่copyไป
-แต่น้องสาวจขกท.เพิ่งทำพาสปอร์ตเล่มใหม่ เจ้าหน้าที่เก็บทั้งตัวจริงและตัวcopy (ยื่นเล่มเก่าไป2เล่ม แต่เจ้าหน้าที่เก็บเล่มที่หมดอายุล่าสุดไปแค่เล่มเดียว)
3.รูปถ่ายแบบไบโอเมตริก 2 ใบ (ไซส์ 3.5"*4.5") ตามข้อกำหนดในเวบของสถานทูต
4.แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าเชงเกนที่กรอกข้อความครบถ้วน 1 ฉบับ พร้อมเซ็นต์รับรอง
5.แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าเชงเกน ลงนามรับทราบข้อกำหนดตามกฎหมายการพำนักมาตรา 54 ข้อ 6 และมาตรา 55 พร้อมเซ็นต์รับรอง
(ถึงแม้ว่าในแบบฟอร์มข้อ 4. ที่ปริ้นท์ออกมา จะมีข้อกฎหมายตามข้อนี้แล้ว ก็ต้องปริ้นท์ไปอีก และเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้คืนมา)
6.แพลนการเดินทาง+ตั๋วรถไฟข้ามประเทศ
-เนื่องจาก จขกท. เดินทางไปประเทศเบลเยี่ยมแค่วันเดียว กลัวเจ้าหน้าที่จะไม่เชื่อ จึงทำแพลนไว้ และได้จองตั๋วรถไฟข้ามประเทศแล้ว จึงแนบไปด้วย
โดยแพลนการเดินทางทำแค่คร่าวๆ วันนี้ เที่ยวที่ไหน เดินทางอย่างไร โรงแรมอะไร
7.หลักฐานยืนยันการจองที่พัก
-ต้องจองที่พักทุกคืนตามกำหนดเวลาที่เราไป และจขกท.ระบุชื่อทุกคนที่ไปในbooking.com แต่เห็นเจ้าหน้าที่เช็คแค่วันครบตามแพลนการเดินทาง
ไม่ได้เช็คชื่อที่ระบุไป
8.หลักฐานการจองเที่ยวบิน
-จขกท. ไปสายการบินไทย แต่เป็นตั๋วโปรโมชั่น ที่เริ่มที่มาเลเซีย จึงแนบตั๋วเครื่องบิน ทั้งของMalindo จากไทย ไปมาเลเซีย
และของการบินไทย จากมาเลเซียไปยุโรป แต่น่าจะมีคนเริ่มบินที่อื่นเยอะเหมือนเคสของจขกท. เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ได้ถามอะไรเลย
9.หลักฐานการทำงาน
-จขกท.เป็นพนักงานบริษัท จึงใช้หนังสือรับรองการทำงานปัจจุบันและหนังสืออนุญาตให้ลาพักร้อน (ที่ระบุตำแหน่ง จำนวนปีการทำงานและเงินเดือน)
-ของแม่เป็นร้านค้า จึงใช้ใบจดทะเบียนพาณิชย์, ภพ.20 และ ใบทะเบียนสมรส เพราะชื่อที่จดในใบทะเบียนพาณิชย์ เป็นชื่อของคุณพ่อ
และคุณพ่อไม่ไปด้วย จึงแนบทะเบียนสมรสไป
เอกสารของคุณแม่ แปลเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด (ใบจดทะเบียนพาณิชย์และใบทะเบียนสมรส เป็นฉบับที่มีการจ้างแปล พร้อมตราประทับ แต่เป็นฉบับเดิมที่มีการแปล ตั้งแต่ปี2011แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ว่าอะไร) ภพ.20 จขกท.แปลเอง
-กรณีญาติของจขกท. เป็นบริษัท ก็ยื่นหนังสือรับรอง พร้อมฉบับแปล ที่มีการแปลเมื่อปี 2015 แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ว่าอะไรเช่นกัน ถึงแม้ว่าวันที่ที่มีการคัดหนังสือรับรองใหม่ จะเป็นคนละวันกับที่แปลไว้แล้ว
10.หลักฐานการเงินสำหรับการเดินทางและการพำนัก (ได้แก่ หนังสือรับรองจากธนาคาร และสมุดบัญชีเงินฝากที่แสดงการเคลื่อนไหวทางด้านการเงินย้อนหลัง 3 เดือนสุดท้าย)
-ใช้หนังสือรับรองจากธนาคารไทยพาณิชย์ โดยแปลงเป็นเงินยูโร
-copyสมุดบัญชี โดยก่อนวันที่จขกท.ไปทำวีซ่า ได้ฝากเงินเข้าไป1,000บาท เพื่อให้แสดงยอดวันใกล้ทำวีซ่ามากที่สุด โดนเจ้าหน้าที่ขอดูสมุดบัญชีตัวจริงด้วย
-พี่สาวจขกท.ขอbank statementจากธนาคารไป เจ้าหน้าที่ไม่ได้ขอดูสมุดบัญชีตัวจริง
11.สำเนาบัตรประชาชน (ไม่ได้แปล)
12.สำเนาทะเบียนบ้าน (แปลเอง)
13.หลักฐานการประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ ระหว่างการเดินทางตลอดระยะเวลาที่ขอพำนัก วงเงินความคุ้มครองไม่ตํ่ากว่า 30,000.- เหรียญยูโร และต้องรวมบริการนำตัวกลับประเทศในกรณีเจ็บป่วยด้วย
-จขกท. ใช้ของMSIG 10 วัน คนละ 780 บาท
**เนื่องจากไปหลายคน แม้จะเป็นทริปเดียวกัน ทุกคนต้องมีเอกสารแยกของแต่ละคน เช่น เอกสารจองโรงแรม แม้ใน1booking จะมีชื่อทุกคน
ก็ต้องปริ้นท์ไป 11ใบ
จขกท.เริ่มนัดจองคิวประมาณกลางเดือน มค. 2560 แต่เนื่องจากคนไปเยอะ จึงหาวันตรงกันค่อนข้างยาก
แต่เห็นว่าวันที่13 กพ. 2560 เป็นวันหยุดชดเชยวันมาฆบูชา และนัดได้ด้วย จึงตกลงนัดไว้วันนี้ ตอนแรกยังไม่แน่ใจ ว่าสถานทูตจะปิดหรือไม่ เพราะเป็นวันหยุดราชการ แต่ในเมื่อมีให้นัดทำวีซ่าได้ จึงนัดไป เวลา 10.00 น.-10.30น.
1.เมื่อไปถึงสถานทูต จะมีรปภ.ตรวจกระเป๋า อย่างเข้มงวด โทรศัพท์ต้องปิดเครื่อง ต้องฝากไว้ (power bank ก็ต้องฝากไว้เช่นกัน)
2.จะมีเจ้าหน้าที่เช็ควันเวลาที่มีการนัด ว่าถูกตรงตรงตามกำหนดหรือไม่ โดยดูจากe-mailที่ได้รับจากการยืนยันจากสถานทูต
น้องสาวของจขกท.ไม่ได้ปริ้นท์ไป จขกท.จะขอดูพาสปอร์ต (จขกท.แนะนำว่าปริ้นท์ไปจะสะดวกมากกว่า)
เจ้าหน้าที่จะถามเรื่องติดรูป เลยแจ้งไปว่ายังไม่ได้ติดแบบฟอร์ม เพราะกลัวรูปจะใช้ไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตรงนี้ช่วยเช็คให้ และบอกได้เลยว่าคนไหนใช้ได้ คนไหนต้องถ่ายรูปใหม่ ก็จะมีบริการถ่ายรูปด้านใน)
3.นั่งรอคิว เจ้าหน้าที่เรียกเป็นรอบๆ จขกท.ถึงประมาณ 9 โมงกว่าๆ เลยไปนั่งเช็คและเรียงเอกสารอีกรอบ โดยข้างในจะมีlistการเรียงเอกสาร
โดยเป็นอันเดียวกับที่แจ้งในเวบ จึงไม่มีปัญหาใดๆ
4.ใกล้ๆ10โมง เจ้าหน้าที่เรียกรอบ10โมง เผื่อผ่านเข้าไปในห้องกระจกเพื่อเตรียมสัมภาษณ์ โดยกลุ่มจขกท.ไปทั้งหมด 13 คน เลยแจ้งว่าจะขอสัมภาษณ์พร้อมกัน แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าได้แค่รอบละ5คนเท่านั้น จึงต้องแยกเป็นครอบครัว
5.เมื่อเข้าไปห้องกระจกแล้ว กดบัตรคิว และนั่งรอเรียกคิว ระหว่างนั้น จขกท.จึงได้บรีฟครอบครัวญาติๆ ว่าไปไหนบ้าง ลงเครื่องที่ไหน วันอะไร กลับวันไหน พักที่ไหนบ้าง
6.เมื่อถึงคิวของครอบครัว จขกท. ต้องไปทีละคน คนที่เหลือให้อยู่บริเวณเก้าอี้ทีเตรียมไว้
คำถามที่โดนถาม คือ ไปทำอะไร, ถึงบรัสเซลส์วันไหน, ออกจากเยอรมันวันไหน, ไปทั้งหมดกี่คน, นอนเยอรมันกี่คืน, เคยถูกปฎิเสธวีซ่าหรือไม่,
เคยได้เชงเก้นมาแล้วหรือไม่, ไปกับครอบครัวใช่ไหม,
ส่วนเรื่องงาน: ทำงานที่ไหน, ทำมาแล้วกี่ปี, เป็นบริษัทของครอบครัวหรือไม่, ได้เงินเดือนผ่านทางไหน
ส่วนคนที่เหลือ จะถูกถามเรื่องงานอย่างเดียวแล้ว ไม่ถามเรื่องแพลนเที่ยวอีก
7. เมื่อสัมภาษณ์ครบทุกคน เจ้าหน้าที่จะให้ใบเล็กๆเพื่อไปจ่ายเงิน คนละ2,300บาท แล้วนำใบเสร็จนี้ไปซื้อ ซองจดหมายที่ด้านนอก เขียนชื่อ+ที่อยู่+เบอร์โทร และนำกลับมาให้เจ้าหน้าที่อีกคนด้านใน
8. เมื่อยื่นซองจดหมายเสร็จ ก็กลับบ้านได้ โดยจขกท.และครอบครัวเสร็จตามกำหนดรอบที่นัดสัมภาษณ์เลย คือ 10.30น.
ไปยื่นวันที่ 13 กพ. 2560 ได้รับไปรษณีย์ถึงบ่ายโมงวันที่ 16 กพ. 2560 เร็วๆมาก
จขกท.กับแม่ได้วีซ่าประมาณ 6 เดือน คือ 9/4/2017 - 23/10/2017 ตอนแรกจขกท.ก็งงๆ ทำไมได้วันแปลกๆ จึงนึกขึ้นได้ว่า พาสปอร์ตจะหมดอายุวันที่ 23/2/2018
ส่วนคนอื่นๆที่เหลือได้1ปีเต็ม จากสถานทูตเยอรมัน
ใครมีอะไรสอบถาม ถามได้เลยนะคะ ยินดีช่วยตอบเต็มที่ค่ะ