บุรีรัมย์มาราธอน - ถ้าได้ชิด แล้วคุณจะชอบ , ถ้าได้รู้จัก คุณจะหลงรัก

.
ผ่านไปด้วยดีเยี่ยมกับการเปิดตัวผู้จัดงานมาราธอนหน้าใหม่ของเมืองไทย "บุรีรัมย์ มาราธอน" ชื่อนี้เชื่อว่าจะเป็นที่จดจำถึงความยอดเยี่ยมและประทับใจในการจัดงาน แม้จะเป็นครั้งแรกก็ตาม แต่น่าจะขึ้นแท่นงานอันดับต้นๆที่เข้าไปอยู่ในใจของนักวิ่งหลายคนไปเรียบร้อยแล้ว
.
ลองจินตนาการถึงงานวิ่งซักงาน ที่มีจุดสตาร์ทในสนามแข่งรถระดับมาตรฐานโลก อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิขณะปล่อยตัวอยู่ที่ประมาณ 16-17 องศา วิ่งรอบสนามแล้วออกมาวิ่งบนถนนที่ปิด 100% เพื่อความปลอดภัยของนักวิ่ง อย่าคิดว่าจะมีรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์วิ่งไล่หลังซักคันเลย แม้แต่สุนัขสักตัวยังแทบจะไม่เห็นเลยด้วยซ้ำ
.
เส้นทางวิ่ง ผ่านหมู่บ้านที่มีชาวบ้านทั้งคนเฒ่าคนแก่ คนหนุ่มสาว จนกระทั่งลูกเด็กเล็กแดง มาปูเสื่อปูผ้านั่งเชียร์ยืนเชียร์ บางคนต้องห่มผ้าป้องกันอากาศหนาวไปด้วย มีทั้งตบมือเชียร์ ตะโกนสู้ๆ ร้องรำเพลง ตีกลอง ฉิ่งฉาบ สารพัดที่จะหาได้ พูดได้อย่างเต็มปากว่า ระดับการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนกับงานนี้นั้น เกินร้อยจริงๆ
.
วิ่งผ่านโรงเรียน ก็จะมีเด็กๆนักเรียนมายืนเชียร์ ส่งเสียงให้กำลังใจและสัมผัสมือกับนักวิ่ง ราวกับคุณเป็นนักกีฬาโอลิมปิคอย่างไรอย่างนั้น และแม้แต่ค่ายทหารที่อยู่บนเส้นทางก็เช่นกัน ก็จะมีพี่ๆน้องๆทหารมายืนเชียร์ร้องเพลงเป็นที่สนุกสนานไม่แพ้กัน
.
ในส่วนของเส้นทางวิ่ง ต้องถือว่าวิวสวยระดับอเมซิ่งไทยแลนด์จริงๆ สองข้างทางเป็นทุ่งนา ต้นข้าวเขียวสดชื่น มีคลองส่งน้ำเลียบเส้นทางไปตลอดระยะหลายกิโล มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นหลังทิวต้นตาลไกลๆ เมื่อสิ้นสุดเส้นทางนี้ ก็จะได้วิ่งเลียบสันเขื่อนของอ่างเก็บน้ำ แดดเริ่มแยงตาเล็กน้อย หลายคนหยุดถ่ายภาพเพื่อเก็บความประทับใจ และมีจุดกลับตัวบนเส้นทางนี้ นักวิ่งจะได้วิ่งสวนทางกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่ผมชอบมาก นักวิ่งจะให้กำลังใจซึ่งกันและกัน แตะมือกัน ยิ้มแย้มทักทายกัน
.
ช่วงสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัย(ระยะฮาล์ฟ) จะต้องวิ่งขึ้นเนินยาวๆก่อนจะถึงตัวสนามไอโมบาย ยิ่งมีชาวบ้านและเด็กๆออกมายืนเชียร์และให้กำลังใจมากขึ้น จนลืมความเหน็ดเหนื่อยที่สะสมมาตลอดระยะทางกว่า 20 กิโลไปเลย
.
ส่วนน้ำท่าเกลือแร่ผลไม้นี่ไม่ต้องพูดถึง มีพร้อมเพียงพอสำหรับนักวิ่งทุกคนไม่ขาดตกบกพร่องเลยทีเดียว
.
เสียดายอยู่อย่างเดียวที่ผมไม่ได้ลงวิ่งระยะฟูล เพราะได้คุยกับเพื่อนๆที่ลงฟูลแล้วทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ตอนผ่านหมู่บ้านว่าสนุกแล้ว ยิ่งตอนเข้าเมืองยิ่งสนุกกว่านั้นอีกหลายเท่าตัว - ป้ายยากันขนาดนี้แล้ว ปีหน้าเจอกันแน่นอน
.
สรุปด้วยคำพูดสั้นๆ งานนี้อาจจะไม่ใช่งานที่สมบูรณ์แบบ แต่มันเป็นงานที่ประทับใจที่สุด และควรค่าแก่การจดจำที่สุดงานหนึ่ง (แอบได้ยินพี่เนวินคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกว่า ปีหน้าจะต้องจัดให้ดียิ่งขึ้นกว่านี้อีก)
.
-ขอบคุณทีมงาน BURIRAM MARATHON ที่ทำให้เมืองไทยมีงานวิ่งดีๆอย่างนี้
-ขอบคุณเพื่อนนักวิ่งทุกคนที่ทักทายและให้กำลังใจกัน โดยเฉพาะพี่น้อง OSK ที่เจอกันทั้งระหว่างทางและที่เส้นชัย รู้สึกอบอุ่นเสมอที่ได้พบกัน
-ขอบคุณพี่น้อง GU12 และชาวบุรีรัมย์ทุกคน สำหรับเสียงเชียร์และกำลังใจตลอด 2 ข้างทาง
.
แล้วพบกันใหม่ 11.02.2018

*** ขอบคุณภาพจากเพจ BURIRAM MARATHON และเพจช่างภาพท่านอื่นๆด้วยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่