สวัสดีค่ะ เพื่อนๆเคยมีความฝันว่าอยากไปต่างประเทศกันบ้างไหมค่ะ
สำหรับฉันคือใช่ค่ะ เอ๊ะๆๆๆๆ แต่เราก็มีอีกหลายคำถามเข้ามาในหัว ฮื่มจะไปยังไงอะ
ในเมื่อบ้านเราไม่รวย ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง ด้วยความใฝ่ฝันและมุ่งมั่นอยากเดินทางรอบโลกและไปต่างประเทศอันแรงกล้าทำให้เราหาข้อมูลต่างๆมากมายยที่จะเป็นลู่ทางและโอกาสไปต่างประเทศ
ตอนนั้นที่มีความฝันนี้อย่างจริงจังคือเมื่อเราตอนอายุ13และเราอ่านนิตสารstudentweekly เราอ่านเจอโฆษณา มีเปิดรับไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนมันก็ ฮึ้ยมีแรงจุดประกาย ว่า เฮ่ยนี่ละรู้ทางของเราแต่ตอนนั้นภาษาเราก็ง่อย อายุที่สมัครได้คือตอนอายุ 15 เราก็เอาวะตอนนี้อายุ 13 เราก็ฝึกภาษาเลยค่ะ
ผ่านไปไวเหมือนโกหก อายุ 15 ปุ๊ป เราไม่รอช้าที่จะตามความฝันไปสมัคร สอบโครงการแลกเปลี่ยนเลยค่ะ ผลออกมาคือ
ไม่ผ่านข้อเขียน ช่วงนั้นมีความ fail แต่เพื่อความฝันเราจึงพยายามต่อไปและแล้วการสอบครั้งที่สามของเราก็ เป็นผล ค่ะ 5555+ ครั้งนี้เราติดโครงการแลกเปลี่ยนแล้วโว๊ย ดีใจ คือ กรี๊ดเลยค่ะตอนนั้น และเราก็โทรศัพท์ไปหาพ่อกับแม่ พ่อแม่ของเราก็ดีใจมากค่ะ แตความฝันเหมือนพังทลายตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้ไป เพราะ เรื่องการเงินช ค่ะ บอกแล้วไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง ฮือ
เรารู้สึกเสียใจแล้วเคว้งไปช่วงนึงค่ะ แต่เราเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เราไม่ได้ไปตอนมัธยม พอขึ้นมหาลัยปี 1 ปุ๊ป เรายังไม่ล้มเลิกความฝันค่ะ วันหนึ่งเราเห็นเพื่อนโพสรูปภาพที่ ตปท ค่ะ เราก็เลยสอบถามไปไหนหรอ ไปทำอะไร และคำตอบ คือ นางไปโครงการอาสาสมัคร ซึ่งเราก็สอบถามรายละเอียดนาง
นางก็แนะนำ ในที่สุดเราก็ได้สมทัครโครงการนั้น ซึ่งการสมัครก็มีการกรอกใบสมัคร ชำระเงินค่าโครงการถ้าเทียบกับที่อื่นเราถือว่าที่นี้ถูกมากค่ะ ค่าโครงการ 10,000หลังจากนั้นเราสามารถเข้าเว็บระบบได้ เราก็ไปเลือกดูประเทศ และ โครงการอาสาที่เราอยากไปทำ เราอย่าไปโซนยุโรปค่ะ ซึ่งเราก็ากาเอ๊ ยุโรปโซนไหนที่ค่าครองชีพถูกหรือไม่แพงมากบ้างนะ เราก็หาข้อมูล บลาๆ สรุปแถบโซนยุโรปกลางค่ะ เพราะค่าครองชีพไม่สูงมากนักถ้าเทียบกับยุโรปโซนอื่น สวยงามเหมือนกันที่สำคัญ
คือ ได้วีซ่าเชงเก้นเที่ยวได้ทั่ว EU ชอบมากสุดตรงนี้แหละ เรา เลยเลือก โครงการเกี่ยวกับการศึกษา เพราะเเราอยากทำกิจกรรมกรรมทางเด็กๆหรือชุมชนค่ะ สอนหนังสือเด็กๆค่ะ ซึงประเทศที่เรา เลือก คือ เชค เพราะ เราเห้นภาพในอินเทอร์เนตว่า
ปราค เป็นเมืองที่สวยน่ารักมาก ประเทศต่อไปที่เราเลือกคือ ฮังการี และโปแลนด์ค่ะ การคัดเลือกของเขาก็ประมานว่า เรากด apply ไปแล้วและถ้าเจ้าของโครงการที่นู่นสนใจคนประเทศเราเขาก็จะติดต่ออีเมลล์กลับมาและนัดวันสัมภาษณ์ทาง SKYPE ค่ะ ซึ่งที่แรกที่ตอบรับเรามา คือ ฮังการี นางตอบกลับมาค่ะว่าเราผ่านและอยากนัดสัมภาษณ์ทางสไกท เราก็ส่งเมลล์ตอบกลับว่าโอเคได้เลย เป็นวันนี้เวลานี้ สรุปนางก็คงยังไม่อีเมลล์กับมาค่ะ
อย่าเศร้าไปเรายังมีอีกสองที่แหนะ ที่ต่อไปเขาก็ตอบจดหมายเรามาเช่นเคยค่าและนี่รอบนี้ได้สัมภาษณ์ผ่านทาง skype 8่ะ นั้นก็คือ ประเทศ เชค แต่ ตอนนั้นเราอายุ 20ปีค่ะ ไม่เคยโดนสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษผ่าน skype เป็นครั้งแรก เรานี่ตื่นเต้นและรนมากค่ะ สรุป รอประกาศผลค่ะ งืม ไม่แมทช เราไม่ผ่านอีกแล้ว ประเทศต่อไปโปแลนดค่ะ เราเอาประสบการณ์การโดนสัมภาษณ์ครั้งก่อนจากเชค มาเตรียมค่ะฝึกดูว่าถ้าเราโดนถามแนวนี้จะตอบยังบลาๆๆๆ ซึ่งในที่สุดประกาศผลออกมาเรา ผ่านค่ะ เราดีใจมาก ดีใจเว่อออ
ซึ่งขั้นต่อไปคือการจองตั๋วและการขอวีซ่าค่ะ ซึ่งเราเป็นอาสาที่นั่นระยะเวลา สองเดือนกว่า เราได้วีซ่าแบบเชงเก้น สามเดือนค่ะ ทางองค์กรณ์ที่นู่นเขาก็จะมีจดหมายเชิญมาให้ ซึ่งเรื่องการขอวีซ่าเชงเก้นเราจะมีเขียนเล่าในกระทู้ต่อๆไปนะค่ะ ถ้าใครมีคำถามอะไรก็ฝากทิ้งไว้เได้นะค่ะ โอเคเราก็จองตั๋วยื่นวีซ่าเรียบร้อย ไปเป็นอาสา เขา offer อะไรให้เราบ้างตอนเป็นอาสาและหน้าที่ของเราทำอะไร หน้าที่ของเราคือไปสอนหนังสือรวมถึงบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศไทยค่ะ ให้ชาวโปแลนด์รู้จักประเทศต่างๆมากขึ้น ปล.มีเพื่อนๆอีกหลายประเทศที่มาเป็นอาสาเหมือนกันค่ะ อาสาประเทศละคนอย่างเราเป็นตัวแทนจากประเทศไทย
สิ่งที่เราได้รับการสนับสนุนตอนเป็นอาสา คือ เป็นอาสาไม่ได้เงินเนอะ แต่เราได้ที่พัก พักกับ โอสท้องถินค่ะ และ อาหาร รวมถึงค่ารถ ขณะทำงานตอนทำโปรเจคค่ะ ถ้าไปเที่ยวนอกเหนือจากตอนทำโครงการก็ คือ ออกเองค่ะ ซึ่งเมื่อได้วีซ่าเชงเก้นแล้วบินมาไกลขนาดนี้แล้วเป็นไปไม่ได้เลยจริงๆที่จบโปรเจคและเราจะไม่เที่ยวต่อ เดี๋ยวจะมาเล่าต่อเรื่อยๆนะค่ะ ในกระทู้ต่อๆไป ค่ะ
หนูจะไปเมืองนอก การเดินทางของเด็กผญ อายุ20 กับการเป็นอาสาสมัครในประเทศโปแลนด์ 1
ในเมื่อบ้านเราไม่รวย ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง ด้วยความใฝ่ฝันและมุ่งมั่นอยากเดินทางรอบโลกและไปต่างประเทศอันแรงกล้าทำให้เราหาข้อมูลต่างๆมากมายยที่จะเป็นลู่ทางและโอกาสไปต่างประเทศ ตอนนั้นที่มีความฝันนี้อย่างจริงจังคือเมื่อเราตอนอายุ13และเราอ่านนิตสารstudentweekly เราอ่านเจอโฆษณา มีเปิดรับไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนมันก็ ฮึ้ยมีแรงจุดประกาย ว่า เฮ่ยนี่ละรู้ทางของเราแต่ตอนนั้นภาษาเราก็ง่อย อายุที่สมัครได้คือตอนอายุ 15 เราก็เอาวะตอนนี้อายุ 13 เราก็ฝึกภาษาเลยค่ะ ผ่านไปไวเหมือนโกหก อายุ 15 ปุ๊ป เราไม่รอช้าที่จะตามความฝันไปสมัคร สอบโครงการแลกเปลี่ยนเลยค่ะ ผลออกมาคือ ไม่ผ่านข้อเขียน ช่วงนั้นมีความ fail แต่เพื่อความฝันเราจึงพยายามต่อไปและแล้วการสอบครั้งที่สามของเราก็ เป็นผล ค่ะ 5555+ ครั้งนี้เราติดโครงการแลกเปลี่ยนแล้วโว๊ย ดีใจ คือ กรี๊ดเลยค่ะตอนนั้น และเราก็โทรศัพท์ไปหาพ่อกับแม่ พ่อแม่ของเราก็ดีใจมากค่ะ แตความฝันเหมือนพังทลายตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้ไป เพราะ เรื่องการเงินช ค่ะ บอกแล้วไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง ฮือ เรารู้สึกเสียใจแล้วเคว้งไปช่วงนึงค่ะ แต่เราเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เราไม่ได้ไปตอนมัธยม พอขึ้นมหาลัยปี 1 ปุ๊ป เรายังไม่ล้มเลิกความฝันค่ะ วันหนึ่งเราเห็นเพื่อนโพสรูปภาพที่ ตปท ค่ะ เราก็เลยสอบถามไปไหนหรอ ไปทำอะไร และคำตอบ คือ นางไปโครงการอาสาสมัคร ซึ่งเราก็สอบถามรายละเอียดนาง นางก็แนะนำ ในที่สุดเราก็ได้สมทัครโครงการนั้น ซึ่งการสมัครก็มีการกรอกใบสมัคร ชำระเงินค่าโครงการถ้าเทียบกับที่อื่นเราถือว่าที่นี้ถูกมากค่ะ ค่าโครงการ 10,000หลังจากนั้นเราสามารถเข้าเว็บระบบได้ เราก็ไปเลือกดูประเทศ และ โครงการอาสาที่เราอยากไปทำ เราอย่าไปโซนยุโรปค่ะ ซึ่งเราก็ากาเอ๊ ยุโรปโซนไหนที่ค่าครองชีพถูกหรือไม่แพงมากบ้างนะ เราก็หาข้อมูล บลาๆ สรุปแถบโซนยุโรปกลางค่ะ เพราะค่าครองชีพไม่สูงมากนักถ้าเทียบกับยุโรปโซนอื่น สวยงามเหมือนกันที่สำคัญ คือ ได้วีซ่าเชงเก้นเที่ยวได้ทั่ว EU ชอบมากสุดตรงนี้แหละ เรา เลยเลือก โครงการเกี่ยวกับการศึกษา เพราะเเราอยากทำกิจกรรมกรรมทางเด็กๆหรือชุมชนค่ะ สอนหนังสือเด็กๆค่ะ ซึงประเทศที่เรา เลือก คือ เชค เพราะ เราเห้นภาพในอินเทอร์เนตว่า ปราค เป็นเมืองที่สวยน่ารักมาก ประเทศต่อไปที่เราเลือกคือ ฮังการี และโปแลนด์ค่ะ การคัดเลือกของเขาก็ประมานว่า เรากด apply ไปแล้วและถ้าเจ้าของโครงการที่นู่นสนใจคนประเทศเราเขาก็จะติดต่ออีเมลล์กลับมาและนัดวันสัมภาษณ์ทาง SKYPE ค่ะ ซึ่งที่แรกที่ตอบรับเรามา คือ ฮังการี นางตอบกลับมาค่ะว่าเราผ่านและอยากนัดสัมภาษณ์ทางสไกท เราก็ส่งเมลล์ตอบกลับว่าโอเคได้เลย เป็นวันนี้เวลานี้ สรุปนางก็คงยังไม่อีเมลล์กับมาค่ะ อย่าเศร้าไปเรายังมีอีกสองที่แหนะ ที่ต่อไปเขาก็ตอบจดหมายเรามาเช่นเคยค่าและนี่รอบนี้ได้สัมภาษณ์ผ่านทาง skype 8่ะ นั้นก็คือ ประเทศ เชค แต่ ตอนนั้นเราอายุ 20ปีค่ะ ไม่เคยโดนสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษผ่าน skype เป็นครั้งแรก เรานี่ตื่นเต้นและรนมากค่ะ สรุป รอประกาศผลค่ะ งืม ไม่แมทช เราไม่ผ่านอีกแล้ว ประเทศต่อไปโปแลนดค่ะ เราเอาประสบการณ์การโดนสัมภาษณ์ครั้งก่อนจากเชค มาเตรียมค่ะฝึกดูว่าถ้าเราโดนถามแนวนี้จะตอบยังบลาๆๆๆ ซึ่งในที่สุดประกาศผลออกมาเรา ผ่านค่ะ เราดีใจมาก ดีใจเว่อออ ซึ่งขั้นต่อไปคือการจองตั๋วและการขอวีซ่าค่ะ ซึ่งเราเป็นอาสาที่นั่นระยะเวลา สองเดือนกว่า เราได้วีซ่าแบบเชงเก้น สามเดือนค่ะ ทางองค์กรณ์ที่นู่นเขาก็จะมีจดหมายเชิญมาให้ ซึ่งเรื่องการขอวีซ่าเชงเก้นเราจะมีเขียนเล่าในกระทู้ต่อๆไปนะค่ะ ถ้าใครมีคำถามอะไรก็ฝากทิ้งไว้เได้นะค่ะ โอเคเราก็จองตั๋วยื่นวีซ่าเรียบร้อย ไปเป็นอาสา เขา offer อะไรให้เราบ้างตอนเป็นอาสาและหน้าที่ของเราทำอะไร หน้าที่ของเราคือไปสอนหนังสือรวมถึงบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศไทยค่ะ ให้ชาวโปแลนด์รู้จักประเทศต่างๆมากขึ้น ปล.มีเพื่อนๆอีกหลายประเทศที่มาเป็นอาสาเหมือนกันค่ะ อาสาประเทศละคนอย่างเราเป็นตัวแทนจากประเทศไทย สิ่งที่เราได้รับการสนับสนุนตอนเป็นอาสา คือ เป็นอาสาไม่ได้เงินเนอะ แต่เราได้ที่พัก พักกับ โอสท้องถินค่ะ และ อาหาร รวมถึงค่ารถ ขณะทำงานตอนทำโปรเจคค่ะ ถ้าไปเที่ยวนอกเหนือจากตอนทำโครงการก็ คือ ออกเองค่ะ ซึ่งเมื่อได้วีซ่าเชงเก้นแล้วบินมาไกลขนาดนี้แล้วเป็นไปไม่ได้เลยจริงๆที่จบโปรเจคและเราจะไม่เที่ยวต่อ เดี๋ยวจะมาเล่าต่อเรื่อยๆนะค่ะ ในกระทู้ต่อๆไป ค่ะ