ฮัลโหลววววว สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน วันนี้เราได้โอกาสดี จังหวะเหมาะพร้อมกับมีเวลาว่างเลยอยากมาตั้งกระทู้แชร์ประสบการณ์การเอาชนะใจตัวเองในการไปเที่ยว ‘สวนงู’ มาค่ะ ต้องท้าวความนิดนึงว่าทำไมต้องใช้คำว่า “เอาชนะใจตัวเอง” ส่วนตัวเราเป็นคนรักสัตว์นะ หมา แมว หมี หมู ลิง วัว ประเภทสัตว์ 4 ขาไม่มีเกร็ดทั้งหลาย เวลาเห็นข่าวเกี่ยวกับสัตว์พวกนี้จะเซนซิทีฟมากๆๆ แต่ก็ยกเว้นไว้กับสัตว์อย่าง งู หรือ ตุ๊กแก ที่ไม่ชอบเอาซะเลย เชื่อว่าสาวๆหลายคนก็คงเป็นแบบเราไม่มากก็น้อยนะ 555
แต่หลังจากกระแสละครนาคีดังเมื่อปีก่อน แล้วเราก็เป็นหนึ่งในแฟนละครด้วย55 ทำให้รู้สึกเป็นมิตรกับงูขึ้นนิดนึง(เพราะมโนว่าตัวเองเป็นนางเอกบ่อยๆ) แต่หลังจากละครจบไปก็กลับมากลัวอยู่ดี ทีนี้มันมีอยู่วันนึงเราอยู่กับเพื่อน มีพี่สาวเราอยู่ด้วย เพื่อนเรามันเปิดคลิปงูแล้วยื่นมาให้ดู เรานี่ตกใจเกือบหงาย เพื่อนเห็นก็พากันขำอ่ะ พี่สาวเราเลยบอกว่าไม่ได้ละ เดี๋ยวจะพาเราไปแก้กลัว เรานี่งงเลย คืออะไร ไม่เอาน่ะ… พี่สาวเราก็ไปหามาว่าจะพาเราไปสวนงูที่ไหนดี พอดีกับไปเจอว่ามีสวนงูเปิดใหม่แถวลาดกระบัง ลองดูๆรูปในเน็ตแล้วก็เห็นว่าน่าสนใจดี เราเลยตัดสินใจลองไปสักทีน่ะ เผื่อทัศนคติจะเปลี่ยน งูก็เป็นสัตว์ชนิดนึงเท่านั้น ปลอบตัวเองเสร็จก็ตัดสินใจจูงมือพี่สาวไปเที่ยวที่นี่กันค่ะ ถือว่าเป็นการมาเที่ยวเพื่อเปลี่ยนมุมมองจริงๆค่ะ หลังจากกลับมาแล้วรู้สึกประทับใจ เลยอยากนำภาพมาแบ่งปันกัน
***กระทู้นี้ใครเป็นโรคกลัวจุดกลัวแพทเทิร์นก็ขอเตือนไว้นิดนึงนะ
แต่ถ้าอยากลองเอาชนะใจตัวเองแบบเราก็ มาค่ะ!555***
มาเริ่มตั้งแต่การเดินทางดีกว่าค่ะ สวนงูที่นี่อยู่แถวลาดกระบัง ซึ่งตอนมาเราก็อาศัยป๋ากูเกิ้ลพามา โดยวิ่งขึ้นทางด่วนแล้วเกาะป้ายสุวรรณภูมิมาเป็นระยะๆ
มาถึงแยกนี้ ก็เลี้ยวเข้า อ่อนนุช-ลาดกระบังเลยค่ะ
เลี้ยวมาจอดติดไฟแดงแล้วเลี้ยวขวา ขับตรงมานิดหน่อยสวนงูจะอยู่ทางด้านซ้ายค่ะ
ถึงแล้วจ้า ด้านหน้าทางเข้าเลี้ยวเข้าไปเล้ยยยย
ลักษณะของที่นี่จะเป็นโดมใหญ่ๆอลังการเลยค่ะ ตกแต่งสวยงาม เข้ามาจะเจอโถงกว้างมากๆ มีโซฟาสีขาวตั้งรอบๆ ด้านบนเพดานทำเป็นโครงกระดูกงู
หลังจากซื้อบัตรเข้าตรงด้านหน้าเรียบร้อยแล้ว โดยผู้ใหญ่ชาวไทย ค่าเข้าจะอยู่ 350 บาท เด็ก 150 บาทค่ะ
(ขอโทษนะคะที่จอไม่ค่อยชัดเราพยายามถ่ายแล้วแต่ได้แค่นี้ T-T)
จากนั้นก็ไปเข้าแถวเพื่อเข้าพิพิธภัณฑ์ ด่านแรกจะเข้าไปในโดมคล้ายกับไข่งู มีโปรเจคเตอร์เล่าสตอรี่สนุกๆ หลังจากดูจบก็จะเปิดให้เราเข้าไปสู่โซนพิพิธภัณฑ์ค่ะ
โดยสวนงูแห่งนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆตามนี้เลยค่ะ เราจะเล่าไล่ไปทีละโซนเหมือนเที่ยวไปพร้อมๆกันเลยน้า
ส่วนที่ 1.ส่วนของพิพิธภัณฑ์งู คอนเซ็ปคือแทนตัวเราเป็นลูกงูที่พึ่งออกจากไข่กำลังเลื้อยดึ้บๆออกไปผจญภัยในป่ากว้างใหญ่เพื่อเรียนรู้การเป็นงูค่ะ ส่วนนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับอวัยวะ สรีระ การเคลื่อนไหวของงู เราว่าเด็กๆคงสนุกกับโซนนี้แน่เลย เพราะจะมีสัตว์ป่าตัวยักษ์มากมาย มีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับงูให้เราได้อ่าน และมีไกด์ที่คอยให้ความรู้ตลอดด้วย
มีป้ายให้ความรู้ตลอดทาง
เกล็ดงูของจริงและวอลเปเปอร์เกล็ดงูแบบต่างๆให้เราได้สัมผัส
(เกล็ดของจริงที่ไกด์บอกได้จากการลอกคราบ เอ้าใครกลัวจุด ระวัง เตรียมตัว!!!)
วอลเปเปอร์ขนาดยักษ์ของเกล็ดแบบตุ่ม
ภาพแสดงการเคลื่อนตัวของงูบนโปรเจคเตอร์
อุโมงค์งูเพื่อเข้าไปศึกษาอวัยวะต่างๆในร่างกาย
กำแพงที่อธิบายเกี่ยวกับอวัยวะต่างๆภายในของงู
ไล่ดู ไล่อ่านไปเรื่อยๆไปจนถึง….จูดู้งู (ณ จุดนี้ไม่รู้ต้องเซนเซอร์รึเปล่า)
มาถึงจุดนี้จะมีเครื่องจำลองว่าหากเราโดนงูรัดจะเป็นยังไง ซึ่งเราไม่กล้าแหย่มือลงไปจริงๆถึงจะเป็นงูปลอมก็เถอะ โอ้ย พี่เราก็ไม่กล้าผลักกันไปผลักกันมาจนสุดท้ายพี่ไกด์ต้องสาธิตให้เราดู
ความรู้สึกก็ต้องไปลองกันเองนะ555
ส่วนที่ 2.เป็นส่วนของสวนงูที่มีงูตัวจริงเรียงรายอยู่ในตู้กระจก จะมีตั้งแต่งูตัวเล็กๆไปจนถึงงูมีพิษร้ายแรง งูที่ไม่มีในประเทศไทย รวมถึงงูอนาคอนด้า / งูจากทะเลทราย บลาๆๆ พร้อมป้ายบอกชื่อ รายละเอียดของงูว่าขนาดตัวโตเต็มวัยจะยาวเท่าไหร่ พบได้ที่ไหน อาศัยอยู่ตามแห่งธรรมชาติไหน โซนนี้ความสนุกของเราอยู่ที่เรากับพี่แข่งกันหางูในตู้ค่ะ เพราะน้องงูทั้งหลายชอบพรางตัว ไปหลบอยู่มุมนู้นมุมนี้บ้าง แข่งกันใครตาไวกว่ากัน ยอมรับว่าตอนแรกๆดูแล้วเกิดอาการขนลุกซูซ่าตลอดเวลา 555 แต่ดูไปดูมาเราว่าน้องงูก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดส่วนใหญ่จะนอนนิ่งๆ รักสงบมากกว่าที่จะระราน มองไปมองมาเริ่มมีความน่ารัก ไม่เชื่อหรอ ไปดูตาใสๆของเขากันจิ้ 5555 (ขอแต่งภาพเพื่อความน่ารักนะ ลองมองพวกเขาให้น่ารักกันสิคะ55)
แอร๊….ความคิ้วท์เบาๆ
ตู้งูเรียงเป็นทางยาวพร้อมรายละเอียดของงูที่อยู่บนป้ายมี 3 ภาษา และชื่อของแต่ละตัวด้านบน
สังเกตุแหล่งที่อยู่ของงูง่ายๆจากการตกแต่งในตู้กระจกเพราะไกด์บอกว่าที่นี่เขาจะตกแต่งตู้ตามสภาวะจริงๆที่งูอาศัยอยู่ค่ะ
บางตัวก็แอบไม่ให้เห็นหน้าเห็นตา
คุณงูบางส่วนอาจจะเห็นแค่ลายบ้างเพราะงูจะนอนขดอยู่ในๆ หรือหลบอยู่ตามตอไม้ต่างๆนานาแล้วแต่วันที่ไปว่าน้องงูจะไปเลือกนอนอยู่มุมไหน แต่ก็จะมีบางตัวที่เป็นดาราหน้ากล้องนอนอยู่หน้ากระจกให้นักท่องเที่ยวแห่มาแชะภาพกันใหญ่อย่างงูตัวนี้
งูทะเลทรายมีชื่อยาวๆว่า
ฟิลด์ฮอร์นไวเปอร์ หน้าตาเหมือนมังกรแฮะ
มาถึงงูใหญ่ๆอย่างงูหลาม งูเหลือม อนาคอนด้าโดยไกด์จะคอยให้ข้อมูลแก่ผู้เข้าชมว่าเกล็ดเป็นแบบไหน มีอะไรสงสัยก็ถามได้ ไกด์ตอบได้เลย
อนาคอนด้าบุ๋งๆอยู่ในน้ำ
อย่างงูตัวนี้โชคดีมากเราถ่ายทันตอนกำลังหาวพอดี !! ตอนแรกนึกว่านางโกรธอะไรรึเปล่า แต่ไกด์บอกว่านางหาวจ้ะ หาว โอ้ย….เล่นเอาดุ้งไปเลย (เกือบจะหงายอีกแล้ว)
มาถึงอสรพิษที่มีพิษร้ายแรงกันบ้างค่ะ
งูอะไรเอ่ยชอบอาบน้ำ
.
.
.
.
.
เฉลย……………...งูลงอ่างจ้า…………….
.
.
เอิ่ม….
เราก็พึ่งรู้ว่างูเห่ามีหลายประเภทมากๆเลย นี่เป็นส่วนหนึ่งที่เราถ่ายมานะคะ
เราเห่าทอง(พ่นพิษ)เอง…
ส่วนเราเห่าไทย…
ส่วนเราเห่าเผือกจ้า...แอ่แฮ่
ส่วนที่เหลือคือภาพตัวอื่นๆ ซึ่งมีงูเยอะมากๆค่ะ
จบจากโซนนี้ไปก็จะเป็นโซนสุดท้ายคือโซนการแสดงโชว์ค่ะ ก่อนจะเข้าเธียเตอร์ของเขาระหว่างรอก็จะมีป้ายต่างๆให้อ่านเป็นความรู้ทั้งตำนานเกี่ยวกับงู / ห้องที่โชว์ลูกงูเกิดใหม่ / ยาโบราณที่สกัดมาจากงู ฯลฯ
ส่วนที่ 3.โซนเธียเตอร์ มีการแสดงโชว์เล็กและโชว์ใหญ่ ซึ่งเขาจะมีเป็นรอบๆนะ
โชว์เล็ก : เป็นการแสดงโชว์งูของพี่ๆสต๊าฟทั้งหลายจ้า ซึ่งก็สร้างความตื่นเต้นได้ตลอดการโชว์
โชว์แรกนักแสดงมาเข้าแถวกันพร้อมเพรียง
โชว์ใหญ่ : เป็นการแสดงไทยเกี่ยวกับตำนานพญานาคประยุกต์กับการโชว์งู เราว่าสวยงาม ครีเอทมากๆ ชอบเลย
จบการแสดงพี่ๆนักแสดงจะออกมายืนรอให้เข้าไปถ่ายรูปคู่กับพี่ๆเขาได้ ชื่นชมสปิริตทุกคนเลยโดยเฉพาะพี่พญาครุฑที่แอคติ้งตลอดแม้กระทั่งจบการแสดง //ปรบมือออออ
.
.
.
เนื้อที่ไม่พอซะแล้วววว ยังเหลืออีก 2 โซน ไปต่อใน ความคิดเห็นที่ 1 นะคะ ><
[CR] พาบุกดงนาคีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เรียนรู้ เปลี่ยนมุมมองกับน้องงูที่ Siam Serpentarium ลาดกระบัง
ฮัลโหลววววว สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน วันนี้เราได้โอกาสดี จังหวะเหมาะพร้อมกับมีเวลาว่างเลยอยากมาตั้งกระทู้แชร์ประสบการณ์การเอาชนะใจตัวเองในการไปเที่ยว ‘สวนงู’ มาค่ะ ต้องท้าวความนิดนึงว่าทำไมต้องใช้คำว่า “เอาชนะใจตัวเอง” ส่วนตัวเราเป็นคนรักสัตว์นะ หมา แมว หมี หมู ลิง วัว ประเภทสัตว์ 4 ขาไม่มีเกร็ดทั้งหลาย เวลาเห็นข่าวเกี่ยวกับสัตว์พวกนี้จะเซนซิทีฟมากๆๆ แต่ก็ยกเว้นไว้กับสัตว์อย่าง งู หรือ ตุ๊กแก ที่ไม่ชอบเอาซะเลย เชื่อว่าสาวๆหลายคนก็คงเป็นแบบเราไม่มากก็น้อยนะ 555
แต่หลังจากกระแสละครนาคีดังเมื่อปีก่อน แล้วเราก็เป็นหนึ่งในแฟนละครด้วย55 ทำให้รู้สึกเป็นมิตรกับงูขึ้นนิดนึง(เพราะมโนว่าตัวเองเป็นนางเอกบ่อยๆ) แต่หลังจากละครจบไปก็กลับมากลัวอยู่ดี ทีนี้มันมีอยู่วันนึงเราอยู่กับเพื่อน มีพี่สาวเราอยู่ด้วย เพื่อนเรามันเปิดคลิปงูแล้วยื่นมาให้ดู เรานี่ตกใจเกือบหงาย เพื่อนเห็นก็พากันขำอ่ะ พี่สาวเราเลยบอกว่าไม่ได้ละ เดี๋ยวจะพาเราไปแก้กลัว เรานี่งงเลย คืออะไร ไม่เอาน่ะ… พี่สาวเราก็ไปหามาว่าจะพาเราไปสวนงูที่ไหนดี พอดีกับไปเจอว่ามีสวนงูเปิดใหม่แถวลาดกระบัง ลองดูๆรูปในเน็ตแล้วก็เห็นว่าน่าสนใจดี เราเลยตัดสินใจลองไปสักทีน่ะ เผื่อทัศนคติจะเปลี่ยน งูก็เป็นสัตว์ชนิดนึงเท่านั้น ปลอบตัวเองเสร็จก็ตัดสินใจจูงมือพี่สาวไปเที่ยวที่นี่กันค่ะ ถือว่าเป็นการมาเที่ยวเพื่อเปลี่ยนมุมมองจริงๆค่ะ หลังจากกลับมาแล้วรู้สึกประทับใจ เลยอยากนำภาพมาแบ่งปันกัน
แต่ถ้าอยากลองเอาชนะใจตัวเองแบบเราก็ มาค่ะ!555***
มาเริ่มตั้งแต่การเดินทางดีกว่าค่ะ สวนงูที่นี่อยู่แถวลาดกระบัง ซึ่งตอนมาเราก็อาศัยป๋ากูเกิ้ลพามา โดยวิ่งขึ้นทางด่วนแล้วเกาะป้ายสุวรรณภูมิมาเป็นระยะๆ
มาถึงแยกนี้ ก็เลี้ยวเข้า อ่อนนุช-ลาดกระบังเลยค่ะ
เลี้ยวมาจอดติดไฟแดงแล้วเลี้ยวขวา ขับตรงมานิดหน่อยสวนงูจะอยู่ทางด้านซ้ายค่ะ
ถึงแล้วจ้า ด้านหน้าทางเข้าเลี้ยวเข้าไปเล้ยยยย
ลักษณะของที่นี่จะเป็นโดมใหญ่ๆอลังการเลยค่ะ ตกแต่งสวยงาม เข้ามาจะเจอโถงกว้างมากๆ มีโซฟาสีขาวตั้งรอบๆ ด้านบนเพดานทำเป็นโครงกระดูกงู
หลังจากซื้อบัตรเข้าตรงด้านหน้าเรียบร้อยแล้ว โดยผู้ใหญ่ชาวไทย ค่าเข้าจะอยู่ 350 บาท เด็ก 150 บาทค่ะ
(ขอโทษนะคะที่จอไม่ค่อยชัดเราพยายามถ่ายแล้วแต่ได้แค่นี้ T-T)
จากนั้นก็ไปเข้าแถวเพื่อเข้าพิพิธภัณฑ์ ด่านแรกจะเข้าไปในโดมคล้ายกับไข่งู มีโปรเจคเตอร์เล่าสตอรี่สนุกๆ หลังจากดูจบก็จะเปิดให้เราเข้าไปสู่โซนพิพิธภัณฑ์ค่ะ
โดยสวนงูแห่งนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆตามนี้เลยค่ะ เราจะเล่าไล่ไปทีละโซนเหมือนเที่ยวไปพร้อมๆกันเลยน้า
ส่วนที่ 1.ส่วนของพิพิธภัณฑ์งู คอนเซ็ปคือแทนตัวเราเป็นลูกงูที่พึ่งออกจากไข่กำลังเลื้อยดึ้บๆออกไปผจญภัยในป่ากว้างใหญ่เพื่อเรียนรู้การเป็นงูค่ะ ส่วนนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับอวัยวะ สรีระ การเคลื่อนไหวของงู เราว่าเด็กๆคงสนุกกับโซนนี้แน่เลย เพราะจะมีสัตว์ป่าตัวยักษ์มากมาย มีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับงูให้เราได้อ่าน และมีไกด์ที่คอยให้ความรู้ตลอดด้วย
มีป้ายให้ความรู้ตลอดทาง
เกล็ดงูของจริงและวอลเปเปอร์เกล็ดงูแบบต่างๆให้เราได้สัมผัส
(เกล็ดของจริงที่ไกด์บอกได้จากการลอกคราบ เอ้าใครกลัวจุด ระวัง เตรียมตัว!!!)
วอลเปเปอร์ขนาดยักษ์ของเกล็ดแบบตุ่ม
ภาพแสดงการเคลื่อนตัวของงูบนโปรเจคเตอร์
อุโมงค์งูเพื่อเข้าไปศึกษาอวัยวะต่างๆในร่างกาย
กำแพงที่อธิบายเกี่ยวกับอวัยวะต่างๆภายในของงู
ไล่ดู ไล่อ่านไปเรื่อยๆไปจนถึง….จูดู้งู (ณ จุดนี้ไม่รู้ต้องเซนเซอร์รึเปล่า)
มาถึงจุดนี้จะมีเครื่องจำลองว่าหากเราโดนงูรัดจะเป็นยังไง ซึ่งเราไม่กล้าแหย่มือลงไปจริงๆถึงจะเป็นงูปลอมก็เถอะ โอ้ย พี่เราก็ไม่กล้าผลักกันไปผลักกันมาจนสุดท้ายพี่ไกด์ต้องสาธิตให้เราดู
ความรู้สึกก็ต้องไปลองกันเองนะ555
ส่วนที่ 2.เป็นส่วนของสวนงูที่มีงูตัวจริงเรียงรายอยู่ในตู้กระจก จะมีตั้งแต่งูตัวเล็กๆไปจนถึงงูมีพิษร้ายแรง งูที่ไม่มีในประเทศไทย รวมถึงงูอนาคอนด้า / งูจากทะเลทราย บลาๆๆ พร้อมป้ายบอกชื่อ รายละเอียดของงูว่าขนาดตัวโตเต็มวัยจะยาวเท่าไหร่ พบได้ที่ไหน อาศัยอยู่ตามแห่งธรรมชาติไหน โซนนี้ความสนุกของเราอยู่ที่เรากับพี่แข่งกันหางูในตู้ค่ะ เพราะน้องงูทั้งหลายชอบพรางตัว ไปหลบอยู่มุมนู้นมุมนี้บ้าง แข่งกันใครตาไวกว่ากัน ยอมรับว่าตอนแรกๆดูแล้วเกิดอาการขนลุกซูซ่าตลอดเวลา 555 แต่ดูไปดูมาเราว่าน้องงูก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดส่วนใหญ่จะนอนนิ่งๆ รักสงบมากกว่าที่จะระราน มองไปมองมาเริ่มมีความน่ารัก ไม่เชื่อหรอ ไปดูตาใสๆของเขากันจิ้ 5555 (ขอแต่งภาพเพื่อความน่ารักนะ ลองมองพวกเขาให้น่ารักกันสิคะ55)
แอร๊….ความคิ้วท์เบาๆ
ตู้งูเรียงเป็นทางยาวพร้อมรายละเอียดของงูที่อยู่บนป้ายมี 3 ภาษา และชื่อของแต่ละตัวด้านบน
สังเกตุแหล่งที่อยู่ของงูง่ายๆจากการตกแต่งในตู้กระจกเพราะไกด์บอกว่าที่นี่เขาจะตกแต่งตู้ตามสภาวะจริงๆที่งูอาศัยอยู่ค่ะ
บางตัวก็แอบไม่ให้เห็นหน้าเห็นตา
คุณงูบางส่วนอาจจะเห็นแค่ลายบ้างเพราะงูจะนอนขดอยู่ในๆ หรือหลบอยู่ตามตอไม้ต่างๆนานาแล้วแต่วันที่ไปว่าน้องงูจะไปเลือกนอนอยู่มุมไหน แต่ก็จะมีบางตัวที่เป็นดาราหน้ากล้องนอนอยู่หน้ากระจกให้นักท่องเที่ยวแห่มาแชะภาพกันใหญ่อย่างงูตัวนี้
งูทะเลทรายมีชื่อยาวๆว่า ฟิลด์ฮอร์นไวเปอร์ หน้าตาเหมือนมังกรแฮะ
มาถึงงูใหญ่ๆอย่างงูหลาม งูเหลือม อนาคอนด้าโดยไกด์จะคอยให้ข้อมูลแก่ผู้เข้าชมว่าเกล็ดเป็นแบบไหน มีอะไรสงสัยก็ถามได้ ไกด์ตอบได้เลย
อนาคอนด้าบุ๋งๆอยู่ในน้ำ
อย่างงูตัวนี้โชคดีมากเราถ่ายทันตอนกำลังหาวพอดี !! ตอนแรกนึกว่านางโกรธอะไรรึเปล่า แต่ไกด์บอกว่านางหาวจ้ะ หาว โอ้ย….เล่นเอาดุ้งไปเลย (เกือบจะหงายอีกแล้ว)
มาถึงอสรพิษที่มีพิษร้ายแรงกันบ้างค่ะ
งูอะไรเอ่ยชอบอาบน้ำ
.
.
.
.
.
เฉลย……………...งูลงอ่างจ้า…………….
.
.
เอิ่ม….
เราก็พึ่งรู้ว่างูเห่ามีหลายประเภทมากๆเลย นี่เป็นส่วนหนึ่งที่เราถ่ายมานะคะ
เราเห่าทอง(พ่นพิษ)เอง…
ส่วนเราเห่าไทย…
ส่วนเราเห่าเผือกจ้า...แอ่แฮ่
ส่วนที่เหลือคือภาพตัวอื่นๆ ซึ่งมีงูเยอะมากๆค่ะ
จบจากโซนนี้ไปก็จะเป็นโซนสุดท้ายคือโซนการแสดงโชว์ค่ะ ก่อนจะเข้าเธียเตอร์ของเขาระหว่างรอก็จะมีป้ายต่างๆให้อ่านเป็นความรู้ทั้งตำนานเกี่ยวกับงู / ห้องที่โชว์ลูกงูเกิดใหม่ / ยาโบราณที่สกัดมาจากงู ฯลฯ
ส่วนที่ 3.โซนเธียเตอร์ มีการแสดงโชว์เล็กและโชว์ใหญ่ ซึ่งเขาจะมีเป็นรอบๆนะ
โชว์เล็ก : เป็นการแสดงโชว์งูของพี่ๆสต๊าฟทั้งหลายจ้า ซึ่งก็สร้างความตื่นเต้นได้ตลอดการโชว์
โชว์แรกนักแสดงมาเข้าแถวกันพร้อมเพรียง
โชว์ใหญ่ : เป็นการแสดงไทยเกี่ยวกับตำนานพญานาคประยุกต์กับการโชว์งู เราว่าสวยงาม ครีเอทมากๆ ชอบเลย
จบการแสดงพี่ๆนักแสดงจะออกมายืนรอให้เข้าไปถ่ายรูปคู่กับพี่ๆเขาได้ ชื่นชมสปิริตทุกคนเลยโดยเฉพาะพี่พญาครุฑที่แอคติ้งตลอดแม้กระทั่งจบการแสดง //ปรบมือออออ
.
.
.
เนื้อที่ไม่พอซะแล้วววว ยังเหลืออีก 2 โซน ไปต่อใน ความคิดเห็นที่ 1 นะคะ ><