สวัสดีอีกครั้งครับ นานๆผมจะมีอะไรพิเศษมาให้ชมกัน ไหนๆก็จะถึงหน้าดอกไม้ของญี่ปุ่นแล้วครั้งนี้ผมขอแชร์รูปถ่ายต่างๆของดอกซากูระในที่ต่างรอบ คิวชูเหนือมาให้ชมกันครับ
ในตอนนั้นผมใช้เวลา 3วันวนรอบภาคเหนือของเกาะคิวชูโดยผมพักอยู่ที่เมืองBeppu เมืองที่ผมเคยศึกษาปริญญาตรีครับ
ในเวลานั้นผมยังเป็นนักเรียนอยู่ เลยใช้ตั๋วนักเรียนที่ทางJR จำหน่ายในราคา 7,400 เยน หรือ ประมาณ 2,000 บาท สามารถนั่งรถไฟของJR Kyushuได้ทุกขบวนใน 5จังหวัดทางภาคเหนือของคิวชู (Fukuoka, Saga, Nagasaki, Oita, Kumamoto) ครับ
อันที่จริงแล้วสามารถใช้ตัว Kyushu Pass แทนก็ได้ แต่ตอนนั้นวีซ่าของผมเป็น วิซ่านักเรียน เลยซื้อไม่ได้ครับ
สำหรับที่ที่ผมไปถ่ายรูปดอกซากูระรอบคิวชูมีตามข้างล่างนี้เลยครับ
1. Mifuneyama rakuen เมือง Takeo จังหวัด Saga
2. Yutoku Inari Shrine เมือง Kashima จังหวัด Saga
3. Kokura Castle เมือง Kitakyushu จังหวัด Fukuoka
4. Shiranoe Garden เมือง Kitakyushu จังหวัด Fukuoka
5. Fukuoka Castle ในตัวเมือง Fukuoka
6. Tenjin Central Park หรือ Tenjin Park ในตัวเมือง Fukuoka
7. Kumamoto Castle เมือง Kumamoto
8. เมือง Yanagawa จังหวัด Fukuoka
9. Beppu Park เมือง Beppu จังหวัด Oita
10. Beppu Ropeway เมือง Beppu จังหวัด Oita
11. Yufuin จังหวัด Oita
หมายเหตุ: ภาพในกระทู้นี้ทั้งหมดถูกถ่ายในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต่อเมษายน หากต้องการทราบวันที่แน่นอนของปีนี้ ดูที่URL นี้เลยครับ
http://sakura.weathermap.jp/
วันที่1 (3 เมย 2559)
Takeo Onsen -> Kumamoto
ในวันนั้นสภาพอากาศมีเมฆมาก แต่ดีที่ไม่มีฝนครับ ผมออกจากสถานีBeppu ประมาณ 8โมง
ที่แรกที่ผมไปในปีที่แล้วคือสวนMifuneyama จังหวัดSagaครับ เป็นสวนแบบดั้งเดิมของจังหวัดนี้ อยู่ใกล้ๆกับTakeo Onsenครับ
ที่นี่เป็นสวนที่1 ประจำจังหวัด Saga และมีต้นไม้ ดอกไม้สวยๆทั้งปี ที่นี่ซากูระเยอะอยู่ครับ แต่ไม่ค่อยดังเท่าไหร่ ในทางกลับกัน ที่นี่ดังใบเมเปิลมากกว่า พอถึงเดือนพฤศจิกา คนก็แห่กันมาเยอะเลย
กลางคืนมีเปิดไฟด้วย เสียดายที่เวลาวันนั้นมีไม่พอ
วิธีการไปที่ดีที่สุดก็คงเป็นรถไฟJR Kyushu ครับ โดยให้นั่งด่วน Huis Ten Bousch/Midori (คันสีเงิน เขียว แดง) ลงที่สถานี Takeo Onsen จาก Hakata ใช้เวลา 1ชม. จากนั้นนั่งรถเมล์ที่จุดหมายไปUreshino Onsen ลงป้ายMifuneyama Rakuenครับ
ที่ต่อมาในวันนั้นผมนั่งรถไฟข้ามจังหวัดต่อ ไปเมือง Kumamoto ครับ
ที่ที่ผมไปคือปราสาท Kumamoto ครับ ตอนนั้นผมไปก่อนที่จะมีแผ่นดินไหว โชคดีมากๆเลย
เป็นปราสาทที่สวยมากครับ สมแล้วที่เป็นปราสาท 1ใน3 ของญี่ปุ่น คือที่Himeji Matsumoto และที่นี่ครับ บริเวณที่ผมชอบมากในส่วนของมุมถ่ายที่นี่คือบริเวณเนินทางขึ้นปราสาทที่จะมีต้นดอกซากูระอยู่ทั้ง 2ฟากถนนเป็นอุโมงค์นี้ละครับ
จะว่าไป ที่นี่จัดมุมถ่ายดอกไม้ยากเหมือนกันครับ ที่นี่ชัน และมุมถ่ายมีน้อย ถ่ายให้ติดปราสาทยากครับ
สำหรับวิธีการไปนั้นง่ายมาก ถ้ามาจากFukuoka นั่งShinkansen ลงKumamoto แล้วต่อรถรางในเมืองลงป้าย “Kumamoto Castle – City hall” ครับ โดยใช้เวลาประมาณ 50 นาทีเท่านั้น
ตอนกลับBeppu ผมได้ใช้รถด่วนขบวนTrans Kyushu รอบ18.45 ถึงBeppu ประมาณ3ทุ่มครึ่ง
หมายเหตุ: ช่วงนี้ยังคงเป็นช่วงบูรณะปราสาทจากแผ่นดินไหวเมื้อปีที่แล้ว อาจจะไม่ค่อยสะดวกครับ
วันที่2 (4 เมย 2559)
Kokura Castle -> Shiranoe, Tenjin -> Fukuoka Castle
ในวันที่2 ช่วงเช่าผมได้ใช้รถSonic ไปเมืองKitakyushu ลงสถานีKokura หรือสถานีKitakyushu (เค้าใช้ชื่อเมืองเดิมแหะ) แล้วจากนั้นเดินไปปราสาท Kokuraโดยใช้เวลาประมาณ 15นาทีจากสถานีครับ
วันนั้นเป็นวันก่อนที่จะจัดเทศชมดอกซากูระหรือHanami Matsuriครับ วันนั้นฝนตกปรอยๆ อากาศไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ แต่ยังไงก็ตาม ผมก็ได้รูปถ่ายสวยๆมาจนได้
ส่วนตัวชอบรูปนี้มากครับ ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางป่าที่มีแต่สีชมพูเลยมีเดียว
เพิ่มเติม: ใครอยากพักก่อนแถวปราสาท แนะนำให้ไปห้างRiver Walk ที่อยู่ข้างๆก่อนก็ได้ครับ ห้างนี้เป็นห้างน้องของCanal City ที่Fukuoka
ต่อมาในวันนั้น ทีแรกผมคิดว่าที่Kitakyushuนั้นไม่มีที่ไหนดีๆให้ถ่ายแล้ว ต่อมาก็มาสะดุดตากับโฆษณาบริเวณชานชาลาว่ายังมีสถานที่ที่ยังมีซากูระสวยๆอีกนั้นก็คือ สวนพฤกษาศาสตร์ Shiranoe ครับ
ตอนนั้นผมเห็นว่ามันสวยมากและนั่งรถไฟไปที่นั้นทันที โดยในตอนนั้นผมได้นั่งรถไฟ JR สายท้องถิ่นไปลงที่สถานีMojiko 3สถานีจากสถานีKokuraครับ
พอผมมาถึงที่สถานีMojikoแล้ว ผมก็นั่งรถเมล์ไป สวนShiranoe ที่มีรอบน้อยมากที่มีทุกๆ 2ชั่วโมงต่อรอบเท่านั้น ถ้าหากไม่ทันหรือกังวลว่าจะเสียเวลา แนะนำให้ใช้แท็กซี่ทั้งไปทั้งกลับครับ
พอผมมาถึงที่นี่แล้วรู้สึกประทับใจมากครับ สวนนี้เป็นธรรมชาติมาก และมีซากูระสวยหลายมุมครับ
ต่อมาผมเพิ่งรู้ว่าดอกซากูระเนี่ยมีหลายพันธ์ ทั้งดอกใหญ่ ดอกเล็ก ดอกสีอ่อน สีเข้ม และบางครั้งยังดูไม่เหมือนดอกซากูระเลยละครับ
และรูปที่ผมชอบมากที่สุดคือรูปที่ถ่ายพร้อมทะเลและเกาะฮอนชูเป็นฉากหลังนี้ครับ
สุดท้ายก็ขอพักสักหน่อย ขอกินไอติมรสซากูระที่มีเฉพาะหน้านี้แปบ
ต่อมาช่วงบ่ายวันนั้นผมก็ได้ไปยังเมืองFukuoka เมืองหลักประจำภูมิภาคคิวชูครับ เมืองนี้มีที่ที่มีซากูระสวยหลายที่อยู่พอสมควร ที่ที่ผมได้ไปคือสวนกลางเมือง Tenjin Koen และปราสาทFukuoka ครับ
ที่สวนTenjin ช่วงนี้นับว่าสวยมากเลยครับ ตอนนั้นที่Kitakyushuมีฝนเล็กน้อย แต่ที่Fukuoka ไม่มีสักหยดเลย เลยได้ภาพสวยๆมาหลายภาพเลยละครับ
มุมที่ผมชอบมากคือบริเวณริมแม่น้ำและสะพานครับ ที่สะพานเองก็มีดอกทิวลิปที่บานในช่วงนั้นด้วย
ต่อมาในช่วงประมาณบ่าย 4โมงผมก็ไปที่ปราสาทFukuoka ที่อยู่ใจกลางเมืองต่อครับ ที่นี่กลายเป็นซากปราสาทไปนานแล้ว แต่ที่นี่มีมุมถ่ายดอกซากูระเยอะมาก และผมเริ่มเห็นคนมาปิกนิกที่ปราสาทแล้ว
ตอนที่มาถึงก็เห็นกลีปซากูระเป็นรูปหัวใจพอดีเลย
และรูปอื่นๆครับ
ที่นี่กลางคืนก็สวยไม่แพ้ตอนกลางวันครับ เค้าจะมีเป็นไฟประมาณ6โมง สำหรับความเห็นส่วนตัวแล้วแนะนำให้ถ่ายรูปตอนประมาณ 6โมงเศษ ถึง1ทุ่ม เป็นเวลาที่เหมาะกับการถ่ายตอนกลางคืนครับ และจะได้ภาพประมาณนี้
หมายเหตุ: ในเวลากลางคืนต้องเสียตังเข้าครับ ผมแนะนำให้ซื้อแบบTrio เพื่อให้เข้าได้ทุกสวน
ส่วนเรื่องวิธีการไปก็ไม่ยากครับ เพียงแค่นั่งรถเมล์ประจำสายเท่านั้นไปมุ่งหน้าไปยังปราสาทครับ โดยส่วนตัวแนะนำให้นั่งจากTenjinครับ เพราะใกล้กว่า และหารถง่ายกว่า
และสุดท้ายก่อนกลับที่พัก (หอพักของผมในตอนนั้น) ผมก็ได้ไปถ่ายรูปที่สุดท้ายนั้นคือสถานีHakata ที่จะมีLight Up ต่อจากฤดูหนาว โดยเปลี่ยนสีไปจากสีน้ำเงิน เป็นสีชมพูครับ โรแมนติกมากเลยจริงๆ
EP Special 2.1: รวมถ่ายภาพดอกซากูระในเขต คิวชูเหนือ ปี 2016 (Oita, Fukuoka, Saga, Kumamoto)
ในตอนนั้นผมใช้เวลา 3วันวนรอบภาคเหนือของเกาะคิวชูโดยผมพักอยู่ที่เมืองBeppu เมืองที่ผมเคยศึกษาปริญญาตรีครับ
ในเวลานั้นผมยังเป็นนักเรียนอยู่ เลยใช้ตั๋วนักเรียนที่ทางJR จำหน่ายในราคา 7,400 เยน หรือ ประมาณ 2,000 บาท สามารถนั่งรถไฟของJR Kyushuได้ทุกขบวนใน 5จังหวัดทางภาคเหนือของคิวชู (Fukuoka, Saga, Nagasaki, Oita, Kumamoto) ครับ
อันที่จริงแล้วสามารถใช้ตัว Kyushu Pass แทนก็ได้ แต่ตอนนั้นวีซ่าของผมเป็น วิซ่านักเรียน เลยซื้อไม่ได้ครับ
สำหรับที่ที่ผมไปถ่ายรูปดอกซากูระรอบคิวชูมีตามข้างล่างนี้เลยครับ
1. Mifuneyama rakuen เมือง Takeo จังหวัด Saga
2. Yutoku Inari Shrine เมือง Kashima จังหวัด Saga
3. Kokura Castle เมือง Kitakyushu จังหวัด Fukuoka
4. Shiranoe Garden เมือง Kitakyushu จังหวัด Fukuoka
5. Fukuoka Castle ในตัวเมือง Fukuoka
6. Tenjin Central Park หรือ Tenjin Park ในตัวเมือง Fukuoka
7. Kumamoto Castle เมือง Kumamoto
8. เมือง Yanagawa จังหวัด Fukuoka
9. Beppu Park เมือง Beppu จังหวัด Oita
10. Beppu Ropeway เมือง Beppu จังหวัด Oita
11. Yufuin จังหวัด Oita
หมายเหตุ: ภาพในกระทู้นี้ทั้งหมดถูกถ่ายในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต่อเมษายน หากต้องการทราบวันที่แน่นอนของปีนี้ ดูที่URL นี้เลยครับ
http://sakura.weathermap.jp/
วันที่1 (3 เมย 2559)
Takeo Onsen -> Kumamoto
ในวันนั้นสภาพอากาศมีเมฆมาก แต่ดีที่ไม่มีฝนครับ ผมออกจากสถานีBeppu ประมาณ 8โมง
ที่แรกที่ผมไปในปีที่แล้วคือสวนMifuneyama จังหวัดSagaครับ เป็นสวนแบบดั้งเดิมของจังหวัดนี้ อยู่ใกล้ๆกับTakeo Onsenครับ
ที่นี่เป็นสวนที่1 ประจำจังหวัด Saga และมีต้นไม้ ดอกไม้สวยๆทั้งปี ที่นี่ซากูระเยอะอยู่ครับ แต่ไม่ค่อยดังเท่าไหร่ ในทางกลับกัน ที่นี่ดังใบเมเปิลมากกว่า พอถึงเดือนพฤศจิกา คนก็แห่กันมาเยอะเลย
กลางคืนมีเปิดไฟด้วย เสียดายที่เวลาวันนั้นมีไม่พอ
ที่ต่อมาในวันนั้นผมนั่งรถไฟข้ามจังหวัดต่อ ไปเมือง Kumamoto ครับ
ที่ที่ผมไปคือปราสาท Kumamoto ครับ ตอนนั้นผมไปก่อนที่จะมีแผ่นดินไหว โชคดีมากๆเลย
จะว่าไป ที่นี่จัดมุมถ่ายดอกไม้ยากเหมือนกันครับ ที่นี่ชัน และมุมถ่ายมีน้อย ถ่ายให้ติดปราสาทยากครับ
สำหรับวิธีการไปนั้นง่ายมาก ถ้ามาจากFukuoka นั่งShinkansen ลงKumamoto แล้วต่อรถรางในเมืองลงป้าย “Kumamoto Castle – City hall” ครับ โดยใช้เวลาประมาณ 50 นาทีเท่านั้น
ตอนกลับBeppu ผมได้ใช้รถด่วนขบวนTrans Kyushu รอบ18.45 ถึงBeppu ประมาณ3ทุ่มครึ่ง
หมายเหตุ: ช่วงนี้ยังคงเป็นช่วงบูรณะปราสาทจากแผ่นดินไหวเมื้อปีที่แล้ว อาจจะไม่ค่อยสะดวกครับ
วันที่2 (4 เมย 2559)
Kokura Castle -> Shiranoe, Tenjin -> Fukuoka Castle
วันนั้นเป็นวันก่อนที่จะจัดเทศชมดอกซากูระหรือHanami Matsuriครับ วันนั้นฝนตกปรอยๆ อากาศไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ แต่ยังไงก็ตาม ผมก็ได้รูปถ่ายสวยๆมาจนได้
ส่วนตัวชอบรูปนี้มากครับ ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางป่าที่มีแต่สีชมพูเลยมีเดียว
เพิ่มเติม: ใครอยากพักก่อนแถวปราสาท แนะนำให้ไปห้างRiver Walk ที่อยู่ข้างๆก่อนก็ได้ครับ ห้างนี้เป็นห้างน้องของCanal City ที่Fukuoka
ต่อมาในวันนั้น ทีแรกผมคิดว่าที่Kitakyushuนั้นไม่มีที่ไหนดีๆให้ถ่ายแล้ว ต่อมาก็มาสะดุดตากับโฆษณาบริเวณชานชาลาว่ายังมีสถานที่ที่ยังมีซากูระสวยๆอีกนั้นก็คือ สวนพฤกษาศาสตร์ Shiranoe ครับ
ตอนนั้นผมเห็นว่ามันสวยมากและนั่งรถไฟไปที่นั้นทันที โดยในตอนนั้นผมได้นั่งรถไฟ JR สายท้องถิ่นไปลงที่สถานีMojiko 3สถานีจากสถานีKokuraครับ
พอผมมาถึงที่สถานีMojikoแล้ว ผมก็นั่งรถเมล์ไป สวนShiranoe ที่มีรอบน้อยมากที่มีทุกๆ 2ชั่วโมงต่อรอบเท่านั้น ถ้าหากไม่ทันหรือกังวลว่าจะเสียเวลา แนะนำให้ใช้แท็กซี่ทั้งไปทั้งกลับครับ
พอผมมาถึงที่นี่แล้วรู้สึกประทับใจมากครับ สวนนี้เป็นธรรมชาติมาก และมีซากูระสวยหลายมุมครับ
ต่อมาผมเพิ่งรู้ว่าดอกซากูระเนี่ยมีหลายพันธ์ ทั้งดอกใหญ่ ดอกเล็ก ดอกสีอ่อน สีเข้ม และบางครั้งยังดูไม่เหมือนดอกซากูระเลยละครับ
และรูปที่ผมชอบมากที่สุดคือรูปที่ถ่ายพร้อมทะเลและเกาะฮอนชูเป็นฉากหลังนี้ครับ
สุดท้ายก็ขอพักสักหน่อย ขอกินไอติมรสซากูระที่มีเฉพาะหน้านี้แปบ
ต่อมาช่วงบ่ายวันนั้นผมก็ได้ไปยังเมืองFukuoka เมืองหลักประจำภูมิภาคคิวชูครับ เมืองนี้มีที่ที่มีซากูระสวยหลายที่อยู่พอสมควร ที่ที่ผมได้ไปคือสวนกลางเมือง Tenjin Koen และปราสาทFukuoka ครับ
ที่สวนTenjin ช่วงนี้นับว่าสวยมากเลยครับ ตอนนั้นที่Kitakyushuมีฝนเล็กน้อย แต่ที่Fukuoka ไม่มีสักหยดเลย เลยได้ภาพสวยๆมาหลายภาพเลยละครับ
มุมที่ผมชอบมากคือบริเวณริมแม่น้ำและสะพานครับ ที่สะพานเองก็มีดอกทิวลิปที่บานในช่วงนั้นด้วย
ต่อมาในช่วงประมาณบ่าย 4โมงผมก็ไปที่ปราสาทFukuoka ที่อยู่ใจกลางเมืองต่อครับ ที่นี่กลายเป็นซากปราสาทไปนานแล้ว แต่ที่นี่มีมุมถ่ายดอกซากูระเยอะมาก และผมเริ่มเห็นคนมาปิกนิกที่ปราสาทแล้ว
ตอนที่มาถึงก็เห็นกลีปซากูระเป็นรูปหัวใจพอดีเลย
และรูปอื่นๆครับ
ที่นี่กลางคืนก็สวยไม่แพ้ตอนกลางวันครับ เค้าจะมีเป็นไฟประมาณ6โมง สำหรับความเห็นส่วนตัวแล้วแนะนำให้ถ่ายรูปตอนประมาณ 6โมงเศษ ถึง1ทุ่ม เป็นเวลาที่เหมาะกับการถ่ายตอนกลางคืนครับ และจะได้ภาพประมาณนี้
หมายเหตุ: ในเวลากลางคืนต้องเสียตังเข้าครับ ผมแนะนำให้ซื้อแบบTrio เพื่อให้เข้าได้ทุกสวน
ส่วนเรื่องวิธีการไปก็ไม่ยากครับ เพียงแค่นั่งรถเมล์ประจำสายเท่านั้นไปมุ่งหน้าไปยังปราสาทครับ โดยส่วนตัวแนะนำให้นั่งจากTenjinครับ เพราะใกล้กว่า และหารถง่ายกว่า
และสุดท้ายก่อนกลับที่พัก (หอพักของผมในตอนนั้น) ผมก็ได้ไปถ่ายรูปที่สุดท้ายนั้นคือสถานีHakata ที่จะมีLight Up ต่อจากฤดูหนาว โดยเปลี่ยนสีไปจากสีน้ำเงิน เป็นสีชมพูครับ โรแมนติกมากเลยจริงๆ