[CR] [Go Together With Hana] iรีวิวการขอวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) แบบมีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุไปด้วย

สวัสดีค่า .. ห่างหายกับการรีวิวไปนานเกือบ 3 ปี กับภารกิจคุณแม๊ คุณแม่ วันนี้ขอกลับมาทำรีวิวอีกครั้ง กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกในรอบสามปีเห็นจะได้ เลยขอถือโอกาสเปลี่ยนชื่อ Log-in ซะเลย

ชื่อ Log-in เดิม : พ่อเจ้าประคุณรุนช่อง
ชื่อ Log-in ใหม่ : Go Together With Hana

เผื่อใครจะคุ้นๆกับรีวิวเมื่อนานชาติมาแล้ว หลายกระทู้ก็ยังคงอยู่ในคลังกระทู้อยู่ มาย้อนอ่านทีไร ก็ทำให้นึกถึงเรื่องราวย้อนไปในวันนั้นได้ดี ทำให้รู้สึกว่าการไปเที่ยว หรือทำอะไรแล้วได้เขียนรีวิวไว้ นอกจากจะเกิดประโยชน์กับคนอื่นๆที่ต้องการข้อมูลแล้ว ยังทำให้ตัวเองรู้สึกดีที่ได้อ่านซ้ำอีกครั้งด้วยค่ะ ยิ้ม

มื่อใหม่เพิ่งกลับมารีวิว มีอะไรขาดตกบกพร่องไป ขออภัยนะคะ

=============================

เอาล่ะๆ มาเริ่มเข้าเรื่องกันดีกว่า ปกติแล้วจุดเริ่มต้นของทริปเรา .. จะเริ่มจากการเล็งและสอยตั๋วโปรก่อนเลย คือจ่ายตังค์แล้วเสร็จสรรพ .. ซึ่งมิมักจะซื้อล่วงหน้าซักประมาณครึ่งปีเห็นจะได้ เช่นจะไปเที่ยวช่วงสงกรานต์ .. โปรมันมักจะออกมาซักแถวๆเดือน ตค. มิแนะนำให้กดติดตามเพจที่แนะนำโปรตั๋วเครื่องบินเอาไว้ .. รอดูไปเรื่อยๆจะเริ่มจับทางได้ว่าราคามันจะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ ปล่อยโปรมาแบบไหน ขึ้นเครื่องจากกรุงเทพเลยมั้ย หรือต้องไปขึ้น Hong Kong / Japan / Malaysia เป็นต้น

เอาจริงๆแล้วเท่าที่เฝ้ามาหลายปี ราคาก็จะวนๆอยู่แถวๆเดิม .. ดังนั้นถ้ารับได้ที่ราคาเท่าไหร่แล้ว ก็สอยเลย ช้าอดก็หมดโปร ทีนี้ราคาจะดีดขึ้นไปแบบโอยยยยย ใครจะไปซื้อไหว ยกตัวอย่างเช่น ปกติถ้าบินจากกรุงเทพ ไปแถวยุโรป พวกปารีส ซูริค โรม มิลาน อะไรเทือกๆนี้ ไปกลับก็ตกประมาณ 2 หมื่นต้นๆ จะ Multi-City หรือไปกลับจากเมืองเดิมก็ตาม แต่ถ้าหลุดช่วงโปรปุ้ป โน่นเลยราคาดีดไปรอที่ 4 หมื่นงี้ (มนุษย์เงินเดือนก็คงจะต้องพ่ายแพ้ต่อราคาไปอย่างแน่นอน)

เกริ่นนอกเรื่องมานาน .. จะบอกแค่ว่าบ้านเราซื้อตั๋วก่อนเลย โดยที่ยังไม่ได้ยื่นขอวีซ่า แต่ด้วยจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ไม่เคยไม่ผ่าน และบางสายการบินก็มีเงื่อนไขในโปรว่าถ้าวีซ่าไม่ผ่าน ก็เก็บไว้ใช้รอบหน้าได้ (คุ้นๆว่าจะไม่ได้คืนเป็นเงินนะ แต่ก็คืนกลับมาเป็นเครดิตเอาไว้ใช้ทริปหน้าได้) เช่น Qatar Airway เป็นต้น

ทีนี้พอได้ตั๋วมานอนกอดแล้ว .. Next Step มิคือปักหมุดคร่าวๆ ว่าจะไปไหนบ้าง แล้วจะอยู่ประเทศไหนนานสุด เพราะปกติแล้วเงื่อนไขว่าจะไปยื่นขอวีซ่าเชงเก้นที่ประเทศอะไรนั้น มันมีแค่ 2 เงื่อนไขใหญ่ๆคือ

1. กรณีระยะเวลาที่อยู่แต่ละประเทศเท่าๆกัน เช่น ไป 15 วัน อยู่ฝรั่งเศส 5 วัน สวิสเซอร์แลนด์ 5 วัน อิตาลี 5 วัน–> ให้ขอประเทศที่เข้าไปประเทศแรก เช่น บินจากกรุงเทพ – ปารีส ก็ให้ขอเชงเก้นที่ฝรั่งเศส
2. กรณีที่อยู่ในประเทศใดประเทศนึงในทริปยาวนานกว่าประเทศอื่น เช่น ไป 15 วัน อยู่ฝรั่งเศส 4 วัน สวิสเซอร์แลนด์ 7 วัน อิตาลี 4 วัน แบบนี้ก็ให้ยื่นขอเชงเก้นที่สวิสแทน


ดังนั้นทริปเมษาที่จะถึงนี้ มิไป 3 ประเทศ คือ ฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์ อิตาลี จริงๆเป็นประเทศที่เคยไปมาแล้ว 2 รอบละ แต่รอบนี้พาลูกสาว คุณยาย คุณย่าไปด้วย เลยเลือกไปประเทศที่คุ้นเคยหน่อย จะได้ไม่เหนื่อยแพลนมากนัก และดูจาก Plan แล้วเราบินไปลงฝรั่งเศสนะ แต่จะอยู่ที่สวิสนานที่สุด ก็เลยยื่นขอที่สวิสค่ะ

การยื่นขอวีซ่าเชงเก้นที่สวิสฯ แอบไปเปลี่ยนไปจากครั้งแรกที่มิเคยขอเมื่อปี 2011 หลายอย่างเลย แต่ก่อนจองคิวยื่นได้เองโดยตรงกับสถานฑูตสวิสฯ แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2559 ต้องลงทะเบียนและจองคิวผ่าน TLS Contact ตรงตึกสาธรซิตี้แทน ซึ่งแปลว่าต้องเสียค่าธรรมเนียมต่างหากอีกคนละ 863 บาท เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุอะไรเสียหมด

{{Updated Feb2017}} มีหลายท่านแจ้งว่ายังขอนัดคิวยื่น Application ตรงกับสถานฑูตฯได้อยู่นะคะ ไม่ต้องผ่าน TLS Contact ที่แจ้งข้อมูลไปก่อนหน้านี้ว่าไม่ได้ เพราะเจอในเวบของ TLS Contact แจ้งว่าเป็นแบบนั้น และเราลองโทรสอบถามกับเจ้าหน้าที่สถานฑูตฯเองแล้ว เจ้าหน้าที่ก็แจ้งมาแบบนั้นว่าให้ผ่าน TLS หมด ก็เลยไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่เหมือนกัน ยังไงถ้าใครจะยื่นลองสอบถามกันให้แน่ใจอีกทีก่อนก็ได้ค่ะ

Link: https://www.tlscontact.com/th2ch/page.php?pid=procedure

ส่วนค่าธรรมเนียมสำหรับวีซ่าเชงเก้น จะแบ่งตามประเภทของวีซ่าเชงเก้นที่ขอ เช่น มิขอแบบ Short Stay – Tourist อยู่ไม่เกิน 90 วัน

ผู้ที่อายุ > 12 ปี –> ค่าธรรมเนียมคนละ 2,300 บาท (60 EUR)
ผู้ที่อายุ 6 – 12 ปี –> ค่าธรรมเนียมคนละ 1,150 บาท (35 EUR)
และเด็กที่อายุ < 6 ปี –> ไม่เสียค่าธรรมเนียม (ซึ่งฮานะก็เลยไม่เสียตังค์ใดๆ แต่ก็ยังต้องยื่น Application นะคะ)

และถ้าต้องการให้ส่งพาสปอร์ตถึงบ้านให้ด้วย ก็เสียอีกคนละ 180 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมดูจากที่นี่ https://ch.tlscontact.com/th/BKK/page.php?pid=applications_fees ได้เลยค่ะ

=============================

มาถึง 8 ขั้นตอนการเตรียมเอกสารยื่นขอวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa)

1. ลงทะเบียนในเวบ TLS Contact ให้เรียบร้อย
เลือก Email มาซักอันนึงเอามาสมัคร สมมติว่าสมาชิกในทริป มี 5 คน แนะนำให้ยื่นพร้อมกันทีเดียว จองคิวแค่ทีเดียวพอ ดังนั้นก็ Register คนเดียวพอพอ Login แล้วจะเห็นหน้าจอประมาณนี้ มีคร่าวๆ 9 Steps ตั้งแต่เริ่มกรอก Application จนได้พาสปอร์ตคืน


2. กรอก Schengen Visa Application ให้ครบถ้วน
เมื่อกรอกเสร็จเรียบร้อยทุกคนแล้ว จะต้อง Validate ให้เรียบร้อย ถึงจะจองคิวยื่นวีซ่าผ่านเวบนี้ได้

*** ถ้าจองคิวเรียบร้อยแล้ว เกิดเจอว่ากรอก Application ผิด หรือไม่ครบหรือจะแก้ไขก็ตามแต่ ระบบจะไม่ให้แก้แล้ว ให้ไปดาวน์โหลด Application มาเป็น PDF แล้วกรอกผ่าน PDF Form เอาค่ะ (Download ที่นี่ https://ch.tlscontact.com/th/bkk/page.php?pid=forms)

หน้าตาก็จะประมาณนี้ เสร็จแล้วก็ปริ้นจากไฟล์ที่กรอกในคอมไปยื่นได้ค่ะ)


3. เตรียมเอกสารที่ทางสถานฑูตต้องการ
ซึ่งเอกสารบางอย่างอาจจะเหมือนกัน บางอย่างอาจต่างกันได้ ต้องดูให้ดี ดังนั้นหลังจากกรอก Application เสร็จ จองคิวเสร็จแล้ว ระบบจะมี Document Check List ให้ ว่าจะต้องเตรียมอะไรบ้าง

ขอเล่าในส่วนที่มิมีประสบการณ์แล้วกันเนอะ ทริปของมิรอบนี้ จัดเป็นกลุ่มคน 3 ประเภทง่ายๆ ตามนี้ค่ะ

กลุ่มแรก คือ มนุษย์เงินเดือน
กลุ่มสอง คือ มนุษย์ผู้สูงอายุ ที่เกษียณแล้ว และลูกพาไปเที่ยว ออกค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง
กลุ่มสาม คือ มนุษย์ลูก ที่อายุยังไม่บรรลุนิติภาวะ ที่พ่อแม่เดินทางไปด้วย


ทั้ง 3 กลุ่มนี้จะมีเอกสารพื้นฐานที่ต้องเตรียมเหมือนๆกัน (General Applications Documents) ได้แก่

– Visa application form, original
>> เซ็นลายเซ็นให้ตรงกันกับในพาสปอร์ต

– Two passport-sized pictures 3.5 cm x 4 cm
>> เช็คเงื่อนไขของแต่ละสถานฑูตให้ดีๆ บางที่เน้นว่าต้องเปิดหูให้เห็นเต็มใบหู บางที่ไม่ได้เน้น แต่เท่าที่สังเกตของเชงเก้นจะเน้นว่ารูปจะต้องเห็นศีรษะและไหล่ โดยกินพื้นที่ประมาณ 70-80% ของรูป ถ้าไปถ่ายที่ร้านถ่ายรูปข้างนอก ให้บอกช่างถ่ายรูปให้ดีๆ ว่าถ่ายไปยื่นของสถานฑูตอะไร หรือถ้าเอาชัวร์ให้เอาตัวอย่างให้เค้าดูดีที่สุด (เพราะถ่ายข้างนอกประหยัดกว่าไปถ่ายที่ TLS หรือตรงชั้นใต้ดิน ตึกสาธรซิตี้ มีร้านบริการอยู่ ราคา 250 บาท @ 6 รูป แอบแพงเนอะ แต่ถึงจุดนั้นถ้ารูปที่เตรียมไปใช้ไม่ได้ ก็ต้องยอมจ่าย 555)

– Passport, original

– Travel and Health Insurance
>> ทำประกันการเดินทางสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเด็ก หรือผู้สูงอายุ (อันนี้ต้องอ่านดีๆ เหมือนบางบริษัทประกันระบุอายุผู้สูงอายุเอาไว้ ต้องเช็คด้วยนะคะว่าอายุอยู่ในเงื่อนไขเค้าหรือเปล่า) เค้าจะมีลิสไว้ให้ว่าเค้ายอมรับบริษัทประกันไหนบ้าง และต้องครอบคลุมทุกประเทศในเชงเก้น รวมถึงวงเงินประกันต้องไม่น้อยกว่า 30,000 EUR หรือ 1,500,000 บาท
(ดูรายละเอียดทีนี่ --> https://static.tlscontact.com/media/th/bkk/ch/travel_health_insurance_th_2ch.en.pdf?_ga=1.211422165.1127502591.1483517684 เห็นเค้าใส่ Contact Person ไว้ คือไม่ต้องติดต่อกับคนเหล่านั้นก็ได้นะคะ ไปซื้อเองผ่านเวบไรงี้ก็ได้ ง่ายดี สะดวกมาก) ส่วนตัวมิใช้ของทิพยประกันภัยเหมือนเดิมค่ะ ซื้อง่ายดี

– CONFIRMED reservation of the round-trip flight ticket
>> ตั๋วเครื่องบินที่ยืนยันแล้ว จองแล้ว (แต่อาจจะยังไม่จ่ายเงินก็ได้ อาจจะให้ Agency ออกให้ก็ได้ค่ะ) แต่สำหรับมิ คือจองและจ่ายเงินไปนานละ ก็ปริ้นตั๋วเครื่องบินแนบไปเลย และทำ Plan แบบคร่าวๆแนบไปด้วยว่าวันไหนอยู่ที่ประเทศอะไร เมืองอะไร พักที่ไหน ให้เค้าเห็นแพลนทั้งทริปเราแบบสั้นๆ

– CONFIRMED hotel reservation/s for the entire duration of stay in the Schengen countries, and/or signed invitation letter/s from a private person living in a Schengen Member State (All applicants name must be mentioned on the hotel booking)
>> เอกสารการจองที่พัก หรือใครไปพักบ้านเพื่อน หรือ Host อาจจะต้องมีจดหมายเชิญจาก Host นะคะ ซึ่งตรงนี้ล่ะที่มิพลาด ไม่ได้ทันมาอ่านให้ละเอียด แค่คุ้นว่าไม่เคยระบุชื่อทุกคนลงไปตอนจองที่พัก ก็เลยวิ่งแก้กันให้วุ่นไปหมด อันนี้แนะนำให้จองแบบที่มัน Free Cancellation ก่อนก็ได้ค่ะ


และสำหรับมนุษย์เงินเดือน มนุษย์ที่ยังทำงานอยู่ อาจจะเป็นเจ้าของกิจการ Freelance เป็นต้น เอกสารที่ต้องเตรียมเพิ่มเติมคือ เอกสารประเภทที่รับรองว่ามีการมีงานทำ เอกสารที่แสดงสถานะทางการเงินทั้งหลาย (Employment and financial proof) ได้แก่
– Work certificate
>> หนังสือรับรองการทำงาน มิขอ HR ไป 2 แบบคือ หนังสือรับรองเงินเดือน (แสดงรายได้ต่อปี และวันที่เริ่มทำงานที่นั่น ตำแหน่ง อะไรทำนองนี้) และหนังสือรับรองการทำงาน (แสดงเงินเดือนต่อเดือน วันที่ที่เราลาพักร้อน และวันที่ที่เราจะกลับไปทำงาน) เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเราจะไม่ไปเป็นโรบินฮู้ดที่บ้านเค้า 555

– Business license, organization code or institution legal person certificate (or other similar function certificate)
>> อันนี้สำหรับคนที่เป็นเจ้าของกิจการ พอดีมิไม่มีประสบการณ์กับเอกสารอันนี้ ขอผ่านนะคะ หัวเราะ

– Proof of sufficient funds
>> Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน (มิขอจากธนาคาร หัวกระดาษเป็นหัวกระดาษของธนาคาร ไม่ได้ปริ้นเอาเองจากอินเตอร์เนตนะคะ คิดว่าไม่น่าจะใช้ได้ เพราะเค้าเขียนชัดเจนว่า "original with bank stamp"

– Sponsoring Letter
>> ใช้ยื่นใน Application ของคนที่จะมีคนออกค่าใช้จ่ายให้ เช่นของมิ ออกค่าใช้จ่ายให้คุณยาย ดังนั้น ใน Application คุณยาย ก็ต้องแนบ Sponsoring Letter ที่เขียนว่ามิจะเป็นผู้ Support ค่าใช้จ่ายให้ตลอดทริป เป็นต้น รวมถึงต้องแนบ Bank Statement ของมิไปใน Application ของคุณยายด้วย


และสำหรับมนุษย์ลูก เบบี๋ ถ้าพ่อแม่เดินทางไปด้วยทั้งคู่ เอกสารที่ต้องเตรียมเพิ่มเติมมีหลักๆแค่ สูติบัตร แต่ถ้าไม่ได้เดินทางพร้อมกันทั้งพ่อและแม่ หรือพ่อแม่หย่ากัน ต้องเตรียมเอกสารอื่นๆเพิ่มเติม (ดูรายละเอียดในลิ้งค์ที่ให้ไว้ข้างล่างได้นะคะ)
– Birth certificate, original
– Birth certificate, copy
– Birth certificate, translation (แปลสูติบัตรลูกด้วย)
– Marriage certificate, original
– Marriage certificate, copy
– Marriage certificate, translation (แปลทะเบียนสมรสด้วย)
– Enrollment Confirmation of the School
>> หนังสือรับรองการเป็นนักเรียน รร. นั้นๆ อย่างของฮานะเพิ่งกำลังจะเข้า อ.1 เดือนมีนานี้ ตอนยื่นก็เลยมีแค่หนังสือที่ทาง รร. ตอบรับให้เข้าเรียน ซึ่งมี จม. เป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้ว เลยยื่นได้เลยไม่ต้องแปลอีก

มีต่อน๊า เพิ่งถึงครึ่งทาง ยิ้ม
ชื่อสินค้า:   วีซ่าเชงเก้น สถานทูตสวิตเซอร์แลนด์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่