ทุกคนที่เกิดมาบนโลกนี้มีค่าเท่ากัน ผู้เขียนอยากพูดประเด็นนี้มานาน วันนี้ได้มีโอกาสเรียบเรียงสิ่งที่ได้เรียนรู้มา ข้อมูลจากหลายๆ ที่นะคะ อาจยาวหน่อยแต่รับรองว่ามีประโยชน์ค่ะ
*หากใครมีข้อเสริม หรืออยากโต้แย้งcommentได้เลยนะคะแล้วผู้เขียนจะเอามาปรับปรุงค่ะ ขอบคุณค่ะ
---------------------------------------
ไม่ว่าจะเกิดมาในฐานะแบบไหน ร่างกายสมบูรณ์หรือไม่ เชื้อชาติ ศาสนา ภูมิลำเนา ทุกคนมีค่าเท่ากันหมด โดยที่เรามักเข้าใจผิดว่าเราตีคุณค่าของตัวเองจากผู้อื่น
จะขอแตกประเด็นย่อยแบบนี้นะคะ
1.พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเรา เลี้ยงดูเรามา ไม่สามารถจะกำหนดค่าของเราได้
2.คนรัก ที่เรารักมาก ถ้าเวอร์หน่อยก็มากกว่าชีวิตตัวเอง เขาก็ไม่สามารถให้ค่าเราได้
3.บุคคลอื่น เช่น ญาติ พี่น้อง เจ้านาย เพื่อน เพื่อนร่วมงาน ครู ฯลฯ ก็ไม่ใช่บุคคลที่จะให้ค่าเราได้
4.ความรวย ความจน ความมีชื่อเสียง อาชีพการงาน ไม่ใช่สิ่งที่วัดค่าของเรา
คนที่สามารถให้ค่าตัวเราว่ามีค่าขนาดไหนบนโลกนี้ คือ...ตัวเราเอง
เรามักจะตีความผิดๆ อาจจะด้วยสภาพแวดล้อมหรือการสั่งสอน เราจะตีความแบบนี้
1.ขนาดพ่อแม่ที่เกิดเรามา เลี้ยงเรามา ยังไม่รักเราเลย เราช่างไม่มีค่าจริงๆ
2.ฉันรักเขามาก มากกว่าชีวิตของฉัน เขายังทิ้งฉันลง ฉันคงไม่มีค่าจริงๆ
3.ทำไมไม่มีใครรักฉันเลย ญาติพี่น้องก็ไม่สนใจ เจ้านายก็ด่า เพื่อนก็ไม่ให้เข้ากลุ่ม ครูก็ชอบด่าแต่ฉัน ฉันช่างไร้ค่าจริงๆ
4.เรามันจน เป็นแค่คนธรรมดา การงานก็ไม่เด่นดัง ช่างไร้ค่าจริงๆ (อันนี้ยอมรับว่าเป็นค่านิยมของคนส่วนมาก จนกลายเป็นบรรทัดฐานจอมปลอมของสังคมไปแล้ว คนรวยจะถูกยกย่อง ผู้มีหน้าที่การงานดีจะได้รับการปรนนิบัติที่ดีกว่า แต่นั่นไม่ได้บ่งบอกคุณค่าในตัวเรา)
จำไว้ว่าการกระทำ ปฏิกิริยา หรือการแสดงออกของคนอื่น ไม่ใช่สิ่งที่จะมาบ่งชี้คุณค่าในตัวเราแม้แต่น้อย เรารับเอาการกระทำ ปฏิกิริยา หรือการแสดงออกของคนอื่น แล้วมาตีความให้ค่ากับตัวเองทั้งนั้น
ดังนั้นเราควรตัดสิ่งที่อยู่ภายนอกตัวออกให้หมด แล้วให้ค่ากับตัวเองโดยไม่ผ่านการตัดสินจากใคร เราให้คุณค่าตัวเองไปเลย อาจให้คะแนนสูงเวอร์ๆ กับคุณค่าของตัวเองก็ไม่มีใครว่า จำไว้ว่าเราควรทำตัวให้สมกับคะแนนที่เราให้ค่าด้วย
ต่อไปนี้สำคัญ
1.คนที่เห็นคุณค่าในตัวเองมากๆ ไม่ใช่คนที่จะเห็นคนอื่นด้อยค่า(เขาจะเข้าใจว่าทุกคนมีค่าเท่ากันหมด ให้ค่าตัวเองเท่าไหร่ก็ควรให้ค่าคนอื่นเท่านั้น)
2.คนที่เห็นคุณค่าในตัวเองมากๆ ไม่ใช่คนหยิ่ง แต่เป็นคนที่รู้ว่าตัวเองทำผิดได้ ถือความผิดพลาดเป็นบทเรียน และปรับปรุงตัวเอง(ความผิดพลาดจะไม่กระทบต่อคุณค่าของเขา และไม่ขุดอดีตผิดพลาดมาต่อว่าตัวเอง) เขารู้ว่าเขาต้องเรียนรู้ ปรับปรุงตลอดเวลา(ไม่ใช่คนที่เก่งแล้วอยู่เหนือคนอื่น)
3.คนที่เห็นคุณค่าในตัวเองมากๆ เขาจะรักตัวเอง เคารพ ศรัทธาตัวเองและสิ่งเหล่านั้นจะแสดงต่อผู้อื่นด้วย
4.คนที่เห็นคุณค่าในตัวเองมากๆ จะไม่ยอมตกเป็นเหยื่อ(เช่น ไม่ยอมให้คนอื่นเอาเปรียบ,ไม่ยอมให้คนรักไปมีคนอื่น หรือไม่ยอมเป็นรองใคร,กล้าโต้แย้งในสิ่งที่ถูกต้อง,กล้าปฏิเสธในสิ่งที่ไม่อยากทำ)
*ข้อ4นี้ผู้เขียนเห็นว่าน่าสนใจ ขอแตกประเด็นเรื่องการไม่ยอมให้คนรักไปมีคนอื่น หรือไม่ยอมเป็นรองใครอีกหน่อยนะคะ
-ไม่ยอมให้คนรักไปมีคนอื่น หรือไม่ยอมยอมเป็นรองใคร เพราะถ้าเรายอมก็เท่ากับบอกคนรักเราทางอ้อมว่าเราไม่มีค่านะ เหยียบย่ำได้เลย และเขาจะทำจริงๆ และคนที่เสียใจก็คือเราเอง เราต้องยื่นคำขาดไปเลยว่าขอบเขตของฉันคือตรงนี้ การมีฉันคนเดียว การมีกิ๊กฉันรับไม่ได้ หรือจะให้ฉันเป็นกิ๊กฉันก็รับไม่ได้!
5.คนที่เห็นคุณค่าในตัวเองมากๆ เป็นคนถ่อมตัว คือการยอมรับว่าตัวเองต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต(คนถ่อมตัว หลายคนเข้าใจผิดว่าคือคนที่เดินตับลีบต่อหน้าผู้ใหญ่ ไม่ยอมรับคำชม พูดทับถมตัวเองเหมือนเป็นเรื่องตลก)
6.คนที่เห็นคุณค่าในตัวเองมากๆ สามารถรับคำวิจารณ์ที่มีประโยชน์ได้ คือเราต้องแยกแยะให้ออกว่าคำวิจารณ์นั้นมีจุดประสงค์อย่างไร เช่น อยากให้เราพัฒนา(ติเพื่อก่อ) หรือคำวิจารณ์นั้นมีวาระเห็นแก่ตัวของผู้วิจารณ์ที่อยากให้เราอับอาย อิจฉา อยู่ในอารมณ์โมโห หรืออยากต่อต้าน ขัดแย้งเรา(ประมาณว่าติ แล้วยังไม่ก่ออีก)
7.คนที่เห็นคุณค่าในตัวเองมากๆ จะไม่ตำหนิคนอื่น เขาจะรู้ว่าโอเคเหตุกาณ์เกิดขึ้นแล้ว แล้วจะแก้ไขยังไง เพราะการตำหนิไม่ใช่การแก้ปัญหา และไม่ได้ทำให้เหตุกาณ์ดีขึ้น
*จุดประสงค์บทความนี้คืออยากให้ทุกคนที่เกิดมาบนโลกนี้เห็นคุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง ไม่ใช่การเข้าใจผิดๆ ที่เคยรับรู้มาค่ะ อาจพูดไม่ครบทุกประเด็น และหากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
คุณค่าของตัวเราวัดจากอะไร...ที่นี่มีคำตอบ อยากให้ทุกคนได้อ่านค่ะ
*หากใครมีข้อเสริม หรืออยากโต้แย้งcommentได้เลยนะคะแล้วผู้เขียนจะเอามาปรับปรุงค่ะ ขอบคุณค่ะ
---------------------------------------
ไม่ว่าจะเกิดมาในฐานะแบบไหน ร่างกายสมบูรณ์หรือไม่ เชื้อชาติ ศาสนา ภูมิลำเนา ทุกคนมีค่าเท่ากันหมด โดยที่เรามักเข้าใจผิดว่าเราตีคุณค่าของตัวเองจากผู้อื่น
จะขอแตกประเด็นย่อยแบบนี้นะคะ
1.พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเรา เลี้ยงดูเรามา ไม่สามารถจะกำหนดค่าของเราได้
2.คนรัก ที่เรารักมาก ถ้าเวอร์หน่อยก็มากกว่าชีวิตตัวเอง เขาก็ไม่สามารถให้ค่าเราได้
3.บุคคลอื่น เช่น ญาติ พี่น้อง เจ้านาย เพื่อน เพื่อนร่วมงาน ครู ฯลฯ ก็ไม่ใช่บุคคลที่จะให้ค่าเราได้
4.ความรวย ความจน ความมีชื่อเสียง อาชีพการงาน ไม่ใช่สิ่งที่วัดค่าของเรา
คนที่สามารถให้ค่าตัวเราว่ามีค่าขนาดไหนบนโลกนี้ คือ...ตัวเราเอง
เรามักจะตีความผิดๆ อาจจะด้วยสภาพแวดล้อมหรือการสั่งสอน เราจะตีความแบบนี้
1.ขนาดพ่อแม่ที่เกิดเรามา เลี้ยงเรามา ยังไม่รักเราเลย เราช่างไม่มีค่าจริงๆ
2.ฉันรักเขามาก มากกว่าชีวิตของฉัน เขายังทิ้งฉันลง ฉันคงไม่มีค่าจริงๆ
3.ทำไมไม่มีใครรักฉันเลย ญาติพี่น้องก็ไม่สนใจ เจ้านายก็ด่า เพื่อนก็ไม่ให้เข้ากลุ่ม ครูก็ชอบด่าแต่ฉัน ฉันช่างไร้ค่าจริงๆ
4.เรามันจน เป็นแค่คนธรรมดา การงานก็ไม่เด่นดัง ช่างไร้ค่าจริงๆ (อันนี้ยอมรับว่าเป็นค่านิยมของคนส่วนมาก จนกลายเป็นบรรทัดฐานจอมปลอมของสังคมไปแล้ว คนรวยจะถูกยกย่อง ผู้มีหน้าที่การงานดีจะได้รับการปรนนิบัติที่ดีกว่า แต่นั่นไม่ได้บ่งบอกคุณค่าในตัวเรา)
จำไว้ว่าการกระทำ ปฏิกิริยา หรือการแสดงออกของคนอื่น ไม่ใช่สิ่งที่จะมาบ่งชี้คุณค่าในตัวเราแม้แต่น้อย เรารับเอาการกระทำ ปฏิกิริยา หรือการแสดงออกของคนอื่น แล้วมาตีความให้ค่ากับตัวเองทั้งนั้น
ดังนั้นเราควรตัดสิ่งที่อยู่ภายนอกตัวออกให้หมด แล้วให้ค่ากับตัวเองโดยไม่ผ่านการตัดสินจากใคร เราให้คุณค่าตัวเองไปเลย อาจให้คะแนนสูงเวอร์ๆ กับคุณค่าของตัวเองก็ไม่มีใครว่า จำไว้ว่าเราควรทำตัวให้สมกับคะแนนที่เราให้ค่าด้วย
ต่อไปนี้สำคัญ
1.คนที่เห็นคุณค่าในตัวเองมากๆ ไม่ใช่คนที่จะเห็นคนอื่นด้อยค่า(เขาจะเข้าใจว่าทุกคนมีค่าเท่ากันหมด ให้ค่าตัวเองเท่าไหร่ก็ควรให้ค่าคนอื่นเท่านั้น)
2.คนที่เห็นคุณค่าในตัวเองมากๆ ไม่ใช่คนหยิ่ง แต่เป็นคนที่รู้ว่าตัวเองทำผิดได้ ถือความผิดพลาดเป็นบทเรียน และปรับปรุงตัวเอง(ความผิดพลาดจะไม่กระทบต่อคุณค่าของเขา และไม่ขุดอดีตผิดพลาดมาต่อว่าตัวเอง) เขารู้ว่าเขาต้องเรียนรู้ ปรับปรุงตลอดเวลา(ไม่ใช่คนที่เก่งแล้วอยู่เหนือคนอื่น)
3.คนที่เห็นคุณค่าในตัวเองมากๆ เขาจะรักตัวเอง เคารพ ศรัทธาตัวเองและสิ่งเหล่านั้นจะแสดงต่อผู้อื่นด้วย
4.คนที่เห็นคุณค่าในตัวเองมากๆ จะไม่ยอมตกเป็นเหยื่อ(เช่น ไม่ยอมให้คนอื่นเอาเปรียบ,ไม่ยอมให้คนรักไปมีคนอื่น หรือไม่ยอมเป็นรองใคร,กล้าโต้แย้งในสิ่งที่ถูกต้อง,กล้าปฏิเสธในสิ่งที่ไม่อยากทำ)
*ข้อ4นี้ผู้เขียนเห็นว่าน่าสนใจ ขอแตกประเด็นเรื่องการไม่ยอมให้คนรักไปมีคนอื่น หรือไม่ยอมเป็นรองใครอีกหน่อยนะคะ
-ไม่ยอมให้คนรักไปมีคนอื่น หรือไม่ยอมยอมเป็นรองใคร เพราะถ้าเรายอมก็เท่ากับบอกคนรักเราทางอ้อมว่าเราไม่มีค่านะ เหยียบย่ำได้เลย และเขาจะทำจริงๆ และคนที่เสียใจก็คือเราเอง เราต้องยื่นคำขาดไปเลยว่าขอบเขตของฉันคือตรงนี้ การมีฉันคนเดียว การมีกิ๊กฉันรับไม่ได้ หรือจะให้ฉันเป็นกิ๊กฉันก็รับไม่ได้!
5.คนที่เห็นคุณค่าในตัวเองมากๆ เป็นคนถ่อมตัว คือการยอมรับว่าตัวเองต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต(คนถ่อมตัว หลายคนเข้าใจผิดว่าคือคนที่เดินตับลีบต่อหน้าผู้ใหญ่ ไม่ยอมรับคำชม พูดทับถมตัวเองเหมือนเป็นเรื่องตลก)
6.คนที่เห็นคุณค่าในตัวเองมากๆ สามารถรับคำวิจารณ์ที่มีประโยชน์ได้ คือเราต้องแยกแยะให้ออกว่าคำวิจารณ์นั้นมีจุดประสงค์อย่างไร เช่น อยากให้เราพัฒนา(ติเพื่อก่อ) หรือคำวิจารณ์นั้นมีวาระเห็นแก่ตัวของผู้วิจารณ์ที่อยากให้เราอับอาย อิจฉา อยู่ในอารมณ์โมโห หรืออยากต่อต้าน ขัดแย้งเรา(ประมาณว่าติ แล้วยังไม่ก่ออีก)
7.คนที่เห็นคุณค่าในตัวเองมากๆ จะไม่ตำหนิคนอื่น เขาจะรู้ว่าโอเคเหตุกาณ์เกิดขึ้นแล้ว แล้วจะแก้ไขยังไง เพราะการตำหนิไม่ใช่การแก้ปัญหา และไม่ได้ทำให้เหตุกาณ์ดีขึ้น
*จุดประสงค์บทความนี้คืออยากให้ทุกคนที่เกิดมาบนโลกนี้เห็นคุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง ไม่ใช่การเข้าใจผิดๆ ที่เคยรับรู้มาค่ะ อาจพูดไม่ครบทุกประเด็น และหากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ