สวัสดีค่ะ เป็นอะไรที่เก็บไว้แล้วไม่ได้นำมาเล่านานพอสมควร ตั้งแต่ตรุษจีน จขกท ได้ไปลงทะเบียนขอร่วมงานเวิร์คชอปไว้แบบสุ่มจับไว้ค่ะ เพราะต้องการทราบถึงทริคการแต่งหน้าแต่ล่ะแบรนด์ค่ะ เวลาทำกระทู้ต่างๆจะได้มีเทคนิคมาแบ่งปันแล้วงานฝั่งเอเชียและยุโรปจะมีเทคนิคที่ต่างกัน อยากโขมยวิชานั่นเองค่ะ555 ประกอบกับอยากได้เทสเตอร์ด้วย อิอิอิ คงจะเป็นโชคของจขกทค่ะที่ได้ไป เพราะเพิ่งเคยไปเวิร์คชอปอะไรแบบนี้ครั้งแรกด้วยค่ะ ตื่นเต้น แต่ก็ไปสาย ว้าย 555555555555
ไปลงทะเบียนที่ชั้นหนึ่ง สาขาเซ็นทรัลชิดลมค่ะ จะมีพี่ๆพาขึ้นไปชั้นบนห้องเวิร์คช็อปโดยเฉพาะ โดนเรียคุณผู้หญิง โอ๊ยเขินนนน
เดินเข้าไปก็ป๊ะกับป้ายแบรนด์นี้เลยค่ะ เรามามาถูกทางแล้ว ไปนั่งปุ๊บก็โดนลบคิ้วเลยค่ะ555
เพราะเริ่มขั้นตอนเวิร์คช็อปแรกก็จะเริ่มที่การล้างหน้าและเช็ดเครื่องสำอางค์อย่างถูกวิธี งานฝั่งญี่ปุ่นเราต้องยอมเค้านะคะ ใส่ใจจริงจังเรียกได้ว่าการนวดหน้าของแบรนด์นี้เค้าเข้าแล็บเป็นจริงเป็นจังชนิดที่ว่านวดหน้าล้างหน้าตามมัดกล้ามเนื้อ!!!!! (คือเป็นสายทำลายหน้าเอาแต่แต่งพอได้ยินเรื่องนี้แล้วตกใจเลยยค่ะ)
บนโต๊ะก็จะมีไซส์จิบิแบบนี้แต่ล่ะคนเลยค่ะ แล้วก็ได้กลับบ้านด้วยค้าา นี่แหละเหตุผลที่มา
คือทุกอย่างผ่านไปเร็วมากจดไม่ทันและไม่ได้ขออนุญาตทางแบรนด์บันทึกวิดีโอขออนุญาตนำเสนอเป็นโบรชัวร์นะคะ
ตัวนี้เป็นไลน์สกินแคร์ของเค้าค่ะ ใช้แล้วฟินลืมมากค่ะ
อันนี้แหละคะวิธีการบำรุงหน้าตามที่บอก ทุกอย่างวิจัยและใช้ได้จริงนะคะ วิทยากรครูศรีจันทร์อธิบายดีและผิวดีจริงๆค่ะ จขกท.ก็ได้ใช้เทสเตอร์จนหมดแล้วไม่รู้ว่าขวดเล็กหรือหน้าใหญ่ คงเป็นอย่างหลัง5555 ค้นพบว่าได้ผลและนำมาประยุกต์กับผลิตภัณฑ์ตัวอื่นก็ล้างหน้าสะอาดขึ้นและทาครีมนวดหน้าได้ดีขึ้นค่ะ
หัวใจของคอนเซปต์คือ Make Your Life a Masterpiece Day by Day เมื่อทุกคนต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลง เมื่อผ่านไปแต่ล่ะวัน แต่ล่ะเดือน แต่ล่ะปี ความงามจะปรับเปลี่ยนไปพร้อมกับชีวิต ตัว Chrono Beauty ของ KANEBO นี่แหละค่ะที่จะช่วยตอบโจทย์ควาวมต้องการของผิวฝนช่วงเวลานั้น ในส่วนของงานสกินแคร์จะเป็นประมาณนี้นะคะ เราไปดูสายความงามฉบับสาวญี่ปุ่นกันค่ะ
แบรนด์นี้จะอยู่ตรงกลางระหว่าง Lunasol และ Impress จะสวยแบบคูลๆค่ะ
ภายใต้คอนเซปต์ Defining Pure Grace ไม่ไล่ตามเทรนด์ ไม่เลียนแบบใคร งามข้ามผ่านกาลเวลาและเชื้อชาติ เผยความงามฉบับคุณพร้อมนิยามความงามที่แตกต่าง (โอ๊ย ขนลุกแล้วววว) จุดสำคัญคือผิวและลายเส้น ที่จะสร้างในเรื่องของความบาลานซ์ความเงางาม เปล่งประกายจากภายในค่ะ
และนี่เป็นไลน์เมคอัพของเค้านะคะ
สี่รูปนี้เป็นสินค้าที่ได้ทดลองใช้ทั้งหมดค่ะจะไม่เป็นสีที่ฉูดฉาดนะคะ ใช้ได้ทุกวัน ไม่ใช่ว่าพิกเมนท์ไม่ดีนะคะ แต่เป็นสไตล์ของทางแบรนด์ค่ะที่งามอย่างเป็นตัวเอง เปล่งประกายและการบาลานซ์ของสี สามารถแต่งง่ายใช้ได้ทุกวัน แม้ในคลาสเรียนการทาอายแชโดว์ห้าสีของเค้ายังใช้เวลาไม่ถึง 15 วินาทีค่ะ อ่านถูกแล้วค่ะ 15 นาที
เค้ามีพัฟกดฟองน้ำด้วยค่ะ นิ่มากๆ
ลิปสติกเป็น Food Grade นะคะ สามารถเข้าปากได้โดยไม่เป็นอันตราย ฉ่ำมากๆ ทาวนไปและลืมพูดถึงสกินแคร์ก็ไม่มีน้ำหอมค่ะ ทางแบรนด์ผสมพวกเธราพีที่เป็นน้ำมันหอมระเหย สดชื่นเวลาทาแล้วก็จะหายไปค่ะ สวยแบบไม่ต้องกลัวแพ้ค่ะ
และในรูปนี่ก็คือเมคอัพไกด์ที่แต่งออกมาค่ะ
จขกท แต่งออกมาเป็นแบบนี้ค่ะเป็นการแต่งเองโดยไม่มีการแก้ไขโดยผู้สอนเลยค่ะ เพราะแต่งตามง่ายมาก
ที่พีคสุดในผลิตภัณฑ์ในใจเราคือมาสคาร่าเบสที่เป็นไฟเบอร์ค่ะ แม่เจ้าาา ยาวมากกกกก
จะมีช่วงหนึ่งที่เราก็ไปแต่งหน้าตามกระแสดดยลืมการดึงความงามและทริคง่ายๆไปเลยค่ะ เวลานั่งฟังก็แบบใช่ จริงๆแล้วมีวิธีแบบนี้เหมือนกันนี่นา ง่ายด้วย ทำให้นึกถึงสมัยหัดแต่งหน้าใหม่ๆตามหนังสสือ SCawaii Ray อะไรแบบนี้ตอนเด็กๆเลยค่ะ จริงๆแล้สเราไม่ต้องซับซ้อนอะไรก็สามารถสวยได้เหมือนกัน
ต้องขอบคุณแบรนด์ด้วยนะคะที่ให้โอกาส ขอบคุณวิทยากรทุกท่านและเพื่อนๆในคลาวที่ใจดีด้วยนะคะ การเรียนทุกคนตั้งใจและสนุกกับมันมากๆ จขกท ขอบคุณผู้อ่านด้วยนะคะ ยังไงวันนี้ก็ไปก่อนนะคะ ตั้งใจว่าครั้งหน้าจะเตรียมใตัวกว่านี้ เป็นไปได้จะอัดคลิปอัดเสียงอัดวิชากลับมาฟังกันลืมเลยค่ะ จะได้แบ่งปันมากกว่านี้ ขอบคุณนะคะ
แบรนด์นี้จะเปิดตัวทั่วโลกภายในปี 2020 นะคะ ตอนนี้ที่ไทยก็มีแล้วอย่าลองพลาดนะคะ ลองฟังแนวคิดแบรนด์แล้วเค้ามีความตั้งใจเต็มเปี่ยมเพื่อสาวๆจริงๆค่ะ
....ที่จขกทมายืมริมๆหลบๆตรงนั้นเพราะตัวใหญ่ค่ะ ยืนตรงไหนก็บัง แต่วงไว้แล้วนะคะ ว่าคนไหน ไปจริงๆแล้วค่ะ สวัสดี5555555+
พาชมบรรยากาศเวิร์คชอปกับแบรนด์ KANEBO ทั้งไลน์สกินแคร์และเมคอัพค่ะ
และนี่เป็นไลน์เมคอัพของเค้านะคะ
....ที่จขกทมายืมริมๆหลบๆตรงนั้นเพราะตัวใหญ่ค่ะ ยืนตรงไหนก็บัง แต่วงไว้แล้วนะคะ ว่าคนไหน ไปจริงๆแล้วค่ะ สวัสดี5555555+