ไม่ประมาท กระบะเสยพ่วง ชนติดซาก สยอง 3ศพ - คนขับบาดเจ็บ @ พัฒนานิคม จ.ลพบุรี
จ.ส.ต.ตำรวจจราจร ซิ่งรถปิกอัพ 4 ประตู ชนเสยท้ายรถพ่วงผู้โดยสารนั่งรถมาด้วยตายหมู่ 3 ศพ ส่วนคนขับบาดเจ็บ สอบสวนอ้างรถพ่วงขับนำหน้าและเบรกกะทันหันทำให้หยุดรถไม่ทันพุ่งชนอย่างจัง ขณะที่คนขับรถพ่วงยืนรอมอบตัวให้การยอมรับ ขับรถมาตามถนนถึงที่เกิดเหตุพบเห็นด้านหน้าห่างกันประมาณ 100 เมตร มีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันจึงรีบชะลอความเร็วจนเกิดอุบัติเหตุขึ้น
ตำรวจชั้นประทวนซิ่งปิกอัพพุ่งชนเสยท้ายรถพ่วงตายเจ็บระนาวรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 11 ก.พ. ร.ต.ท.นพ จิ๋วแหยม รอง สว.(สอบสวน) สภ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนกันมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ บนถนนสายสระบุรี-หล่มสัก หมู่ 2 ต.ช่องสาริกา จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ดิเรก แจ่มสุธี ผกก.นำกำลังตำรวจ แพทย์เวร รพ.พัฒนานิคม และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูลพบุรี เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุริมถนนหน้าปั๊มแก๊สเอ็นจีวีพบปิกอัพโตโยต้าวีโก้ 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กบ 381 ลพบุรี ชนเสยท้ายรถพ่วง 18 ล้อ ทะเบียน 70-1544 เลย ลูกพ่วงทะเบียน 70-1545 เลย ด้านหน้ารถปิกอัพยุบพังยับ
ส่วนผู้บาดเจ็บมี 4 คน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและทีมกู้ชีพร่วมกันงัดเศษเหล็กช่วยเหลือนำส่งรพ.พัฒนานิคม ก่อนแล้วและเสียชีวิตต่อมา 3 ศพ ทราบชื่อนายชาญ สอนหา อายุ 59 ปี บ้านอยู่หมู่ 7 ต.คำพราน อ.วังม่วง จ.สระบุรี กับนายเอนก โอสถ อายุ 37 ปี และนายโยธิน โอสถ อายุ 37 ปี ญาติลูกพี่ลูกน้องกับนายเอนก ทั้งหมดอยู่หมู่บ้านเดียวกัน สภาพศพแขนขาหักลำตัวและศีรษะ เป็นแผลฉกรรจ์ ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อ จ.ส.ต.วุฒิชัย วงษ์เสถียร ผบ.หมู่ จร.สภ.โคกตูม จ.ลพบุรี เป็นคนขับรถปิกอัพ แพทย์ช่วยเหลือจนพ้นขีดอันตรายแล้ว
สอบสวนนายธนพงษ์ จำรูญศิริ คนขับรถพ่วง และรอมอบตัว ให้การอ้างว่า ขับรถมุ่งหน้าจังหวัดเลย ถึงที่เกิดเหตุด้านหน้าห่างกันประมาณ 100 เมตร มีอุบัติเหตุรถเก๋งชนกับรถกระบะ ตนชะลอความเร็ว แล้วจู่ๆ มีรถยนต์มาชนท้ายรถตนอย่างแรง รีบจอดรถลงไปดูพบมีผู้ถูกอัดก๊อบปี้บาดเจ็บสาหัสติดอยู่ในรถ 4 คน จึงประสานหน่วยกู้ภัยช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล จนมีผู้เสียชีวิต ด้าน จ.ส.ต.วุฒิชัย ผู้บาดเจ็บคนขับรถปิกอัพให้การว่า ขับรถจะไปธุระมีผู้ตายนั่งติดรถมาด้วย ถึงที่เกิดเหตุรถพ่วงขับนำหน้า และเบรกหยุดรถกะทันหัน ทำให้เบรกไม่ทันพุ่งชนเสยท้ายอย่างแรง โดยรายละเอียดของคดีเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนให้แน่ชัดอีกครั้ง
http://www.thairath.co.th/content/856797
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_214573
ไม่ประมาท กระบะเสยพ่วง ชนติดซาก สยอง 3ศพ - คนขับบาดเจ็บ @ พัฒนานิคม จ.ลพบุรี
จ.ส.ต.ตำรวจจราจร ซิ่งรถปิกอัพ 4 ประตู ชนเสยท้ายรถพ่วงผู้โดยสารนั่งรถมาด้วยตายหมู่ 3 ศพ ส่วนคนขับบาดเจ็บ สอบสวนอ้างรถพ่วงขับนำหน้าและเบรกกะทันหันทำให้หยุดรถไม่ทันพุ่งชนอย่างจัง ขณะที่คนขับรถพ่วงยืนรอมอบตัวให้การยอมรับ ขับรถมาตามถนนถึงที่เกิดเหตุพบเห็นด้านหน้าห่างกันประมาณ 100 เมตร มีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันจึงรีบชะลอความเร็วจนเกิดอุบัติเหตุขึ้น
ตำรวจชั้นประทวนซิ่งปิกอัพพุ่งชนเสยท้ายรถพ่วงตายเจ็บระนาวรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 11 ก.พ. ร.ต.ท.นพ จิ๋วแหยม รอง สว.(สอบสวน) สภ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนกันมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ บนถนนสายสระบุรี-หล่มสัก หมู่ 2 ต.ช่องสาริกา จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ดิเรก แจ่มสุธี ผกก.นำกำลังตำรวจ แพทย์เวร รพ.พัฒนานิคม และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูลพบุรี เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุริมถนนหน้าปั๊มแก๊สเอ็นจีวีพบปิกอัพโตโยต้าวีโก้ 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กบ 381 ลพบุรี ชนเสยท้ายรถพ่วง 18 ล้อ ทะเบียน 70-1544 เลย ลูกพ่วงทะเบียน 70-1545 เลย ด้านหน้ารถปิกอัพยุบพังยับ
ส่วนผู้บาดเจ็บมี 4 คน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและทีมกู้ชีพร่วมกันงัดเศษเหล็กช่วยเหลือนำส่งรพ.พัฒนานิคม ก่อนแล้วและเสียชีวิตต่อมา 3 ศพ ทราบชื่อนายชาญ สอนหา อายุ 59 ปี บ้านอยู่หมู่ 7 ต.คำพราน อ.วังม่วง จ.สระบุรี กับนายเอนก โอสถ อายุ 37 ปี และนายโยธิน โอสถ อายุ 37 ปี ญาติลูกพี่ลูกน้องกับนายเอนก ทั้งหมดอยู่หมู่บ้านเดียวกัน สภาพศพแขนขาหักลำตัวและศีรษะ เป็นแผลฉกรรจ์ ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อ จ.ส.ต.วุฒิชัย วงษ์เสถียร ผบ.หมู่ จร.สภ.โคกตูม จ.ลพบุรี เป็นคนขับรถปิกอัพ แพทย์ช่วยเหลือจนพ้นขีดอันตรายแล้ว
สอบสวนนายธนพงษ์ จำรูญศิริ คนขับรถพ่วง และรอมอบตัว ให้การอ้างว่า ขับรถมุ่งหน้าจังหวัดเลย ถึงที่เกิดเหตุด้านหน้าห่างกันประมาณ 100 เมตร มีอุบัติเหตุรถเก๋งชนกับรถกระบะ ตนชะลอความเร็ว แล้วจู่ๆ มีรถยนต์มาชนท้ายรถตนอย่างแรง รีบจอดรถลงไปดูพบมีผู้ถูกอัดก๊อบปี้บาดเจ็บสาหัสติดอยู่ในรถ 4 คน จึงประสานหน่วยกู้ภัยช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล จนมีผู้เสียชีวิต ด้าน จ.ส.ต.วุฒิชัย ผู้บาดเจ็บคนขับรถปิกอัพให้การว่า ขับรถจะไปธุระมีผู้ตายนั่งติดรถมาด้วย ถึงที่เกิดเหตุรถพ่วงขับนำหน้า และเบรกหยุดรถกะทันหัน ทำให้เบรกไม่ทันพุ่งชนเสยท้ายอย่างแรง โดยรายละเอียดของคดีเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนให้แน่ชัดอีกครั้ง
http://www.thairath.co.th/content/856797
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_214573