ภาพยนตร์ : Manchester By The Sea
ชื่อไทย : แค่...ใครสักคน
ความยาว : 137 นาที
ประเภท : ดราม่า
เรท : R
ออกฉาย : 9 กุมภาพันธ์ 2560
นักแสดง : Casey Affleck , Michelle Williams , Kyle Chandler , Lucas Hedges
ผู้กำกับ : Kenneth Lonergan (กํากับและเขียนบทเอง)
เรื่องย่อ : Manchester By The Sea เล่าเรื่องครอบครัวแชนด์เลอร์ ครอบครัวชนชั้นแรงงานจากแมสซาชูเซตส์ที่โจ (ไคล์ แชนด์เลอร์) พี่ชายของลี (เคซีย์ แอฟเฟล็ก) จากโลกนี้ไปอย่างไม่คาดคิด เขาจึงต้องเป็นคนดูแลหลานชาย (ลูคัส เฮดเจส) แล้วลีก็ต้องเผชิญหน้ากับโศกนาฏกรรมในอดีตที่พลัดพรากเขาจากอดีตภรรยา แรนดี้ (มิเชล วิลเลี่ยมส์) และชุมชนที่เขาได้เกิดและเติบโตมา
การแสดงของ Casey Affleck
หนังเรื่องนี้ชนะรางวัลเยอะมาก ชนะถึง 96 รางวัล และเข้าชิงมากกว่า 220 รางวัล!!! ซึ่งส่วนใหญ่รางวัลที่ชนะมาจะเป็นรางวัลนักแสดงนําชายของCasey Affleck เชื่อว่าหลายคนที่อยากดูหนังเรื่องนี้ ก็เพราะอยากพิสูจน์ฝีมือการแสดงของCasey Affleck ว่าทําไมถึงได้รางวัลเยอะขนาดนี้ ซึ่งพอดูหนังแล้วก็ไม่แปลกใจว่าทําไมCasey Affleck ถึงได้รางวัลเยอะขนาดนี้ และเป็นตัวเต็งชองออสการ์นักแสดงนําชาย เพราะเชาต้องแสดงเป็นคนที่ต้องสูญเสียพี่ชายไป สูญเสียคนที่รัก ต้องรับมือความสูญเสีย เป็นบทที่ลึกมาก และต้องใช้นักแสดงมืออาชีพจริงๆถึงจะเล่นบทนี้ได้ ซึ่งCasey Affleck ทําได้สุดยอดมากๆ เป็นการแสดงที่ไม่มีที่ติเลยจริงๆ แสดงได้ธรรมชาติมากๆ แสดงเหมือนเป็นคนที่ต้องสูญเสียคนที่รักจริงๆ เข้าถึงบทจริงๆ แสดงเหมือนไม่ได้แสดง เหมือนเป็นลักษณะนิสัยบุคลิกของเขาจริงๆ ตัวละคร Lee เป็นตัวละคาที่ชอบพูดจาขวานผ่าซาก ดูอึมๆทึมๆอมทุกข์ยังไงก็ไม่รู้ ขี้เมา ชอบหาเรื่องคนอื่น และตัวละครตัวนี้จะแสดงสีหน้าราบเรียบตลอดทั้งเรื่อง นํ้าเสียงราบเรียบ แต่คือCasey แสงให้เรารู้สึกว่าภายในเขารู้สึกยังไง อารมณ์ที่มันเก็บกดอยู่ข้างในที่ต้องสูผญเสียคนรัก มันปะทุอยู่ข้างใน ความรู้สึกที่ตนเองไร้ค่า ต้องมาดูแลหลานโดยที่ตัวเองไม่พร้อม แต่ภายในก็อยากเป็นที่รักของหลาน คือเป็นบทที่ลึก ต้องเข้าถึงบทจริงๆ จึงสามารถแผ่ความรู้สึกข้างในมาสู่คนดูได้ สมแล้วที่กวาดรางวัลมาเกือบทุกสถาบันเจ๋งจริงๆ และมีผู้หญิงในหนังมาชอบ Lee เยอะมากๆ แต่Lee กลับไม่สนใจสักคน เสียดายยย
โอกาสมากน้อยแค่ไหนที่Casey Affleck จะคว้าออสการ์นําชายไปครอง
มีโอกาสสูงเลยที่เดียวล่ะ ที่ Casey Affleck จะชนะออสการ์ได้ เพราะเวทีรางวัลส่วนใหญ่ก็ให้Casey Affleck ชนะเกือบทั้งหมด แต่มาพลิกโผที่ SAG ดันมอบรางวัลให้ Denzel Washington จาก Fences ซะงั้น แต่ยังไงก็มีโอกาสสูงอยู่ดีที่Casey จะคว้าออสการ์ แต่ออสการ์อาจพลิกให้Denzel เพราะSAG กับ Oscar ก็จะมีกรรมการทับซ้อนกันอยู่ เพราะฉะนั้นDenzel ก็แอบน่ากลัวอยู่เหมือนกัน ตัวเต็งออสการ์นําชายก็คงแข่งกัน 2 คนแล้วล่ะ คือ Denzel Washington กับ Casey Affleck
การแสดงของ Michelle Williams
คนนี้ก็แสดงได้ดีเช่นกัน สวยมีสเน่ห์ แสดงได้ธรรมชาติ รู้สึกได้ว่าเป็นผู้หญิงที่เป็นแม่จริงๆ เล่นเป็นแฟนเก่าของ Lee (Casey Affleck) เคมีระหว่าง Michelle กับ Casey เข้ากันได้ดี และMichelle ก็มีฉากโชว์การแสดงอยู่ฉากนึง ซึ่งก็ทําได้ดีมาก แต่ถ้าถามว่าสามารถชนะออสการ์ได้ไหม ผมว่าไม่ชนะหรอก เพราะเจ๊Violas Davis เค้านอนมาอยู่แล้ว ได้SAGด้วย ยังไงปีนี้ Violas ได้สมทบหญิงแน่นอน แต่Michelle เข้าชิงออสการ์มาตั้ง 3 ครั้งแล้ว (รวมเข้าชิงครั้งนี้เป็น 4 ครั้ง) แสดงนำ 2 ครั้ง สมทบ 2ครั้ง แต่เธอก็ชวดทุกครั้ง อยากให้เธอชนะสักที แต่ปีนี้Violas ก็แข็งจริงๆ ก็คงต้องรอกันต่อไป อยากให้เธอได้เล่นหนังใหญ่ๆสักที เหมือน Brie Larson เล่นเรื่อง Room ได้ออสการ์นําหญิง เธอก็ดังเลย ได้เล่นหนังใหญ่ๆอย่าง kong skull island และได้รับบทเป็น Captain Marvel และส่วนหนึ่งที่เธอได้รับบทนี้ผมก็เชื่อว่ามาจากที่เธอได้ออสการ์นําหญิง
การแสดงของ Lucas Hedges
Lucas ก็แสดงได้ดีเช่นกันในหนังเรื่องนี้ คนนี้ส่วนใหญ่จะแสดงอยู่ในหนังสายรางวัล แต่ก็ไม่เฉิดฉายออกมาอะไรมาก แต่ผมว่าเขาน่าจะแจ้งเกิดจากเรื่องนี้เนี่ยแหละ แสดงได้ดีมากๆ เป็นตัวละครที่ต้องรับมือความสูญเสียจากการที่ต้องเสียพ่อไป เป็นตัวละครเด็กวัยรุ่นทั่วไป
ไม่ค่อยเชื่อฟังใครเท่าไหร่ เอาแต่ใจตัวเอง Lucas แสดงได้เข้าขากับCasey Affleck มากๆ มีเคมีที่ดีต่อกัน รู้สึกได้ถึงความเป็นอาหลานกันจริงๆ Lucas Hedges ได้เข้าชิงออสการ์นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมด้วย ทั้งที่อายุยังน้อยแท้ๆ แต่ปีนี้ยังไงๆ Mahershala Ali ก็นอนมา ไม่เป็นไร อายุยังน้อยอยู่ ยังมีลุ้นได้อีกในอนาคต
การตัดต่อที่มีเสน่ห์
การตัดต่อดูมีสเน่ห์มากๆ มีการตัดสลับระหว่างอดีตกับปัจจุบัน การตัดต่อทําให้หนังมีสเน่ห์มากๆ เหมือนตัวละครLee นึกย้อนคิดไปถึงอดีต แล้วหนังก็จะตัดจากปัจจุบันไปอดีตเลย แต่การตัดต่อข้อนี้ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน คือบางครั้งอาจทําให้งง สับสน หลุดออกจากหนังได้
บท ตัวหนัง เรียลมาก
บทและตัวหนังคือเรียล สมจริงมากๆ หนังเรียบๆ ไม่ได้มีอะไรตูมตาม แต่ด้วยการแสดง บท มันเข้าถึงไปในอารมณ์ หัวใจของเราจริงๆ เหมือนติดตามชีวิตคนๆหนึ่งที่ธรรมดา ไม่ได้พิเศษอะไร เอาง่ายๆคือหนังพาไป
เรื่องชาวบ้านเค้า 555+ บทพูดนี่คือเฉียบคมมากก คือบทธรรมดาง่ายๆพาไปดูชีวิตของคนที่สูญเสียคนที่เรารัก ชีวิตที่ไม่มีจุดมุ่งหมาย แต่พอถึงฉากสุดท้ายที่ Lee กับ Patrick นั่งตกปลาอยู่บนเรือแล้วตัดไปที่เครดิตหนัง คือมันแบบรู้สึกอบอุ่นหัวใจยังไงก็ไม่รู้ ทั้งที่ดราม่าตลอดมาทั้งเรื่อง คือชอบจริงๆเรื่องนี้ ธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษแต่พอดูจบแล้วอารมณ์มันยังค้างปะทุอยู่ในหัวใจจริงๆ สุดยอดมากๆ หนังเรียลมากจริงๆ บาดลึกอารมณ์มากๆ บางทีก็รู้สึกว่ามันเหมือนชีวิตเราจริงๆ คืออินมากๆ หนังซึ้งดี แอบนํ้าตาไหลตอนท้าย แต่หนังไม่ได้เหมาะกับทุกคนนะครับ อาจจะมีบางฉากที่เบื่อๆบ้าง เพราะหนังมันนําเสนอกิจวัตรประจําวันของ Lee ไม่ได้พิเศษอะไร ก็เหมือนชีวิตของคนธรรมดาทั่วไป ส่วนนี้อาจทําให้บางคนไม่ชอบได้ ในหนังชีวิตมันไม่ง่ายจริงๆ
ฉากและดนตรีประกอบที่เข้ากันได้ดี๊ได้ดี
ขอบอกเลยว่าฉากสวยมากๆ เปิดมาเป็นฉากทะเลแล้วมีนกขาวบินผ่าน คือสวยจริงๆ หนังถ่ายทำที่นอร์ท ชอร์ แห่งรัฐแมสซาชูเซตส์ มีทั้งทะเล เรือ นก คือฟินจริงๆ หินกับฉาก ภาพ ที่สวยงาม และอีกหนึ่งส่วนที่ดีงามของหนัง ก็คือดนตรีประกอบคือเพราะมาก เหมาะกับตัวหนัง พอเปิดฉากมาฟังแล้วขนลุกเลย มีทั้งเพลงโซล โอเปร่า คือจับใจจริงๆ
หนังเข้าชิงออสการ์ถึง 6 รางวัล
ได้แก่ Best Motion Picture Of The Year ชวดแน่นอน แข่งสูสีกัน 2 เรื่อง คือ La La Land กับ Moonlight ส่วนตัวเชียร์ La La Land เพราะMoonlight ไม่ได้ดู
Best Performance by an Actor in a Leading Role โอกาสได้สูงมาก Casey Affleck
Best Performance by an Actor in a Supporting Role ชวดแน่นอน Lucas Hedge
Best Performance by an Actress in a Supporting Role นี่ก็น่าจะชวดเช่นกัน Michelle Williams
Best Achievement in Directing ชวดแน่นอน Kenneth Lonergan เป็นการแข่งกันระหว่าง Damien Chazelle จาก La La Land กับ Barry Jenkins จาก Moonlight
Best Writing, Original Screenplay มีโอกาสชนะอยู่ เดาไม่ถูกเลยว่าใครจะชนะ Kenneth Lonergan เป็นคนเขียนบทและกำกับ Manchester By The Sea
ปล. ออสการ์ปีนี้แข็งสุด คือ Moonlight กะ La La Land แข็งจริงๆ เอาจริงๆปีนี้พวกรางวัลเทคนิคน่าลุ้นกว่าพวกรางวัลใหญ่พวกนักแสดงอะไรพวกเนี้ย เพราะมันมีการเก็งมาอยู่แล้ว เลยไม่ค่อยน่าตื่นเต้นเท่าไหร่
สรุป : Manchester By The Sea เป็นหนังที่พูดถึงการสูญเสีย การจากลา ได้เจ็บจี๊ดมากๆ หนังพูดถึงกิจวัตรประจําวันของLee ไม่พิเศษ เรียบง่าย แต่เรียลมาก ยกให้เป็นหนังที่เรียลที่สุดของปี2016ไปเลย หนังมีการแสดงที่สุดยอดของCasey Affleck แสดงได้ลํ้าลึกมากๆ แสดงน้อยแต่อินเนอร์มาเต็มมากๆ สมแล้วที่เป็นตัวเต็งออสการ์ และกวาดรางวัลเกือบทุกสถาบัน ฉากสวยมากกก การตัดต่อมีสเน่ห์ ดนตรีประกอบไพเราะ ใครที่ชอบหนังที่เรียลๆ พูดถึงการสูญเสีย แนะนําให้ดูเรื่องนี้
คะแนน : 8/10
ระดับความชอบ : ชอบ แต่ไม่ถึงกับชอบมาก
[CR] [8/2017] กระทู้อวยCasey Affleck รีวิวหนัง Manchester By The Sea แค่...ใครสักคน
ชื่อไทย : แค่...ใครสักคน
ความยาว : 137 นาที
ประเภท : ดราม่า
เรท : R
ออกฉาย : 9 กุมภาพันธ์ 2560
นักแสดง : Casey Affleck , Michelle Williams , Kyle Chandler , Lucas Hedges
ผู้กำกับ : Kenneth Lonergan (กํากับและเขียนบทเอง)
เรื่องย่อ : Manchester By The Sea เล่าเรื่องครอบครัวแชนด์เลอร์ ครอบครัวชนชั้นแรงงานจากแมสซาชูเซตส์ที่โจ (ไคล์ แชนด์เลอร์) พี่ชายของลี (เคซีย์ แอฟเฟล็ก) จากโลกนี้ไปอย่างไม่คาดคิด เขาจึงต้องเป็นคนดูแลหลานชาย (ลูคัส เฮดเจส) แล้วลีก็ต้องเผชิญหน้ากับโศกนาฏกรรมในอดีตที่พลัดพรากเขาจากอดีตภรรยา แรนดี้ (มิเชล วิลเลี่ยมส์) และชุมชนที่เขาได้เกิดและเติบโตมา
การแสดงของ Casey Affleck
หนังเรื่องนี้ชนะรางวัลเยอะมาก ชนะถึง 96 รางวัล และเข้าชิงมากกว่า 220 รางวัล!!! ซึ่งส่วนใหญ่รางวัลที่ชนะมาจะเป็นรางวัลนักแสดงนําชายของCasey Affleck เชื่อว่าหลายคนที่อยากดูหนังเรื่องนี้ ก็เพราะอยากพิสูจน์ฝีมือการแสดงของCasey Affleck ว่าทําไมถึงได้รางวัลเยอะขนาดนี้ ซึ่งพอดูหนังแล้วก็ไม่แปลกใจว่าทําไมCasey Affleck ถึงได้รางวัลเยอะขนาดนี้ และเป็นตัวเต็งชองออสการ์นักแสดงนําชาย เพราะเชาต้องแสดงเป็นคนที่ต้องสูญเสียพี่ชายไป สูญเสียคนที่รัก ต้องรับมือความสูญเสีย เป็นบทที่ลึกมาก และต้องใช้นักแสดงมืออาชีพจริงๆถึงจะเล่นบทนี้ได้ ซึ่งCasey Affleck ทําได้สุดยอดมากๆ เป็นการแสดงที่ไม่มีที่ติเลยจริงๆ แสดงได้ธรรมชาติมากๆ แสดงเหมือนเป็นคนที่ต้องสูญเสียคนที่รักจริงๆ เข้าถึงบทจริงๆ แสดงเหมือนไม่ได้แสดง เหมือนเป็นลักษณะนิสัยบุคลิกของเขาจริงๆ ตัวละคร Lee เป็นตัวละคาที่ชอบพูดจาขวานผ่าซาก ดูอึมๆทึมๆอมทุกข์ยังไงก็ไม่รู้ ขี้เมา ชอบหาเรื่องคนอื่น และตัวละครตัวนี้จะแสดงสีหน้าราบเรียบตลอดทั้งเรื่อง นํ้าเสียงราบเรียบ แต่คือCasey แสงให้เรารู้สึกว่าภายในเขารู้สึกยังไง อารมณ์ที่มันเก็บกดอยู่ข้างในที่ต้องสูผญเสียคนรัก มันปะทุอยู่ข้างใน ความรู้สึกที่ตนเองไร้ค่า ต้องมาดูแลหลานโดยที่ตัวเองไม่พร้อม แต่ภายในก็อยากเป็นที่รักของหลาน คือเป็นบทที่ลึก ต้องเข้าถึงบทจริงๆ จึงสามารถแผ่ความรู้สึกข้างในมาสู่คนดูได้ สมแล้วที่กวาดรางวัลมาเกือบทุกสถาบันเจ๋งจริงๆ และมีผู้หญิงในหนังมาชอบ Lee เยอะมากๆ แต่Lee กลับไม่สนใจสักคน เสียดายยย
โอกาสมากน้อยแค่ไหนที่Casey Affleck จะคว้าออสการ์นําชายไปครอง
มีโอกาสสูงเลยที่เดียวล่ะ ที่ Casey Affleck จะชนะออสการ์ได้ เพราะเวทีรางวัลส่วนใหญ่ก็ให้Casey Affleck ชนะเกือบทั้งหมด แต่มาพลิกโผที่ SAG ดันมอบรางวัลให้ Denzel Washington จาก Fences ซะงั้น แต่ยังไงก็มีโอกาสสูงอยู่ดีที่Casey จะคว้าออสการ์ แต่ออสการ์อาจพลิกให้Denzel เพราะSAG กับ Oscar ก็จะมีกรรมการทับซ้อนกันอยู่ เพราะฉะนั้นDenzel ก็แอบน่ากลัวอยู่เหมือนกัน ตัวเต็งออสการ์นําชายก็คงแข่งกัน 2 คนแล้วล่ะ คือ Denzel Washington กับ Casey Affleck
การแสดงของ Michelle Williams
คนนี้ก็แสดงได้ดีเช่นกัน สวยมีสเน่ห์ แสดงได้ธรรมชาติ รู้สึกได้ว่าเป็นผู้หญิงที่เป็นแม่จริงๆ เล่นเป็นแฟนเก่าของ Lee (Casey Affleck) เคมีระหว่าง Michelle กับ Casey เข้ากันได้ดี และMichelle ก็มีฉากโชว์การแสดงอยู่ฉากนึง ซึ่งก็ทําได้ดีมาก แต่ถ้าถามว่าสามารถชนะออสการ์ได้ไหม ผมว่าไม่ชนะหรอก เพราะเจ๊Violas Davis เค้านอนมาอยู่แล้ว ได้SAGด้วย ยังไงปีนี้ Violas ได้สมทบหญิงแน่นอน แต่Michelle เข้าชิงออสการ์มาตั้ง 3 ครั้งแล้ว (รวมเข้าชิงครั้งนี้เป็น 4 ครั้ง) แสดงนำ 2 ครั้ง สมทบ 2ครั้ง แต่เธอก็ชวดทุกครั้ง อยากให้เธอชนะสักที แต่ปีนี้Violas ก็แข็งจริงๆ ก็คงต้องรอกันต่อไป อยากให้เธอได้เล่นหนังใหญ่ๆสักที เหมือน Brie Larson เล่นเรื่อง Room ได้ออสการ์นําหญิง เธอก็ดังเลย ได้เล่นหนังใหญ่ๆอย่าง kong skull island และได้รับบทเป็น Captain Marvel และส่วนหนึ่งที่เธอได้รับบทนี้ผมก็เชื่อว่ามาจากที่เธอได้ออสการ์นําหญิง
การแสดงของ Lucas Hedges
Lucas ก็แสดงได้ดีเช่นกันในหนังเรื่องนี้ คนนี้ส่วนใหญ่จะแสดงอยู่ในหนังสายรางวัล แต่ก็ไม่เฉิดฉายออกมาอะไรมาก แต่ผมว่าเขาน่าจะแจ้งเกิดจากเรื่องนี้เนี่ยแหละ แสดงได้ดีมากๆ เป็นตัวละครที่ต้องรับมือความสูญเสียจากการที่ต้องเสียพ่อไป เป็นตัวละครเด็กวัยรุ่นทั่วไป
ไม่ค่อยเชื่อฟังใครเท่าไหร่ เอาแต่ใจตัวเอง Lucas แสดงได้เข้าขากับCasey Affleck มากๆ มีเคมีที่ดีต่อกัน รู้สึกได้ถึงความเป็นอาหลานกันจริงๆ Lucas Hedges ได้เข้าชิงออสการ์นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมด้วย ทั้งที่อายุยังน้อยแท้ๆ แต่ปีนี้ยังไงๆ Mahershala Ali ก็นอนมา ไม่เป็นไร อายุยังน้อยอยู่ ยังมีลุ้นได้อีกในอนาคต
การตัดต่อที่มีเสน่ห์
การตัดต่อดูมีสเน่ห์มากๆ มีการตัดสลับระหว่างอดีตกับปัจจุบัน การตัดต่อทําให้หนังมีสเน่ห์มากๆ เหมือนตัวละครLee นึกย้อนคิดไปถึงอดีต แล้วหนังก็จะตัดจากปัจจุบันไปอดีตเลย แต่การตัดต่อข้อนี้ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน คือบางครั้งอาจทําให้งง สับสน หลุดออกจากหนังได้
บท ตัวหนัง เรียลมาก
บทและตัวหนังคือเรียล สมจริงมากๆ หนังเรียบๆ ไม่ได้มีอะไรตูมตาม แต่ด้วยการแสดง บท มันเข้าถึงไปในอารมณ์ หัวใจของเราจริงๆ เหมือนติดตามชีวิตคนๆหนึ่งที่ธรรมดา ไม่ได้พิเศษอะไร เอาง่ายๆคือหนังพาไปเรื่องชาวบ้านเค้า 555+ บทพูดนี่คือเฉียบคมมากก คือบทธรรมดาง่ายๆพาไปดูชีวิตของคนที่สูญเสียคนที่เรารัก ชีวิตที่ไม่มีจุดมุ่งหมาย แต่พอถึงฉากสุดท้ายที่ Lee กับ Patrick นั่งตกปลาอยู่บนเรือแล้วตัดไปที่เครดิตหนัง คือมันแบบรู้สึกอบอุ่นหัวใจยังไงก็ไม่รู้ ทั้งที่ดราม่าตลอดมาทั้งเรื่อง คือชอบจริงๆเรื่องนี้ ธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษแต่พอดูจบแล้วอารมณ์มันยังค้างปะทุอยู่ในหัวใจจริงๆ สุดยอดมากๆ หนังเรียลมากจริงๆ บาดลึกอารมณ์มากๆ บางทีก็รู้สึกว่ามันเหมือนชีวิตเราจริงๆ คืออินมากๆ หนังซึ้งดี แอบนํ้าตาไหลตอนท้าย แต่หนังไม่ได้เหมาะกับทุกคนนะครับ อาจจะมีบางฉากที่เบื่อๆบ้าง เพราะหนังมันนําเสนอกิจวัตรประจําวันของ Lee ไม่ได้พิเศษอะไร ก็เหมือนชีวิตของคนธรรมดาทั่วไป ส่วนนี้อาจทําให้บางคนไม่ชอบได้ ในหนังชีวิตมันไม่ง่ายจริงๆ
ฉากและดนตรีประกอบที่เข้ากันได้ดี๊ได้ดี
ขอบอกเลยว่าฉากสวยมากๆ เปิดมาเป็นฉากทะเลแล้วมีนกขาวบินผ่าน คือสวยจริงๆ หนังถ่ายทำที่นอร์ท ชอร์ แห่งรัฐแมสซาชูเซตส์ มีทั้งทะเล เรือ นก คือฟินจริงๆ หินกับฉาก ภาพ ที่สวยงาม และอีกหนึ่งส่วนที่ดีงามของหนัง ก็คือดนตรีประกอบคือเพราะมาก เหมาะกับตัวหนัง พอเปิดฉากมาฟังแล้วขนลุกเลย มีทั้งเพลงโซล โอเปร่า คือจับใจจริงๆ
หนังเข้าชิงออสการ์ถึง 6 รางวัล
ได้แก่ Best Motion Picture Of The Year ชวดแน่นอน แข่งสูสีกัน 2 เรื่อง คือ La La Land กับ Moonlight ส่วนตัวเชียร์ La La Land เพราะMoonlight ไม่ได้ดู
Best Performance by an Actor in a Leading Role โอกาสได้สูงมาก Casey Affleck
Best Performance by an Actor in a Supporting Role ชวดแน่นอน Lucas Hedge
Best Performance by an Actress in a Supporting Role นี่ก็น่าจะชวดเช่นกัน Michelle Williams
Best Achievement in Directing ชวดแน่นอน Kenneth Lonergan เป็นการแข่งกันระหว่าง Damien Chazelle จาก La La Land กับ Barry Jenkins จาก Moonlight
Best Writing, Original Screenplay มีโอกาสชนะอยู่ เดาไม่ถูกเลยว่าใครจะชนะ Kenneth Lonergan เป็นคนเขียนบทและกำกับ Manchester By The Sea
ปล. ออสการ์ปีนี้แข็งสุด คือ Moonlight กะ La La Land แข็งจริงๆ เอาจริงๆปีนี้พวกรางวัลเทคนิคน่าลุ้นกว่าพวกรางวัลใหญ่พวกนักแสดงอะไรพวกเนี้ย เพราะมันมีการเก็งมาอยู่แล้ว เลยไม่ค่อยน่าตื่นเต้นเท่าไหร่
สรุป : Manchester By The Sea เป็นหนังที่พูดถึงการสูญเสีย การจากลา ได้เจ็บจี๊ดมากๆ หนังพูดถึงกิจวัตรประจําวันของLee ไม่พิเศษ เรียบง่าย แต่เรียลมาก ยกให้เป็นหนังที่เรียลที่สุดของปี2016ไปเลย หนังมีการแสดงที่สุดยอดของCasey Affleck แสดงได้ลํ้าลึกมากๆ แสดงน้อยแต่อินเนอร์มาเต็มมากๆ สมแล้วที่เป็นตัวเต็งออสการ์ และกวาดรางวัลเกือบทุกสถาบัน ฉากสวยมากกก การตัดต่อมีสเน่ห์ ดนตรีประกอบไพเราะ ใครที่ชอบหนังที่เรียลๆ พูดถึงการสูญเสีย แนะนําให้ดูเรื่องนี้
คะแนน : 8/10
ระดับความชอบ : ชอบ แต่ไม่ถึงกับชอบมาก