[CR] " ดอยหลวงเชียงดาว " การรวมตัวของ 19 ชีวิต เพื่อพิชิตจุดสุดยอด

" ดอยหลวงเชียงดาว "

หลายๆ คนอาจจะคุ้นกับชื่อนี้ เป็นสถานที่ที่ใครๆ ก็บอกว่าไปแล้วเหมือนได้ขึ้นสวรรค์
ใครจะไปเชื่อง่ายๆ ล่ะ ต้องลองไปเองเลยจะได้พิสูจน์ว่าขึ้นสวรรค์จริงเปล่า

ดอยหลวงเชียงดาว มีความสูง 2,225 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งก็สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ
ทริปนี้เป็นทริปหารเฉลี่ย 3 วัน 2 คืน เพราะอยากจะใช้เวลาข้างบนให้คุ้มกับการแบกร่างกายขึ้นไป
และพวกเราก็ใช้บริการทัวร์ท้องถิ่นในการดูแลเรื่องอาหารการกิน อุปกรณ์การนอนต่างๆ
ซึ่งก็เป็นการตัดสินใจที่ดี เพราะไม่ต้องทำอาหารเอง น้ำไม่ต้องแบกเอง มีเต็นท์และถุงนอนให้
สมาชิกในทริปนี้มีมากที่สุดเท่าที่เคยจัดมา ทั้งหมด 19 คน เป็นการรวมตัวกันของเพื่อนๆ หลายๆ กลุ่ม

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
รถตู้ 2 คัน (น้ำมัน + ทางด่วน + ล่วงเวลา) = 24,000 บาท
ทัวร์ท้องถิ่น (อาหาร 7 มื้อ + รถรับส่ง) คนละ = 2,000 บาท
เฉลี่ยประมาณคนละ = 3,300 บาท


ฝากเพจของพวกเราด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/wetraveleverymonth/

และฝากเพจทัวร์ของพี่แม็กหน่อยนะครับ ไปใช้บริการกันได้ครับ ราคากันเอง บริการเกินราคา
http://www.facebook.com/นำเที่ยวดอยหลวงเชียงดาว-แม็ก-1510153999290454/?ref=br_rs0153999290454/?ref=br_rs



26 มกราคม 60
เราออกเดินทางกันตอน 22.00 น . โดยรถตู้ที่เราเช่ามาทั้งหมด 2 คัน (เหตุผลที่เช่ารถตู้ คือ เดินทางสะดวกที่สุดและ)



27 มกราคม 2560

ถึงแล้วเชียงดาว เราเดินทางมาถึงกันตอนประมาณ 07.30 น .
แต่ก่อนที่เราจะไปลุยกัน เราขอไปอาบน้ำกันก่อนละกัน เพราะจะไม่ได้อาบอีก 2 วัน
พวกเราไปแวะอาบน้ำกันที่ " เชียงดาวสตอรี่แคมป์ " ใครที่ไปก็สามารถไปอาบน้ำที่นี่ได้
มีบริการน้ำอุ่น สบู่ ยาสระผม และผ้าเช็ดตัว ห้องน้ำมีหลายห้อง ส่วนค่าใช้จ่ายก็คนละ 30 บาท
ระหว่างที่รอเพื่อนๆ อาบน้ำกันครบ เราก็ไปเดินถ่ายรูปเล่นรอบๆ รีสอร์ทกัน
หลังจากที่อาบน้ำ ทำธุระส่วนตัวกันเสร็จเรียบร้อยกันทุกคนแล้ว ก็ได้เวลาไปเจอพี่ๆ ทัวร์ท้องถิ่นที่เรานัดไว้
เรานัดเจอกันที่ลานจอดรถวัดถ้ำเชียงดาว พี่เค้าบอกว่ามีพื้นที่กว้าง จะได้สะดวก
หลังจากที่เจอกับพี่ๆ แล้ว เราก็จัดสัมภาระของตัวเอง อันไหนที่จะให้ลูกหาบก็แยกไว้ ที่เหลือก็จัดการขึ้นเป้
เตรียมของกันเสร็จแล้ว พี่ๆ ก็แจกข้าวกลางวัน + น้ำดื่มกันคนละชุด จากนั้นก็โดดขึ้นหลังกระบะกันได้เลย
แต่ออกรถไปได้นิดเดียว พี่เค้าก็พาเราไปแวะซื้อรองเท้าใหม่ เพราะบางคนไม่ได้เตรียมรองเท้าสำหรับเดินมา
เลยได้ลงไปชอปปิ้ง " สตั๊ดดอย " รองเท้าขึ้นชื่อของการใส่เดินป่า ที่นี่ขายคู่ละ 65 บาทเอง
อ้อ !! อย่าลืมซื้อผ้าปิดจมูกด้วยล่ะ เพราะระหว่างทางฝุ่นทั้งนั้น เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
อุปกรณ์พร้อม คนก็พร้อมตั้งนานแล้ว รีบขึ้นรถแล้วออกเดินทางกันเถอะ เพราะนี่ก็สายมากแล้ว
กลุ่มของพวกเราใช้เส้นทางเด่นหญ้าขัดในการเดินขึ้น แล้วไปลงทางปางวัว
ใช้เวลานั่งรถ 4x4 ไปยังจุดเริ่มเดินประมาณก็ชั่งโมงกว่าๆ ขอบอกเลยว่าแค่นั่งรถก็เหนื่อยแล้ว ยังไม่ทันได้เดินเลย
ถนนนี่มีตั้งแต่คอนกรีตธรรมดา ลูกรัง ไปจนถึงหลุมอุกาบาต โยกไปก็โยกมา แถมฝุ่นตลบตลอดทาง
ในที่สุดก็ถึงซะที (ถึงจุดเริ่มเดินนะ ) พอเรามาถึงจะมองเห็น " ดอกพญาเสือโคร่ง " สีชมพูที่บานสะพรั่งรอต้อนรับเราอยู่
มองดูแล้วทำให้ลืมที่เกิดขึ้นระหว่างทางก่อนหน้านี้ไปเลย 555 ต้องมาช่วงนี้นะ มาช่วงอื่นจะไม่เจอแบบนี้
ตอนนี้ก็เกือบจะเที่ยงแล้ว พวกเราเลยตัดสินใจเอาข้าวกลางวันออกมากินกันก่อนเลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องแบกขึ้น
กินข้าว เก็บของ แล้วก็เตรียมตัวออกลุยกันได้เลย อย่าลืมเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยนะ
แต่ แต่ แต่ ก่อนจะออกเดิน เราต้องไปถ่ายรูปกับป้ายกันก่อน 555 กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้ว
ถ่ายรูปเสร็จก็ออกเดินอย่างจริงจังและ ช่วงแรกๆ ของการเดิน ก็เดินเรียงแถวกันเป็นขบวนรถไฟเลย
ในช่วงแรกของเส้นทางนี้ ไม่ค่อยหนักเท่าไร มีเนินชันบ้างแต่เล็กน้อยพอหอมปากหอมคอเท่านั้น
ช่วงนี้ก็เลยได้เดินไป ถ่ายรูปไป เดินไป เม้ามอยกันไปได้อยู่
เดินไปพักไป ไม่นานก็มาถึงจุดที่เป็นทาง 3 แยก ( คิดในใจ เฮ้ย มันชิวจัง )
จากตอนแรกเดินเรียงกันเป็นแถวสวยงาม ตอนนี้ได้แยกกันเป็น 3 กลุ่มย่อยแล้ว
เราน่ะหรอ อยู่ตรงกลาง เดินกันอยู่กับแฟนสองคน จะตามกลุ่มข้างหน้าก็ไม่ทัน รอกลุ่มข้างหลังก็นาน อิอิ
แต่เราก็มาเจอกลุ่มข้างหลังกันที่แยกนี้นะ แสดงว่าก็ไม่ได้ทิ้งห่างกันเท่าไรนี่นา
พักเหนื่อย ปล้นขนมเพื่อนมาเติมพลังกันเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาออกเดินต่อ
จาก 3 แยกนี้ คือของจริงที่ต้องไปเผชิญแล้ว มีทั้งทางราบ ขึ้นเนินระดับน้อย ถึงระดับสูงสุด ขนาดลูกหาบยังพักกันถี่ๆ
ส่วนคนธรรมดาอย่างเราหรอ จะไปเหลืออะไร พักถี่กว่าลูกหาบ 10 เท่า ทางมันชันมาก แบบใช้เวลากันเนินตรงนี้นานมาก
ดีที่วันที่เราเดินกัน อากาศไม่ร้อนมาก มีแดดบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะร่ม ทำให้ไม่เหนื่อยมากกว่าเดิม
แต่พอพ้นเนินตรงนี้ไปก็จะเข้าใกล้จุดกางเต็นท์ของเราแล้ว สู้ต่อไป อึ้บไปอีกนิดเดียว
ระหว่างทางมีคนเป็นตะคริวด้วย ก็ช่วยนวดกันไป อาการก็หนักเอาการ เพราะขึ้นมาพร้อมกัน 2 ข้างเลย
ในที่สุดเราก็ทำได้ ถึงแล้วจุดกางเต็นท์ของพวกเรา อ้อ ... พอเรามาถึงก็เอาของเข้าเต็นท์ได้เลยนะ
เพราะพี่ๆ ลูกหาบที่เค้านำหน้าเรามา เค้ามากางเต็นท์ให้เราเรียบร้อยแล้ว
วางกระเป๋าได้ก็นอนพักเลย เหนื่อยมาก มาถึงกันครบทุกคนก็เกือบๆ 5 โมง
บางคนแรงเหลือก็เดินขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกที่ยอดดอยหลวงกัน ส่วนคนส่วนใหญ่นอนเอาแรงกันมากกว่า
แต่เราก็มีบรรยากาศข้างบนยอดมาให้ดูนะ เพราะเราไปจิ๊กรูปพี่ที่เค้าขึ้นไปมา 555
นี่คือโฉมหน้าของคนที่เป็นสายแข็ง ขึ้นกันไปอยู่ 5 คน และทำให้เพื่อนๆ ต้องรอกินข้าวนานมาก (แซวเล่นน้า)

แต่ก็มีเซอร์ไพส์มาให้เรานะ พวกเค้าเจอ " เลียงผา " สิ่งที่หลายๆ คนที่ขึ้นมาที่นี่ต้องการเจอ
แล้วพวกเค้าก็ลงกันมาถึงเต็นท์ ก็มืดพอดี ได้เวลาอาหารเย็นที่เรารอคอยกันสักที
พี่ๆ ลูกหาบเป็นคนเตรียมอาหารให้เราทุกมื้อ เรามีหน้าที่แค่กิน แล้วก็ขอเพิ่ม 555
แต่จะบอกว่ากับข้าวอร่อยมาก ปริมาณก็เยอะมากแทบจะเรียกได้ว่าเป็นบุฟเฟ่ กินเท่าไรก็ไม่หมด

กินข้าวกันเสร็จก็ถึงเวลาของกิจกรรมสานสัมพันธ์กันนิดๆ หน่อยๆ แล้วก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน
อากาศคืนแรกหนาวมาก ก่อนเข้าไปนอนก็ประมาณไม่เกิน 10 องศา นอนหลับบ้างไม่หลับบ้างเพราะหนาว
พรุ่งนี้เช้ามืด เรามีนัดกันเดินไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดกิ่วลมใต้กันตอน 04.30 น.
ชื่อสินค้า:   ดอยหลวงเชียงดาว
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่