ภาพยนตร์ : Split
ชื่อไทย : จิตหลุดโลก
ประเภท : สยองขวัญ , ระทึกขวัญ
เรท : น 15+
ความยาว : 117 นาที
นักแสดง : James McAvoy , Anya Taylor-Joy , Betty Buckley
ผู้กำกับ : M. Night Shyamalan
ค่าย : Universal Pictures
ทุนสร้าง : 9 ล้านเหรียญสหรัฐ


เรื่องย่อ : ว่าด้วยเรื่องราวของ เควิน (รับบทโดย เจมส์ แม็คอะวอย) ชายโรคจิตผู้มีหลายบุคลิกในตนเองถึง 23 แบบ ตั้งแต่ ชายหนุ่มธรรมดา, ผู้ร้ายชอบใช้ความรุนแรง, เด็กชาย 9 ขวบ, สาวรุ่นใหญ่ ไปจนถึงอสูรกาย ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ทุกๆ ครั้งที่เขาเปลี่ยนเป็นอีกคน เคมีในร่างกายของเขายังสามารถเปลี่ยนตามได้อีกด้วย และแล้วเหตุการณ์ที่นำสู่เรื่องราวระทึกขวัญก็เกิดขึ้น เมื่อเควินได้ทำการลักพาตัว 3 สาวมากักขัง และหนึ่งในนั้นก็คือ เคซี่ (รับบทโดย แอนยา เทย์เลอร์-จอย)ประเด็นสำคัญบางอย่างอยู่ในวัตุประสงค์ลึกลับของการลักพาตัวที่เควินเก็บซ่อนไว้ ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกับบุคลิกในตัวเขาเอง ที่อาจเป็นตัวการชักใย อีกทั้งจิตแพทย์ผู้ดูแลเควิน ยังเชื่อว่าในหลากหลายบุคลิกในตัวเขา มีบุคลิกหนึ่งบงการครอบงำบุคลิกอื่นๆ อยู่


ภาพยนตร์ Split เป็นภาพยนตร์การกํากับของเจ้าพ่อหนังทริลเลอร์หักมุมและได้รับการกล่าวขานจะเป็น Spielberg คนถัดไปอย่างอาบัง M. Night Shyamalan ที่เคยผ่านผลงานการกํากับภาพยนตร์นํ้าดีอย่าง The Sixth Sense , Unbreakable และ Signs แล้วยังไงก็ไม่รู้ก็กลายมาเป็นเจ้าพ่อหนังแป๊กซะงั้นจากผลงานการกํากับอย่าง Lady In The Water (2016) , The Happening (2008) , After Earth (2013) และหนังที่แย่มากกอย่าง The Last Airbender (2010) แต่แล้วก็กลับมาคืนฟอร์มกับภาพยนตร์ในปี2015 อย่าง The Visit และแล้วเขาก็กลับมาคืนฟอร์มเต็มที่กับหนังทริลเลอร์ชายโรคจิต 23 บุคลิก


Split เป็นภาพยนตร์ที่ดูแล้วตอนแรกนึกว่าจะเป็นหนังทริลเลอร์ทั่วไปหักมุมแบบปกติแต่ที่ไหนได้ เราเดาไม่ได้เลยว่าช่วงต่อไปจะเป็นยังไง ช่วงท้ายนี่คืออึ้งมาก ตอนที่เฉลยนี่เปลี่ยนมุมมองของเรากับหนังไปเลย ในส่วนนี้อาจจะทั้งมีคนชอบและไม่ชอบ หนังมีเนือยๆบ้างโดยเฉพาะกลางเรื่อง ตอนท้ายคือพีคมาก ตอนท้ายท้ายมีความระทึกที่สุด หนังทําให้เราสนใจติดตามไปกับทั้ง 23 บุคลิกของเควินได้เป็นอย่างดี ชอบที่หนังเอาจิตแพทย์มาเล่าเกี่ยวอาการของคนหลายบุคลิก คือทําให้เรารู้ว่าคนหลายบุคลิกมีลักษณะพิเศษยังไง สามารถทําอะไรได้บ้าง


ไม่ชอบตรงที่หนังใส่ดนตรีประกอบเยอะมากเกินไป ใส่จนน่ารำคาญ บางครั้งเสียงดนตรีประกอบก็ดังเกินไป ทําให้เราหลุดหรือไม่อินไปกับภาพยนตร์ในช่วงเวลานั้น


หนังเล่าถึงเด็กหญิง 3 คน ที่ถูกจับมาเพื่อเป็นอาหารให้แก่ The Beast ซึ่งคนที่เด่นที่สุดคงจะไม่พ้น Casey แสดงโดย Anya Taylor-Joy ซึ่งผมชอบเธอมากจาก The Witch ซึ่งในเรื่องนั้นแสดงดีมากกมาเรื่องนี้ก็แสดงได้ดีตามมาตรฐานเช่นเคย แต่ทําไมถึงเล่นแต่บทจิตๆอ่ะ อยากให้เธอเล่นแนวอื่นบ้าง คิดว่าฝีมือการแสดงของเธอทําให้เธอไปไกลได้แน่ๆในวงการนี้  หนังจะมีการเล่าถึงแฟลชแบคของตัวละครตัวนี้ว่าทําไมถึงเป็นคนแบบนี้ ทําแบบนี้ ทําไมถึงต้องแปลกแยกจากสังคม ซึ่งมันน่าสนใจมากๆ และสมเหตุสมผลดี และถ้าคิดว่าหนังทําภาค2 ออกมา คาดว่าน่าจะเล่าผ่านตัวละคร Casey ได้เพราะCaseyก็ต้องกลับไปอยู่กับลุงของเธอ เพราะเป็นผู้ปกครองคนเดียวของเธอ อาจจะเล่าว่าตอนที่อยู่กับลุงเป็นยังไง Casey จะหนีออกมาจากบ้านหรือไม่ ทําไมลุงต้องทําร้ายและข่มขืน Casey ผมคิดว่าตรงนี้มันน่าสนใจมากๆ


และแล้วตัวเด่นที่สุดของหนังคงไม่พ้น Kevin คนที่มี 23 บุคลิก แสดงได้น่ากลัวมากๆ นําแสดงโดย James McAvoy ในหนังเขาจะไม่ได้ไปเจาะลึกลักษณะนิสัยทั้ง 23 บุคลิก แต่จะเด่นอยู่ 4บุคลิก คือ Denis เป็นคนเจ้าระเบียบ และชอบดูผู้หญิงเต้นแก้ผ้า , Barry เกย์ผู้หลงไหลในแฟชั่น , Hedwig เด็กน้อย 9 ขวบ ผู้ไร้เดียงสา และ Patricia ผู้หญิงที่เคร่งครัดในศาสนา McAvoy ทําได้ดีมุากๆในการแสดงเป็นบุคลิกต่างๆที่แตกต่างกัน บุคลิกนึงไปอีกบุคลิก คือทําได้ดีมากๆ เอาอยู่ทุกบุคลิก และที่มาของ 23บุคลิก นั่นก็คือ เกิดจากตอนเด็กถูกแม่หรือผู้ปกครองทำร้าย รับแรงกดดันไม่ไหว จึงสร้างบุคลิกมา 23 แบบขึ้นมา เพื่อมาใช้ในการป้องกันตัวเอง และในหนังก็จะมีเพิ่มมาอีก 1 บุคลิก กลายเป็น 24 บุคลิก ก็คือ The Beast เป็นอสูรที่ร่างกายใหญ่โต กล้ามเป็นมัด ยิงปืนฟันแทงไม่เข้า อื้อหื้อ ฉากนั้นนึกถึง Luke Cage เข้ามาในหัวอย่างแรกเลย ยังกับซุปเปอร์ฮีโร่ โดยหนังก็มีการอธิบายว่า The Beast เกิดจากที่Kevinทํางานในสวนสัตว์แล้วแล้วเอานิสัยลักษณะของสัตว์ทุกตัวในสวนสัตว์มารวมกันจนเกิดกลายเป็น The Beast และหนังยังบอกอีกว่ามีเด็กสาวมาทัศนศึกษาแล้วเห็น Kevin แล้วอยากให้ Kevin จับนม OoO แล้วนั่นก็ทําให้ Kevin จิตตกไปเลย ซึ่งคาดว่าก็น่าจะเป็นอีเด็กเพื่อนของ Casey นั่นแหละ เพราะหนังก็อธิบายว่า Denis หนึ่งในบุคลิกของ Kevin ก็ติดตามสอดส่องดูเด็ก2คนนี้มานาน แต่ก็น่าสงสาร Casey ที่มาต้องติดร่างแหมาด้วย เพราะแค่ติดรถมาด้วยเอง น่าสงสาร


Split นี่เค้าว่ากันว่าเป็นหนังกึ่งภาคต่อกึ่งSpin-Off ของ Unbreakable (2000) กันเลยที่เดียว เพราะบรูซที่เล่นในUnbreakable เข้ามาแจมในตอนท้ายด้วย สุดยอดดด อึ้งมากก แล้วมีคนพูดว่าThe beast นี่คล้ายกับตัวร้ายคนนึงเลยเนอะที่ชอบนั่งอยู่ในรถเข็น แล้วบรูซก็บอกว่า Mr.glass นี่เป็นตัวพิสูจน์แล้วว่าSplitกับUnbreakable อยู่ในจักรวาลเดียวกัน  เห็นได้ข่าวว่า ตัวละคร 23 บุคลิก จะมีการพูดถึงในตอนต้นของ Unbreakable ด้วย แต่เห็นว่าไม่สําคัญจึงตัดทิ้งไป ถือว่านําส่วนนี้มาต่อยอดทําเป็นหนังอีกเรื่องได้อย่างดี  อยากเห็นMr.glass กับ The beast มาสู้กันอ่ะ ไหนๆก็อยู่จักรวาลเดียวกันแล้ว ซึ่งในงานของ M.night จะมีอะไรแบบนี้ออกมาเสมอ และที่จริงแล้วหนัง Spit มีความยาว 3 ชั่วโมงนะ เห็นว่ายาวเกินไปจึงตัดทิ้ง ใน3ชั่วโมงจะมีการเจาะลึกของ 23 บุคลิก ไม่แน่ในอนาคตเราอาจจะเห็นSplit ฉบับ Direct's Cut ก็เป็นได้
ที่มา : http://comicbook.com/popculturenow/2017/01/23/split-movie-deleted-scenes-directors-cut-blu-ray/
ปล.อยู่ดีๆจากหนังโรคจิตกลายมาเป็นหนังคนมีพลังวิเศษฟันแทงไม่เข้าได้ไงเนี่ย 555+


การที่บุคลิกแต่ละบุคลิกออกมาแต่ละครั้งก็จะต้องแย่ง "แสง" กัน โดยในหนังอธิบายไว้ว่าทั้ง23บุคลิกจะอยู่รวมกันในห้องๆหนึ่ง และจะมีเก้าอี้อยู่ตัวเดียว คือจะต้องแสงกันหรือแย่งเก้าอี้กัน เพื่อที่จะได้แสดงบุคลิกอีกอย่างหนึ่งออกมา ซึ่งตอนแรก Barry จะเป็นคนคุมร่างของ Kevin ตอพอหนังดําเนินเรื่องไปสักพัก Denis จะกลายเป็นคนคุมร่างแทน โดย Denis กับ Patricia จะเป็นคนที่เชื่อและเห็น The beast และเมื่อบุคลิกนึงเปลี่ยนไปเป็นอีกบุคลิกนึงซึ่งจะทําให้สารเคมีในร่างกายเปลี่ยนแปลงไป ในหนังก็มีบุคลิกนึงที่เป็นโรคเบาหวาน แล้วต้องฉีดยา แต่บุคลิกอื่นๆไม่จําเป็นต้องฉีดยา และ Dr.Fletcher ก็บอกว่าเคยมีเคสที่เด็กหญิงตาบอดมี3บุคลิกในร่างเดียวกัน และเมื่อเปลี่ยนไปอีกบุคลิกนึงสารเคมีทําการเปลี่ยนแปลงและสามารถมองเห็นได้


Dr.Fletcher แสดงโดย Betty Buckley เธอสามารถแสดงเป็นจิตแพทย์ได้ดีมากๆ ดูแล้วน่าเชื่อถือ ดูมีความรู้จริงๆ Dr.Fletcher เป็นคนที่ยอมทิ้งความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง เพื่อจะมาดูแลรักษาคนไข้ของเธออย่างจริงจัง และ Dr.Fletcher นั่นแหละที่ทำให้Kevin กลายเป็นThe Beast อย่างจริงจัง โดยที่ Dr.Flatcher พูดกับ Denis ว่าคุณน่ะเป็นบุคลิกที่พิเศษโดยที่คนอื่นไม่ได้มองว่าพิเศษอะไรเลยเป็นแค่คนป่วยทางจิตเท่านั้น ก็เลยทําให้เป็นThe Beast เต็มตัว และไปฆ่า Dr.Fletcher น่าสงสาร และที่ Denis จับตัว3สาวมา ก็เพราะต้องการให้เป็นอาหารแก่ The Beast เพราะต้องการให้เด็กสาวไร้ค่าตายไป และสุดท้ายเพื่อน2คนของ Casey ก็ถูกอสูรกินไป ไส้ทะลักเลย หยองง แล้วสุดท้าย Casey ก็รอดจากอสูร เพราะอสูรเห็นร่างกายเธอมีรอยแผลเป็นมากมาย ซึ่งน่าจะเกิดจากที่ถูกลุงทําร้ายและข่มขืน เมื่ออสูรเห็นว่าเธอเคยทนทุกข์มาก่อน เคยโดนทําร้ายมาก่อน จึงเห็นว่าอสูรกับCaseyเหมือนกัน ไม่ได้ไร้ค่า จึงไมาได้ฆ่าCasey และออกไปจากสวนสัตว์


หนังไว้ใจคนดูมากในการที่จะเล่าเรื่องผ่านภาพซะเป็นส่วนใหญ่ ผู้ชมจึงจะต้องใช้สมองในการคิดตามหนังด้วย จึงจะทำให้สนุกและไม่น่าเบื่อ และที่สําคัญภาพของหนังสวยมาก ถามว่าหนังหักมุมไหม หนังก็ไม่ได้หักมุมนะ แค่ไม่ได้คาดคิดว่าหนังไม่ได้ดําเนินเรื่องไปในทิศทางนั้นก็เท่านั้นเอง


สรุป : Split เป็นหนังที่สนุก กลางเรื่องแอบน่าเบื่อ ตอนท้ายพีคสุด ภาพ นักแสดงนําแสดงดีมาก แต่เพื่อนนางเอกแสดงได้ดีไม่เท่า หนังจะไม่ได้มาถึงแล้วลุ้นระทึกเลย หนังจะปูก่อนทางมาก่อน แล้วค่อยมาลุ้นตอนสุดท้าย และชอบที่หนังเอาจิตแพทย์มาอธิบายโรคหลายบุคลิก


ผมจะให้คะแนนหนังเรื่องนี้ 7/10


ชอบ Anya Taylor-Joy มากกก

ปล.ในบรรดาบุคลิกทั้งหมด ผมชอบ Hedwig สุดละ เพราะดูเป็นเด็ก 9 ขวบที่ดูไร้เดียงสา ไม่ได้ดูร้ายกาจอะไร แต่ก็แอบน่ากลัวอยู่เหมือนกัน แล้วคุณล่ะชอบบุคลิกไหนมากที่สุด?


และขอบอกว่า James McAvoy จมูกแหลมมากกก