พอดีผมมีโอกาศได้ไปฝึกงานที่ เมกา 1 ปี แล้วจะต้องบินสิ้นเดือน กุมภา นี้ครับ แต่ผมต้องทำการขอผ่อนผันทหาร(ครั้งที่ 3 )ในช่วงเดือน เมษา ซึ่งผมไม่อยู่ที่ไทยแล้ว ผมได้ไปปรึกษาเรื่องนี้กับสัสดีจังหวัด ท่านบอกให้ไปอ่าน มาตรา 27(2) แล้วเตรยมเอกสารพวกนี้ไปครับ
๒.๑.๔ หลักฐานที่จะต้องยื่นต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอผ่อนผันมีดังนี้
ก. สำเนาใบสำคัญ ( แบบ สด.๙)
ข. สำเนาหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร ( แบบ สด.๓๕) ถ้ามี
ค. สำเนาทะเบียนบ้าน , บัตรประจำตัวประชาชน , หนังสือเดินทาง
ง. ต้นฉบับหนังสือรับรองสถานศึกษาพร้อมสำเนา (ต้องระบุระยะเวลาที่ต้องศึกษา มีกำหนดเวลากี่ปี)
จ. ต้นฉบับคำแปลเป็นภาษาไทยของหนังสือรับรองสถานศึกษาพร้อมสำเนา (ต้องลงชื่อและตำแหน่งผู้แปลด้วย)
ฉ. ต้นฉบับหนังสือรับรองสถานทูตหรือสถานกงสุลของประเทศที่ได้ไปศึกษาพร้อมสำเนา
ผมอยากทรายว่า 1.เอกสาร จ.นี่คือเอกสาร DS รึเปล่าครับ หรือเอกสารอะไรรึเปล่า
2.เอกสาร ฉ. นี่คือเอกสารอะไรครับ จะติดต่อขอรับหนังสือนี้ยังไง รับรอเรื่องอะไร
3.จากข้อความข้างล่างนี่ ถ้าผมทำเรื่องไม่ทัน ผมสามารถยืนเรื่องผ่อนผันย้อนหลังได้ใช่ไหมครับ
๔. ถ้ายื้นคำร้องผ่อนผันภายหลังเดินทางไปต่างประเทศแล้ว นอกจากหลักฐานจะต้องครบถ้วนตามข้อ ๒ แล้ว ต้องมีหนังสือรับรองสถานทูตหรือสถานกงสุลหรือผู้ดูแลนักเรียนไทยที่ตั้งอยู่ ณ ประเทศที่ไปศึกษา รับรองว่านักเรียนผู้นั้นกำลังศึกษาวิชาอะไร อยู่สถานศึกษาใดด้วย
อ้างอิงจาก
https://www.gotoknow.org/posts/3464
รบกวนผู้รู้ให้คำปรึกษา เรื่องผ่อนผันทหารตามมาตรา 27(2)
๒.๑.๔ หลักฐานที่จะต้องยื่นต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอผ่อนผันมีดังนี้
ก. สำเนาใบสำคัญ ( แบบ สด.๙)
ข. สำเนาหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร ( แบบ สด.๓๕) ถ้ามี
ค. สำเนาทะเบียนบ้าน , บัตรประจำตัวประชาชน , หนังสือเดินทาง
ง. ต้นฉบับหนังสือรับรองสถานศึกษาพร้อมสำเนา (ต้องระบุระยะเวลาที่ต้องศึกษา มีกำหนดเวลากี่ปี)
จ. ต้นฉบับคำแปลเป็นภาษาไทยของหนังสือรับรองสถานศึกษาพร้อมสำเนา (ต้องลงชื่อและตำแหน่งผู้แปลด้วย)
ฉ. ต้นฉบับหนังสือรับรองสถานทูตหรือสถานกงสุลของประเทศที่ได้ไปศึกษาพร้อมสำเนา
ผมอยากทรายว่า 1.เอกสาร จ.นี่คือเอกสาร DS รึเปล่าครับ หรือเอกสารอะไรรึเปล่า
2.เอกสาร ฉ. นี่คือเอกสารอะไรครับ จะติดต่อขอรับหนังสือนี้ยังไง รับรอเรื่องอะไร
3.จากข้อความข้างล่างนี่ ถ้าผมทำเรื่องไม่ทัน ผมสามารถยืนเรื่องผ่อนผันย้อนหลังได้ใช่ไหมครับ
๔. ถ้ายื้นคำร้องผ่อนผันภายหลังเดินทางไปต่างประเทศแล้ว นอกจากหลักฐานจะต้องครบถ้วนตามข้อ ๒ แล้ว ต้องมีหนังสือรับรองสถานทูตหรือสถานกงสุลหรือผู้ดูแลนักเรียนไทยที่ตั้งอยู่ ณ ประเทศที่ไปศึกษา รับรองว่านักเรียนผู้นั้นกำลังศึกษาวิชาอะไร อยู่สถานศึกษาใดด้วย
อ้างอิงจาก https://www.gotoknow.org/posts/3464