**วันนี้ผมได้ช่วยนักเรียนช่างกลหมู่บ้านครู.ถึง2ครั้ง(รถปิกอัพชนมอไซค์จนล้มกลิ้งคาไฟแดงที่เพชรเกษม69)**Byเขียวเหลืองใจดี

กระทู้คำถาม


...ในสภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำ เงินทองหายาก งานต่างๆหดหาย..จนไม่รู้จะทำอะไรดี
เช้าวันนี้ผมก็เลยจับแท็กซี่เขียวเหลืองคู่กาย มุ่งหน้าไปตามถนนบรมราชชนนี..โชคดีได้ผู้โดยสารไปที่ขนส่งสายใต้ 1คน
แล้ววิ่งรถเปล่าไปทางถนนกาญจนา มุ่งหน้าบางแค..เจอผู้โดยสารหญิงคนหนึ่ง กับลูกสาวตัวน้อยๆยังเรียนอนุบาล2คน..
ขึ้นจากหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ใกล้ๆห้างเดอะมอลล์..บอกว่า จะไปเพชรเกษม77(รร.อนุบาลเด่นหล้า)
..ช่วงที่วิ่งไปตามถนนเพชรเกษม ถึง4แยกไฟแดงคลองขวาง(เพชรเกษม69)..รถหนาแน่น และติดไฟแดงยาวเหยียด.
.ผมจอดอยู่เลนที่2..เพราะเลนซ้ายสุด เป็นเลนเลี้ยวซ้ายเข้าไปคลองขวาง
..พอไฟเขียว..ผมรีบออกรถ และกำลังจะเร่งความเร็วให้ผ่าน4แยกให้เร็วที่สุด
...แต่ทันใดนั้น..ทางเลนซ้ายมือของผม..ได้มีปิกอัพคันหนึ่ง ชนเปรี้ยง/..ไปที่ท้ายรถมอไซค์ อย่างแรง
จนมอไซค์ล้มกลิ้งไถลไปกับพื้นถนน และทับร่างชายหนุ่มคนขับมอไซค์
..หญิงสาวและเด็กๆ2คน ในรถของผม..ตกใจร้องกรี๊ดลั่น.. แต่สำหรับผมตั้งสติได้เร็ว..รีบเหยียบเบรก
และค่อยๆหักพวงมาลัยรถแทกซี่คู่ใจ..ไปขวางเลนที่เกิดอุบัตินั้นเอาไว้ก่อน..
เพื่อไม่ให้รถคันหลังที่วิ่งตามมาหลายคันและกำลังจะใช้ความเร็ว  มาชนทับร่างเด็กหนุ่มคนนั้น
..และผมก็เปิดไฟกระพริบฉุกเฉิน...อยู่ห่างจากมอไซค์ที่ทับร่างของเด็กหนุ่ม ไม่ถึง1วา...
...เสียงหญิงสาวที่นั่งในรถแทกซี่ของผม ร้องขึ้นว่า... “รถปิกอัพคันนั้น มันตั้งใจชนท้าย ..จำทะเบียนมันเอาไว้.. ฎอ 86XX
..คุณน้าเก่งจังเลยที่หยุดรถทัน หากเป็นหนูนะ..ชนทับเขาแน่นอน เพราะหนูจะตกใจและทำอะไรไม่ถูก
และหนูเคยขับรถชนมอไซค์มาแล้ว จนหนูไม่อยากขับรถอีก”
..จากนั้น..ผู้คนที่ยืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์  เชิงสะพานลอยเพชรเกษม69...ก็วิ่งกรูกันออกมาช่วยหลายคน.
.รวมทั้งครูชายคนหนึ่งที่แต่งชุดลูกเสือ..และผมเห็นคนขับรถปิกอัพ(ทำหลังคาแครี่บอย แบบรถขนเงินธนาคาร)
..ร่างท้วมๆ ใส่ชุดสีกรมท่า..ลงมาจากรถด้านคนขับ และเดินมาดูเหตุการณ์
...เมื่อผมเห็นว่าเด็กหนุ่มคนนั้นปลอดภัย และค่อยๆพยุงตัวนั่งได้แล้ว..ผมก็ค่อยๆหักรถแทกซี่ออกจากเลนนั้น
..แล้วไปส่งเด็กๆอนุบาลที่ รร.เด่นหล้า...แล้วหญิงสาวคนนั้น ก็ไปต่อ..ที่กรมขนส่งพื้นที่2 (ถนนสวนผัก ตลิ่งชัน)..เพื่อทำใบขับขี่
...และตลอดทางเราก็ได้สนทนากันในเรื่องอุบัติเหตุนี้...(หญิงสาวคนนี้เคยเรียนที่ สตรีวิทยา และเรียนต่อธรรมศาสตร์.
.เธอรู้เรื่องการเมือง..การมี รปห.ทุกๆครั้งได้ดี..และอยู่ในเหตุการณ์หลายๆครั้ง และเธอก็ได้เล่าเรื่องราวต่างๆให้ผมฟัง)
..จากนั้น ก็มีหญิงสาว2คน..โบกรถและไปที่ ศาลแขวงธนบุรี (ซอยกำนันแม้น ใกล้ๆวัดสิงห์..ถนนเอกชัย บางบอน).
.ผมก็ได้เล่าเรื่องราวอุบัตินี้ให้ฟัง รวมทั้งสนทนากันในเรื่องคดีวัยรุ่นรถตู้ กับวิศกร..ซึ่งกำลังอยู่ในความสนใจของผู้คน
**...แล้วคำว่า..โลกกลม..มันก็มีจริงๆครับ.**
...เมื่อผมขับรถกลับมาที่ถนนเพชรเกษม และมาถึง4แยกไฟแดง คลองขวาง นั้นอีกครั้ง...
ผมเห็นนักศึกษาช่างคนหนึ่ง..ใส่ชุดสีกรมท่า..ในมือถือถุงกระดาษยา..มีตรา รพ.วิชัยเวช (หนองแขม)
..และที่เท้าของเขามีผ้าพันแผลพันอยู่..มีรอยทำแผลใหม่..เดินกระเผลกๆๆจากศาลาป้ายรถเมล์ มาที่ริมฟุตบาต
...ผมสังหรณ์ใจนิดๆว่าจะใช่เด็กหนุ่มที่เกิดอุบัติเหตุเมื่อเช้านี้ไหมนะ?..เพราะเมื่อเช้านี้เขาใส่เสื้อแขนยาวกันแดดลม
..ไม่ใช่ใส่เสื้อช่างกล แบบนี้...นี่นา...ผมค่อยๆจอดรถให้เขาขึ้นนั่งหน้า...เห็นก้าวขาอย่างลำบากเพราะเจ็บแผล..
....ไปเพชรเกษม110 ครับ...(ผมรู้เลยว่าจะต้องไปที่ ช่างกลหมู่บ้านครู..เพราะในซอยยนี้ก็มีสถาบันนี้แหละ และ ม.ธนบุรี)
แรกๆก็นั่งเงียบไม่ได้ถามอะไรกัน..แต่พอถึงแยกไฟแดงพุทธมณฑลสาย3..มีอุบัติเหตุรถชนกันหลายคัน.
.รถฉุกเฉินของ รพ.วิชัยเวช  กำลังเปิดหวอ วิ่งมา2คัน
...ผมก็เลยพูดว่า..เอาอีกแล้วเหรอ..เมื่อเช้าก็แยกไฟแดงคลองขวาง..ต่อหน้าต่อตาผมจะ...นี่ก็เอาอีกแล้ว...
.. “อ้าว//..พี่เองหรอกหรือที่ช่วยผมเมื่อเช้านี้..ผมเองนี่แหละที่โดนชนเมื่อเช้านี้..”
(นักเรียนช่างกลหนุ่มหันมาพูดกับผมอย่างแทบจะไม่เชื่อในเรื่องราว)...แล้วเขาก็เล่าให้ผมฟังว่า...
... “จริงๆก็ขับมอไซค์แซงกันไปแซงกันมาในระยะหนึ่ง..มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ขับเฉียดกระจกส่องข้างรถเขา แต่ไม่ถึงกับชน..เพื่อแซงไปอีกเลน
..และตั้งใจว่า ถึงไฟแดงคลองขวางก็จะเปลี่ยนเลน..แต่ไม่นึกว่าเขาจะกล้าขับชนท้ายแบบนั้น..
..และก็จำได้ว่าข้างขวา  มีแทกซี่เขียวเหลืองคันหนึ่ง ..และตอนล้มไปกับพื้นนั้น ก็คิดว่าคงจะโดนแทกซี่คันนั้น..ชนทับซ้ำแน่นอน
เพราะความเร็วขนาดนั้นคงหยุดกะทันหันยากมาก...ขอบคุณนะครับพี่ ที่ช่วยเหลือผมจนรอดมาได้
...คนขับรถคันนั้นทำงานธนาคาร เขารับผิดชอบเรื่องค่ารักษา..ค่าซ่อมรถมอไซค์..และพรุ่งนี้เจ้านายเขานัดให้ผมไปคุยกันอีกรอบ”
..ผมหันไปยิ้มให้นักเรียนหนุ่มช่างกล..และพูดขึ้นว่า..
“ไม่เป็นไรหรอกนะ เราลูกพระวิษณุ ด้วยกัน...ผมเองก็เด็กช่าง จากรั้ว ไทย-เยอรมัน..จากถิ่นที่ราบสูง...
มาต่อสู้ชีวิตในเมืองกรุงซะหลายปี...มา2-3ปีนี้เศรษฐกิจไม่ดี งานอื่นๆหดหาย ก็เลยมาขับแทกซี่หาเงินอีกทางหนึ่ง
....และยินดีที่ได้ช่วยเหลือกันในวันนี้...
...ถึงหน้าป้าย สถาบันช่างกลหมู่บ้านครู...เด็กช่างกลหนุ่มได้ยื่นเงินค่ามิเตอร์ ให้กับผม พร้อมกับยกมือไหว้ อีกครั้ง
...ก่อนจะค่อยๆเดินกระเผลกๆๆ เข้าไปในรั้วสถาบัน
...จากนั้นก็มี น.ศ.สาว นั่งไปที่ ม.กรุงเทพธนบุรี  เลียบคลองทวีวัฒนา...ไปที่ซอยวัดส้มเกลี้ยง อ.บางใหญ่.
..มีชายคนหนึ่งนั่งต่อไปที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) บางกรวย...โดยใช้เส้นทางเลียบทางรถไฟ บางบำรุ..
.มีคนนั่งกลับมาที่ บางแค....พอถึงเวลา13.30น. ผมก็ได้ค่าโดยสารครบ1พันบาท...
(ทั้งๆที่ในวันก่อนๆไม่เคยได้ถึง1พันเลย เพราะพิษเศรษฐกิจถดถอย..ทุกอาชีพลำบาก รัดเข็มขัดกันทุกคน)
...เขียวเหลืองใจดีคันน้อยๆ..ค่อยๆทะยานกลับสู่เรือนชาน ไปตามถนนกาญจนา...มุ่งหน้า บรมราชชนนี ...
..แม้วันนี้จะลำบากเพราะพิษเศรษฐกิจที่ย่ำแย่...แต่ก็พอจะมีรอยยิ้มอยู่บ้าง..ที่ได้ช่วยเหลือผู้คนบนท้องถนน คนแล้ว คนเล่า
...และจะช่วยต่อๆไป..ตราบที่ยังมีลมหายใจและมีแรง
เพื่อให้สังคมได้รับรู้ว่า...แทกซี่ใจดี..มีน้ำใจ...ก็ยังมีอยู่ และจะไม่หายไปจากท้องถนนเมืองกรุง ที่เต็มไปด้วยรถรา
....และสังคม ที่เริ่มขาดความมีน้ำใจ..น้อยลงไปทุกทีๆๆๆๆ.....
........................
เขียวเหลืองใจดี คนมีน้ำใจ ไปทุกที่ไม่มีปฎิเสธ
9 ก.พ.60
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่