ดูในรายการบุบโต๊ะข่าว ทนายบอกว่า ถ้าลุงโชว์ก่อน จะอ้าง "ป้องกันตัว" ไม่ได้แล้ว กลายเป็น "สมัครใจทะเลาะวิวาท"

ที่คนรวมหลักฐานมาคือ วันแรกชาวแก๊งพูดว่า "ลุงโชว์ปืน ขู่" ต่อมาบอก "เห็นค้นอะไรไม่รู้ในกระเป๋า"

อ้าว แล้วตกลง ลุงโชว์ปืนจริงหรือไม่?

ตกลงแก๊งคู่กรณี รู้หรือไม่ว่าลุงมีปืน ?
- ถ้ารู้เท่ากับลุงโชว์จริง
- ถ้าไม่รู้เท่ากับลุงไม่ได้ใช้ปืนขู่

บางคนบอกว่า คนพวกนี้โง่เข้าไปหาเรื่องลุงทั้งๆ ที่เค้ามีปืน เป็นเขาๆ เผ่นแล้ว ไม่ซ่าลงไปหาเรื่องรุม
บางคนบอก ปืนลุงอันเล็กนิดเดียว คนพวกนี้เลยไม่เชื่อว่าของจริง คิดว่าของปลอม
บางคนก็บอกอีกว่าความจริงแล้วที่มันกล้าลงไปรุมก็เพราะพวกมันเองก็มีปืนเหมือนกัน

เอาเป็นว่าเรื่องคดี ต้องไปต่อสู้ในชั้นศาล แต่เรื่องที่ว่า "ได้มีการโชว์ปืนให้ดู" มันเป็นข้อที่หยิบเอาไปสู้ในศาลได้ใช่มั้ย?


ไม่รู้เรื่องเป็นไงมาไง ณ จุดจอดรถ อาจมีการกระทับกระทั่งหรืออะไรก็แล้วแต่ เราเข้าใจนะว่าปุถุชนย่อมมีอารมณ์ ทั้งลุงและแก๊งคู่อรินั่นแหละ
แต่พวกไม่ยอมจบ คิดว่าพวกมากแล้วจะทำอะไรก็ได้รึไง ลงมากะรุมเค้า โดนโป้งเดียวจอดเลย
เราสะใจกับกรณีนี้ที่พวกอันธพาลกร่างๆ ในสังคมจะได้เห็นบทเรียนเสียบ้าง เผื่ออันธพาลปอดแหกบางคนจะได้กลัวการหาเรื่องคนอื่นขึ้นอีกนิด คนที่ดูดีๆ ดูสุภาพ ดูไม่ใช่สายนักเลงเค้าอาจมีตัวช่วยที่ทำให้ถึงตายอยู่ในมือ อย่างน้อยคนพวกนี้จะได้คิดก่อนหาเรื่องใคร

แล้วเราเบ้ปากสุดๆ ตอนตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จออกสื่อ ไม่ไหวจะเคลียร์ หาว่าลุงเป็นสปีชีย์ปลาเก๋าด้วยภาษาพ่อขุนนี่นะคุยดีๆ?
ที่ยี้สุดๆ คือโพสต์ลงโซเชียลอย่างกับแก๊งตัวเองเป็นวีรชนเสียวีรบุรุษในสถานการณ์มีเกียรติ
โพสต์เฟซบอกรักนักรักหนา พอเสียงปืนดังแตกฮือทั้งฝูง ตอนแรกรวมตัวกันเหนียวแน่น พอคลิปหน้ารถมาแม้แต่งานศพเค้ายังไม่ไป หายเกลี้ยง!
ละที่หมั่นไส้คือขู่อาฆาตผ่านเฟซโชว์พาวนี่แหละ
ยังคิดไม่ได้เนอะ ปัญญามีน้อยนิดโดยแท้ ถ้าเก็บตัวสงบปากสงบคำไม่ทำตัวกร่างไม่อวดพฤติกรรมโชว์สาธารณะชาวเผือกเค้าก็ไม่มีเรื่องเด็ดๆ ให้ขุดมาประจานต่อแล้ว
เป็นไง ใหญ่แค่ไหนเจอ cyberbullying เข้าไป สะใจมั้ยล่ะ? การโดนสังคมรุมประณามสาปแช่งมันไม่เจ็บเหมือนโดนต่อยหรอก แต่มันจะทำให้อยากกระอักเลือดตายเลยแหละ นี่แหละพิษภัยของกล้อง พินาศมากี่คนแล้ว ดีเจสังคมดี๊ดี พิธีกรกราบรถ และอีกหลายกรณี โดนไปทีที่ยืนในสังคมแทบไม่มีเลยอะ