Legoooo หนุกหนานๆ แปลกดี
ได้ดู IMAX จอใหญ่สะใจเต็มหน้าเลยครับ แถมสามมิตินี่มาเต็ม
เข้าไปดูแบบไม่ได้ทำการบ้าน (อีกแล้ว) ... ราวกับดูรายการ Mask Singer แล้วนั่งคิดว่าใครเป็นคนพากษ์เสียง 55555 ... โดยเฉพาะเสียงอัลเฟรด
จำภาคแรกไม่ค่อยได้ แต่เหมือนจะคนละเนื้อเรื่องกันเลย
เนื้อเรื่องคร่าวๆ คือ Batman ทำหน้าที่ Superhero ช่วยเมือง ก๊อตแฮม ... ถ้าจะเล่าคร่าวขนาดนี้ มันเหมือนกันทุกภาคเลย ฮาาาา
แต่คราวนี้ไม่ได้มีตัวร้ายแค่ Joker เท่านั้น มีอีกเพียบ แต่มาแบบแว๊บๆๆ
โทนี่มั่นใจได้ว่าคนเขียน Screenplay เป็นคนช่วงอายุ 35+ แน่นวลลล ด้วยเนื้อหา มุข คำพูด ... แอบไปดูละก็จริงด้วย อิอิ
เพราะมีอ้างอิงซุปตาร์ Michael Jackson ด้วย แถม Ost ยังเป็น Man in the Mirror อีก ... วัยเดียวกันชัดๆ ...
สิ่งที่ผมพลาดคือ ครึ่งเรื่องดูแบบซีเรียสมากไปนิด ... ลืมว่ามันเป็นการ์ตูน ไม่มีเหตุผล ไม่มีความจริง ... แต่ยังพอกลับฝั่งได้
หนังสนุกดีครับ มันมีความต่อเนื่องไปจนจบไม่ค่อยขาดตอน มาไวไปไวดีไม่ต้องลุ้นอะไรเยอะ ไม่ต้องคิดหลายขั้นตอน ... แต่ผมว่ามันพูดเร็วไปนิด จนถึงขั้นเร็วมว๊ากก (ปกติไม่ค่อยอ่านซับ) ... ไม่แน่ใจว่าให้เด็กดูหรือตั้งใจให้ผู้ปกครองดูเหมือนกัน (เชื่อว่าให้ผู้ใหญ่ดูนะ) ... เพราะผมว่าบางมุกนี่มันรุ่นใหญ่ชัดๆ แถมยิงหลายรอบอีก ... ชอบที่เราสามารถรับรู้อารมณ์ของตัวการ์ตูนได้เพียงมองตา ^^ ... เหมือนเรื่อง เบย์แมก ใน Big Hero เลย
จุดเด่นผมว่าเป็นความตื่นตาตื่นใจของภาพนะ มันเหมือนจะเยอะๆ รกๆ แต่ดูลงตัวดีนะ
เราจะได้เห็น Batman เหมือนในโลกความจริงมากขึ้น ฮีโร่ก็เป็นคนปกติ มีความเสียสละ มีการเปลี่ยนแปลง มีการให้อภัย
ผมว่ามันต่อเนื่องจาก Dark Knight นะ ที่พยายามจะบอกว่าทุกคนสามารถเป็นฮีโร่ได้ เพียงแต่เลือกที่จะทำอะไรแบบไหน
บางสิ่งบางอย่างเราไม่สามารถทำคนเดียวได้ ต้องเชื่อใจทีม เชื่อใจคนอื่น
ผมคนนึงที่เคยเล่น Lego ตอนเด็กๆ แล้วคิดว่ามันมีชีวิตชีวา เอามาวางเป็นเรื่องเป็นราว ... แต่ความสนุกที่สุดผมว่ามันอยู่ที่ตอนประกอบ ^^
สุดท้าย Quote นี้ผมไม่แน่ใจ ว่าใกล้เคียงแค่ไหน แต่ประมาณนี้แหล่ะครับ
"You can't be a hero if you only thinking about yourself"
จนกว่าจะพบกันใหม่
=======================================================================
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เนต
ขอบคุณเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์
Tony Freeman
[SR] The LEGO Batman Movie 7.5/10 ไม่สปอย
ได้ดู IMAX จอใหญ่สะใจเต็มหน้าเลยครับ แถมสามมิตินี่มาเต็ม
เข้าไปดูแบบไม่ได้ทำการบ้าน (อีกแล้ว) ... ราวกับดูรายการ Mask Singer แล้วนั่งคิดว่าใครเป็นคนพากษ์เสียง 55555 ... โดยเฉพาะเสียงอัลเฟรด
จำภาคแรกไม่ค่อยได้ แต่เหมือนจะคนละเนื้อเรื่องกันเลย
เนื้อเรื่องคร่าวๆ คือ Batman ทำหน้าที่ Superhero ช่วยเมือง ก๊อตแฮม ... ถ้าจะเล่าคร่าวขนาดนี้ มันเหมือนกันทุกภาคเลย ฮาาาา
แต่คราวนี้ไม่ได้มีตัวร้ายแค่ Joker เท่านั้น มีอีกเพียบ แต่มาแบบแว๊บๆๆ
โทนี่มั่นใจได้ว่าคนเขียน Screenplay เป็นคนช่วงอายุ 35+ แน่นวลลล ด้วยเนื้อหา มุข คำพูด ... แอบไปดูละก็จริงด้วย อิอิ
เพราะมีอ้างอิงซุปตาร์ Michael Jackson ด้วย แถม Ost ยังเป็น Man in the Mirror อีก ... วัยเดียวกันชัดๆ ...
สิ่งที่ผมพลาดคือ ครึ่งเรื่องดูแบบซีเรียสมากไปนิด ... ลืมว่ามันเป็นการ์ตูน ไม่มีเหตุผล ไม่มีความจริง ... แต่ยังพอกลับฝั่งได้
หนังสนุกดีครับ มันมีความต่อเนื่องไปจนจบไม่ค่อยขาดตอน มาไวไปไวดีไม่ต้องลุ้นอะไรเยอะ ไม่ต้องคิดหลายขั้นตอน ... แต่ผมว่ามันพูดเร็วไปนิด จนถึงขั้นเร็วมว๊ากก (ปกติไม่ค่อยอ่านซับ) ... ไม่แน่ใจว่าให้เด็กดูหรือตั้งใจให้ผู้ปกครองดูเหมือนกัน (เชื่อว่าให้ผู้ใหญ่ดูนะ) ... เพราะผมว่าบางมุกนี่มันรุ่นใหญ่ชัดๆ แถมยิงหลายรอบอีก ... ชอบที่เราสามารถรับรู้อารมณ์ของตัวการ์ตูนได้เพียงมองตา ^^ ... เหมือนเรื่อง เบย์แมก ใน Big Hero เลย
จุดเด่นผมว่าเป็นความตื่นตาตื่นใจของภาพนะ มันเหมือนจะเยอะๆ รกๆ แต่ดูลงตัวดีนะ
เราจะได้เห็น Batman เหมือนในโลกความจริงมากขึ้น ฮีโร่ก็เป็นคนปกติ มีความเสียสละ มีการเปลี่ยนแปลง มีการให้อภัย
ผมว่ามันต่อเนื่องจาก Dark Knight นะ ที่พยายามจะบอกว่าทุกคนสามารถเป็นฮีโร่ได้ เพียงแต่เลือกที่จะทำอะไรแบบไหน
บางสิ่งบางอย่างเราไม่สามารถทำคนเดียวได้ ต้องเชื่อใจทีม เชื่อใจคนอื่น
ผมคนนึงที่เคยเล่น Lego ตอนเด็กๆ แล้วคิดว่ามันมีชีวิตชีวา เอามาวางเป็นเรื่องเป็นราว ... แต่ความสนุกที่สุดผมว่ามันอยู่ที่ตอนประกอบ ^^
สุดท้าย Quote นี้ผมไม่แน่ใจ ว่าใกล้เคียงแค่ไหน แต่ประมาณนี้แหล่ะครับ
"You can't be a hero if you only thinking about yourself"
จนกว่าจะพบกันใหม่
=======================================================================
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เนต
ขอบคุณเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์
Tony Freeman