อุปกรณ์สายลับอังกฤษสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

กระทู้สนทนา

อาวุธยุทโธปกรณ์ ประวัติศาสตร์ ประเทศอังกฤษ

คลังแสงอาวุธสายลับแบบ James Bond
ที่มีใช้กันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ในแนวหลังของศัตรูมากกว่า 70 ปีที่ผ่านมา

เครื่องมือลับเหล่านี้ถูกจัดหาโดย MI9
แผนกพิเศษของศูนย์บัญชาการรบ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่าง 1939-1945
เพื่อมอบให้กับสายลับระดับแนวหน้า
ในหน่วยยุทธการพิเศษระดับสูง
Special Operations Executive

อุปกรณ์นี้ใช้งานเพื่อการหลบหนีและหลีกเลี่ยงศัตรู
มีทั้งของที่ใช้ลอบสังหารที่เป็นทั้งของมีคมและมีดสั้นร่วมกัน
ข้าวของเหล่านี้เป็นของนักสะสมของที่ระลึกช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

OSS Escape Utility Knife : มีดที่มีใบเลื่อย มีดเจาะยาง และคีมตัดลวด

Assassination Lapel Spike : แท่งเหล็กที่ซ่อนไว้ในเสื้อผ้า

แต่เมื่อดึงออกมาจะมีความยาวเรียวคมถึง 4 นิ้วใช้เป็นอาวุธ

อาวุธพวกนี้ถูกใช้เพื่อสังหารทหารยามเยอรมันนีทีเผลอ
หรือใช้เจาะยางรถยนต์เพื่อทำให้มันวิ่งต่อไปไม่ได้
เป็นการวินาศกรรมเพื่อต่อต้านนาซีเยอรมันนีช่วงยึดครองยุโรป

ยังมีอาวุธอีกแบบที่คล้ายกันคือ
มีดยาว 3 นิ้วที่ซ่อนไว้ในรูปปากกาหมึกซึม

ลวดหนามใช้ขันชะเนาะที่ติดกับปลายแหวนทั้งสองข้าง
ใช้ในการรัดคอศัตรูและทำอันตรายถึงตายได้

และชิ้นที่สำคัญคือ กุญแจเหล็กที่ปลายลูกกุญแจ
ขันสกรูออกมาได้ข้างในกลวงไว้เป็นที่ใส่ยาพิษ

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์สายลับอย่างอื่นของ SOE
ที่จะประมูลขายมีกระดุมเสื้อที่ข้างในเป็นเข็มทิศ
รองเท้าที่มีเข็มทิศซ่อนอยู่ในซ่นรองเท้า
หวีผมและดินสอที่มีมีดซ่อนอยู่ข้างใน

Protona Microphone Spy Watch Recorder: ใช้ลอบบันทึกเสียงการสนทนา

นาฬิกามีสายไมโครโฟนเชื่อมต่อกับอุปกรณ์บันทึกเสียง หรือตัวส่งวิทยุ

The Commando Garrote Wire: ลวดหนามขันชะเนาที่ติดกับปลายแหวนทั้งสองข้าง

มักจะมอบให้สายลับและใช้สังหารศัตรูถึงตายได้

The Royal Air Force Tunic Button พร้อมกับเข็มทิศซ่อนอยู่ข้างใน

ไว้ค้นหาทิศทางในกรณีที่หลงทางในแนวหลังของศัตรูระหว่างสงคราม

.
Mathew Tredwin บริษัทประมูลทรัพย์สิน
C&T Auctioneers of Ashford ที่ Kent

" อุปกรณ์บางอย่างที่เห็นในตอนนี้ดูแล้วอาจจะรู้สึกเฉย ๆ
แต่ถ้าคุณเห็นตอนที่มันใช้ลอบสังหารศัตรู
โดยพวกสายลับแล้วคุณก็จะต้องคิดเป็นอีกแบบหนึ่ง

คุณสามารถจินตนาการได้ถึงปฏิบัติการของ SOE
หลายคนในนั้นเป็นสตรีที่ถูกทหารเยอรมันนีไล่ต้อนจนจนมุม
ทั้งหมดที่จะทำได้คือการขโมยอาวุธเพื่อต่อสู้แล้วหลบหนีออกมา

หรือคืบคลานเข้าไปใกล้ ๆ ศัตรู
แล้วจัดการรัดคอให้ตายด้วยลวดหนามขันชะเนา

มันเป็นเรื่องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายยามสงคราม
เพราะถ้าถูกจับได้ต้องถูกยิงเป้าสถานเดียว

พวกเขาคือวีรบุรุษสงครามที่แท้จริง
หลายคนต่างไม่ได้รับเกียรติยศ
หรือกล่าวขานถึงปฏิบัติการลับในครั้งนั้น
ทั้งที่มีผลงานนับครั้งไม่ถ้วนในอดีต

อาวุธสายลับเหล่านี้มีจำนวนไม่มากนัก
และไม่ค่อยพบเห็นกันแต่อย่างใด
เพราะถูกใช้ในการปฏิบัติการลับ
ที่พวกเขามักจะถูกจำหน่ายว่าสูญ
(ตายถ้าไม่ได้กลับมาฐานที่มั่น)

มันยากมากทีเดียวที่จะพบทั้งชุดแบบนี้
มีอุปกรณ์สายลับหลายชิ้นสำหรับนักสะสม
ผมคิดว่ามีหลายชิ้นเหมือนอุปกรณ์สายลับของ James Bond
ที่ดูแล้วอาจจะชื่นชอบและเย้ายวนใจให้อยากสะสมไว้ "

The Concealment Key: ปลายหัวกุญแจแกะออกได้

มีสกรูที่ขันออกมาได้ ข้างในกลวงไว้ใส่ยาพิษ

(กินเองเพื่อฆ่าตัวตายหรือใส่ให้ศัตรูกินแล้วตาย

.
The Special Operations Executive เป็นองค์กรลับอังกฤษ
ที่ดำเนินการจารกรรม ก่อวินาศกรรม และลาดตระเวณ
รวมทั้งช่วยเหลือการรบกองโจรของชาวบ้านฝ่ายต่อต้านนาซีเยอรมันนี
ในเขตยึดครองยุโรปของฝ่ายอักษะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

องค์กรดังกล่าวนี้มีสายลับร่วมงานโดยตรงหรือโดยอ้อม
ราว ๆ 13,000 คน ประมาณว่าเป็นสตรีถึง 3,200 คน
แต่มีน้อยคนมากที่จะรู้จักสายลับขององค์กรลับแห่งนี้
เพราะทุกเรื่องราวเป็นความลับและมีความเสี่ยงอย่างมาก
ถ้าสายลับถูกนาซีเยอรมันนีจับตัวได้มักจะถูกประหารชีวิต
หลังจากถูกทรมานทารุณกรรมจนคาดว่ารีดความลับเสร็จแล้ว

มีรายการอุปกรณ์สายลับที่แยกขายด้วยการประมูลหลายรายการ
ราคาเริ่มต้นที่ 100-1,000 ปอนด์แล้วแต่อุปกรณ์สายลับ
ทั้งหมดนี้จะเริ่มทำการประมูลในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ศกนี้

เรียบเรียง/ที่มา dailymail.co.uk

https://goo.gl/qiLHqA
http://dailym.ai/2kJA0v3

อุปกรณ์สายลับ หน้าที่ 120-121 https://goo.gl/vJUm5J

.
เรื่องเล่าไร้สาระ

Wilfred Biffy Dunderdale ทำงานเป็นสายลับ MI5 ของอังกฤษ
คือ สายลับในหนังสือ James Bond 007 ที่ Ian Fleming เขียนถึง
เพราะทั้งคู่ต่างเป็นเพื่อนซี้กัน ในสโมสร Boodle’s club ใน St James’s Street
ทำให้รับรู้เรื่องราวชีวิตสายลับบางเรื่องมาใช้ในงานเขียน

Ian Fleming ผู้แต่งนวนิยายเรื่อง James Bond 007
ตอนตั้งชื่อพระเอกในนิยายก็พยายามค้นหาชื่อบ้าน ๆ ชื่อเชย ๆ
จนกระทั่งพบชื่อนักปักษีวิทยาผู้เชี่ยวชาญเรื่องนกแถบหมู่เกาะ Caribbean
เลยได้ส่งจดหมายแจ้งว่าขอนำชื่อนี้มาเป็นพระเอกในนวนิยาย
และได้ให้อนุญาตเป็นการล่วงหน้าไว้เลยว่า
วันใดที่ James Bond ค้นพบนกตัวใดที่น่าเกลียดน่าชังที่สุด
อนุญาตให้ตั้งเป็นชื่อของตนเองได้เลย

และแล้วต่อมาทั้งคู่ต่างกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน
ส่วนจดหมายของ Ian Fleming ที่ส่งไปหา James Bond
มีการนำมาเปิดเผยภายหลังโดยภริยา James Bond
หลังจากทั้งคู่ต่างถึงแก่กรรมไปแล้ว

ที่มา http://goo.gl/PhGMdW

ตัวตลกในหนังตะลุงของภาคใต้ เช่น
เท่ง หนูนุ้ย สะหม้อ โถ ยอดทอง
ตามตำนานมีตัวตนจริงในภาคใต้
นายหนังตะลุงท่านแรกที่จะนำชื่อมาเล่น
เป็นตัวตลกในหนังตะลุงโดยเลียนแบบบุคลิกลักษณะ
ต้องไปทำพิธีขอขมาลาโทษ
และขออนุญาตจากเจ้าของชื่อ/ฉายา
เป็นการบอกกล่าวกันล่วงหน้าว่า
ห้ามโกรธ/ห้ามเคืองกัน/ห้ามไม่พอใจ
ถ้านำมาพูดจาเล่นกัน/มาล้อเลียนกันตอนเล่นตลก
รวมทั้งให้การขอขมาและขออนุญาตครั้งนี้
มีผลรวมต่อเนื่องไปถึงลูกหลานวงศาคณาญาติของตัวตลก
และนายหนังท่านอื่น ๆ ที่นำไปเล่นเป็นตัวตลกด้วย
เมื่อเจ้าตัว/เจ้าของตำนานอนุญาตแล้วจึงตัดรูปหนังเป็นตัวตลกได้
และตัวตลกเอกของนายหนังตะลุงจะได้รับการเคารพอย่างสูง
มักจะมีพิธีกรรม/ของประดับต่าง ๆ มากกว่าตัวหนังอื่น ๆ

อนึ่ง ตัวตลกหนังตะลุงในบางพื้นที่
คนในพื้นที่มักจะสอนลูกหลาน
ให้เรียกกันด้วยความเคารพ
มีศักดิ์เป็น ลุง ตา ทวด เป็นต้น

ที่ทางเข้าด้านหน้าโรงพยาบาลหาดใหญ่
ก็มีรูปปั้นลุงเท่งใส่หมวกกันน็อค
หล่อตั้งไว้บนฟุตบาททางเท้า
วัตถุประสงค์การสร้างเดิม
เพื่อรณรงค์การใส่หมวกกันน็อค
กับเปิดไฟหน้ารถจักรยานยนต์
เหมือนฝั่งมาเลเซียที่มีกฎหมาย
บังคับใช้เรื่องนี้ก่อนไทยหลายปีแล้ว

พอตั้งลุงเท่งไว้ที่ด้านหน้าไม่นานนัก
ญาติพี่น้องคนป่วยไปบนบานเรื่องคนป่วย
มักจะหายจากโรคภัยไข้เจ็บตามประสงต์
(จริง ๆ อาจจะหายจากหยูกยา/ฝีมือแพทย์และพยาบาล)
มีบางรายก็มาขอบนถูกหวยมาเลย์ที่จ่ายมากกว่าหวยไทย
ทั้งยังมีคนบนบานสานกล่าวในเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย
จนเป็นที่เคารพสักการะกันที่หน้าโรงพยาบาลหาดใหญ่