เราขับรถมาด้วยอัตราเร็ว 80 กม./ชม. บนถนนมีรถเยอะพอสมควร แล้วจะเปลี่ยนไปเลนซ้าย เปิดไฟขอทางไว้แล้ว
รถที่อยู่ในเลนซ้ายก็ชะลอให้เข้าได้ ขณะที่ตรงกลางรถ คร่อมเส้นแบ่งเลน ก็ได้ยินเสียงแตรรถ เราจึงเหรถจะกลับเข้าเลนเดิม
ก็ได้ยินเสียงแตรรถอีก พร้อมแสงไฟสูงกระทบกระจกมองหลัง เราทำอะไรไม่ถูก จึงตัดสินใจเร่งความเร็ว ตัวสั่นงันงกไปหมด
มารู้ทีหลังว่า เสียงแตรดังครั้งแรกนั้น คือเสียงโฆษณาในวิทยุติดรถยนต์ จำไม่ได้ว่าเป็นรายการอะไร
ครั้งที่สอง ขับรถอยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงเบรครถ ตกใจหมดเลย แต่ไม่มากเหมือนครั้งแรก เพราะไม่ได้จะเปลี่ยนเลน และรถคันหลังก็อยู่ห่าง
ครั้งนี้ ก็เป็นเสียงโฆษณาในวิทยุเช่นกัน จำไม่ได้ว่ารายการอะไร
ครั้งที่สาม ตกใจนิดหน่อย ได้ยินบ่อยมาก ได้ยินทีไรก็ตกใจ(นิดหน่อย)ทุกครั้ง เป็นเสียงรถวอรับส่งคนป่วยที่โฆษณาทางวิทยุ
เพื่อให้คนขับรถหลีกทางให้
อีกเสียงหนึ่งที่ทำให้ตกใจ ก็คือเสียงนกหวีด (นึกว่าตำรวจเรียกให้หยุด)
จึงขอถามว่า การโฆษณาโดยใช้เสียงต่อไปนี้ประกอบ คือ เสียงแตรรถ เสียรถเบรค เสียงนกหวีด และเสียงหวอ สมควรหรือไม่
ถ้าหากจะด่าว่า ขณะขับรถ คุณเปิดวิทยุทำไม ก็ยอมรับผิดครับ
การโฆษณาอย่างนี้ สมควรหรือไม่
รถที่อยู่ในเลนซ้ายก็ชะลอให้เข้าได้ ขณะที่ตรงกลางรถ คร่อมเส้นแบ่งเลน ก็ได้ยินเสียงแตรรถ เราจึงเหรถจะกลับเข้าเลนเดิม
ก็ได้ยินเสียงแตรรถอีก พร้อมแสงไฟสูงกระทบกระจกมองหลัง เราทำอะไรไม่ถูก จึงตัดสินใจเร่งความเร็ว ตัวสั่นงันงกไปหมด
มารู้ทีหลังว่า เสียงแตรดังครั้งแรกนั้น คือเสียงโฆษณาในวิทยุติดรถยนต์ จำไม่ได้ว่าเป็นรายการอะไร
ครั้งที่สอง ขับรถอยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงเบรครถ ตกใจหมดเลย แต่ไม่มากเหมือนครั้งแรก เพราะไม่ได้จะเปลี่ยนเลน และรถคันหลังก็อยู่ห่าง
ครั้งนี้ ก็เป็นเสียงโฆษณาในวิทยุเช่นกัน จำไม่ได้ว่ารายการอะไร
ครั้งที่สาม ตกใจนิดหน่อย ได้ยินบ่อยมาก ได้ยินทีไรก็ตกใจ(นิดหน่อย)ทุกครั้ง เป็นเสียงรถวอรับส่งคนป่วยที่โฆษณาทางวิทยุ
เพื่อให้คนขับรถหลีกทางให้
อีกเสียงหนึ่งที่ทำให้ตกใจ ก็คือเสียงนกหวีด (นึกว่าตำรวจเรียกให้หยุด)
จึงขอถามว่า การโฆษณาโดยใช้เสียงต่อไปนี้ประกอบ คือ เสียงแตรรถ เสียรถเบรค เสียงนกหวีด และเสียงหวอ สมควรหรือไม่
ถ้าหากจะด่าว่า ขณะขับรถ คุณเปิดวิทยุทำไม ก็ยอมรับผิดครับ