ไม่แปลกใจหากจะมีวันนี้
.
ผมรู้สึกเฉยๆ นะ ไม่แปลกใจ และคิดมานานแล้วว่าวันหนึ่งมันต้องจบแบบนี้แหละ
.
ตอน BRT สร้างใหม่ๆ มีแนวคิดว่าจะ
“ยกให้ไปเลย 1 เลน” รถชนิดอื่นห้ามเข้าไปวิ่ง มีการตีเส้นอย่างดี บางจุดทำขอบกั้นแบบยกสูง อารมณ์ประมาณรางรถแข่งทามิย่า ( Mini 4WD ใครเกิดไม่ทันลองไปหาในอากุ๋ดู ) แต่พอเอาเข้าจริง เปิดใช้จริงเจอ
“ม็อบ 4 ล้อ” คนใช้รถส่วนตัวประท้วง เสียงโวยวายเกิดขึ้นไปทั่ว สุดท้ายก็ต้องยอม
“ผ่อนปรน” ให้รถอื่นๆ เข้าไปวิ่งได้ เมื่อนั้น BRT จึงไม่มี
“ข้อแตกต่าง” กับรถเมล์ทั่วไป บางจังหวะรถก็ติด สุดท้ายคนก็กลับไปใช้รถส่วนตัวเหมือนเดิม (และเพิ่มเติมคือมอเตอร์ไซค์)
.
นั่นทำให้ BRT ต้องรูดม่านแบบที่เป็นข่าว ซึ่งก็ไม่ต่างจากยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง ที่เคยมีแนวคิด
“Bus Lane” ให้รถเมล์วิ่งชิดซ้าย รถอื่นๆ ห้ามเข้าไปยุ่ง คนใช้รถส่วนตัวก็ไม่พอใจเช่นกัน บอกทำรถติด แล้วนานๆ ไป ทางการก็ต้องผ่อนปรน แล้วถนนใน กทม. ก็เป็นอย่างที่เราเห็นวันนี้
.
( ผมผ่านแถวๆ รัชดาท่าพระบ่อยๆ รถตู้และรถส่วนตัวเข้าไปวิ่งเลน BRT ประจำ )
.
บ้านเราให้ความสำคัญกับ
“รถ 4 ล้อส่วนตัว” เป็นอันดับ 1 แต่ไหนแต่ไร เราไม่มีข้อจำกัดในการซื้อและใช้รถเหมือนประเทศที่เจริญแล้ว ใบขับขี่ก็สอบไม่ยาก ที่จอดไม่ต้องมีก็ไม่เป็นไร ( ภาษีสรรพสามิตไม่ช่วยอะไร เจอโปรฯ ดาวน์ถูกผ่อนนานไปก็จบ ) ค่ายรถยนต์ทั้งหัวดำหัวทองแถลงหน้าชื่นตาบาน กำไรทุกปีมากบ้างน้อยบ้าง แต่ไม่มีคำว่าขาดทุน ซึ่งก็พูดยากอีก เมืองไทยฝากเศรษฐกิจไว้กับอุตสาหกรรมรถยนต์มากที่สุด แรงงานไทยอยู่ในนิคมพวกนี้ไม่น้อย งานหนักจริงแต่โบนัสออกทีนี่หายเหนื่อยเลย ถ้าจำกัดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ธุรกิจรถยนต์กระทบ อาจต้องลดจำนวนพนักงาน แน่นอนคนตกงานมากๆ คือวิกฤติของชาติ
.
แต่เมื่อเราเลือกเส้นทางนี้
“ราคาที่ต้องจ่าย” มันก็มีครับ ก็คือรถติดนี่แหละ รัฐบาลก็ไม่กล้าขัดใจประชาชนหรอก ต่อให้เป็นรัฐบาลเผด็จการ ทำอะไรขัดใจจริตชาวบ้านมากๆ รับรองกลุ่มขั้วการเมืองตรงข้าม + ต่างชาติที่เสียประโยชน์ พร้อมจะยุยงให้ประท้วงเพื่อโค่นรัฐบาลอยู่แล้ว ส่วนรัฐบาลประชาธิปไตยก็ไม่ต้องพูดถึง ไม่กล้าทำอะไรที่เสียคะแนนเสียงแน่นอน
.
BRT จึงกลายเป็น
“เศษซากแห่งความล้มเหลว” อีกอย่างของทางการไทย ไม่ต่างจากก่อนหน้านี้อย่าง
“ป้ายแท็กซี่อัจฉริยะ” ที่สร้างมาให้เสียงบประมาณเล่นๆ แต่ใช้การไม่ได้จริง รวมถึงในอนาคต
“เลนจักรยาน” อาจเป็นความล้มเหลวหนต่อไป เพราะสภาพจริงใน กทม. ไม่มีความเหมาะสมในการใช้จักรยานเลย ทำมาสุดท้ายก็กลายเป็นที่จอดรถ 4 ล้อ + ให้มอเตอร์ไซค์วิ่ง
.
( จริงๆ เลนซ้ายนี่ชาวมอเตอร์ไซค์เขาขอมาก่อนนะ แต่ไม่เคยได้รับการตอบสนอง เพราะเลนซ้ายถูกยกให้เป็นที่จอดรถ 4 ล้อ สุดท้ายชาว 2 ล้อกับชาว 4 ล้อ ก็มาดราม่าทะเลาะกันเองในเว็บบอร์ดอย่าง ppantip.com นี่ก็คืออีกภาพสะท้อนของการให้ความสำคัญต่อยานพาหนะแต่ละแบบไม่เท่าเทียมกัน )
.
ไปดูประเทศที่เจริญแล้ว เขามีรถติดนรกแทบจะตลอดวันแบบเราไหม? จากในข่าวหรือสารคดีเท่าที่เคยดู ผมไม่เคยเห็นนะ และสถิติ 10 เมืองรถติดที่สุดในโลก ส่วนใหญ่ก็เป็นประเทศกำลังพัฒนาทั้งนั้น รวมถึง Bangkok เมืองหลวงของเราก็ด้วย และประชากรบนถนน ส่วนใหญ่ก็ 4 ล้อนี่แหละ
.
ทำใจ..ไม่ต้องบ่นนะ..บ่นไปก็เสียสุขภาพจิตเปล่าๆ!!!
http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=128011&t=news
เพิ่มเติม
.
.
ช่วงที่ BRT เปิดใหม่ๆ คนบ่นว่ารถติดจริงๆ นะ
.
14 ก.ย. 2553 ข่าวจาก kapook.com
“โวย BRT ทำรถติด ส่อยกเลิกหมอชิต - แจ้งวัฒนะ” ( ที่มา :
https://hilight.kapook.com/view/52032/3?view=full )
.
โปรดสังเกตข้อความนี้
.
“..ส่วนเส้นทางหมอชิต- แจ้งวัฒนะ (ศูนย์ราชการ) ที่เคยศึกษาไว้ว่าจะมีการสร้างรถเมล์บีอาร์ทีนั้น คาดว่าจะไม่มีการทำแล้ว เนื่องจากมีการซ้อนทับรถไฟฟ้าสายสีชมพู หรือ เมโทรบัส (มีนบุรี-แจ้งวัฒนะ) ที่ ครม.ได้อนุมัติไว้แล้ว ส่วนอีก 3 เส้นทาง ได้แก่ สายสาทร-สุขสวัสดิ์ สายดอนเมือง-มีนบุรี-สุวรรณภูมิ และสายมีนบุรี-ศรีนครินทร์-สำโรง ที่เคยมีการศึกษาไว้ว่าจะทำบีอาร์ทีก็คาดว่าจะไม่มีแล้ว เนื่องจากจะให้รถเมโทรบัสวิ่งเส้นทางดังกล่าวทั้งหมด ทั้งนี้หากจะมีการดำเนินการบีอาร์ทีเส้นทางต่อไปจะต้องพิจารณาเส้นทางถนนตัดใหม่ที่ไม่ต้องแย่งช่องทางรถยนต์ส่วนตัว และไม่ทับซ้อนกับเมโทรบัส..”
.
ซึ่งหลังจากนั้นก็อย่างที่ทราบ เราไม่ได้ยินการขยายเส้นทาง BRT เพิ่มอีกเลย
.
.
-------------------------------
.
และข่าวนี้
.
14 ม.ค. 2554 จาก นสพ.ASTV ผู้จัดการ
“ผู้ใช้รถเฮ!! กทม.ยอมให้ใช้เลน BRT ช่วงเร่งด่วนแล้ว” ( ที่มา :
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000005447 )
.
โปรดสังเกตข้อความนี้
.
“นอกจากนี้ กทม.จะผ่อนผันชั่วคราวให้รถส่วนบุคคลเข้าไปเดินรถในช่องทาง BRT ขาเข้าในช่วงเช้าและขาออกในช่วงเย็น บริเวณสถานีที่ 10 (เจริญราษฎร์) และสถานีที่ 11 (ถ.พระราม 3) โดยจะจัดทำป้ายจราจรประชาสัมพันธ์ให้ผู้ขับขี่ทราบ และเปิดให้รถส่วนบุคคลใช้ช่องทาง BRT ในเดือน ก.พ.2554 เป็นต้นไป อีกทั้งจะหารือร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ขสมก.และกองบังคับการตำรวจจราจร ในการปรับเส้นทางเดินรถโดยสารประจำทางเข้าสู่ระบบสายหลักและสายรองเชื่อมต่อการเดินทางให้เป็นระบบ อาทิ สาย 15, 205 และ 68 ฝั่งขาเข้าเมืองให้วนรับส่งผู้โดยสารที่สถานี BRT บริเวณสถานีราชพฤกษ์ (B12) เป็นต้น ตลอดจนสนับสนุนให้มีแท็กซี่และมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในระบบส่งต่อผู้โดยสารเข้าสู่ระบบขนส่งมวลชนสายหลัก พร้อมทั้งพัฒนาระบบตั๋วร่วมตั๋วเดือน เพิ่มความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชนยิ่งขึ้น”
.
ก็เป็น กทม. เองนี่แหละครับที่
“ยอมแพ้” อลุ้มอล่วยให้รถอื่นๆ เข้าไปวิ่งได้ แน่นอนว่า
“เมื่อมีหมุดแรกถูกปัก ก้าวต่อไปก็ตามมา” แล้วก็กลายเป็นภาพที่เราชินตา จากวิ่งได้ใน ชม. เร่งด่วน ก็เป็นวิ่งกันตลอด 24 ชม.
.
.
-------------------------
.
สรุปว่า กทม. เป็นทั้งผู้ให้กำเนิด BRT และก็เป็นผู้ที่ฆ่า BRT เองกับมือ เช่นกัน ( ด้วยการบีบคั้นกดดันของชาวรถส่วนตัว )
ยกเลิก BRT : ในเมื่อเมืองไทย "4 ล้อส่วนบุคคล" สำคัญสุด แล้วจะบ่นหรือแปลกใจไปทำไม?
.
ผมรู้สึกเฉยๆ นะ ไม่แปลกใจ และคิดมานานแล้วว่าวันหนึ่งมันต้องจบแบบนี้แหละ
.
ตอน BRT สร้างใหม่ๆ มีแนวคิดว่าจะ “ยกให้ไปเลย 1 เลน” รถชนิดอื่นห้ามเข้าไปวิ่ง มีการตีเส้นอย่างดี บางจุดทำขอบกั้นแบบยกสูง อารมณ์ประมาณรางรถแข่งทามิย่า ( Mini 4WD ใครเกิดไม่ทันลองไปหาในอากุ๋ดู ) แต่พอเอาเข้าจริง เปิดใช้จริงเจอ “ม็อบ 4 ล้อ” คนใช้รถส่วนตัวประท้วง เสียงโวยวายเกิดขึ้นไปทั่ว สุดท้ายก็ต้องยอม “ผ่อนปรน” ให้รถอื่นๆ เข้าไปวิ่งได้ เมื่อนั้น BRT จึงไม่มี “ข้อแตกต่าง” กับรถเมล์ทั่วไป บางจังหวะรถก็ติด สุดท้ายคนก็กลับไปใช้รถส่วนตัวเหมือนเดิม (และเพิ่มเติมคือมอเตอร์ไซค์)
.
นั่นทำให้ BRT ต้องรูดม่านแบบที่เป็นข่าว ซึ่งก็ไม่ต่างจากยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง ที่เคยมีแนวคิด “Bus Lane” ให้รถเมล์วิ่งชิดซ้าย รถอื่นๆ ห้ามเข้าไปยุ่ง คนใช้รถส่วนตัวก็ไม่พอใจเช่นกัน บอกทำรถติด แล้วนานๆ ไป ทางการก็ต้องผ่อนปรน แล้วถนนใน กทม. ก็เป็นอย่างที่เราเห็นวันนี้
.
( ผมผ่านแถวๆ รัชดาท่าพระบ่อยๆ รถตู้และรถส่วนตัวเข้าไปวิ่งเลน BRT ประจำ )
.
บ้านเราให้ความสำคัญกับ “รถ 4 ล้อส่วนตัว” เป็นอันดับ 1 แต่ไหนแต่ไร เราไม่มีข้อจำกัดในการซื้อและใช้รถเหมือนประเทศที่เจริญแล้ว ใบขับขี่ก็สอบไม่ยาก ที่จอดไม่ต้องมีก็ไม่เป็นไร ( ภาษีสรรพสามิตไม่ช่วยอะไร เจอโปรฯ ดาวน์ถูกผ่อนนานไปก็จบ ) ค่ายรถยนต์ทั้งหัวดำหัวทองแถลงหน้าชื่นตาบาน กำไรทุกปีมากบ้างน้อยบ้าง แต่ไม่มีคำว่าขาดทุน ซึ่งก็พูดยากอีก เมืองไทยฝากเศรษฐกิจไว้กับอุตสาหกรรมรถยนต์มากที่สุด แรงงานไทยอยู่ในนิคมพวกนี้ไม่น้อย งานหนักจริงแต่โบนัสออกทีนี่หายเหนื่อยเลย ถ้าจำกัดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ธุรกิจรถยนต์กระทบ อาจต้องลดจำนวนพนักงาน แน่นอนคนตกงานมากๆ คือวิกฤติของชาติ
.
แต่เมื่อเราเลือกเส้นทางนี้ “ราคาที่ต้องจ่าย” มันก็มีครับ ก็คือรถติดนี่แหละ รัฐบาลก็ไม่กล้าขัดใจประชาชนหรอก ต่อให้เป็นรัฐบาลเผด็จการ ทำอะไรขัดใจจริตชาวบ้านมากๆ รับรองกลุ่มขั้วการเมืองตรงข้าม + ต่างชาติที่เสียประโยชน์ พร้อมจะยุยงให้ประท้วงเพื่อโค่นรัฐบาลอยู่แล้ว ส่วนรัฐบาลประชาธิปไตยก็ไม่ต้องพูดถึง ไม่กล้าทำอะไรที่เสียคะแนนเสียงแน่นอน
.
BRT จึงกลายเป็น “เศษซากแห่งความล้มเหลว” อีกอย่างของทางการไทย ไม่ต่างจากก่อนหน้านี้อย่าง “ป้ายแท็กซี่อัจฉริยะ” ที่สร้างมาให้เสียงบประมาณเล่นๆ แต่ใช้การไม่ได้จริง รวมถึงในอนาคต “เลนจักรยาน” อาจเป็นความล้มเหลวหนต่อไป เพราะสภาพจริงใน กทม. ไม่มีความเหมาะสมในการใช้จักรยานเลย ทำมาสุดท้ายก็กลายเป็นที่จอดรถ 4 ล้อ + ให้มอเตอร์ไซค์วิ่ง
.
( จริงๆ เลนซ้ายนี่ชาวมอเตอร์ไซค์เขาขอมาก่อนนะ แต่ไม่เคยได้รับการตอบสนอง เพราะเลนซ้ายถูกยกให้เป็นที่จอดรถ 4 ล้อ สุดท้ายชาว 2 ล้อกับชาว 4 ล้อ ก็มาดราม่าทะเลาะกันเองในเว็บบอร์ดอย่าง ppantip.com นี่ก็คืออีกภาพสะท้อนของการให้ความสำคัญต่อยานพาหนะแต่ละแบบไม่เท่าเทียมกัน )
.
ไปดูประเทศที่เจริญแล้ว เขามีรถติดนรกแทบจะตลอดวันแบบเราไหม? จากในข่าวหรือสารคดีเท่าที่เคยดู ผมไม่เคยเห็นนะ และสถิติ 10 เมืองรถติดที่สุดในโลก ส่วนใหญ่ก็เป็นประเทศกำลังพัฒนาทั้งนั้น รวมถึง Bangkok เมืองหลวงของเราก็ด้วย และประชากรบนถนน ส่วนใหญ่ก็ 4 ล้อนี่แหละ
.
ทำใจ..ไม่ต้องบ่นนะ..บ่นไปก็เสียสุขภาพจิตเปล่าๆ!!!
http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=128011&t=news
เพิ่มเติม
.
.
ช่วงที่ BRT เปิดใหม่ๆ คนบ่นว่ารถติดจริงๆ นะ
.
14 ก.ย. 2553 ข่าวจาก kapook.com “โวย BRT ทำรถติด ส่อยกเลิกหมอชิต - แจ้งวัฒนะ” ( ที่มา : https://hilight.kapook.com/view/52032/3?view=full )
.
โปรดสังเกตข้อความนี้
.
“..ส่วนเส้นทางหมอชิต- แจ้งวัฒนะ (ศูนย์ราชการ) ที่เคยศึกษาไว้ว่าจะมีการสร้างรถเมล์บีอาร์ทีนั้น คาดว่าจะไม่มีการทำแล้ว เนื่องจากมีการซ้อนทับรถไฟฟ้าสายสีชมพู หรือ เมโทรบัส (มีนบุรี-แจ้งวัฒนะ) ที่ ครม.ได้อนุมัติไว้แล้ว ส่วนอีก 3 เส้นทาง ได้แก่ สายสาทร-สุขสวัสดิ์ สายดอนเมือง-มีนบุรี-สุวรรณภูมิ และสายมีนบุรี-ศรีนครินทร์-สำโรง ที่เคยมีการศึกษาไว้ว่าจะทำบีอาร์ทีก็คาดว่าจะไม่มีแล้ว เนื่องจากจะให้รถเมโทรบัสวิ่งเส้นทางดังกล่าวทั้งหมด ทั้งนี้หากจะมีการดำเนินการบีอาร์ทีเส้นทางต่อไปจะต้องพิจารณาเส้นทางถนนตัดใหม่ที่ไม่ต้องแย่งช่องทางรถยนต์ส่วนตัว และไม่ทับซ้อนกับเมโทรบัส..”
.
ซึ่งหลังจากนั้นก็อย่างที่ทราบ เราไม่ได้ยินการขยายเส้นทาง BRT เพิ่มอีกเลย
.
.
-------------------------------
.
และข่าวนี้
.
14 ม.ค. 2554 จาก นสพ.ASTV ผู้จัดการ “ผู้ใช้รถเฮ!! กทม.ยอมให้ใช้เลน BRT ช่วงเร่งด่วนแล้ว” ( ที่มา : http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000005447 )
.
โปรดสังเกตข้อความนี้
.
“นอกจากนี้ กทม.จะผ่อนผันชั่วคราวให้รถส่วนบุคคลเข้าไปเดินรถในช่องทาง BRT ขาเข้าในช่วงเช้าและขาออกในช่วงเย็น บริเวณสถานีที่ 10 (เจริญราษฎร์) และสถานีที่ 11 (ถ.พระราม 3) โดยจะจัดทำป้ายจราจรประชาสัมพันธ์ให้ผู้ขับขี่ทราบ และเปิดให้รถส่วนบุคคลใช้ช่องทาง BRT ในเดือน ก.พ.2554 เป็นต้นไป อีกทั้งจะหารือร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ขสมก.และกองบังคับการตำรวจจราจร ในการปรับเส้นทางเดินรถโดยสารประจำทางเข้าสู่ระบบสายหลักและสายรองเชื่อมต่อการเดินทางให้เป็นระบบ อาทิ สาย 15, 205 และ 68 ฝั่งขาเข้าเมืองให้วนรับส่งผู้โดยสารที่สถานี BRT บริเวณสถานีราชพฤกษ์ (B12) เป็นต้น ตลอดจนสนับสนุนให้มีแท็กซี่และมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในระบบส่งต่อผู้โดยสารเข้าสู่ระบบขนส่งมวลชนสายหลัก พร้อมทั้งพัฒนาระบบตั๋วร่วมตั๋วเดือน เพิ่มความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชนยิ่งขึ้น”
.
ก็เป็น กทม. เองนี่แหละครับที่ “ยอมแพ้” อลุ้มอล่วยให้รถอื่นๆ เข้าไปวิ่งได้ แน่นอนว่า “เมื่อมีหมุดแรกถูกปัก ก้าวต่อไปก็ตามมา” แล้วก็กลายเป็นภาพที่เราชินตา จากวิ่งได้ใน ชม. เร่งด่วน ก็เป็นวิ่งกันตลอด 24 ชม.
.
.
-------------------------
.
สรุปว่า กทม. เป็นทั้งผู้ให้กำเนิด BRT และก็เป็นผู้ที่ฆ่า BRT เองกับมือ เช่นกัน ( ด้วยการบีบคั้นกดดันของชาวรถส่วนตัว )