update 8/2/60 21.06
หลายคนสงสัยว่า ทำไมผมพูดถึงฝั่งเดียว นั่นเพราะ ฝั่งเด็กมันเห็นชัดเจนจนไม่ต้องพูดอะไรแล้วครับ ว่าทำผิดจริงๆ
ก็ไม่มีอะไรแก้ตัวครับ ผมสันนิษฐานผิดไปจริงๆ และผมตอบในคอมเม้นต์ตั้งแต่วันแรกๆที่ตั้งกระทู้แล้ว ว่าผมก็มองว่าเด็กผิดจริง
ขออภัยที่ไม่ได้ edit ให้เห็นในต้นทาง ตั้งแต่วันแรก ขออภัยอีกครั้งครับ
ได้กลับมาอ่านอีก ตกใจเลย ไม่คิดว่าจะยาวขนาดนี้ ใจเย็นๆกันก่อนนะครับ
เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย เป็นความคิดของแต่ละคน ผมน้อมรับว่า ที่คิดไว้ คงจะผิดจริงๆครับ
เพิ่งได้เห็นคลิปในรถของวิศวะวันนี้ 8/2/60 เป็นภาพอีกมุมนึงแล้ว ทำให้ ทราบข้อเท็จจริงเพิ่มมา 2 ข้อครับ
1. มีอย่างนึงที่ ฝ่ายเด็กโกหก คือ ลงมือต่อยวิศวะก่อนจริงๆ(ฟังจากเสียง) ซึ่งจุดนี้ น่าจะเข้าประเด็น ป้องกันตัวได้แล้ว
2. วิศวะ ไม่ได้มีเจตนาปาดหน้าจริง แต่เป็นการหักรถ เพื่อต้องการขอความช่วยเหลือ ซึ่งจุดนี้ วิศวะ พูดจริง
สรุป คือ เด็กโกหกแน่ๆ อย่างน้อย 2 ครั้ง และ ยืนยันว่า สิ่งที่ วิศวะ พูดเป็นความจริง
ก่อนหน้านี้ จากที่ยังไม่อยากเทไปฝั่งไหน
ตอนนี้ เชื่อฝั่ง วิศวะ 80 แต่ก็ยังไม่เห็นหลักฐานให้ปักใจเชื่อได้ว่า วิศวะพูดจริงหมด 100% นะครับ ขอโทษอีกครั้งไว้ตรงนี้เลย
ยังเผื่อใจรอดูหลักฐานที่เหลือครับ และ ดีใจมากที่ในรถวิศวะ มีกล้อง วันแรกไม่รู้จริงๆ ว่ารถมีกล้อง นึกว่าต้องรอหลักฐานกันยาวๆซะแล้ว
หลายคนคงโกรธ ทำไมผมถึงได้โง่ เชื่ออะไรยากเย็นขนาดนี้ หลักฐานขนาดนี้ทำไมยังไม่เชื่อซะที ภาพ เสียง ในคลิปมันก็ชัดซะขนาดนั้น
นั่นเพราะ ยังขาดความจริงที่ผมอยากรู้อีก 2 ข้อ คือ
1. บริเวณจุดซื้อของ ที่เริ่มเรื่อง มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกันแน่
2. ระหว่างทางที่ขับมา ทั้ง 2 ฝ่าย มีการขับรถยั่วยุคู่กรณี จริงตามที่ทั้ง 2 ฝ่ายอ้างหรือไม่
(คลิปที่ตัดมา มีเฉพาะช่วงเกิดเรื่อง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อฝั่งวิศวะอย่างมาก สามารถใช้เพื่อเข้าเป็นเหตุป้องกันตัวได้แน่ๆครับ)
แต่ด้วยในรถวิศวะ มีกล้อง จึงน่าจะมีภาพและเสียง บันทึกไว้ตั้งแต่เริ่มเหตุการณ์ จนถึง จุดที่เกิดเหตุบานปลาย
ซึ่งภาพในกล้องจะบอกความจริงได้ทั้งหมด ว่าจริงๆแล้วเป็นยังไงกันแน่ แต่ตามข่าวบอกว่าอยากเอาไปใช้ในชั้นศาล
ถ้าเห็นภาพทั้งหมด ตั้งแต่บริเวณร้านค้า ระหว่างขับ จนถึง จุดเกิดเหตุ
ก็จะรู้ได้ว่าชัดเจนว่า เหตุการณ์จริงๆตั้งแต่เริ่มจนสุดท้าย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ได้มีการกระทบ กระทั่ง ตอบโต้ หรือ ยุแหย่ กันระหว่างทางจริงไหม ใจเย็นๆนะครับ ไม่ได้จะมาขวางกระแสอะไร
ถ้าแบ่ง ความจริงเป็น 10 ส่วน ต่อให้ 9 ส่วนแรกเป็นความจริง ก็ไม่ได้เป็นตัวตัดสินว่า อีก 1 ส่วนที่เหลือ จะไม่ใช่เรื่องโกหก
ถ้าภาพทั้งหมดในรถฟ้องว่า เรื่องทั้งหมด วิศวะ เป็นฝ่ายถูกกระทำแต่เพียงฝ่ายเดียว ผมถึงเชื่อ 100% ครับ
และ ยังขอเหมือนเดิม คนตาย ตายไปแล้ว ไม่ว่าเขาจะดี จะเลว เขาก็ได้รับผลกับสิ่งที่ทำไปแล้ว ไม่ต้องพิมพ์อะไรที่มันรุนแรงนักก็ได้ครับ
กับอีกประเด็นที่ผมยังสงสัยเหมือเดิม คือ สังคมจะดีจริงๆเหรอ ถ้าทุกคนพกปืนกันหมด
สุดท้ายก็ขอโทษล่วงหน้าครับ ถ้าการแสดงความคิดเห็นของผม ไม่ถูกใจใครหลายคน
ขอโทษ ขอโทษ และ ขอโทษอีกครั้งครับ ทุกตัวอักษรผมพิมพ์ด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ มันอาจจะดูโง่เง่า ก็ขออภัยด้วยครับ
ย้ำอีกครั้งว่า ไม่ได้มีส่วนได้ ส่วนเสีย และ ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าคงต้องโดนแบบนี้ แต่ผมคิดแบบนี้ด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ
ส่วนข้อความที่เคยพิมพ์ไป ผมขออนุญาตทิ้งไว้แบบนี้นะครับ เพราะ ในเมื่อผมผิดพลาดจริง ก็ขอยอมรับ ไม่ขอแก้ตัวครับ
--------------------------------------------------------------------------------
ใจเย็นๆ อยากให้อ่านจนจบนะครับ อ่านอย่างเป็นกลางครับ
ผมนั่งดูคลิปวนไปมาจน ณ ตอนนี้เกือบ 70 รอบแล้ว
อยากให้เอาคำว่าเด็ก คำว่าคนแก่ คำว่าวัยรุ่น ทิ้งไป
แล้วลองดูด้วยตาตัวเอง วางอคติลงก่อน อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจ อย่าเพิ่งด่า
ถ้าดูแค่ผ่านๆ เป็นใครก็คงรู้สึกว่า ฝ่ายเด็กผิดเต็มๆ เริ่มลงมาหาเรื่องก่อน แต่อยากให้ดูให้ดีๆครับ ว่ามันใช่แบบนั้นจริงๆหรือเปล่า
และบอกก่อนว่า ผมไม่เข้าข้างฝ่ายไหนทั้งนั้น เพราะ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์
ถ้าถามว่าใครผิด จุดเริ่มก็คงต่างฝ่าย ต่างยั่วยุกันไปมา ดูแล้วก็แรงทั้ง 2 คน คนนึงมีอาวุธ อีกคนนึงก็พวกเยอะ
แต่สุดท้ายผมให้คนที่พกพาอาวุธ เป็นฝ่ายที่ผิดมากกว่าอีกฝ่ายครับ
ผมพยายามค่อยๆแกะคลิปหลักฐาน และ บรรยายให้เข้าใจง่ายๆครับ
เริ่มจากคลิปนี้ก่อน
https://www.youtube.com/watch?v=1X9Tqxq2Ue4
เหตุการณ์นี้ มีรถทั้งหมด 3 คัน คือ รถของวิศวะ รถตู้ของกลุ่มเด็ก และ รถวีออส(ไฟสีฟ้า)ของกลุ่มเด็ก
7.38 ในภาพ รถของวิศวะ ปาดรถเก๋งวีออส ไฟสีฟ้า ของกลุ่มผู้ตายก่อนจริงๆ
- ฝ่ายวิศวะ อ้างว่า เป็นจุดปลอดภัย แต่ถ้าดูองศาการหักพวงมาลัย เขาหักเข้ามาเกือบ 60 องศาแบบทันทีทันใด
ต่อให้เปิดไฟซ้าย แต่การหักเข้าแบบนี้ ก็ไม่น่าจะเรียกว่า จอด แต่น่าจะเรียกว่า ปาด มากกว่า
หรือ ถ้าจะจอดจริง ทำไม ไม่ชะลอแล้วเข้าซ้ายรอไว้ตั้งแต่แรก วิ่งกลางมาแล้วอยู่ดีๆ ก็ตัดเลนส์ซ้ายกระทันหันเพื่อเข้าจอด
และ ลักษณะการจอด ก็ไม่ได้จอดชิดขอบทาง แต่เป็นการจอดตะแคง เพื่อขวางรถคู่กรณีไว้
7.44 รถของวิศวะ จอดขวางรถเก๋งวีออสไว้ระยะประชิด
7.49 รถตู้ของกลุ่มเด็กเห็นเหตุการณ์ ว่ารถเพื่อนอีกคันโดนปาดขวางอยู่ ก็เลยหักมาจอดด้านหน้าอีกที
- ระยะจอดของรถวิศวะ กับรถตู้ ห่างกันพอสมควร รถวิศวะสามารถขับออกมาได้ แต่ก็ไม่ทำ ต่างกับของคันหลัง ที่โดนขวางไว้ชัดเจน
7.53 น่าจะเป็นแม่ของวิศวะ เปิดประตูลงมาเอง ไม่ได้ถูกลากออกจากรถ ย้ำว่า เดินลงมาเอง ไม่ได้ถูกลากลงมา
7.56 คนตายเดินไปถึงตัวแม่
ช่วง 7.56-7.59 ให้ลดความเร็วภาพลงเหลือแค่ 0.25 เพื่อดูภาพช้าๆครับ เหตุการณ์ช่วงนี้จะเร็วมาก
โดยเฉพาะช่วง 7.58 จับตาดูดีๆครับ แล้วคุณจะตกใจเพราะ ฝ่ายที่ถูกกระชากเข้าไปหา คือ ฝ่ายเด็กครับ
ใช่ครับ จากในคลิปหลักฐาน คุณแม่ กระชาก เด็กจริงๆ ทั้งการตั้งท่าของฝ่ายเด็กที่เป็นการงอตัว และ การเคลื่อนที่
ค่อนข้างชัดเจนนะครับว่า ฝ่ายเด็กเป็นฝ่ายถูกกระชากเข้าไปหาฝ่ายแม่จริง
- หลายๆความเห็นในเว็บต่างๆ ส่วนใหญ่จะบอกว่าเด็กโกหก คนแก่จะทำอย่างนั้นได้ไง แต่จากภาพ ถ้าค่อยๆดูก็จะเห็นครับ ว่าเกิดอะไร
8.00 ผู้ตาย ไม่ได้สนใจจะมีเรื่องกับแม่เลย แต่เขาวิ่งไปอีกฝั่ง เพื่อจะเคลียร์กับคนขับ
- จะอ้างว่าปกป้อง แม่ กับ เมีย ก็คงพูดได้ไม่เต็มปาก เพราะ เห็นอยู่ชัดๆว่า ขนาดแม่โดนกระชาก เขายังไม่สนใจแม่เลย จะคุยกับคนขับอย่างเดียว
8.02 แม่เดินตามไปดูเด็กที่เดินไปอีกฝั่งนึง
8.05 กลุ่มผู้ตาย พยายามเปิดประตูรถฝั่งคนขับ (กลุ่มเด็ก เริ่มจับประตูรถฝั่งคนขับ ณ วินาทีนี้)
8.06 ประตูล็อคเปิดไม่ออก
8.08 สังเกตุดีๆ จะเหมือนว่า กลุ่มผู้ตายเดินไปเปิดประตูหลัง และน่าจะเป็นจังหวะเดียวกับที่ ยิงผู้ตาย
ช่วง 8.09-8.11 น่าจะเป็นช่วงที่ผู้ตายโดนยิง
สรุป คือ กลุ่มผู้ตาย เริ่มแตะประตูคนขับ ตอน 8.05 และ ยังไม่ทันจะเปิดประตูฝั่งคนขับได้
แต่ผู้ตายโดนยิงตอน 8.10 ฝั่งวิศวะใช้เวลาทั้งสิ้น 5 วินาที ในการตัดสินใจยิงผู้ตายที่ไม่มีอาวุธ
โดยที่ ณ ตอนนั้น น่าจะยังไม่มีใครแตะต้องตัวเขาเลย หรือ กรณีเลวร้ายที่สุด ในเวลา 1-2 วินาทีที่เห็น ก็น่าจะแค่ยื้อกันอยู่ในรถ
ช่วง 8.10 ให้จำภาพมอเตอร์ไซด์บริเวณด้านล่างที่เหมือนกำลังจะขับย้อนศร เพื่อเปรียบเทียบเวลากับคลิปนี้
https://www.youtube.com/watch?v=i0Q_7im9GHQ
ซึ่งจะตรงกับวินาทีที่ 0.32 พอดี
0.37 ผู้ตายหนีมาจนถึงอีกฝั่งนึงของถนน ผู้ตายใช้เวลา 5 วินาที เพื่อวิ่งหนีตายสุดชีวิต
0.38 กลุ่มผู้ตาย วิ่งกรูกันไปช่วยผู้ตาย
0.43 ผู้ตายล้มลงเป็นครั้งที่ 2
0.45 จากภาพ ไม่มีกลุ่มของผู้ตายอยู่ที่รถคันที่ยิงเลยแม้แต่คนเดียว มีแต่ประตูหลังที่เปิดอยู่
--- ภาพเหตุการณ์จบแค่ตรงนี้
ลองนับเวลาดูดีๆครับ แล้วลองถามใจตัวเองดูครับ การตัดสินใจ ยิงปืนใส่คนๆนึง มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ
ถ้าเป็นคุณ คุณจะใช้เวลาทำใจขนาดไหนก่อนที่จะเหนี่ยวไก และ จากคลิป จริงๆแล้วใครเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
นี่คือ การป้องกันตัว หรือ แค่ขาดสติ ??
ส่วนเหตุการณ์ก่อนหน้า ที่บอกว่า ฝ่ายเด็กบีบแตรไล่ หรือ ฝ่ายวิศวะตำเบรคเพื่อให้อีกฝ่ายชน
ผมมองว่า เกิดขึ้นได้ทั้ง 2 กรณี และมีโอกาสเกิดมากพอๆกัน อย่าคิดว่า อีกฝ่ายอายุมากแล้ว เขาคงไม่ทำอะไรแบบนี้หรอก
อยากจะบอกว่า ผมเคยเจอมาเยอะครับ คนแก่ๆที่อารมณ์ร้อน และ อีโก้สูง ความคิดแทบไม่ต่างจากวัยรุ่นคึกคะนองเลยครับ
จุดเริ่มจริงๆ ก็คงมาจาก ต่างฝ่ายต่างด่ากันไปมา ตรงจุดที่แวะจอดซื้อของกัน
ฝ่ายวิศวะ ก็คงรู้สึกว่า ตัวเองวัยวุฒิสูงกว่า ปล่อยให้เด็กมันด่าสวนแบบนี้ได้ยังไง ปืนก็มีจะกลัวอะไร ต้องเอาคืนบ้าง
ฝ่ายเด็ก ก็คงคิดเรื่องเล็กๆน้อยๆแค่นี้ พูดกันดีๆก็ได้ ทำไมต้องมาด่ากันแรงๆด้วย ก็กวนตีนคืนไปบ้าง
ผมเชื่อว่า ถ้าเหตุการณ์นี้ ต่างฝ่ายต่างพูดคุยกันดีๆตั้งแต่แรก และ ไม่มีอาวุธ มันจะไม่มีเรื่องมากมายขนาดนี้ครับ
ย้ำอีกครั้งว่า ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหน เพราะ ดูจากลักษณะแล้ว ต่างฝ่าย ต่างยั่วยุกันไปมาทั้งคู่
แต่ไม่อยากให้สังคมมองว่า การยกปืนยิงใส่ใครสักคน มันต้องมีเหตุที่เหมาะสมจริงๆ หรือ หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ
ผมอ่านในความคิดเห็น มีแต่คนสะใจว่า "ทำไมไม่ยิงให้ตายทั้งรถเลย" หรือ "มันตายก็สมควรแล้ว" หรือ "เลวทั้งแม่ ทั้งลูก ตายไปซะ"
ผมอ่านแล้วรู้สึกขนลุกมาก คนที่พิมพ์เขาคิดแบบนี้จริงๆเหรอ เราเข้าสู่ยุคที่ศาลเตี้ย คือ เรื่องธรรมดาไปแล้วใช่ไหม
อยากให้ลองถามใจตัวเองดูว่า ทำไมคุณถึงคิดแบบนี้ มันเพราะ อีกฝ่ายดูน่าเชื่อถือ และ อีกฝ่ายเป็นเด็ก ดูกุ๊ย ดูเป็นอันธพาล หรือเปล่า
ลองสมมติกลับกันว่า ถ้าในคลิปที่เห็น คนที่ยิง คือ วัยรุ่น แล้วกลุ่มวัยรุ่น คือ พนักงาน office แต่งตัวเรียบร้อย
คุณยังคิดแบบเดิมไหม ???
ถ้าคุณคิดว่าโดนไล่ล่า หรือ โดนรังแกจริงๆ และ ยังขับหนีได้ อย่าคิดจะใช้อาวุธเลยครับ
หรือให้ดี อย่าพกพาอาวุธเลยครับ ทันทีที่คุณพกมัน มันจะทำให้สมองคุณคิดออกอยู่วิธีเดียว คือ คุณสู้ได้ยิงมันซะ โดยไม่คิดถึงวิธีอื่นเลย
สถานีตำรวจ โรงพยาบาล หรือ แม้แต่สถานีดับเพลิง คุณขอความช่วยเหลือได้ทั้งนั้นครับ
อย่าจอดเพราะคิดว่าคุณมีอาวุธ คุณเหนือกว่า คุณสู้ได้ ไม่เห็นต้องกลัว เพราะ สุดท้าย มันจะจบด้วยการสูญเสียแน่นอน
จากเหตุการณ์นี้ ผมมองว่า มันหลีกเลี่ยงได้ครับ มันอยู่ที่ว่า คุณคิดจะหลีกเลี่ยงมันจริงๆหรือเปล่า แค่นั้นเองครับ
คลิป วิศวะ ยิง เด็กวัยรุ่น ดูกันช้าๆแบบ วินาที ต่อ วินาที ตัดอคติออก แล้วมองอย่างเป็นกลาง คุณเห็นอะไร ??
หลายคนสงสัยว่า ทำไมผมพูดถึงฝั่งเดียว นั่นเพราะ ฝั่งเด็กมันเห็นชัดเจนจนไม่ต้องพูดอะไรแล้วครับ ว่าทำผิดจริงๆ
ก็ไม่มีอะไรแก้ตัวครับ ผมสันนิษฐานผิดไปจริงๆ และผมตอบในคอมเม้นต์ตั้งแต่วันแรกๆที่ตั้งกระทู้แล้ว ว่าผมก็มองว่าเด็กผิดจริง
ขออภัยที่ไม่ได้ edit ให้เห็นในต้นทาง ตั้งแต่วันแรก ขออภัยอีกครั้งครับ
ได้กลับมาอ่านอีก ตกใจเลย ไม่คิดว่าจะยาวขนาดนี้ ใจเย็นๆกันก่อนนะครับ
เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย เป็นความคิดของแต่ละคน ผมน้อมรับว่า ที่คิดไว้ คงจะผิดจริงๆครับ
เพิ่งได้เห็นคลิปในรถของวิศวะวันนี้ 8/2/60 เป็นภาพอีกมุมนึงแล้ว ทำให้ ทราบข้อเท็จจริงเพิ่มมา 2 ข้อครับ
1. มีอย่างนึงที่ ฝ่ายเด็กโกหก คือ ลงมือต่อยวิศวะก่อนจริงๆ(ฟังจากเสียง) ซึ่งจุดนี้ น่าจะเข้าประเด็น ป้องกันตัวได้แล้ว
2. วิศวะ ไม่ได้มีเจตนาปาดหน้าจริง แต่เป็นการหักรถ เพื่อต้องการขอความช่วยเหลือ ซึ่งจุดนี้ วิศวะ พูดจริง
สรุป คือ เด็กโกหกแน่ๆ อย่างน้อย 2 ครั้ง และ ยืนยันว่า สิ่งที่ วิศวะ พูดเป็นความจริง
ก่อนหน้านี้ จากที่ยังไม่อยากเทไปฝั่งไหน
ตอนนี้ เชื่อฝั่ง วิศวะ 80 แต่ก็ยังไม่เห็นหลักฐานให้ปักใจเชื่อได้ว่า วิศวะพูดจริงหมด 100% นะครับ ขอโทษอีกครั้งไว้ตรงนี้เลย
ยังเผื่อใจรอดูหลักฐานที่เหลือครับ และ ดีใจมากที่ในรถวิศวะ มีกล้อง วันแรกไม่รู้จริงๆ ว่ารถมีกล้อง นึกว่าต้องรอหลักฐานกันยาวๆซะแล้ว
หลายคนคงโกรธ ทำไมผมถึงได้โง่ เชื่ออะไรยากเย็นขนาดนี้ หลักฐานขนาดนี้ทำไมยังไม่เชื่อซะที ภาพ เสียง ในคลิปมันก็ชัดซะขนาดนั้น
นั่นเพราะ ยังขาดความจริงที่ผมอยากรู้อีก 2 ข้อ คือ
1. บริเวณจุดซื้อของ ที่เริ่มเรื่อง มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกันแน่
2. ระหว่างทางที่ขับมา ทั้ง 2 ฝ่าย มีการขับรถยั่วยุคู่กรณี จริงตามที่ทั้ง 2 ฝ่ายอ้างหรือไม่
(คลิปที่ตัดมา มีเฉพาะช่วงเกิดเรื่อง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อฝั่งวิศวะอย่างมาก สามารถใช้เพื่อเข้าเป็นเหตุป้องกันตัวได้แน่ๆครับ)
แต่ด้วยในรถวิศวะ มีกล้อง จึงน่าจะมีภาพและเสียง บันทึกไว้ตั้งแต่เริ่มเหตุการณ์ จนถึง จุดที่เกิดเหตุบานปลาย
ซึ่งภาพในกล้องจะบอกความจริงได้ทั้งหมด ว่าจริงๆแล้วเป็นยังไงกันแน่ แต่ตามข่าวบอกว่าอยากเอาไปใช้ในชั้นศาล
ถ้าเห็นภาพทั้งหมด ตั้งแต่บริเวณร้านค้า ระหว่างขับ จนถึง จุดเกิดเหตุ
ก็จะรู้ได้ว่าชัดเจนว่า เหตุการณ์จริงๆตั้งแต่เริ่มจนสุดท้าย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ได้มีการกระทบ กระทั่ง ตอบโต้ หรือ ยุแหย่ กันระหว่างทางจริงไหม ใจเย็นๆนะครับ ไม่ได้จะมาขวางกระแสอะไร
ถ้าแบ่ง ความจริงเป็น 10 ส่วน ต่อให้ 9 ส่วนแรกเป็นความจริง ก็ไม่ได้เป็นตัวตัดสินว่า อีก 1 ส่วนที่เหลือ จะไม่ใช่เรื่องโกหก
ถ้าภาพทั้งหมดในรถฟ้องว่า เรื่องทั้งหมด วิศวะ เป็นฝ่ายถูกกระทำแต่เพียงฝ่ายเดียว ผมถึงเชื่อ 100% ครับ
และ ยังขอเหมือนเดิม คนตาย ตายไปแล้ว ไม่ว่าเขาจะดี จะเลว เขาก็ได้รับผลกับสิ่งที่ทำไปแล้ว ไม่ต้องพิมพ์อะไรที่มันรุนแรงนักก็ได้ครับ
กับอีกประเด็นที่ผมยังสงสัยเหมือเดิม คือ สังคมจะดีจริงๆเหรอ ถ้าทุกคนพกปืนกันหมด
สุดท้ายก็ขอโทษล่วงหน้าครับ ถ้าการแสดงความคิดเห็นของผม ไม่ถูกใจใครหลายคน
ขอโทษ ขอโทษ และ ขอโทษอีกครั้งครับ ทุกตัวอักษรผมพิมพ์ด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ มันอาจจะดูโง่เง่า ก็ขออภัยด้วยครับ
ย้ำอีกครั้งว่า ไม่ได้มีส่วนได้ ส่วนเสีย และ ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าคงต้องโดนแบบนี้ แต่ผมคิดแบบนี้ด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ
ส่วนข้อความที่เคยพิมพ์ไป ผมขออนุญาตทิ้งไว้แบบนี้นะครับ เพราะ ในเมื่อผมผิดพลาดจริง ก็ขอยอมรับ ไม่ขอแก้ตัวครับ
--------------------------------------------------------------------------------
ใจเย็นๆ อยากให้อ่านจนจบนะครับ อ่านอย่างเป็นกลางครับ
ผมนั่งดูคลิปวนไปมาจน ณ ตอนนี้เกือบ 70 รอบแล้ว
อยากให้เอาคำว่าเด็ก คำว่าคนแก่ คำว่าวัยรุ่น ทิ้งไป
แล้วลองดูด้วยตาตัวเอง วางอคติลงก่อน อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจ อย่าเพิ่งด่า
ถ้าดูแค่ผ่านๆ เป็นใครก็คงรู้สึกว่า ฝ่ายเด็กผิดเต็มๆ เริ่มลงมาหาเรื่องก่อน แต่อยากให้ดูให้ดีๆครับ ว่ามันใช่แบบนั้นจริงๆหรือเปล่า
และบอกก่อนว่า ผมไม่เข้าข้างฝ่ายไหนทั้งนั้น เพราะ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์
ถ้าถามว่าใครผิด จุดเริ่มก็คงต่างฝ่าย ต่างยั่วยุกันไปมา ดูแล้วก็แรงทั้ง 2 คน คนนึงมีอาวุธ อีกคนนึงก็พวกเยอะ
แต่สุดท้ายผมให้คนที่พกพาอาวุธ เป็นฝ่ายที่ผิดมากกว่าอีกฝ่ายครับ
ผมพยายามค่อยๆแกะคลิปหลักฐาน และ บรรยายให้เข้าใจง่ายๆครับ
เริ่มจากคลิปนี้ก่อน https://www.youtube.com/watch?v=1X9Tqxq2Ue4
เหตุการณ์นี้ มีรถทั้งหมด 3 คัน คือ รถของวิศวะ รถตู้ของกลุ่มเด็ก และ รถวีออส(ไฟสีฟ้า)ของกลุ่มเด็ก
7.38 ในภาพ รถของวิศวะ ปาดรถเก๋งวีออส ไฟสีฟ้า ของกลุ่มผู้ตายก่อนจริงๆ
- ฝ่ายวิศวะ อ้างว่า เป็นจุดปลอดภัย แต่ถ้าดูองศาการหักพวงมาลัย เขาหักเข้ามาเกือบ 60 องศาแบบทันทีทันใด
ต่อให้เปิดไฟซ้าย แต่การหักเข้าแบบนี้ ก็ไม่น่าจะเรียกว่า จอด แต่น่าจะเรียกว่า ปาด มากกว่า
หรือ ถ้าจะจอดจริง ทำไม ไม่ชะลอแล้วเข้าซ้ายรอไว้ตั้งแต่แรก วิ่งกลางมาแล้วอยู่ดีๆ ก็ตัดเลนส์ซ้ายกระทันหันเพื่อเข้าจอด
และ ลักษณะการจอด ก็ไม่ได้จอดชิดขอบทาง แต่เป็นการจอดตะแคง เพื่อขวางรถคู่กรณีไว้
7.44 รถของวิศวะ จอดขวางรถเก๋งวีออสไว้ระยะประชิด
7.49 รถตู้ของกลุ่มเด็กเห็นเหตุการณ์ ว่ารถเพื่อนอีกคันโดนปาดขวางอยู่ ก็เลยหักมาจอดด้านหน้าอีกที
- ระยะจอดของรถวิศวะ กับรถตู้ ห่างกันพอสมควร รถวิศวะสามารถขับออกมาได้ แต่ก็ไม่ทำ ต่างกับของคันหลัง ที่โดนขวางไว้ชัดเจน
7.53 น่าจะเป็นแม่ของวิศวะ เปิดประตูลงมาเอง ไม่ได้ถูกลากออกจากรถ ย้ำว่า เดินลงมาเอง ไม่ได้ถูกลากลงมา
7.56 คนตายเดินไปถึงตัวแม่
ช่วง 7.56-7.59 ให้ลดความเร็วภาพลงเหลือแค่ 0.25 เพื่อดูภาพช้าๆครับ เหตุการณ์ช่วงนี้จะเร็วมาก
โดยเฉพาะช่วง 7.58 จับตาดูดีๆครับ แล้วคุณจะตกใจเพราะ ฝ่ายที่ถูกกระชากเข้าไปหา คือ ฝ่ายเด็กครับ
ใช่ครับ จากในคลิปหลักฐาน คุณแม่ กระชาก เด็กจริงๆ ทั้งการตั้งท่าของฝ่ายเด็กที่เป็นการงอตัว และ การเคลื่อนที่
ค่อนข้างชัดเจนนะครับว่า ฝ่ายเด็กเป็นฝ่ายถูกกระชากเข้าไปหาฝ่ายแม่จริง
- หลายๆความเห็นในเว็บต่างๆ ส่วนใหญ่จะบอกว่าเด็กโกหก คนแก่จะทำอย่างนั้นได้ไง แต่จากภาพ ถ้าค่อยๆดูก็จะเห็นครับ ว่าเกิดอะไร
8.00 ผู้ตาย ไม่ได้สนใจจะมีเรื่องกับแม่เลย แต่เขาวิ่งไปอีกฝั่ง เพื่อจะเคลียร์กับคนขับ
- จะอ้างว่าปกป้อง แม่ กับ เมีย ก็คงพูดได้ไม่เต็มปาก เพราะ เห็นอยู่ชัดๆว่า ขนาดแม่โดนกระชาก เขายังไม่สนใจแม่เลย จะคุยกับคนขับอย่างเดียว
8.02 แม่เดินตามไปดูเด็กที่เดินไปอีกฝั่งนึง
8.05 กลุ่มผู้ตาย พยายามเปิดประตูรถฝั่งคนขับ (กลุ่มเด็ก เริ่มจับประตูรถฝั่งคนขับ ณ วินาทีนี้)
8.06 ประตูล็อคเปิดไม่ออก
8.08 สังเกตุดีๆ จะเหมือนว่า กลุ่มผู้ตายเดินไปเปิดประตูหลัง และน่าจะเป็นจังหวะเดียวกับที่ ยิงผู้ตาย
ช่วง 8.09-8.11 น่าจะเป็นช่วงที่ผู้ตายโดนยิง
สรุป คือ กลุ่มผู้ตาย เริ่มแตะประตูคนขับ ตอน 8.05 และ ยังไม่ทันจะเปิดประตูฝั่งคนขับได้
แต่ผู้ตายโดนยิงตอน 8.10 ฝั่งวิศวะใช้เวลาทั้งสิ้น 5 วินาที ในการตัดสินใจยิงผู้ตายที่ไม่มีอาวุธ
โดยที่ ณ ตอนนั้น น่าจะยังไม่มีใครแตะต้องตัวเขาเลย หรือ กรณีเลวร้ายที่สุด ในเวลา 1-2 วินาทีที่เห็น ก็น่าจะแค่ยื้อกันอยู่ในรถ
ช่วง 8.10 ให้จำภาพมอเตอร์ไซด์บริเวณด้านล่างที่เหมือนกำลังจะขับย้อนศร เพื่อเปรียบเทียบเวลากับคลิปนี้
https://www.youtube.com/watch?v=i0Q_7im9GHQ
ซึ่งจะตรงกับวินาทีที่ 0.32 พอดี
0.37 ผู้ตายหนีมาจนถึงอีกฝั่งนึงของถนน ผู้ตายใช้เวลา 5 วินาที เพื่อวิ่งหนีตายสุดชีวิต
0.38 กลุ่มผู้ตาย วิ่งกรูกันไปช่วยผู้ตาย
0.43 ผู้ตายล้มลงเป็นครั้งที่ 2
0.45 จากภาพ ไม่มีกลุ่มของผู้ตายอยู่ที่รถคันที่ยิงเลยแม้แต่คนเดียว มีแต่ประตูหลังที่เปิดอยู่
--- ภาพเหตุการณ์จบแค่ตรงนี้
ลองนับเวลาดูดีๆครับ แล้วลองถามใจตัวเองดูครับ การตัดสินใจ ยิงปืนใส่คนๆนึง มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ
ถ้าเป็นคุณ คุณจะใช้เวลาทำใจขนาดไหนก่อนที่จะเหนี่ยวไก และ จากคลิป จริงๆแล้วใครเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
นี่คือ การป้องกันตัว หรือ แค่ขาดสติ ??
ส่วนเหตุการณ์ก่อนหน้า ที่บอกว่า ฝ่ายเด็กบีบแตรไล่ หรือ ฝ่ายวิศวะตำเบรคเพื่อให้อีกฝ่ายชน
ผมมองว่า เกิดขึ้นได้ทั้ง 2 กรณี และมีโอกาสเกิดมากพอๆกัน อย่าคิดว่า อีกฝ่ายอายุมากแล้ว เขาคงไม่ทำอะไรแบบนี้หรอก
อยากจะบอกว่า ผมเคยเจอมาเยอะครับ คนแก่ๆที่อารมณ์ร้อน และ อีโก้สูง ความคิดแทบไม่ต่างจากวัยรุ่นคึกคะนองเลยครับ
จุดเริ่มจริงๆ ก็คงมาจาก ต่างฝ่ายต่างด่ากันไปมา ตรงจุดที่แวะจอดซื้อของกัน
ฝ่ายวิศวะ ก็คงรู้สึกว่า ตัวเองวัยวุฒิสูงกว่า ปล่อยให้เด็กมันด่าสวนแบบนี้ได้ยังไง ปืนก็มีจะกลัวอะไร ต้องเอาคืนบ้าง
ฝ่ายเด็ก ก็คงคิดเรื่องเล็กๆน้อยๆแค่นี้ พูดกันดีๆก็ได้ ทำไมต้องมาด่ากันแรงๆด้วย ก็กวนตีนคืนไปบ้าง
ผมเชื่อว่า ถ้าเหตุการณ์นี้ ต่างฝ่ายต่างพูดคุยกันดีๆตั้งแต่แรก และ ไม่มีอาวุธ มันจะไม่มีเรื่องมากมายขนาดนี้ครับ
ย้ำอีกครั้งว่า ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหน เพราะ ดูจากลักษณะแล้ว ต่างฝ่าย ต่างยั่วยุกันไปมาทั้งคู่
แต่ไม่อยากให้สังคมมองว่า การยกปืนยิงใส่ใครสักคน มันต้องมีเหตุที่เหมาะสมจริงๆ หรือ หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ
ผมอ่านในความคิดเห็น มีแต่คนสะใจว่า "ทำไมไม่ยิงให้ตายทั้งรถเลย" หรือ "มันตายก็สมควรแล้ว" หรือ "เลวทั้งแม่ ทั้งลูก ตายไปซะ"
ผมอ่านแล้วรู้สึกขนลุกมาก คนที่พิมพ์เขาคิดแบบนี้จริงๆเหรอ เราเข้าสู่ยุคที่ศาลเตี้ย คือ เรื่องธรรมดาไปแล้วใช่ไหม
อยากให้ลองถามใจตัวเองดูว่า ทำไมคุณถึงคิดแบบนี้ มันเพราะ อีกฝ่ายดูน่าเชื่อถือ และ อีกฝ่ายเป็นเด็ก ดูกุ๊ย ดูเป็นอันธพาล หรือเปล่า
ลองสมมติกลับกันว่า ถ้าในคลิปที่เห็น คนที่ยิง คือ วัยรุ่น แล้วกลุ่มวัยรุ่น คือ พนักงาน office แต่งตัวเรียบร้อย
คุณยังคิดแบบเดิมไหม ???
ถ้าคุณคิดว่าโดนไล่ล่า หรือ โดนรังแกจริงๆ และ ยังขับหนีได้ อย่าคิดจะใช้อาวุธเลยครับ
หรือให้ดี อย่าพกพาอาวุธเลยครับ ทันทีที่คุณพกมัน มันจะทำให้สมองคุณคิดออกอยู่วิธีเดียว คือ คุณสู้ได้ยิงมันซะ โดยไม่คิดถึงวิธีอื่นเลย
สถานีตำรวจ โรงพยาบาล หรือ แม้แต่สถานีดับเพลิง คุณขอความช่วยเหลือได้ทั้งนั้นครับ
อย่าจอดเพราะคิดว่าคุณมีอาวุธ คุณเหนือกว่า คุณสู้ได้ ไม่เห็นต้องกลัว เพราะ สุดท้าย มันจะจบด้วยการสูญเสียแน่นอน
จากเหตุการณ์นี้ ผมมองว่า มันหลีกเลี่ยงได้ครับ มันอยู่ที่ว่า คุณคิดจะหลีกเลี่ยงมันจริงๆหรือเปล่า แค่นั้นเองครับ