บทความคราวนี้จะเป็นเรื่องของการประยุกต์ทฤษฏีเกมส์ (Game Theory) ในฟุตบอล โดยอ้างอิงถึงสองเพลย์ใน Super Bowl คือ การปาของ Seahawks ที่โดนอินเตอร์เซปและ การปาของ Falcons ที่ Matt Ryan โดนแซคและเสียระยะเตะฟิลโกล
1) เพลย์ของ Seahawks คล้ายๆกับเพลย์สองแต้มหลังทัชดาวน์ที่ Pats เล่น คือการให้ปีกสองตัวนอกวิ่งไขว้กัน เพลย์ของเหยี่ยวคือการให้ปีกตัวในบล๊อกแล้วให้ปีกตัวนอกโฉบเข้ามารับ ในขณะที่เพลย์ของนักรบคือการให้ปีกนอกวิ่งเข้ามาเอาข้างในแล้วปาให้ปีกในที่วิ่งขนานเส้นฉีกออกนอกแทน
คือเอาเข้าจริง เพลย์ทั้งคู่เล่นได้หมด และโค้ชเองตอนเลือกแผนก็ไม่มีใครคิดว่าจะโดนขโมยลูก อย่างมากคือคิดแค่ว่าได้หรือไม่ได้ และเพลย์ไหนมีโอกาสได้แต้มมากที่สุด
กรณีของเหยี่ยวคือ ทีมนักรบใส่ไลน์เข้ามา 5คน กรูตรงกลางซึ่งอาจจะทำให้วิ่งไม่ได้ระยะและเวลาเดินต่อ
- ถ้าวิ่งไม่สำเร็จ ต้องขอเวลานอกครั้งสุดท้ายหยุดเวลา และต้องเล่นอีกสามเพลย์แบบห้ามเสียแซคหรือห้ามวิ่งอีกเลย ทีมรับยิ่งดักทางง่ายว่าปาชัวร์
- ถ้าปาไม่สำเร็จ เวลาหยุด จะได้เล่นอีกสามครั้ง และมีอีกหนึ่งเวลานอก
ในกรณีนี้ ถ้าไม่คิดเรื่องจะโดนขโมยลูก การปาก็ถือว่าไม่ผิด เพราะถ้าไม่ได้ ก็ยังสู้ต่อไม่ยาก
สรุปว่าช๊อตนี้ผมเห็นว่าโค้ชไม่ผิด เรียกว่า Lunch เป็นตัวล่อชั้นเยี่ยมทำให้ได้ ปีกได้ 1-1 ความมหัศจรรย์คือ Butler ที่โดนบล๊อกแล้วยังโฉบมาขโมยบอลได้อีก
2) การเรียกแผนของทีมเหยี่ยว
อันนี้ ถ้าคนที่เคยเล่น Madden ก็คงเข้าใจว่า เวลาเรียกแผน ต่างก็คำนึงถึงระยะที่ต้องการได้ และการควบคุมเวลาที่เหลืออยู่ ส่วนการเสีย Turnover เป็นอะไรที่ควบคุมไม่ได้ คือบทจะเสียมันก็เสีย ตัววิ่งวิ่งได้ไกลแล้วเสียบอลก็มี ควอเตอร์แบควิ่งไปมาชนก้นเพื่อนเสียฟั้มเบิ้ลก็มี
อย่าลืมว่าเกมส์การปาเป็นเกมส์หลักของทีมเหยี่ยว การทิ้งความเป็นตัวของตัวเองไปก็ทำให้เสียหายได้ ยิ่งนำๆแล้วเปลี่ยนมาวิ่ง ทีมรับจะจับทางได้แน่ๆว่าจะวิ่ง การวิ่งก็จะยากขึ้น Packers ของผมก็หลายรอบแล้วที่ Rodgers เล่นดีๆแล้วปรับมาวิ่งจนเสีย 3&out ต้องเตะทิ้งเป็นบ่อยๆ
เรื่องการปาแทนที่จะวิ่ง อันนี้ต้องเปรียบเทียบความน่าจะเป็นด้วยครับ
- ถ้าวิ่งแล้วไม่ได้ระยะ แล้วเตะระยะ 53 หลา อันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายของตัวเตะที่ทำได้อัตโนมัติ มันก็จะมีเรื่องความมั่นใจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และยิ่งในเกมส์ใหญ่ๆขนาดนี้ โค้ชคงไม่อยากจะโยน MVP ทิ้งแล้ววัดดวงที่การเตะระยะไกลแน่นอน (ทีมนักรบเตะ PAT ระยะ 25หลายังพลาดมาแล้ว) แล้วถ้าเกิดวิ่งๆแล้วไม่ได้ระยะแล้วดันเตะพลาด โค้ชคงโดนด่าอีกว่าทำไมไม่เล่นปาเสี่ยงเอาดาว์นที่หนึ่งเพื่อเตะใกล้ขึ้น
- ถ้าปาแล้วไม่เข้าเป้า อย่างน้อยก็ไม่เสียระยะ มีโอกาสปาสองหน โอกาสเปลี่ยนดาว์นที่หนึ่งได้ก็เยอะอยู่ การที่เสียแซคต้องชมทีมรับมากกว่าที่กดดันปีกไม่เปิดช่องและเข้าหาตัวขว้างได้ไว
ที่สำคัญถ้าเตะพลาด ทีมนักรบได้ตำแหน่งที่ดีมากๆ
เรื่อง Matt Ryan เสียแซคอันนี้ การเรียกแผนก็ไม่ผิดทีเดียว ความผิดพลาดที่ตัวบล๊อคปิดทางไม่ดีเลยโดนวิ่งเข้ามาแซคจนเสียฟั้มเบิ้ล
>>>ตรงนี้ผมว่าผิดทั้งคนบล๊อกพลาดและไรอันที่เก็บบอลไม่อยู่
ร่วมวิเคราะห์กันครับ
**************************************************
แก้ไขข้อมูลครับ มีผู้หวังดีช่วยแก้ข้อผิดพลาด
1. เพลย์ของ seahawks เปน 2nd & goal ครับ ดังนั้นจึงเหลืออีก แค่2play ครับ ไม่ใช่ 3
2. falcons เล่นอยู่บนเส้น 24 ฝั่งแพท ถ้าเตะ FG น่าจะระยะประมาณ 44 หลา ไม่ใช่ 53 หลาครับ
Game Theory ใน NFL
1) เพลย์ของ Seahawks คล้ายๆกับเพลย์สองแต้มหลังทัชดาวน์ที่ Pats เล่น คือการให้ปีกสองตัวนอกวิ่งไขว้กัน เพลย์ของเหยี่ยวคือการให้ปีกตัวในบล๊อกแล้วให้ปีกตัวนอกโฉบเข้ามารับ ในขณะที่เพลย์ของนักรบคือการให้ปีกนอกวิ่งเข้ามาเอาข้างในแล้วปาให้ปีกในที่วิ่งขนานเส้นฉีกออกนอกแทน
คือเอาเข้าจริง เพลย์ทั้งคู่เล่นได้หมด และโค้ชเองตอนเลือกแผนก็ไม่มีใครคิดว่าจะโดนขโมยลูก อย่างมากคือคิดแค่ว่าได้หรือไม่ได้ และเพลย์ไหนมีโอกาสได้แต้มมากที่สุด
กรณีของเหยี่ยวคือ ทีมนักรบใส่ไลน์เข้ามา 5คน กรูตรงกลางซึ่งอาจจะทำให้วิ่งไม่ได้ระยะและเวลาเดินต่อ
- ถ้าวิ่งไม่สำเร็จ ต้องขอเวลานอกครั้งสุดท้ายหยุดเวลา และต้องเล่นอีกสามเพลย์แบบห้ามเสียแซคหรือห้ามวิ่งอีกเลย ทีมรับยิ่งดักทางง่ายว่าปาชัวร์
- ถ้าปาไม่สำเร็จ เวลาหยุด จะได้เล่นอีกสามครั้ง และมีอีกหนึ่งเวลานอก
ในกรณีนี้ ถ้าไม่คิดเรื่องจะโดนขโมยลูก การปาก็ถือว่าไม่ผิด เพราะถ้าไม่ได้ ก็ยังสู้ต่อไม่ยาก
สรุปว่าช๊อตนี้ผมเห็นว่าโค้ชไม่ผิด เรียกว่า Lunch เป็นตัวล่อชั้นเยี่ยมทำให้ได้ ปีกได้ 1-1 ความมหัศจรรย์คือ Butler ที่โดนบล๊อกแล้วยังโฉบมาขโมยบอลได้อีก
2) การเรียกแผนของทีมเหยี่ยว
อันนี้ ถ้าคนที่เคยเล่น Madden ก็คงเข้าใจว่า เวลาเรียกแผน ต่างก็คำนึงถึงระยะที่ต้องการได้ และการควบคุมเวลาที่เหลืออยู่ ส่วนการเสีย Turnover เป็นอะไรที่ควบคุมไม่ได้ คือบทจะเสียมันก็เสีย ตัววิ่งวิ่งได้ไกลแล้วเสียบอลก็มี ควอเตอร์แบควิ่งไปมาชนก้นเพื่อนเสียฟั้มเบิ้ลก็มี
อย่าลืมว่าเกมส์การปาเป็นเกมส์หลักของทีมเหยี่ยว การทิ้งความเป็นตัวของตัวเองไปก็ทำให้เสียหายได้ ยิ่งนำๆแล้วเปลี่ยนมาวิ่ง ทีมรับจะจับทางได้แน่ๆว่าจะวิ่ง การวิ่งก็จะยากขึ้น Packers ของผมก็หลายรอบแล้วที่ Rodgers เล่นดีๆแล้วปรับมาวิ่งจนเสีย 3&out ต้องเตะทิ้งเป็นบ่อยๆ
เรื่องการปาแทนที่จะวิ่ง อันนี้ต้องเปรียบเทียบความน่าจะเป็นด้วยครับ
- ถ้าวิ่งแล้วไม่ได้ระยะ แล้วเตะระยะ 53 หลา อันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายของตัวเตะที่ทำได้อัตโนมัติ มันก็จะมีเรื่องความมั่นใจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และยิ่งในเกมส์ใหญ่ๆขนาดนี้ โค้ชคงไม่อยากจะโยน MVP ทิ้งแล้ววัดดวงที่การเตะระยะไกลแน่นอน (ทีมนักรบเตะ PAT ระยะ 25หลายังพลาดมาแล้ว) แล้วถ้าเกิดวิ่งๆแล้วไม่ได้ระยะแล้วดันเตะพลาด โค้ชคงโดนด่าอีกว่าทำไมไม่เล่นปาเสี่ยงเอาดาว์นที่หนึ่งเพื่อเตะใกล้ขึ้น
- ถ้าปาแล้วไม่เข้าเป้า อย่างน้อยก็ไม่เสียระยะ มีโอกาสปาสองหน โอกาสเปลี่ยนดาว์นที่หนึ่งได้ก็เยอะอยู่ การที่เสียแซคต้องชมทีมรับมากกว่าที่กดดันปีกไม่เปิดช่องและเข้าหาตัวขว้างได้ไว
ที่สำคัญถ้าเตะพลาด ทีมนักรบได้ตำแหน่งที่ดีมากๆ
เรื่อง Matt Ryan เสียแซคอันนี้ การเรียกแผนก็ไม่ผิดทีเดียว ความผิดพลาดที่ตัวบล๊อคปิดทางไม่ดีเลยโดนวิ่งเข้ามาแซคจนเสียฟั้มเบิ้ล
>>>ตรงนี้ผมว่าผิดทั้งคนบล๊อกพลาดและไรอันที่เก็บบอลไม่อยู่
ร่วมวิเคราะห์กันครับ
**************************************************
แก้ไขข้อมูลครับ มีผู้หวังดีช่วยแก้ข้อผิดพลาด
1. เพลย์ของ seahawks เปน 2nd & goal ครับ ดังนั้นจึงเหลืออีก แค่2play ครับ ไม่ใช่ 3
2. falcons เล่นอยู่บนเส้น 24 ฝั่งแพท ถ้าเตะ FG น่าจะระยะประมาณ 44 หลา ไม่ใช่ 53 หลาครับ