สวัสดีครับเพื่อน ชาว Pantip ทุกๆท่านจากรีวิวที่เเล้วที่ผมได้ทำการรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นใหญ่จากแบรนด์ ASUS ไปแล้วสำหรับรีวิวนี้ก็ยังคงเป็นค่ายเดิมอีกเช่นเคย แต่สิ่งที่เเตกต่างจากรุ่นก่อนนั้นเป็นเรื่องของราคาที่เรียกได้ว่าคุ้มค่าและไม่เเพงมากนัก เอาไว้สำหรับเพื่อนๆที่มีงบน้อยแต่อยากได้สมาร์ทโฟน ที่สามารถตอบโจทย์ในเรื่องของสเปคและกล้องแน่นอนครับสำหรับรุ่นที่ผมจะเอามาฝากนั้น มีดีทั้งเรื่องสเปคเเละเรื่องกล้องอย่างแน่นอนอยากรู้แล้วล่ะสิว่าเป็นรุ่นอะไร 🙂 ผมจะบอกเพื่อนๆดีรึเปล่านะครับบอกดีกว่าสำหรับสมาร์ทโฟนที่ผมจะรีวิวนั้นคือเจ้า ASUS ZENFONE 3 LASER นั้นเองและสำหรับในรุ่นนี้เพื่อนๆคงจะรู้กันดีว่ามีราคาจำหน่ายอยู่ในขนาดนี้ราคาอยู่ที่ 8,990 บาท แต่ราคานี้นั้นก็คงจะซ้ำกันหลายๆแบรนด์ใช่มั้ย ? ผมว่าเพื่อนๆมาดูดีกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้นั้นมันจะมีอะไรต่างจากแบรนด์อื่นในราคาที่เท่าๆกัน และเพื่อนๆจะได้อะไรต่างจากรุ่นอื่นๆเรามาดูรีวิวของผมกันเลยยยยย !
อุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่อง หัวชาร์จแบบ 2 A ( สีขาว ) หูฟังแบบ InEar แบบขนาด M จุกอย่างแบบ 2 ขนาด S และ L ตัวเครื่อง สายชาร์จ ( สีขาว ) คู่มืออยู่ในเล่มสีดำ พร้อมอีมี่ เข็มจิ้มซิม รายละเอียดตัวเครื่อง : ASUS ZENFONE 3 LASER
ตัวเครื่องด้านหน้า : มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.5 IPS LCD 401 PPI (16 ล้านสี) นิ้วความละเอียดอยู่ที่ FHD มาพร้อมกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3
สำหรับตัวเครื่องด้านหน้าด้านบน : มาพร้อมลำโพงฟังเสียงสนทนา ไฟเเจ้งเตือน เช็นเซอร์วัดระยะ เซ็นเซอร์วัดแสง พร้อมกล้องหน้าความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซลและมีรูรับแสงกว้างอยู่ที่ F/2.0
สำหรับตัวเครื่องด้านหน้าด้านล่าง : มาพร้อมปุ่ม ซอฟต์คีย์ หรือแถบการใช้งาน 3 ปุ่มหลัก ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ , โฮม , Recent Apps และรุ่นนี้จะไม่มีไฟ Backlit เวลากดนะครับ
สำหรับตัวเครื่องด้านขวา : มีปุ่มพาวเวอร์ ที่แยกออกมาจากปุ่ม เพิ่มเสียง,ลดเสียง
สำหรับตัวเครื่องด้านช้าย : จะมีช่องสำหรับใส่ซิมแบบไฮบริดซิม ถ้าเลือกใช้งานสองซิมจะไม่สามารถเพิ่มเม้มได้ เเละ รุ่นนี้จะรับแค่ 4G/2G นะครับ
สำหรับตัวเครื่องด้านบน : มาพร้อมช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม และ ไมค์ตัดเสียง
สำหรับตัวเครื่องด้านบน : มาพร้อมช่องเสียบที่ชาร์แบบ USB ปกติที่รับชาร์ไว 2.0 และมีเเบตเตอร์ขนาด 3,000 mAh มีรูไมค์โครโฟน และ รูลำโพงสำหรับดูหนังหรือฟังเพลง หรือ อะไรต่างๆสำหรับรุ่นนี้มีเสียงดีไม่เบามากและไม่ดังมากมีรายละเอียดเสียงอยู่ในระดับโอเค
สำหรับตัวเครื่องด้านหลัง : มาพร้อมบอดี้โลหะมีความหนาและบางอยู่ที่ 149 x 76 x 7.9 mm มีน้ำหนักขนาด 150 กรัม มีโลโก้ ASUS ติดไว้ด้านล่างของตัวเครื่องเพิ่มความสวยงาม และ ความลงตัวขึ้นไปอีก
มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 13 MP ค่า F/2.0 ไฟแฟลชคู่ LED มี Laser Focus ที่สามารถจับภาพได้ไวเเละเร็วมาพร้อมโหมดถ่ายภาพต่างๆอย่าง Super Resolution , HDR และ โหมดอื่นๆ ยังมี EIS ป้องกันภาพสั่นไหวสำหรับการถ่ายวีดีโออีกด้วย และ ยังมาพร้อมเชนเซอร์นิ้วมือที่สามารถปลดล็อคตัวเครื่อง,ถ่ายรูป,รับสายอีกทั้งยังสามารถได้สูงถึง 5 นิ้วมือและไวเพียง 0.03 วินาทีเท่านั้น และ มีตัวกล้องที่นูนออกมาเล็กน้อย
ZENFONE 3 LASER : มาพร้อมชีพียูอย่าง QualComm Snapdragon 435 ความเร็วประมวลผลแบบ Octa-core 1.4 Ghz แบบ 64 BIT มาพร้อมหน่วยประมวลผลกราฟฟิคเกมส์อย่าง Adreno 505 มาพร้อมแรม 4 GB และ รอม 32 GB อีกทั้งยังมาพร้อมแบตเตอร์รี่ขนาด 3,000 mAh และ ระบบชาร์ไว 2.0 และ รันบน OS Android 6.0 ทับ Zenui 3.0 //// พื้นที่จะเหลือใช้งานประมาณทั้งหมด 23 GB และ ระบบจะกินไปประมาณเกือบ 10 GB ครับถือว่าเหลือใช้เยอะอยู่เหมือนกัน
ผลทดสอบคะแนน ANTUTU /// ทดสอบ gps ใช้งานได้ไว เเละ แม่นยำดีมากครับสำหรับรุ่นนี้ถือว่าการใช้งานผ่าน GPS ในเรื่องนำทางสบายเลยครับ
ผลจากการที่ผมใช้งานเรื่องเเบตนั้นถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว ผมใช้งานทั้งวันเล่น Facebook , line , Game ซึงในรุ่นนี้สามารถถือว่าทำได้ดีอยู่ได้ถึง 1 วัน หรือ 2 วัน อีกทั้งยังเพิ่มความสามารถในการเพิ่มการใช้งานของเเบตให้ลดลงได้ด้วยการเปิดแสงของหน้าจอแสดงผล ปิดแอพต่างๆที่เราไม่ใช้งาน ก็จะสามารถเพิ่มระยะเวลาการใช้งานของโทรศัพย์ให้มากขึ้นด้วยครับ
หลังจากที่ผมได้ทดสอบเล่นเกมส์นะครับ รุ่นนี้ถือว่าทำมาได้ดีครับไม่ว่าจะเป็นเกมส์แนว 3D กราฟฟิคสวยๆเอาอยู่ครับก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ผมถือว่าผ่านครับอีกทั้งผมได้ทดสอบเล่นเกมส์อย่างต่อเนื่องนั้น แสดงให้เห็นว่าตัวเครื่องไม่ค่อยมีความร้อนต่างจากรุ่นอื่นที่เคยรีวิวมาเลยครับ
และรุ่นนี้เราก็สามารถจะบันทึกเป็นคลิปวีดีโอเวลาเล่นเกมส์ได้อีกเช่นเคยครับ โดยโปรแกรมที่มีชื่อว่า Game Tool bar ซึงเป็นตัวช่วยในการเล่นเกมส์เร่งความเร็วตัวเครื่องให้เร็วขึ้น
หรือไม่ว่าเราจะทำการอัดเกมส์เพื่อเก็บไว้ดูหรือส่งให้เพื่อนเจ้าโปรแกรมนี้ก็สามารถทำการสตรีมเกมส์สดๆผ่านทางช่องทาง Youtube หรือ ทวิตเตอร์ เราก็สามารถทำได้
หน้าตา Ui และ ฟังก์ชัน
หน้าโฮมล็อก : ก็มีอะไรที่เหมือน Asus ที่เราเคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ สิ่งที่เราจะเห็นเป็นอันดับแรกก็คือหน้าเมนูจอหน้าจอเพื่อทำการ Swipe up to unlock หรือทำการกวาดนิ้วขึ้นก่อนที่จะเข้าสู่เมนูหน้าจอหลักนั้นเองหรือมีปุ่มเมนูลัดต่างๆเพียงแค่ลากนิ้วไปที่รูปไอคอนง่ายๆเท่านั้น //// หน้าตา Ui : สำหรับรุ่นนี้จะมาพร้อม Ui อย่าง Zenui 3.0 และ Android 6.0 รูปแบบ Ui ก็ยังคงความเรียบง่ายในแบบฉบับของ Zenfone
แถบการใช้งานลัด ,Notifications :ถ้าหากเราทำการรูดหน้าจอลงมาหนึ่งครั้งก็จะเห็นแท็บของการเเจ้งเตือนบน ( Notifications ) ในการเเจ้งเตือนของแอพต่างๆและถ้าเราทำการรูดลงมาอีกทีก็จะเห็นแถบเมนูการใช้งานในการเปิดปิดปุ่มทางลัดของฟังก์ชันต่างๆตามรูปด้านบนเลยนะครับเเต่ที่ผมชอบคือโหมดป้องกันแสงสีฟ้านี้เเละเวลากปิดไฟเล่นไม่ค่อยปวดตา
จัดการหน้าจอโฮม : แต่เมื่อเราทำการกดหน้าจอค้างเอาไว้ก็จะแสดงตัวเลือกจัดการหน้าโฮม ที่มีเมนูให้เราเลือกแก้ไขหรือเลือกเปลี่ยนแปลงแก้ไข ธีม,ไอคอน,วอลเปเปอร์ หรือเมนูต่างๆตามภาพ
หน้า All Apps , วิดเจ็ต : แต่ถ้าเราทำการกดเข้าไปในปุ่มของหน้า All Apps เราก็จะเห็นแอพต่างๆที่เราทำการโหลดเอาไว้บนตัวเครื่องและก็ยังมีหน้าวิดเจ็ตทั้งหมดที่เราสามารถเลือกใช้เป็นทางลัดได้อีกด้วย
คลังธีม : แต่สำหรับคนที่ชอบในการตกเเต่ง ธีมหรือไอคอนบนสมาร์ทโฟน Asus เขาก็มีคลังธีมสำหรับโหลดธีมสวยๆหรือไอคอนสวยๆทั้งในแบบฟรีและก็ทั้งในแบบเสียเงินมาให้เราได้โหลดกันอีกด้วยและเราก็ยังสามารถเปลี่ยนรูปแบบของฟ้อนตัวหนังสือเพิ่มเติมได้ใน playstore
ลูกเล่นฝาปิด Asus : สำหรับรุ่นนี้ก็จะไม่มีลูกเล่นฝาพับเหมือนรุ่นก่อนๆหน้านี้มีเพียงแค่ให้เราปรับการเปิดการทำงาน,และปลดล็อคเท่านั้น
ไฟฉาย,เครื่องคิดเลข : แอพไฟฉายเราก็ยังสามารถเลือกใช้ได้อย่างสบายพร้อมกับปุ่ม SoS สำหรับการเปิดไฟขอความช่วยเหลือและสำหรับหน้าตาของเครื่องคิดเลขก็จะเหมือนในรุ่นก่อนๆแต่ความพิเศษของเครื่องคิดเลขใน Zenfone สามารถกด .12345+= เพื่อกดทดสอบหรือเช็คตัวเครื่องตอนที่เราซื้อได้ด้วย
โหมดง่าย : เป็นอีกฟังก์ชันที่ไม่พูดถึงไม่ได้ด้วยในการใช้งานที่มีไอคอนและตัวหนังสือขนาดใหญ่จึงจำเป็นมากๆสำหรับคนที่มีปัญหาทางด้านสายตาอีกทั้งยังใช้ง่าย
ฟังก์ชันลายนิ้วมือ : สำหรับรุ่นนี้นั้นได้เพิ่มความสามารถในการใช้งานลายนิ้วมือในการปลดล็อกอุปกรณ์โทรศัพท์และ Asus ก็ยังใส่ความสามารถอื่นๆมาให้อีกอย่างเช่น แตะสองครั้งบนเชนเซอร์สแกนนิ้วเพื่อเปิดกล้อง , แตะค้างไว้เพื่อรับสาย ,แตะเพื่อถ่ายภาพ , แตะเพื่อใช้ลายนิ้วปลดล็อกหน้าจอ อีกทั้งเรายังสามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้สูงสุดถึง 5 ลายนิ้วมือเลยทีเดียว
ฟังก์ชัน ZenMotion (เจสเจอร์สัมผัส) : สำหรับฟังก์ชันนี้เป็นอีกฟังก์ชันที่ทำให้เราสามารถใช้งานบนตัวเครื่องได้สะดวกมากยิ่งขึ้นโดยที่เราไม่จำเป็นต้องพึงปุ่ม Power ของตัวเครื่องอีกต่อไปมันยังช่วยเซิฟปุ่ม Power ของเราแค่เรา เคาะสองครั้งที่หน้าจอเพื่อทำการเปิด,ปิด เเละเราก็ยังสามารถวาดตัวอักษรในตอนที่มือถือทำการปิดหน้าจอเพื่อเขาแอพต่างๆที่เราได้ทำการบันทึกไว้ได้เลยโดยมีตัวอักษรหกตัวได้แก่ W,S,E,C,Z,V โดยไม่ต้องทำการเปิดตัวเครื่องๆ ดูตัวอย่างตามรูปด้านล่างครับ
ฟังก์ชัน ZenMotion (เจสเจอร์เคลื่อนที่) : ก็เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันการใช้งานที่สำคัญและทำให้เราใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้นไม่ต่างจากการเคาะหน้าจอเพื่อเปิดสำหรับโหมดนี้จะเน้นการใช้งานแบบพลิกมือถือเพื่อปิดเสียงเงียบในช่วงที่เราประชุมหรือยกมือถือแนบหูเพื่อทำการรับสายได้เลยโดยไม่ต้องรูดรับ ดูตัวอย่างตามรูปด้านล่างเลยครับ
ฟังก์ชัน ZenMotion (โหมดมือเดียว ) : สำหรับฟังก์ชันนี้จะเหมาะสำหรับคนที่ขับรถถือของเยอะๆไม่สะดวกในการใช้งานมือเดียวหรือในรุ่นที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ไปมันก็จะสามารถทำการย่อส่วนของหน้าจอการใช้งานให้เราสามารถใช้งานด้วยมือเดียวได้
[SR] รีวิว ASUS ZENFONE 3 LASER โฟกัสให้ตรงใจสมาร์ทโฟนสเปคสุดโดนในราคาที่ไม่เเพงที่ใครชอบของแรงไม่ควรพลาด