วันที่ 3 ผมยังคงอยู่ในโตเกียวเป็นวันที่แฟนอบรมเป็นวันสุดท้าย ไม่มีแปลนอะไรในหัวเลยว่าจะไปไหน ความจริงผมว่ามันก็ชิลล์เกินไปหรือปล่าว แต่ความสุขของการได้เที่ยวโดยไม่มีใครมากะเกณฑ์ ว่าวันที่ต้องตื่นกี่โมง ต้องไปที่ไหนบ้าง บางทีมันก็ไม่ตื่นเต้นเลย เพราะเรารู้หมดแล้วว่าวันนี้จะต้องไปที่ไหนบ้าง อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ยกเว้นในบางประเทศที่การเที่ยวโดยมีผู้นำทาง จะสะดวกสบายกว่าเดินทางด้วยตัวเอง แต่ผมว่าไม่ใช่สำหรับญี่ปุ่นแน่ๆ
    ผมยังจำร้านที่เคยนั่งแล้วรู้สึกประทับใจในทุกครั้ง ที่เคยมา ถ้าไม่ลำบากมากนัก การไปในที่เดิมๆ มันเป็นการการันตีได้อย่างนึงว่า เราจะได้รับความรู้สึก บรรยากาศ รสชาดอาหาร ที่เราเคยประทับใจอย่างแน่นอน "FEBRUARY CAFE"  เป็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอกตึกย่านอาซากุสะ ผมพบร้านนี้เมื่อการมาโตเกียวหลายปีมาแล้ว โดยบังเอิญ ภายในตกแต่งง่ายๆและอบอุ่น เสียดายรอบนี้คนเยอะไปหน่อยเลยไม่กล้าถ่ายรูปเท่าไหร่


   ชุดกาแฟจับคู่กับ cheese toast ยังคงมีเหมือนทุกครั้งที่มา จะต่างก็ตรงที่ราคาอาจจะมีการปรับขึ้นเล็กน้อย แต่ความอร่อยยังคงเดิม


    เดินออกมาจากร้าน ด้วยความประทับใจเช่นเคย วันนี้ท้องฟ้าค่อนข้างปลอดโปร่ง อากาศไม่หนาวมากเท่าไหร่



วันนี้เราจะไปเที่ยวสถานที่จัดแสดงรถไฟจำลอง KATO HOBBY CENTER แถวสถานี Ochiai minani nagasaki สาบานว่านี่ชื่อสถานี เดาได้ว่าต้องไกลแน่ๆ ไกลจริงๆด้วยให้ความรู้สึกชานเมืองมากๆ เหมือนนั่งรถจากรังสิตไปบางแคยังไงยังงั้น


  ไม่น่าเชื่อ พิพิธภัณฑ์รถไฟจำลองเล็กๆ ที่ยกโบกี้รถไฟจริงๆมาไว้ข้างหน้า จะอยู่ท่ามกลางชุมชนที่แสนเงียบสงบ ชานกรุงโตเกียว



เติมเต็มความฝันวัยเด็กกันซะให้พอ ด้วยไมเดลรถไฟจำลองเต็มรูปแบบ ขนาดใหญ่บิ๊กเบิ้ม แสดงอยู่เต็มพื้นที่ทั้ง 2 ชั้น รวมทั้ง simulator ให้ได้ลองขับรถไฟแบบเสมือนจริง อิจฉาเด็กญี่ปุ่นจริงๆ ที่มีศูนย์การเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้



  ทุกอย่างเป็นสัดส่วนที่ดูสมจริง มี controller ให้ลองบังคับได้ รวมทั้งมีรถไฟจำลอง พร้อมทั้งอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ จำหน่าย แต่ราคาสูงกว่าที่อกิบะพอสมควร และรู้สึกว่าจะทำคืนภาษีไม่ได้ด้วย


     ใช้เวลาอยู่ที่ hobby center หลายชั่วโมง ก่อนจะออกไปปฏิบัติภารกิจ ตามหาของฝากให้ที่บ้าน

     นั่งรถไฟมาลงสถานีฮาราจุกุ วันนี้ถนนช็อปปิ้ง ยอดนิยมอย่าง Takeshita-dori คราคร่ำไปด้วยผู้คนเช่นเคย เดินลัดเลาะจนไปถึง omotesando  ไม่ใกล้ไม่ไกล สองสถานี เดินได่เพลินๆ แค่ระวังใจตัวเองกับร้านค้าระหว่างทางไว้บ้างก็พอ



ร้านนี้เค้าว่าอร่อยแต่คนต่อคิวเยอะเกิน เดี๋ยวจะกลับไปรับแฟนไม่ทันเอา


แวะถ่ายรูปมวลมหาประชาชนที่มุมมหาชน


นัดกับแฟนว่าวันนี้จะไปหาร้านชิลล์ๆ นั่งกันหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการอบรมมาสามวัน เอาร้านใกล้ๆที่พัก เพราะไม่อยากกลับดึกมากพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้า
    ที่สถานี Ryogoku มีร้านคราฟท์เบียร์ชื่อดังประจำเมืองหลวง
Popeye beerclub


อย่างที่รู้ๆกันว่า คนญี่ปุ่นนิยมดื่มเบียร์มาก ผมก็เช่นกัน ในการมาญี่ปุ่นครั้งก่อนๆ ผมจะตื่นเต้นกับเบียร์ที่วางขายในร้านสะดวกซื้อมาก แม่เจ้า ทำไมมันมีหลายชนิดอย่างนั้น ทั้งๆที่ส่วนใหญ่ก็เป็นเบียร์ลาเกอร์แบบที่ขายในบ้านเรา ส่วนที่ญี่ปุ่นนั้นจะมี 4 จตุรเทพเป็นแกนนำหลัก  4 ยี่ห้อแต่เบียร์แต่ละยี่ห้อทำออกมาอีกเป็น 10 แบบ เบียร์ลาเกอร์ญี่ปุ่นนี้ถูกใจผมเป็นที่สุด รสชาดนุ่มๆ ลื่นคอ แต่พักหลัง การมาของ craft beer ทำให้เราได้เปิดโลกใบใหญ่ของการดื่มเบียร์ ช่วงนี้กำลังเป็นข่าวดังในบ้านเราทีเดียว  อย่างที่ร้าน popeye นี้มี craftbeer สดให้เราเลือกถึง 70 tap!!! อะไรมันจะเยอะขนาดนั้น


      ส่วนใหญ่เป็น craftbeer นำเข้า และที่ผลิตเองในประเทศก็ไม่น้อย hang out กันด้วย craftbeer สไตล์ยุ่น พรุ่งนี้เตรียมออกเดินทางไผ นากาโน่ครั้งแรก จะเป็นยังไงโปรดติดตามในตอนต่อไปครับ