เกริ่นก่อนนะครับ ว่าที่ผ่านมาช่วง 20 กว่าปีนี้ ผมเองใช้รถไล่มาตั้งแต่ Peugeot, Mitsubishi, Toyota, Volvo, Nissan และ Honda
ผมเข้าใจดีว่า รถแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อก็อาจจะมีปัญหาบ้าง แล้วแต่ว่าใครจะเจออะไร บางอย่างก็อาจจะเป็นปัญหาประจำรุ่น แต่ Honda นั้นสร้างความประทับใจที่ไม่ดีให้กับผมอย่างมาก ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา
Honda เองในช่วง 8 ที่ผ่านมา ได้เองใช้ซื้อรถ Honda ทั้งหมด 3 คัน
1. City ปี 2009 ( คันแรกที่ซื้อ Honda )
1.1 ปัญหาที่เจอหลักๆ คือมีเสียงเก็กๆตลอดเวลาผ่านถนนที่ขรุขระ ผมแจ้งศูนย์ไปหลายครั้ง ไม่เคยแก้ปัญหาได้ ทุกครั้งจะจบด้วย ช่างได้ทำการปรับตั้งให้พี่ใหม่แล้ว พี่ลองเอารถไปใช้ดูก่อน ที่เจ็บคือ บอกกับผมว่า คันอื่นก็เป็นกัน ไม่เชื่อพี่ไปลองกับผมไหม ? ดังจนวันที่ท้ายที่ผมขายรถไป
1.2 เกียร์กระตุกช่วงความเร็ว 40-50 อันนี้ไม่เคยแก้ได้เลย กระตุกจนวันสุดท้ายที่ขายรถ
1.3 ขายไปตอนใช้ไป 60,000 โล
2. Civic FB (2013) (คันที่ 2 วิ่ง 70,000 รถมี Ultimate Care 5 ปี )
2.1 มีปัญหาเครื่องครางเวลาขึ้นทางชั้นหรือสูง โดยเฉพาะเวลาขึ้นทางจอดรถในห้าง เป็นเฉพาะความเร็วต่ำ ปีแรกไม่เป็น เริ่มเป็นปีที่ 2 เคยแจ้งช่างไป ช่างพูดแต่ว่า ตรวจสอบแล้วไม่พบปัญหา จนผมเบื่อที่จะไปคุยกับช่าง ผมทนใช้มันมาถึงทุกวันนี้
2.2 เกียร์เริ่มกระตุกช่วงปีที่ 3 เป็นเฉพาะช่วงเปลี่ยนจาก 1 ไป 2 อันนี้เหมือนเดิมแปะเลย ผมแจ้งช่าง ช่างตรวจแล้วบอกว่าไม่พบอาการ ให้เอากลับไปใช้ก่อน ปัญหายังเป็นถึงทุกวันนี้
2.3 ฟองน้ำที่ลิ้นอากาศเสื่อมสภาพ กลิ่นภายนอกเข้ารถ อันนี้ช่างเปลี่ยนฟองน้ำตรงลิ้นอากาศให้ให้แก้ปัญหาได้จบ
2.4 เสียงภายนอกเข้ารถดังมาก โดยเฉพาะตอนฝนตก อันนี้ผมได้แต่ทำใจ
3. CRV ( 2015 เครื้อง 2.4 วิ่ง 25,000 รถมี Ultimate Care 5 ปี ) ( คันนี้ซื้อเพราะภรรยาชอบการออกแบบของตัวรถ ผมเลยปล่อยเลยตามเลย )
3.1 เจอปัญหาเครื่องเสียงมันเหมือน Hang ไประบบวิทยุและ GPS ไม่ทำงาน ผมต้องวิ่งไปศูนย์คุยกับเขานานมากๆ จนกว่าจะยอม claim วิทยุเครื่องใหม่ให้ อันนี้เป็นตั้งแต่ป้ายแดงในเดือนแรก หลังจากเปลี่ยนวิทยุก็ไม่พบปัญหาอีก ผมกลัวว่ามันจะเสียอีก ตอนหมดระยะรับประกัน
3.2 กลิ่นภายนอกเข้ารถ เป็นตอนปลายปี 2016 ผมบอกช่างว่า รถ Civic ผมอีกคันเคยเจอปัญหาแบบนี้เลย ช่างได้เปลี่ยนฟองน้ำให้และปัญหาจบ ผมบอกช่างว่าให้ช่างดูหน่อย หากมีปัญหาผมยินดีที่จะจ่ายค่าซ่อมในส่วนนี้เอง สุดท้ายจบเหมือนเดิมอันนี้เหมือนเดิมอีกว่า ช่างปรับตั้งลิ้นอากาศให้แล้ว เอาไปลองใช้ดูก่อน หากยังเจอปัญหาให้กลับมาใหม่ ทุกวันนี้กลิ่นก็ยังเข้าอยู่
ทำไมผมถึงบอกว่าจะเลิกใช้ Honda ก็เพราะว่า เมื่อวานผมเอา Civic ไปเช็ค 70,000 ที่ศูนย์ ผมแจ้งช่างว่า ช่างล่างด้านหลังขวามีเสียงดังเอี๊ยดๆเวลาขึ้นลงหลังเต่า หรือผ่านถนนที่ขรุขระ ช่างว่าเดี๋ยวจะตรวจสอบและแก้ไขให้ ช่างแจ้งว่าน่าจะได้รถช่วงบ่ายๆ ซึ่งตอนนั้นเองผมก็ไม่ได้คิดอะไร กลับมาบ้านมาดูใบงาน อ้าวเห็นรายการ "ค่าตรวจสอบ หาสาเหตุ" 460 บาท ( น่าจะเป็นค่าแรง 1 ชั่วโมง) ตอนนั้นผมก็งง ว่าแค่ตรวจสอบทำไมมาเก็บเงินกัน ใช้รถมาตั้งหลายยี่ห้อ ไม่เคยเจอการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายแบบนี้เลย แม้แต่ volvo ที่คนว่าค่า service แพงๆศูนย์แแย่ๆผมก็ยังไม่เคยเจอการเรียกเก็บแบบนี้ ทั้งๆที่รถคุณ อยู่ในช่วงรับประกัน คุณมาเก็บค่าหาสาเหตุผม 1 ชั่วโมง คุณเอารถไปขึ้น 2 เนินคุณก็ได้ยินเสียงแล้ว ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที รถ civic มันรถตลาด ไม่ได้มี technology อะไรที่ซับซ้อนเลย คุณใช้ 1 ชั่วโมงในการหาสาเหตุ
มาพีคเอาตรงเมื่อวาน 4 โมงเย็น ช่างโทรมาว่ารถเสร็จแล้ว ให้ผมไปเอากลับได้เลย ผมถามช่างว่า แล้วเสียงดังจบไหม ช่างบอกว่า "เบื้องต้นช่างใหญ่ได้ตรวจและเจออาการบ้างแล้ว ให้พี่เอารถกลับไปก่อน แล้วนัดเข้ามาซ่อมวันหลัง" ผมเลยยืนยันว่า ให้ช่างช่อมแซมให้เสร็จเลย ผมไม่อยากจะเอารถไปศูนย์บ่อยๆ ช่างบอกว่าแบบนี้พี่ต้องทิ้งรถไว้ที่ศูนญ์หลายวันนะ ผมบอกว่า อืมแจ้งมาละกันว่าจะกี่วัน ซ่อมเสร็จแล้วแจ้งผมกลับมา
รถคุณมีปัญหา ทั้งๆที่อยู่ในช่วงประกัน คุณยังมาคิดค่าตรวจสอบ หาสาเหตุผม 460 บาท ผมคิดว่า ผมคงจะจ่ายให้คุณแหละ ไม่ได้อยากมีปัญหาไปเถึยงกันที่ศูนย์ เพียวแต่ผมมองว่า มันไม่ยุติธรรมกับผู้บริโภค ผมรู้สึกว่าศูนย์ Honda เดี่ยวนี้ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาให้กลับลูกค้า แค่อยากจะปิด case ซ่อมให้ได้มากที่สุด ผมยังมีรถยี่ห้อตลาดๆ คันอื่นที่ใช้มา 5 ปีไม่เคยเจอปัญหากวนใจแบบนี้เลย 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาผมเลือกซื้อรถเพิ่ม โดยดูจาก ( Camry , Teana , accord ) ผมตัด accord ออกก่อนเลย ตอนนี้จองรถใหม่ไปแล้วครับ
ไต่ตรองดูแล้วคิดว่า CRV จะเป็นคันสุดท้ายที่ซื้อจาก Honda ครับ เดี๋ยว 2 - 3 วัน civic ซ่อมเสร็จก็จะขายออกไปแล้วครับ อันนี้เป็นประสบการณ์ของผมกับ Honda ในช่วง 8 ปี คุณๆลองดูนะครับละกันครับ ผมไม่ได้โจมตีนะ แค่แวะมาบ่นให้ฟัง
ค่าตรวจสอบ 460 บาท ที่ทำให้ผมตัดสินใจจะเลิกใช้ Honda
ผมเข้าใจดีว่า รถแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อก็อาจจะมีปัญหาบ้าง แล้วแต่ว่าใครจะเจออะไร บางอย่างก็อาจจะเป็นปัญหาประจำรุ่น แต่ Honda นั้นสร้างความประทับใจที่ไม่ดีให้กับผมอย่างมาก ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา
Honda เองในช่วง 8 ที่ผ่านมา ได้เองใช้ซื้อรถ Honda ทั้งหมด 3 คัน
1. City ปี 2009 ( คันแรกที่ซื้อ Honda )
1.1 ปัญหาที่เจอหลักๆ คือมีเสียงเก็กๆตลอดเวลาผ่านถนนที่ขรุขระ ผมแจ้งศูนย์ไปหลายครั้ง ไม่เคยแก้ปัญหาได้ ทุกครั้งจะจบด้วย ช่างได้ทำการปรับตั้งให้พี่ใหม่แล้ว พี่ลองเอารถไปใช้ดูก่อน ที่เจ็บคือ บอกกับผมว่า คันอื่นก็เป็นกัน ไม่เชื่อพี่ไปลองกับผมไหม ? ดังจนวันที่ท้ายที่ผมขายรถไป
1.2 เกียร์กระตุกช่วงความเร็ว 40-50 อันนี้ไม่เคยแก้ได้เลย กระตุกจนวันสุดท้ายที่ขายรถ
1.3 ขายไปตอนใช้ไป 60,000 โล
2. Civic FB (2013) (คันที่ 2 วิ่ง 70,000 รถมี Ultimate Care 5 ปี )
2.1 มีปัญหาเครื่องครางเวลาขึ้นทางชั้นหรือสูง โดยเฉพาะเวลาขึ้นทางจอดรถในห้าง เป็นเฉพาะความเร็วต่ำ ปีแรกไม่เป็น เริ่มเป็นปีที่ 2 เคยแจ้งช่างไป ช่างพูดแต่ว่า ตรวจสอบแล้วไม่พบปัญหา จนผมเบื่อที่จะไปคุยกับช่าง ผมทนใช้มันมาถึงทุกวันนี้
2.2 เกียร์เริ่มกระตุกช่วงปีที่ 3 เป็นเฉพาะช่วงเปลี่ยนจาก 1 ไป 2 อันนี้เหมือนเดิมแปะเลย ผมแจ้งช่าง ช่างตรวจแล้วบอกว่าไม่พบอาการ ให้เอากลับไปใช้ก่อน ปัญหายังเป็นถึงทุกวันนี้
2.3 ฟองน้ำที่ลิ้นอากาศเสื่อมสภาพ กลิ่นภายนอกเข้ารถ อันนี้ช่างเปลี่ยนฟองน้ำตรงลิ้นอากาศให้ให้แก้ปัญหาได้จบ
2.4 เสียงภายนอกเข้ารถดังมาก โดยเฉพาะตอนฝนตก อันนี้ผมได้แต่ทำใจ
3. CRV ( 2015 เครื้อง 2.4 วิ่ง 25,000 รถมี Ultimate Care 5 ปี ) ( คันนี้ซื้อเพราะภรรยาชอบการออกแบบของตัวรถ ผมเลยปล่อยเลยตามเลย )
3.1 เจอปัญหาเครื่องเสียงมันเหมือน Hang ไประบบวิทยุและ GPS ไม่ทำงาน ผมต้องวิ่งไปศูนย์คุยกับเขานานมากๆ จนกว่าจะยอม claim วิทยุเครื่องใหม่ให้ อันนี้เป็นตั้งแต่ป้ายแดงในเดือนแรก หลังจากเปลี่ยนวิทยุก็ไม่พบปัญหาอีก ผมกลัวว่ามันจะเสียอีก ตอนหมดระยะรับประกัน
3.2 กลิ่นภายนอกเข้ารถ เป็นตอนปลายปี 2016 ผมบอกช่างว่า รถ Civic ผมอีกคันเคยเจอปัญหาแบบนี้เลย ช่างได้เปลี่ยนฟองน้ำให้และปัญหาจบ ผมบอกช่างว่าให้ช่างดูหน่อย หากมีปัญหาผมยินดีที่จะจ่ายค่าซ่อมในส่วนนี้เอง สุดท้ายจบเหมือนเดิมอันนี้เหมือนเดิมอีกว่า ช่างปรับตั้งลิ้นอากาศให้แล้ว เอาไปลองใช้ดูก่อน หากยังเจอปัญหาให้กลับมาใหม่ ทุกวันนี้กลิ่นก็ยังเข้าอยู่
ทำไมผมถึงบอกว่าจะเลิกใช้ Honda ก็เพราะว่า เมื่อวานผมเอา Civic ไปเช็ค 70,000 ที่ศูนย์ ผมแจ้งช่างว่า ช่างล่างด้านหลังขวามีเสียงดังเอี๊ยดๆเวลาขึ้นลงหลังเต่า หรือผ่านถนนที่ขรุขระ ช่างว่าเดี๋ยวจะตรวจสอบและแก้ไขให้ ช่างแจ้งว่าน่าจะได้รถช่วงบ่ายๆ ซึ่งตอนนั้นเองผมก็ไม่ได้คิดอะไร กลับมาบ้านมาดูใบงาน อ้าวเห็นรายการ "ค่าตรวจสอบ หาสาเหตุ" 460 บาท ( น่าจะเป็นค่าแรง 1 ชั่วโมง) ตอนนั้นผมก็งง ว่าแค่ตรวจสอบทำไมมาเก็บเงินกัน ใช้รถมาตั้งหลายยี่ห้อ ไม่เคยเจอการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายแบบนี้เลย แม้แต่ volvo ที่คนว่าค่า service แพงๆศูนย์แแย่ๆผมก็ยังไม่เคยเจอการเรียกเก็บแบบนี้ ทั้งๆที่รถคุณ อยู่ในช่วงรับประกัน คุณมาเก็บค่าหาสาเหตุผม 1 ชั่วโมง คุณเอารถไปขึ้น 2 เนินคุณก็ได้ยินเสียงแล้ว ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที รถ civic มันรถตลาด ไม่ได้มี technology อะไรที่ซับซ้อนเลย คุณใช้ 1 ชั่วโมงในการหาสาเหตุ
มาพีคเอาตรงเมื่อวาน 4 โมงเย็น ช่างโทรมาว่ารถเสร็จแล้ว ให้ผมไปเอากลับได้เลย ผมถามช่างว่า แล้วเสียงดังจบไหม ช่างบอกว่า "เบื้องต้นช่างใหญ่ได้ตรวจและเจออาการบ้างแล้ว ให้พี่เอารถกลับไปก่อน แล้วนัดเข้ามาซ่อมวันหลัง" ผมเลยยืนยันว่า ให้ช่างช่อมแซมให้เสร็จเลย ผมไม่อยากจะเอารถไปศูนย์บ่อยๆ ช่างบอกว่าแบบนี้พี่ต้องทิ้งรถไว้ที่ศูนญ์หลายวันนะ ผมบอกว่า อืมแจ้งมาละกันว่าจะกี่วัน ซ่อมเสร็จแล้วแจ้งผมกลับมา
รถคุณมีปัญหา ทั้งๆที่อยู่ในช่วงประกัน คุณยังมาคิดค่าตรวจสอบ หาสาเหตุผม 460 บาท ผมคิดว่า ผมคงจะจ่ายให้คุณแหละ ไม่ได้อยากมีปัญหาไปเถึยงกันที่ศูนย์ เพียวแต่ผมมองว่า มันไม่ยุติธรรมกับผู้บริโภค ผมรู้สึกว่าศูนย์ Honda เดี่ยวนี้ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาให้กลับลูกค้า แค่อยากจะปิด case ซ่อมให้ได้มากที่สุด ผมยังมีรถยี่ห้อตลาดๆ คันอื่นที่ใช้มา 5 ปีไม่เคยเจอปัญหากวนใจแบบนี้เลย 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาผมเลือกซื้อรถเพิ่ม โดยดูจาก ( Camry , Teana , accord ) ผมตัด accord ออกก่อนเลย ตอนนี้จองรถใหม่ไปแล้วครับ
ไต่ตรองดูแล้วคิดว่า CRV จะเป็นคันสุดท้ายที่ซื้อจาก Honda ครับ เดี๋ยว 2 - 3 วัน civic ซ่อมเสร็จก็จะขายออกไปแล้วครับ อันนี้เป็นประสบการณ์ของผมกับ Honda ในช่วง 8 ปี คุณๆลองดูนะครับละกันครับ ผมไม่ได้โจมตีนะ แค่แวะมาบ่นให้ฟัง