Secret Life of Scent FRAGRANT - โลกเร้นลับของกลิ่นหอม
by Mandy Aftel แปลโดย คุณพลอยแสง เอกญาติ
สำนักพิมพ์ Open Worlds
ถ้าคุณคิดว่าหนังสือเล่มนี้จะบอกวิธีการผสมน้ำหอมและลงลึกทุกขั้นตอนในการทำน้ำหอม = ฝันหรือเปล่าคะ ลูก
ถ้าคิดว่าหนังสือเล่มนี้จะบอกมันทุกสิ่งอย่างละเอียดว่ากลิ่นแต่ละประเภทในโลกเป็นกลิ่นอย่างไร = ไม่ใช่ฮ่ะ
ถ้าคิดว่าอ่านหนังสือเล่มนี้จบจะเป็นกูรูหรือ Perfumer ได้เลยหรือพร้อมสอนทำน้ำหอมราวกับได้ Certified by หนังสือ = มโนแล้วล่ะนั่น
แต่
หนังสือเล่มนี้ มีจะบอกเล่าถึงที่มาที่ไป ประวัติศาสตร์การเดินทางของความหอมในแต่ละยุค การได้มาซึ่งวัตถุดิบ การใช้ประโยชน์ทางด้านกลิ่นที่ไม่ใช่แค่นำมาทำเป็นน้ำหอม แยกออกเป็นอัศวินเซเลอร์หลักๆ คือ
เซเลอร์ Cinnamon (อบเชย) - ตัวแทนเครื่องเทศ
เซเลอร์ Mint (ก็มินท์นั่นแหละ) - ตัวแทนความเขียวและสดชื่น
เซเลอร์ Frankincense (ยางไม้) - ตัวแทนไม้หอม ยางไม้ และธูป
เซเลอร์ Ambergris (อำพันวาฬ) - ตัวแทนกลิ่นแนวสัตว์ Animalic
เซเลอร์ Jasmine (มะลิเองฮ่ะ) - ตัวแทนของกลิ่นดอกไม้
ซึ่ง *ทั้งหมดจะมาลงทัณฑ์แกเองงงงงง*
เอ๊ะ! ไม่ใช่แล้ว แต่จะมาร้อยเรียงเรื่องราวต่างๆ ไล่เรียงกันมาเรื่อยๆ แบบที่ให้เห็นถึงความแยบยลของผู้เขียน เพราะนางจะสอดแทรกความรู้ลงไปเป็นต่อนๆ แบบเนียนๆ ในเนื้อหาที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์เหมือนอาจารย์ที่สอนแบบพูดไปเรื่อย เจื้อยแจ้วไม่หยุด แล้วเราจะเพลินจนหลับน้ำลายยืดหรือเบื่อจนเล่นมือถือคิกคักคุกคิกแทน แต่ในการเจื้อยแจ้วนั้น มีข้อมูลความรู้แทรกอยู่ตลอด พอถึงเวลาสอบ ก็จะมีด่าอาจารย์กันใหญ่ว่า "ข้อสอบไม่มีในที่อาจารย์สอน ออกข้อสอบแบบนี้ได้ยังไงวะ" แต่จริงๆ ก็ไม่ตั้งใจกันเองนี่หว่า อาจารย์เขาพูดมาหมดแล้วจ้า ยูวววววว
แม้ว่าจะเน้นที่อัศวินเซเลอร์ทั้ง 5 แต่จริงๆ มีการบอกเล่าโทนกลิ่นอื่นๆ แบบสอดใส่เข้าไปพอสมควร และเป็นข้อมูลที่ดีในการต่อยอดการดมของเราได้ด้วย แถมมีการบอกสูตรการทำน้ำหอมแบบ Natural Perfumery หยดกันสนุกสนาน ในรูปแบบต่างๆ ทั้งน้ำหอมแห้ง น้ำมันทาตัว น้ำหอม Oil Base และน้ำหอมแอลกอฮอล์ รวมถึงการใช้กลิ่นกับการปรุงอาหารเสียด้วยทั้งแบบสอดใส่ไปกับเนื้อหาเล่าไปเรื่อย กับแยกเป็นช่วงเกร็ดความรู้จริงๆ ที่ทำให้เราได้รับรู้นอกเหนือจากประวัติศาสตร์การเดินทางของกลิ่นหอมๆ
ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ผมชอบเป็นการส่วนตัว คือ การวิพากษ์สุคนธกรที่บอก Quote ออกมา แล้วกลายเป็นเรื่องโจษจันไม่น้อยจากกรณีที่ ไม้ศร ฟันสิทธิ์ กุดเจี๋ยน (Maison Francis Kurkdjian - สุครธกรชื่อดังที่ทำให้ Le Male ของ Jean Paul Gaultier ดังเป็นพลุแตก) บอกแนวว่า
"การใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ มันอยู่บนผิวไม่นาน แล้วคนใช้จะขาดเสน่ห์และไร้พลัง" มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย แม้ว่าจะมีเนื้อหาไม่เยอะ แต่มันก็แฝงมุมมองอะไรหลายๆ อย่างทั้งทางด้านการทำน้ำหอมแบบ Natural Perfumery และแนวคิดในการทำน้ำหอมยุคใหม่ที่ใช้การสังเคราะห์กลิ่นใกล้เคียงเข้ามาแทนที่ ซึ่งก็มีความดีงามในการมองโลกแบบสวยงาม คือ "หยุดรบกวนธรรมชาติเถิดฮ่ะ OK นะฮะ" ก็เป็นได้นะ
ก็เรื่องกลิ่นมันเป็นความชอบของแต่ละคนนี่นา เช่นนั้นสำหรับผมหนังสือเล่มนี้ให้ความรู้เต็มเปี่ยม และการแปลก็บอกเป็นชื่อไทยมาแบบที่ผมได้ผ่านการเรียนรู้มาตรงๆ เช่นนั้นเรียกว่า "อ้ออออออ ตัวนี้นี่เองงงง" กันเลยทีเดียว แต่บางท่านอาจจะงงๆ ไปบ้าง เช่น อะไรคือชะมดเชียงฟ่ะ อะไรคือมดยอบ กัดเจ็บหรือเปล่ามดแบบนี้ โกฐต่างๆ แบบที่งงๆ ว่าโกฐอะไรล่ะนั่น แต่มันเป็นเรื่องดีมากที่ทำให้ค้นคว้าต่อยอดได้นะเออ
เช่นนั้น หนังสือเล่มนี้เป็นอีกเล่มที่น่าสนใจมากสำหรับคนที่สนใจประวัติศาสตร์กลิ่นหอมที่เดินทางต่อๆ กันมาเปรียบเสมือนการส่งต่อความรู้ต่างๆ จากอดีตสู่ปัจจุบัน ด้วยการเล่าเรื่องกลิ่นในแง่มุมต่างๆ เล่มนี้บอกเล่าเรื่องราวร้อยเรียงได้ดีเลยทีเดียวครับ
จบดีกว่าคร้าบ Review หนังสือครั้งแรกเลยนะนั่น
[CR] Secret Life of Scent FRAGRANT - โลกเร้นลับของกลิ่นหอม
Secret Life of Scent FRAGRANT - โลกเร้นลับของกลิ่นหอม
by Mandy Aftel แปลโดย คุณพลอยแสง เอกญาติ
สำนักพิมพ์ Open Worlds
ถ้าคุณคิดว่าหนังสือเล่มนี้จะบอกวิธีการผสมน้ำหอมและลงลึกทุกขั้นตอนในการทำน้ำหอม = ฝันหรือเปล่าคะ ลูก
ถ้าคิดว่าหนังสือเล่มนี้จะบอกมันทุกสิ่งอย่างละเอียดว่ากลิ่นแต่ละประเภทในโลกเป็นกลิ่นอย่างไร = ไม่ใช่ฮ่ะ
ถ้าคิดว่าอ่านหนังสือเล่มนี้จบจะเป็นกูรูหรือ Perfumer ได้เลยหรือพร้อมสอนทำน้ำหอมราวกับได้ Certified by หนังสือ = มโนแล้วล่ะนั่น
แต่
หนังสือเล่มนี้ มีจะบอกเล่าถึงที่มาที่ไป ประวัติศาสตร์การเดินทางของความหอมในแต่ละยุค การได้มาซึ่งวัตถุดิบ การใช้ประโยชน์ทางด้านกลิ่นที่ไม่ใช่แค่นำมาทำเป็นน้ำหอม แยกออกเป็นอัศวินเซเลอร์หลักๆ คือ
เซเลอร์ Cinnamon (อบเชย) - ตัวแทนเครื่องเทศ
เซเลอร์ Mint (ก็มินท์นั่นแหละ) - ตัวแทนความเขียวและสดชื่น
เซเลอร์ Frankincense (ยางไม้) - ตัวแทนไม้หอม ยางไม้ และธูป
เซเลอร์ Ambergris (อำพันวาฬ) - ตัวแทนกลิ่นแนวสัตว์ Animalic
เซเลอร์ Jasmine (มะลิเองฮ่ะ) - ตัวแทนของกลิ่นดอกไม้
ซึ่ง *ทั้งหมดจะมาลงทัณฑ์แกเองงงงงง*
เอ๊ะ! ไม่ใช่แล้ว แต่จะมาร้อยเรียงเรื่องราวต่างๆ ไล่เรียงกันมาเรื่อยๆ แบบที่ให้เห็นถึงความแยบยลของผู้เขียน เพราะนางจะสอดแทรกความรู้ลงไปเป็นต่อนๆ แบบเนียนๆ ในเนื้อหาที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์เหมือนอาจารย์ที่สอนแบบพูดไปเรื่อย เจื้อยแจ้วไม่หยุด แล้วเราจะเพลินจนหลับน้ำลายยืดหรือเบื่อจนเล่นมือถือคิกคักคุกคิกแทน แต่ในการเจื้อยแจ้วนั้น มีข้อมูลความรู้แทรกอยู่ตลอด พอถึงเวลาสอบ ก็จะมีด่าอาจารย์กันใหญ่ว่า "ข้อสอบไม่มีในที่อาจารย์สอน ออกข้อสอบแบบนี้ได้ยังไงวะ" แต่จริงๆ ก็ไม่ตั้งใจกันเองนี่หว่า อาจารย์เขาพูดมาหมดแล้วจ้า ยูวววววว
แม้ว่าจะเน้นที่อัศวินเซเลอร์ทั้ง 5 แต่จริงๆ มีการบอกเล่าโทนกลิ่นอื่นๆ แบบสอดใส่เข้าไปพอสมควร และเป็นข้อมูลที่ดีในการต่อยอดการดมของเราได้ด้วย แถมมีการบอกสูตรการทำน้ำหอมแบบ Natural Perfumery หยดกันสนุกสนาน ในรูปแบบต่างๆ ทั้งน้ำหอมแห้ง น้ำมันทาตัว น้ำหอม Oil Base และน้ำหอมแอลกอฮอล์ รวมถึงการใช้กลิ่นกับการปรุงอาหารเสียด้วยทั้งแบบสอดใส่ไปกับเนื้อหาเล่าไปเรื่อย กับแยกเป็นช่วงเกร็ดความรู้จริงๆ ที่ทำให้เราได้รับรู้นอกเหนือจากประวัติศาสตร์การเดินทางของกลิ่นหอมๆ
ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ผมชอบเป็นการส่วนตัว คือ การวิพากษ์สุคนธกรที่บอก Quote ออกมา แล้วกลายเป็นเรื่องโจษจันไม่น้อยจากกรณีที่ ไม้ศร ฟันสิทธิ์ กุดเจี๋ยน (Maison Francis Kurkdjian - สุครธกรชื่อดังที่ทำให้ Le Male ของ Jean Paul Gaultier ดังเป็นพลุแตก) บอกแนวว่า "การใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ มันอยู่บนผิวไม่นาน แล้วคนใช้จะขาดเสน่ห์และไร้พลัง" มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย แม้ว่าจะมีเนื้อหาไม่เยอะ แต่มันก็แฝงมุมมองอะไรหลายๆ อย่างทั้งทางด้านการทำน้ำหอมแบบ Natural Perfumery และแนวคิดในการทำน้ำหอมยุคใหม่ที่ใช้การสังเคราะห์กลิ่นใกล้เคียงเข้ามาแทนที่ ซึ่งก็มีความดีงามในการมองโลกแบบสวยงาม คือ "หยุดรบกวนธรรมชาติเถิดฮ่ะ OK นะฮะ" ก็เป็นได้นะ
ก็เรื่องกลิ่นมันเป็นความชอบของแต่ละคนนี่นา เช่นนั้นสำหรับผมหนังสือเล่มนี้ให้ความรู้เต็มเปี่ยม และการแปลก็บอกเป็นชื่อไทยมาแบบที่ผมได้ผ่านการเรียนรู้มาตรงๆ เช่นนั้นเรียกว่า "อ้ออออออ ตัวนี้นี่เองงงง" กันเลยทีเดียว แต่บางท่านอาจจะงงๆ ไปบ้าง เช่น อะไรคือชะมดเชียงฟ่ะ อะไรคือมดยอบ กัดเจ็บหรือเปล่ามดแบบนี้ โกฐต่างๆ แบบที่งงๆ ว่าโกฐอะไรล่ะนั่น แต่มันเป็นเรื่องดีมากที่ทำให้ค้นคว้าต่อยอดได้นะเออ
เช่นนั้น หนังสือเล่มนี้เป็นอีกเล่มที่น่าสนใจมากสำหรับคนที่สนใจประวัติศาสตร์กลิ่นหอมที่เดินทางต่อๆ กันมาเปรียบเสมือนการส่งต่อความรู้ต่างๆ จากอดีตสู่ปัจจุบัน ด้วยการเล่าเรื่องกลิ่นในแง่มุมต่างๆ เล่มนี้บอกเล่าเรื่องราวร้อยเรียงได้ดีเลยทีเดียวครับ
จบดีกว่าคร้าบ Review หนังสือครั้งแรกเลยนะนั่น