[CR] ญี่ปุ่น 11 วัน ใบไม้แดง คันไซ + USJ รวมทุกอย่าง 5x,xxx บาท

ญี่ปุ่น 11 วัน ใบไม้แดง คันไซ + USJ รวมทุกอย่าง 5X,XXX บาท
สวัสดีครับ ผมออกตัวก่อนเลยว่านี่เป็นกระทู้แรกที่ ทำรีวิวนะ และสร้างบัญชี Pantip นี้ก็เพื่อรีวิวนี้เลย
ตอนแรกไม่ได้กะจะทำรีวิวครับ แต่เพื่อเป็นกรณีศึกษาเผื่อคนอื่นสนใจ
ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ก่อนอื่นเลย นี่เป็นแผนการเดินทาง คร่าวๆ ที่ผมตั้งใจไว้ว่าจะต้องไปเก็บให้ได้ครับ
1. Kyoto
- Kiyomizu-dara Temple                    
- Kinkaku-ji Temple
- Fushimi Inari                                
- Byodo-in Temple
- Bamboo forest                            
- Kyoto Tower
- Tenryu-ji Temple                        
- Sagano
- Togetsu-kyo Bridge                        
- Maruyama park
- Gion Shirakawa River                    
- Nishiki Market Street
- Nanzen-ji Temple

2. Nara
- Todai-ji Temple                            
- Kasuga-taisha
- Nara park                                    
- Kofuku-ji

3. Kobe
- Akashi Kaikyo Bridge                    
- Kobe port tower
- Ikuta Shrine                                
- Kobe Harbor

4. Hyogo
- Himeji Castle

5. Osaka
- Umeda Sky Building                    
- Osaka castle
- Hep five ferris wheel                    
- Osaka museum of Natural History
- Tsutenkaku Tower                    
- Osaka Aquarium (Kaiyukan)
- Tempozan Giant Ferris wheel        
- Sumiyoshi Taisha
- Santa Maria Cruise                    
- Central wholesale market Osaka
- Natural hot spring Naniwa no Yu    
- Natural Open-air hot spring Spa Suminoe
- Osaka Prefectural Government Sakishima Building (Cosmo tower)

การเดินทางครั้งนี้ผมใช้บริการสายการบิน China airline ราคาไปกลับ 13,935 บาท
ขาไปแวะเปลี่ยนเครื่องที่ไต้หวัน 1:30 ชั่วโมง ขากลับแวะเปลี่ยนเครื่องที่ไต้หวัด 1:45 ชั่วโมง
ส่วนตัวผมคิดว่าคุ้มค่านะครับ ได้น้ำหนัก 30 กิโลกรัม แถมต้องเปลี่ยนเครื่องทำให้ได้กิน 2 มื้อด้วยครับ
และเวลาแค่ 1 ชั่วโมงครึ่ง หรือ 1 ชั่วโมง 45 นาทีไม่ได้นานเกินไปครับ

Pass ที่ใช้ในญี่ปุ่น
- Kansai Thru Pass 3 Day         5,200 Yen
- Kansai Thru Pass 2 Day         4,000 Yen
- Osaka Amazing Pass 2 Day    3,000 Yen
- Kaiyukan City Pass 1 Day     2,550 Yen
                                    Total 14,750 Yen
โดยที่ Pass ทั้งหมดนี้สามารถซื้อได้ที่เคาเตอร์บริการนักท่องเที่ยว ที่สนามบินคันไซได้เลยครับ

USJ ซื้อ online ใช้สิทธิ์เดือนเกิดลด 500 yen จาก 7,400 yen เหลือ 6,900 yen (2,277 บาท)

ที่พักผมจองผ่าน Airbnb ครับได้ห้องถูก 10 คืน $ 773 แบงค์คิดเรทไหนผมไม่แน่ใจ แต่คิดเป็นเงินไทยแล้วตกคนละ 6,877 บาท (พักกัน 4 คน)

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ค่าเครื่องบิน + USJ + ที่พัก = 23,089 บาท
แลกผมแลกเงินไปอีก 80,000 yen = 26,400 บาท (1 yen = 0.33 บาท)
โดยที่ 80,000 yen นี่ต้องนำไปจ่ายค่า Pass ทั้งหมด 14,750 yen
เหลือ 65,250 yen เป็นค่ากิน เที่ยว ของฝาก ซื้อของ ค่ารถไฟนอกเหนือจาก pass และค่าเข้าวัดต่างๆ
ซึ่งผมไม่ได้จดรายละเอียดมาครับ ว่าอะไรเท่าไหร่บ้าง

อ๋อ มีค่าเช่า Pocket wifi ผมใช้ Fuji wifi ครับ 175 บาทต่อวัน 11 วัน 1925 โดน vat อีกเป็น 2060 หาร 4 ตกคนละ 515 บาท

สรุป ค่าเครื่องบิน + ที่พัก + USJ + wifi + ค่ากินเที่ยว = 50,004 บาทครับ


หลังจากที่เราเตรียมการทุกอย่างเสร็จแล้ว เราก็มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ

Day 1
เครื่องออกที่สนามบินสุวรรณภูมิ 8:30น. ครับผมเรียก Uber จากบ้านไปสนามบิน 300 บาท (2 คัน 600) ตกคนละ 150 บาท
เราไปถึงสนามบินกันตั้งแต่ ตี 5 ครับ Check in, โหลดกระเป๋าเสร็จก็ไปเดิน duty fee ซักพักก็ไปนั่งรถหน้า Gate ครับรอขึ้นไปกินข้าวบนเครื่อง (ขาไปน้ำหนักกระเป๋าของผม 18 โลครับ)
ขาไปเครื่อง Delay นิดหน่อยครับเราถึงไต้หวัน แวะเข้าห้องน้ำเสร็จ ไปถามพนักงานว่าต่อเครื่องที่ไหน พนักงานบอกให้เรารีบไปที่ Gate เดี๋ยวนี้กำลังเรียกขึ้นเครื่องแล้ว!!!! เพิ่งจะลงเครื่องมาแท้ๆ ในตั๋วบอก transit 1 hr. 30 min. พ่องงงง กูว่าจะกินชานมซะหน่อยบอกเลยครับจังหวะนั้น วิ่งซิครับรอไร โชคยังดีพอเราไปถึง Gate ยังมีคนต่อแถวรอขึ้นเครื่องอยู่ 4-5 คน Final call พอดี ขึ้นเครื่องไปฟังแอร์สาธิตวิธีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ เสร็จก็รอเลยครับ ข้าวมื้อที่ 2 ของเรา ^^
เครื่องถึงญี่ปุ่นตรงเวลาครับ 17:50 เราก็ไปรับกระเป๋า แล้วเดินข้ามไปอาคาร 1 ลงไป Kansai Tourirt Information Center at Kansai Airport ที่ชั้น 1 เพื่อซื้อ Pass ทั้งหมดที่ได้แจ้งไปก่อนหน้านี้แล้ว


เครตดิตภาพจาก http://www.howto-osaka.com/en/traffic/informationcounter/NankaiTicketOffice.html

และกลับขึ้นไปชั้น 2 ซื้อตั๋วรถไฟเข้าเมืองเราก็ไปสอบถามเค้า มีรถไฟ 2 แบบจองที่นั่งกับไม่จองที่นั่ง ซึงตอนเราไปถึงรถไฟแบบไม่จองที่นั่งกำลังจะออก พนักงานเลยแนะนำให้เราซื้อแบบจองที่นั่งไปครับ 1,430 yen
ลืมบอกครับระหว่างทางที่เดินมาอาคาร 1 เราหยิบร่มฟรีมาด้วย 2 คันครับเค้าเขียนป้ายว่าให้หยิบไปใช้ได้เลยหยิบติดมือมาด้วย เนื่องจากดูพยากรณ์อากาศก่อนมาแล้วจะมีฝนตก 1-2 วันระหว่างที่เราอยู่ญี่ปุ่น
หลังจากซื้อตั๋วรถไฟเสร็จเราก็เดินไปขึ้นรถไฟ สอบถามนายสถานีว่าเราต้องขึ้นคันไหนแล้วก็เดินไปนั่งที่ๆ เราทำการจองไว้ครับ ประมาณ 40-50 นาทีเราก็ถึง Nankai Namba stn. ตอนลงจากรถไฟผมลืมร่ม ที่หยิบฟรีจากสนามบินมาครับ พอกลับไปหาที่เดิม ให้ทายยังอยู่มั้ย??
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอถึง Nankai Namba stn. พวกเราก็เอาของไปเก็บที่อพาร์ทเม้นท์ แล้วออกไปหาข้าวเย็นกินกันครับ
สำหรับที่พัก Air bnb ของ Host คนนี้ผมว่าทำดีนะครับเค้ามีหลายห้องพักมากกกก ตอนเราผมจองห้องอื่นไว้แต่ Host แจ้งว่าห้องนั้นใช้น้ำไม่ได้ เลยแนะนำที่พักใหม่ให้แทน ซึ่งห้องใหม่ที่เราได้มา ถ้าคะแนนเต็ม 5 ผมให้ 3 ครับไม่ค่อยแนะนำให้ไปเท่าไหร่ พักกัน 4 คนค่อนข้างแน่นครับ ไม่มีพื้นที่ให้นั่งชิวเลย เข้ามาคืออยู่บนเตียงอย่างเดียว
    ข้อดี
- ที่พักมี Pocket wifi ฟรีให้ใช้ แต่เราเอาไว้ใช้เฉพาะในห้องครับเนื่องจากเราเช่า wifi มาจากไทยแล้ว
- ห้องน้ำแยกเป็นห้องอาบน้ำ และห้องส้วม มีเครื่องซักผ้า ไดร์ ผ้าเช็ดตัวและอุปกรณ์อาบน้ำให้
- มีห้องครัว และเครื่องครัวให้ทำอาหารเล็กๆ ได้
- อยู่ใน Denden town หาเดินไม่ถึง 100m ถึง Family
    ข้อเสีย
- ต้องทำความสะอาดใหม่หมด เค้ามีเครื่องดูดฝุ่นให้ (คือเค้าก็ทำความสะอาดให้แล้วแหละครับ แต่พอเลื่อนเตียง หรือโซฟาออกมานี่ ฝุ่นเพียบ)
- ที่ตากผ้าไม่พอ 5555 คือตอนผมไปกะว่าจะไปซักผ้าอยู่แล้วเลยไม่ได้เอาเสื้อผ้าไปเยอะครับ แต่มันผิดตรงที่อากาศบ้านเค้า ตากผ้าวันเดียวไม่แห้ง!!! พอซักหลายๆ คนเข้าเลยไม่มีที่ตากผ้าครับ
- ห้องระบุว่าพักได้ 6 คนแต่เอาเข้าจริง 4 คนก็แน่นแล้วครับ คือว่างกระเป๋ากันคนละใบ ก็เต็มห้องแล้ว ซัก 2-3 คนน่าจะดีกว่า
*** เดี๋ยวจะแปะชื่อ Host ไว้ให้แล้วกันครับเผื่อใครต้องการหาที่พักที่ Host เชื่อถือได้ทาง Airbnb***

จาก Nankai Namba stn. Host เค้าทำรายละเอียด การไปห้องพักให้เราไว้แล้วครับ ตามรูปด้านล่างเลย

เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน เดินประมาณ 10-15 นาทีถึงครับ หลังจากเก็บกระเป๋าแล้ว เราก็ออกไปหาอะไรทานกันครับ มื้อแรกที่เราวางแผนไว้คือ ราเมงข้อสอบครับ โดยที่เราก็ไปหาวิธีการกินมาเช่นกัน
(ขออนุญาต ลงขอมูลจากเจ้าของเดิมครับ แต่ลืมไปแล้วว่าเครดิตจากที่ไหน m(__)m กราบบ)

รายละเอียด:  วิธีการสั่งราเมง
1. ต้องกดที่เครื่องเลือกแบบราเมงก่อน (ให้เลือก 750 เยน ประมาณ 230 บาทแบบธรรมดา)  
2. เดินเข้าไปให้ยื่นคูปองแล้วเราจะได้ข้อสอบมา  
3. แนะนำให้เลือกประมาณนี้ (ระวังจะกินไม่ได้นะจ๊ะจะบอกให้ ฮ่าๆ)  
­ ระดับความเข้มข้นของซุป (Medium)  
­ ความมันของราเมง (Medium ­ Light)
­ กระเทียมก็จัดเต็ม (1 Clove)  
­ ท็อปปิ้งด้วยหมูชาชู (With)
­ ต้นหอมญี่ปุ่น (Thin)  
­ ผมเลือกพริกระดับ 10 (11­20 ต้องเสียตังเพิ่ม)  
­ ความนุ่มของเส้น (Medium ­ Soft)  
ปล. นํ้าสามารถกดเติมได้เลย /พอได้ราเมงมาเราจะได้กระดาษอีกใบเพื่อให้เราสั่งของเพิ่มได้ เช่น ไข่ต้ม หมู  เราสามารถติ๊กถูกแล้วกดปุ่มเรียกพนักงาน แล้วชําระเงินได้เลย
https://www.mx7.com/view2/zEQry9T52Fqd5HWW
หน้าตาราเมง ออกมาแบบนี้เลยครับ
วันแรกที่ไปกินกัน ไม่มีใครเคยกินที่สาขาไทยครับ ผมเลยยึดข้อมูลนี้หลักครับ แต่เลือกพริกระดับ 5 ครับออกมาอร่อยใช้ได้ครับ ไม่แย่ 55555 หลังจากกินราเมงเสร็จแล้วก็ไปจัด Pablo กันต่ออีก 1 ชิ้นเล็ก แล้วเดินกลับโรงแรม เพื่อวันพรุ่งนี้จะต้องตื่นแต่เช้าไปนั่งรถไฟสายโรแมนติก (Sagano) ที่เกียวโต
ชื่อสินค้า:   ญี่ปุ่น โอซาก้า เกียวโต โกเบ นาระ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่