เรื่อง : WINTER IN KOREA 2017
โดย : #megamaxxjourney

( บันทึกการเดินทาง วันที่ 13 – 17 มกราคม 2560 )

ทริปนี้เดินทางมาจำนวน 4คน ครับ
ผมทำหน้าที่เป็นไกด์ เพราะอีกสามคนยังไม่เคยมาเกาหลีเลย

ส่วนเรื่อง ต ม ก็หมดห่วง .. พี่แกทำหน้าตาบึ้งตึงใส่เป็นธรรมดา
แต่ข้าพเจ้ามาเที่ยวด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ก็ผ่านออกมาอย่างง่ายดาย

อากาศวันนี้ลงจากเครื่องที่สนามบินอินชอนในตอนเช้าประมาณ –5องศา ครับ
หิมะกำลังโปรยปรายเลยทีเดียว
ไม่รอช้า รีบเข้าที่พักไปเก็บของโดยทันที

-----------
ซึ่งทริปนี้ผมพักที่ย่านฮงแดครับ
เดี๋ยวจะมารีวิวที่พักแยกให้น้า
ที่พักชื่อ Ya korea hostel
เดินจากใต้ดิน Hongik uni Exit4 ประมาณ 5นาที ไกล้นี้ดดเดียว

เป้าหมายแรกในวันนี้ คือจะเที่ยวแถวย่านเมียงดงครับ

สามลูกสมุนที่ผมพกมา อยากไปคล้องกุญแจ ที่นัมซาน
ไกด์กิตติมศักดิ์อย่างข้า ก็จัดให้

เดินออกจากโรงแรมปุ้ปป โอ้โห!!!
อากาศศ หนาวชิบเป๋ง เรียกแท็กซี่ไปเลยละกันน
บอกแท็กซี่ไปที่ นัมซานเคเบิ้ลคาร์ครับ
----------------------
สำหรับใครที่เคยอ่านกระทู้รีวิวทริปเกาหลีของผมแล้ว
จะเห็นบรรยากาศของนัมซานในช่วงกลางคืน
แต่ทริปนี้ ผมเลือกมาช่วงกลางวันดูบ้าง
บรรยากาศจะเป็นยังไง ตามไปดูครับ

มาถึงจุดที่ขึ้นเคเบิ้ล ก็จัดการซื้อตั๋ว
ระหว่างเดินขึ้นมารอเคเบิ้ลคาร์
มองลงไป ก็จะเห็นบรรยากาศด้านล่างประมาณนี้ครับ

ขึ้นมาถึงด้านบนแล้วว
โอ้ย หนาวมากก
หนาวกว่าข้างล่างอีก ยิ่งสูงยิ่งหนาว บรื๋ออ

บรรยากาศที่ N seoul tower ช่วงกลางวันกับกลางคืนก็ต่างกันนะครับ..สวยกันคนละแบบ

มาถึงจุดที่คล้องกุญแจแล้ว
หัวหน้าทัวร์อย่างข้า
ก็ปล่อยลูกทัวร์ เซลฟี่  และ คล้องกุญแจกันตามสบายยย
me/ ( ในมือถือเลื่อย )

เสร็จภารกิจคล้องกุญแจแล้ว
ก็เดินทางต่อครับ
สถานที่ต่อไปคือโบสถ์เมียงดง
จากนัมซาน ก็สามารถเดินไปที่เมียงดงได้เลย

ถึงแล้วว
ที่นี่คือ  Myeong-dong Catholic Cathedral  นั่นเอง
จากตรงนั้นเดินมาที่นี่ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีเองครับ ไม่ไกลเลย

ชะแว้บบเข้ามาดูในโบสถ์ซักหน่อย

อ้อมมาด้านหลังโบสถ์ ก็มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆไม่แพ้กันครับ

ถ่ายรูปกันจนเพลิน
ท้องก็เริ่มร้องแล้ว
ไปหาอะไรอร่อยๆกินในเมียงดงกันดีกว่า

มันจะเป็นร้านไหนไปไม่ได้
ถ้ามาเมียงดง ต้องร้านนี้เลย Bongchu Jjimdak (봉추찜닭)
"จิมดัก" เจ้าดัง สาขาในเมียงดง ครับ

-----------------------

เมนูร้านนี้คือ  ไก่อบซีอิ๋วดำวุ้นเส้น หรือไก่พะโล้บ้านเราเนี่ยแหละ
รสชาติถูกปากคนไทยอย่างเราที่ซู้ดด
จานใหญ่มากกกกกก

** ข้อสังเกตหนึ่งของร้านอาหารที่นี่ ส่วนใหญ่จะนับเป็นจำนวนคนนะครับ
เช่น มา3 คน ต้องสั่ง Size ที่เค้ากำหนดไว้ จะสั่ง size สำหรับ 2 คนไม่ได้ ไรงิ

อ้ามมมม!!
เนื้อเน้นๆ

ตามด้วยเส้นบุกเหนียวๆหนึบๆ
โอ้ว น้ำลายไหล

ออกมาจากร้านไม่ทันไร
ไม่อิ่มใช่ไหมถามจิง
เจอร้านรถเข็นทีไร เป็นอันต้องแวะชิมทุ้กกที ฮี่ฮี่

อิ่มแล้ว ก็ง่วงสิคับ
ขอตัวลาไปนอนก่อนนะ

เริ่มต้นเช้าวันที่สองของการเดินทางครับ
อากาศก็ยังคงติดลบเช่นเคย
หนาวมาก แนะนำให้ซื้อถุงร้อน นะครับ จะพอช่วยได้นิดนึง
หาซื้อได้ที่ร้าน ART BOX ครับ เมียงดงก็มี ฮง-็มี
---------------------------------


เช้านี้ผมตรงดิ่งไปที่มหาลัย คังฮีครับ
( KyungHee University )
มหาลัยนี้เป็นอีกที่ที่คนยังไม่ค่อยรู้จัก
แต่จะบอกว่า ที่นี่ สวยมากกกกกกก

ทริปนี้ แต่ละที่ที่ผมไป ขอออกตัวก่อนนะครับ
ว่ามันไม่ค่อยได้ฟีลเกาหลีเท่าไหร่
ออกไปทางยุโรปๆ ทั้งนั้น
จนลูกทัวร์ที่มากะผม ถามว่า สรุปมาเกาหลี หรือยุโรป ?? 555
คือรอบนี้ผมเน้น จุดที่ถ่ายภาพสวยๆครับ
กลับไปจะได้ภาพสวยๆกันเยอะๆไงเล่า โถ่ววว

สำหรับการเดินทางมามหาวิทยาลัย ....ก็
นั่ง subway มาลงที่สถานี Hoegi Exit1
แล้วนั่งบัสสาย .01.. ต่อไปจนสุดสายครับ
จริงๆเดินมาได้นะ แต่หนาวววว นั่งบัสแทนละกันน

ถึงแล้ววว ภายในมหาวิทยาลัย..
บรรยากาศดีมากก  .. น่าเรียนสุดๆ

โชคดีของผม ที่มาวันอาทิตย์เลยไม่ค่อยมีคนครับ
รัวชัตเตอร์ไปเล้ยย  มุมไหนก็สวย

โอ้วววว มุมนี้ผมชอบมากก
คือบอกแล้ว ไม่ได้มาเกาหลี ข้ามายุโรป 555

นี่มัน Notre Dame ในฝรั่งเศสชัดๆ

โอ้โห! สาบานนี่มหาลัย
ยิ่งใหญ่อลังการมากครับ

ต้นอะไรไม่รู้ น่ารักดี เหมือนผักกาด 555
ถ่ายรูปจนเม็มกล้องเกือบเต็มแล้วก็ ออกมาดีกว่าครับ
เดี๋ยวจะได้ซื้อเม็มเพิ่ม

เดินออกมาจากมหาลัย ด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการรัวชัตเตอร์
ก็หาอะไรกระแทกปากซักหน่อย
หันไปเจอร้านขายขนม หน้าตาประหลาด
ร้านนี้เพิ่งเปิดซะด้วย  ก็เลยสั่งมาลองทานดูครับ

มันคือ ใส้กรอกชุบแป้งทอด อัดแน่นด้วยชีส
ตรงขอบๆ เราสามารถเลือกได้นะครับ
ว่าจะชุบอะไร มีให้เลือกทั้งมาม่า
เกล็ดขนมปัง , เมล็ดทานตะวัน บลาๆๆ
------------
ส่วนรสชาติก็โอเคเลยทีเดียวครับ
ทานตอนร้อนๆ เพิ่งทอดเสร็จใหม่ๆ
คำแรกที่กัดนี่ ชีสยืดดด ยาวประมาณ 2 กิโลกว่า
อ่าวเฮ้ย ไม่ถึง อิอิ
ใครผ่านไปหน้ามหาลัยก็ลองแวะทานดูนะครับ

ระหว่างเดินกลับไปไต้ดินเจอร้านขายดอกไม้ครับ
เหลือบไปเห็นช่อดอกไม้แล้ว สะดุดตา
มันคือ ดอกบานไม่รู้โรยนั่นเอง!
คนที่นี่ เอามาจัดเป็นช่อดอกไม้ ดูดีเชียวหล่ะ
ส่วนบ้านเรานั้นก็ เอาไปทำพานไหว้ครู ซะงั้น
ลองนึกสภาพวันวาเลนไทน์ เก็บดอกบานไม่รู้โรยให้แฟนดูสิ อิอิ

และแล้วก็มาถึงอีกหนึ่งจุดหมายในวันนี้ครับ
นั่นคือ ตลาดขายเสื้อผ้ามือสอง

เค้าว่ากันว่า ที่นี่ เสื้อผ้ามือสองเยอะมาก
และถูกมาก เลยมาดูให้เห็นกับตา
ปรากฏว่า เฮ้ย! ถูกจริง และ เยอะมากกกกก
เสื้อโค้ทสวยๆ เนี่ย 300-400 เอง
ใหม่กริ้บ ตาดีได้ ตาร้ายเสีย ..
คือถ้าใครที่ชอบเสื้อผ้ามือสอง แนะนำ มาที่นี่เลยครับ
สามารถทิ้งตัวอยู่ที่นี่ได้เป็นวันๆเลย

สองข้างทางมีร้านขายของ ยาวไปเลยครับ
คล้ายๆพวกคลองถม บ้านเราเนอะ
สำหรับการเดินทางมาที่นี่ก็ Subway สถานี Dongmyo Exit3
เปิดทุกวัน 10.00- 18.00 น.

ช้อปปิ้งเสร็จเรียบร้อย
ผมก็ไปหาอะไรทานแถว DDP ครับ

มาถึงที่นี่ ก็ขอแวะมาถ่ายรูปซักหน่อย
DDP เป็นสถานที่ที่ใช้จัดงาน Seoul Fashion week ด้วย
เสียดาย มารอบนี้ไม่ตรงกับวันจัดงาน
ถ้ามีโอกาสเดือนตุลา ผมจะมาใหม่ จะมาชะแว้บบริเวณงาน ฮิฮิ

ที่ DDP ตอนกลางคืน คนมักจะมาถ่ายรูปกับดอกกุหลาบติดไฟ LED นะครับ
ใครที่อยากมาถ่ายรูปสวยๆ ก็แนะนำให้มาช่วงกลางคืนนะ
( มี Insert ภาพ เล็กน้อย 555 )
สำหรับการเดินทางมาที่นี่ ก็
SUBWAY : dongdaemun history & culture park

หลังจากทานอาหารอิ่มเรียบร้อยก็ไปต่อครับ
มาถึงเกาหลีแล้ว ขอพาลูกทัวร์ไปไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคล
ที่วัด โชเกซา กันครับ

มาถึงแว้ววว
วัดนี้ชื่อว่า วัดโชเกซา แต่ก่อนชื่อว่าวัด ฮวางกักซา
ซึ่งคนไทยรู้จักวัดนี้ในนาม วัดพระยิ้มครับ

เข้ามาในวัดแล้ว ก็เข้าไปขอพรซ้ากหน่อย

สำหรับการเดินทางมาวัดนี้ก็
Subway : สถานี Anguk Exit 6 ครับ

เดินออกมาจากวัดแล้ว ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้าม
แล้วเดินเข้าซอยไป จะทะลุ
เส้นถนนอินซาดง
ที่จะมีร้านขายขนมอุนจินั่นเอง
มาแถวนี่ทีไร ต้องอย่าพลาดขนมอุนจิ ใส้ช้อคโกแลตนะครับ
อร่อยมั่กก