วันนี้ 1/2/2560 วันแรกหลังจากเข้าคุณร่วมๆ 10 ปี ลิ่งกับฟลอร์ 100,000/01 หรือ ไม่จำกัด ด้วยเหตุนี้จ้าวสามารถลากทุบได้อย่างเสรี พรุ่งนี้ 2/2/2560 กลับสู่ +/- 30% ที่ 0.79/0.43 ตามลำดับ
เรามาดูต้นทุนต่างๆ คร่าวๆ
(๑) ต้นทุนเดิมก่อนเพิ่มทุน เช่น 0.26
(๒) เท่าที่จำได้มีการเพิ่มทุน 3 ครั้ง จำไม่ได้สองครั้งแรกเท่าไร แต่ครั้งหลัง 0.12 บาท บนสมมติฐานที่ 0.12 บาท ทั้ง 3 ครั้ง
(๓) อัตราส่วนครั้งหลัง 3 หุ้นเดิม : 1 หุ้นใหม่ที่ 0.12 บาท จำไม่ได้สองครั้งแรกเท่าไร เพื่อในการคำนวนขอใช้ทั้ง 3 ครั้งที่อัตราส่วน 3 : 1 เท่ากัน
(๔) สมมติมี 100,000 หน่วย @ 0.26 = 26,000.00 บาท
(๕) ต้นทุนรวมเพิ่มทุน 3 ครั้ง จำนวนหุ้น จำนวนเงิน
เดิม 100,000 26,000
ครั้งแรก 33,333 4,000
รวม 133,333 30,000
ครั้งที่สอง 44,444 5,333
รวม 177,777 35,333
ครั้งที่สาม 59,259 7,111
รวม 237,036 42,444 เฉลี่ย 0.179 บาท
(๖) แตกพาร์ครั้งแรก 1.00 บาท เป็น 0.25 แล้ว กลับมารวมพาร์ 0.25 เป็น 0.50 บาท สรุปเท่ากับแตกพาร์ 1.00 เป็น 0.50 บาท จำนวนหุ้นในพอร์ตเพิ่ม
ขึ้น 1 เท่า ต้นทุนลดลง 1/2 เท่า
(๗) จากข้อ (๕) จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น 237,036*2 = 474,073 บาท ต้นทุนเฉลี่ย 42,444/474,073 = 0.089 บาท ครื่งหนึ่งของ 0.179 บาท
นอกจากเพิ่มทุน RO มีเพิ่มทุนให้ pp มากกว่าหนึ่งครั้ง จำไม่ได้ สมมติเฉลี่ย 0.10 บาท ต้นทุนหุ้น pp จะเท่ากับ 0.10/2 = 0.05 บาท เท่าที่สอบถามบริษัท หุ้นติด silent period อยู่ 7,205,000,000 หน่วย
(๑) 25% หกเดือน 1/8/2560 ซื้อขายได้; และ
(๒) 75% หนึ่งปี 1/2/2561 ซื้อขายได้
ยกเว้นมีการผ่อนผัน
สิ่งสำคัญ บริษัทยังไม่สามารถทำกำไรจากผลประกอบการเป็นกอบเป็นกำ ได้เริ่มทำไร 4 ไตรมาสติดต่อกันมากกว่าหนึ่งปี แต่ละไตรมาสกำไรไม่ถึง 0.01 บาท น่าจะเอาส่วนนี้เข้าพิจารณาราคาเหมาะสมด้วย ยกเว้นเอาอนาคตมาอ้างกันเพื่อทำราคา ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของแต่ละท่าน
ด้วยความมปรารถนาดี่
For Information : SGF ลิ่ง/floor +/- 30%
วันนี้ 1/2/2560 วันแรกหลังจากเข้าคุณร่วมๆ 10 ปี ลิ่งกับฟลอร์ 100,000/01 หรือ ไม่จำกัด ด้วยเหตุนี้จ้าวสามารถลากทุบได้อย่างเสรี พรุ่งนี้ 2/2/2560 กลับสู่ +/- 30% ที่ 0.79/0.43 ตามลำดับ
เรามาดูต้นทุนต่างๆ คร่าวๆ
(๑) ต้นทุนเดิมก่อนเพิ่มทุน เช่น 0.26
(๒) เท่าที่จำได้มีการเพิ่มทุน 3 ครั้ง จำไม่ได้สองครั้งแรกเท่าไร แต่ครั้งหลัง 0.12 บาท บนสมมติฐานที่ 0.12 บาท ทั้ง 3 ครั้ง
(๓) อัตราส่วนครั้งหลัง 3 หุ้นเดิม : 1 หุ้นใหม่ที่ 0.12 บาท จำไม่ได้สองครั้งแรกเท่าไร เพื่อในการคำนวนขอใช้ทั้ง 3 ครั้งที่อัตราส่วน 3 : 1 เท่ากัน
(๔) สมมติมี 100,000 หน่วย @ 0.26 = 26,000.00 บาท
(๕) ต้นทุนรวมเพิ่มทุน 3 ครั้ง จำนวนหุ้น จำนวนเงิน
เดิม 100,000 26,000
ครั้งแรก 33,333 4,000
รวม 133,333 30,000
ครั้งที่สอง 44,444 5,333
รวม 177,777 35,333
ครั้งที่สาม 59,259 7,111
รวม 237,036 42,444 เฉลี่ย 0.179 บาท
(๖) แตกพาร์ครั้งแรก 1.00 บาท เป็น 0.25 แล้ว กลับมารวมพาร์ 0.25 เป็น 0.50 บาท สรุปเท่ากับแตกพาร์ 1.00 เป็น 0.50 บาท จำนวนหุ้นในพอร์ตเพิ่ม
ขึ้น 1 เท่า ต้นทุนลดลง 1/2 เท่า
(๗) จากข้อ (๕) จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น 237,036*2 = 474,073 บาท ต้นทุนเฉลี่ย 42,444/474,073 = 0.089 บาท ครื่งหนึ่งของ 0.179 บาท
นอกจากเพิ่มทุน RO มีเพิ่มทุนให้ pp มากกว่าหนึ่งครั้ง จำไม่ได้ สมมติเฉลี่ย 0.10 บาท ต้นทุนหุ้น pp จะเท่ากับ 0.10/2 = 0.05 บาท เท่าที่สอบถามบริษัท หุ้นติด silent period อยู่ 7,205,000,000 หน่วย
(๑) 25% หกเดือน 1/8/2560 ซื้อขายได้; และ
(๒) 75% หนึ่งปี 1/2/2561 ซื้อขายได้
ยกเว้นมีการผ่อนผัน
สิ่งสำคัญ บริษัทยังไม่สามารถทำกำไรจากผลประกอบการเป็นกอบเป็นกำ ได้เริ่มทำไร 4 ไตรมาสติดต่อกันมากกว่าหนึ่งปี แต่ละไตรมาสกำไรไม่ถึง 0.01 บาท น่าจะเอาส่วนนี้เข้าพิจารณาราคาเหมาะสมด้วย ยกเว้นเอาอนาคตมาอ้างกันเพื่อทำราคา ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของแต่ละท่าน
ด้วยความมปรารถนาดี่