เนื่องจากวางแผนว่าจะต้องใช้เงินก้อนในอีก 1-2 ปีข้างหน้า หลังจากได้โบนัสจึงได้ล็อคเงินก้อนนีงออกเลย แต่จำนวนนั้นยังไม่ถึงที่ต้องการ ตอนกลางปีก็ใส่เพิ่มอีกเท่านึง ระหว่างนี้ เราก็ไม่อยากให้เงินอยู่เฉยๆ ต้องให้เงินทำงาน (ไม่ขี้เกียจเหมือนเจ้าของมัน 555) และมีความรู้ในการลงทุนหุ้น จึงนำเงินก้อนนี้ไปซื้อหุ้นอยู่แล้ว เน้นที่เสี่ยงต่ำหน่อย หวังผลตอบแทนสัก 10% ดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก 0.5% ตราสารหนี้ 2-3% หุ้นกู้ 4-5% กองทุนอสังหาริมทรัพย์ 6-7% เป็นไหนๆ แม้เงินจะไม่เยอะแต่ก็ให้มันงอกเงยสักหน่อยก็ดีเนอะ ส่วนหลักการที่ผมใช้ในการเลือกหุ้นก็มีดังนี้
1. มีผลประกอบการรายไตรมาสที่เติบโต ยิ่งเยอะ ยิ่งดี
2. ราคาไม่แพง (P/E ต่ำ)
3. ฐานะการเงิน แข็งแกร่งหนี้ไม่สูงเกินไป
4. มีโอกาสเติบโตในไตรมาสต่อ ๆ ไป
ที่นึกออกคร่าว ๆ ก็ประมานนี้ครับ ซื้อค่อนข้างหลายตัวปาเข้าไป 8 ตัว เพราะอยากจะกระจายออกไป หากตัวไหนเกิดตกหนักขึ้นมา พอร์ตจะได้ไม่เสียหายรุนแรงครับ อีกอย่างคือ ตัวนั้นก็ดี ตัวนี้ก็ชอบ (อันนี้ไม่ดีเท่าไหร่ 555)
ซึ่งระหว่างปีก็มีก็ขายไปบ้าง เช่นตัวนั้นแพงเกิน P/E ขึ้นไปสูงจนได้กำไร 100% ก็ขายออกแล้วไปซื้อตัวใหม่
และวันนี้พอร์ตนี้ครบ 1 ปีแล้วครับ ได้กำไรไปถึง 72% เป็นอย่างไรไปดูกันเลยยยยย
ด้วยความที่ตัวไหนแพงไปเราก็ขาย หรือตัวไหนคิดว่าเราเลือกผิด เราก็ขายเช่นกันครับ ผลตอบแทนสุดท้ายก็จะไม่ตรงกับที่บอกไปเพราะทำกำไร (หรือทำขาดทุน) ไปแล้ว 5555 ผมเชื่อมั่นในหุ้นมาก แม้ว่าตลาดจะลง ก็ยังคงมีหุ้นบางตัวที่สามารถขึ้นสวนทางได้เสมอครับ ผมจึงถือหุ้น 100% ตลอด ไม่ถือเงินสดไว้เลย นอกจากจะเกิดวิกฤต ก็ควรจะขาย ซึ่งก็คาดเดาได้ยาก จึงเลือกตัวที่แข็งแกร่งและยังเติบโตได้ไว้ก่อนครับ
และก็อาจจะเป็นความโชคดีที ตลาดหุ้นไทยปีที่แล้วได้ผลตอบแทนไป 19.79% ไม่รวมปันผล และผลก็โชคดีที่เลือกได้ถูกตัวแต่ถือได้ทนพอ เนื่องจากกะว่าจะถือสัก 1 ปี จึงไม่ค่อยได้มาดูเท่าไหร่ครับ (กลายเป็นดีซะงั้น) Turnover น่าจะเกือบๆ 1 รอบ (บางตัวขายไปแล้วซื้อตัวใหม่ บางตัวก็ถือตั้งแต่แรกเลย)
ปล.1 สำหรับผู้ที่ไปแกะจนทราบว่าผมถือตัวไหนอยู่บ้าง ก็ไม่แนะนำให้ซื้อตามนะครับ เพราะจะเห็นว่าต้นทุนผมเท่าไหร่ ซื้อตอนนี้อาจจะติดดอยเอาได้นะ ต้องไปศึกษาเพิ่มเติมเยอะๆก่อน ด้วยความหวังดีน้าาาาา
ผมทำได้ คุณก็ทำได้ สู้ต่อไปครับ เพื่อนนักลงทุนทุกท่าน !!!
Top Shiro. ^0^
เอาเงินก้อนระหว่างรอใช้ปีหน้า ไปลงทุนหุ้น หวังเพียง 10% ต่อปี แต่กลับได้มากกว่า 70% !!!
1. มีผลประกอบการรายไตรมาสที่เติบโต ยิ่งเยอะ ยิ่งดี
2. ราคาไม่แพง (P/E ต่ำ)
3. ฐานะการเงิน แข็งแกร่งหนี้ไม่สูงเกินไป
4. มีโอกาสเติบโตในไตรมาสต่อ ๆ ไป
ที่นึกออกคร่าว ๆ ก็ประมานนี้ครับ ซื้อค่อนข้างหลายตัวปาเข้าไป 8 ตัว เพราะอยากจะกระจายออกไป หากตัวไหนเกิดตกหนักขึ้นมา พอร์ตจะได้ไม่เสียหายรุนแรงครับ อีกอย่างคือ ตัวนั้นก็ดี ตัวนี้ก็ชอบ (อันนี้ไม่ดีเท่าไหร่ 555)
ซึ่งระหว่างปีก็มีก็ขายไปบ้าง เช่นตัวนั้นแพงเกิน P/E ขึ้นไปสูงจนได้กำไร 100% ก็ขายออกแล้วไปซื้อตัวใหม่
และวันนี้พอร์ตนี้ครบ 1 ปีแล้วครับ ได้กำไรไปถึง 72% เป็นอย่างไรไปดูกันเลยยยยย
ด้วยความที่ตัวไหนแพงไปเราก็ขาย หรือตัวไหนคิดว่าเราเลือกผิด เราก็ขายเช่นกันครับ ผลตอบแทนสุดท้ายก็จะไม่ตรงกับที่บอกไปเพราะทำกำไร (หรือทำขาดทุน) ไปแล้ว 5555 ผมเชื่อมั่นในหุ้นมาก แม้ว่าตลาดจะลง ก็ยังคงมีหุ้นบางตัวที่สามารถขึ้นสวนทางได้เสมอครับ ผมจึงถือหุ้น 100% ตลอด ไม่ถือเงินสดไว้เลย นอกจากจะเกิดวิกฤต ก็ควรจะขาย ซึ่งก็คาดเดาได้ยาก จึงเลือกตัวที่แข็งแกร่งและยังเติบโตได้ไว้ก่อนครับ
และก็อาจจะเป็นความโชคดีที ตลาดหุ้นไทยปีที่แล้วได้ผลตอบแทนไป 19.79% ไม่รวมปันผล และผลก็โชคดีที่เลือกได้ถูกตัวแต่ถือได้ทนพอ เนื่องจากกะว่าจะถือสัก 1 ปี จึงไม่ค่อยได้มาดูเท่าไหร่ครับ (กลายเป็นดีซะงั้น) Turnover น่าจะเกือบๆ 1 รอบ (บางตัวขายไปแล้วซื้อตัวใหม่ บางตัวก็ถือตั้งแต่แรกเลย)
ปล.1 สำหรับผู้ที่ไปแกะจนทราบว่าผมถือตัวไหนอยู่บ้าง ก็ไม่แนะนำให้ซื้อตามนะครับ เพราะจะเห็นว่าต้นทุนผมเท่าไหร่ ซื้อตอนนี้อาจจะติดดอยเอาได้นะ ต้องไปศึกษาเพิ่มเติมเยอะๆก่อน ด้วยความหวังดีน้าาาาา
ผมทำได้ คุณก็ทำได้ สู้ต่อไปครับ เพื่อนนักลงทุนทุกท่าน !!!
Top Shiro. ^0^